Intense // น้ำเดิน // 20+

"คำเตือน" ภาพยนตร์เรท 20+ มีภาพ คำพูดที่ไม่เหมาะสมเกือบทั้งเรื่องนะครับ
สำหรับคนที่จุดติดง่ายอาจจะต้องข่มอารมณ์กันนิดนึง
ก่อนเข้าชมภาพยนตร์มีปาร์ตี้ที่ Bangkok Airway Blue Ribbon Lounge มีเซเลปสวยหล่อมากมาย รวมทั้ง Mr. Grey ด้วย

สามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่างๆได้ที่ FANPAGE : MAJOR CINEPLEX (GROUP) THAILAND
เผื่อมีการแจกของรางวัลรวมไปถึงโอกาสชมภาพยนตร์แบบพิเศษด้วยนะคร๊าบ
======================================================================
Darker จริงๆ ... ตลอด 2 ชั่วโมง ผมนี่นั่งกัดเล็บเกือบหมดทุกนิ้วละ ... แอร์เยนๆที่เอาไม่อยู่ ร้อนรุ่มไปหมด (ขนาดนั้น)
สำหรับคนที่จำความภาคก่อนไม่ได้ ผมว่าไม่ค่อยจำเป็นอะครับ ถ้าเคยดูแล้วจะเกทไวขึ้นนิดนึง แต่ถ้าไม่เคยดูผมว่าทำความเข้าใจภาคใหม่ได้เลยนะ

เอาเรื่องแบบย่อๆ (ภาคนี้) ก็มีผู้ชายคนนึงที่รวย หล่อ ล่ำ ตามง้อ ผู้หญิงคนนึงที่เปลี่ยนชีวิตเค้าได้ ซึ่งก็จะมีอุปสรรคจากคนรอบข้าง รวมไปถึงอดีตของผู้ชายแว้งมากัดอยู่เนืองๆ ... เนื่องจากผมเป็นพวกไม่ได้อ่านหนังสือของหนัง มาถึงดูเลยมากกว่าครับ (ไม่ชอบโดนสปอย ฮาาา)
การเล่าเรื่อง ลำดับภาพไม่มีอะไรเยอะครับ เข้าใจง่ายๆจาก 1 ไป 10 ไม่ซับซ้อน เน้นอารมณ์อยู่แค่คนสองคนเป็นหลัก ซึงส่วนตัวผมว่ากำลังดีนะ ตัวละครไม่ต้องเยอะหรอก
นักแสดง Jamie (เกรย์) รู้สึกจะบวมๆนิดนึงแบบเห็นได้ แต่ยังคงล่ำเหมือนเดิม ส่วน Dakota Johnson (แอนาเตเซีย) ยังเช้งเหมือนเดิม แถมความเนียน เธอเหมือนคนสวยทั่วไปแต่มีอะไรน่าดึงดูดอยู่เยอะเลย โอย ... ดูแววตาทั้งสองคน มันรู้สึกเกินเลเวลคู่จิ้นไปละ เล่นกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย เพลินเชียว ...

ถามว่าเห็นแค่ไหน เหลือแค่อย่างเดียวของร่างกายที่ไม่ได้เห็นอ่ะ ... และก็มีฉากนั้นประมาณๆ 30% ของเรื่องเลย ... อีกนิดจะเป็นผู้หญิง 5 บาปละนะ ...
แซ่บแค่ไหน มีฉากนึงแบบจิกเล็บ มือหงิกเลยทีเดียว ... ผมว่าถ้าน้ำไม่เดินนี่ อาจจะเป็นเพราะไม่อินกะเรื่อง หรือไม่ชอบฝรั่ง ... ถ้าเปิดใจนี่จิตหลุดเลย 555

ผมชอบความกล้าในการถ่ายทอด เรื่องราวแบบนี้ออกมา ชอบในการพูดเรื่องเซ็กส์กันแบบตรงๆ แต่เคารพกันและกัน ซึ่งบ้านเราจะไม่ค่อยพูดเรื่องอะไรกันแบบนี้ เยาวชนบางส่วนเลยไม่เข้าใจเซ็กส์และการป้องกันที่ถูกต้องเท่าไหร่
และผมเชื่อว่ามันมีอยู่จริง นิสัยในการดำเนินชีวิตหรือเรื่องเซ็กส์แบบนี้ เพียงแต่อาจจะไม่ได้อยู่ในรูปลักษณ์แบบนี้หรือสถานะแบบนั้น

ลงลึกไปแล้ว มาพูดเรื่องเทคนิคกันบ้าง Cinematography เป็นมุมภาพ Close up เยอะเลย เน้นอารมณ์นักแสดงสุดๆ มีกว้างๆปนนิดหน่อย เน้นมุมกล้องเล่าเรื่องเล็กๆ ให้จินตนาการต่อมากกว่า
ถ้าตัดเอาเรื่องคาวๆ ออกจากหนัง ผมว่า Darker พูดได้ดีในเรื่องความสัมพันธ์เลยนะ

เมื่อถึงจุดๆนึงที่บางคนเรียกว่าหมดโปร หรือ ไม่ได้ใส่หน้ากากกันแล้ว ... ตัวตนที่แท้จริงมันก็จะโผล่ออกมา และถ้าถึงจุดนั้นทั้งสองฝ่ายปรับเข้าหากันไม่ได้ มันก็ต้องถึงจุดของมัน ... บางคนอาจจะใช้เวลา 5-6 เดือนในการถอดหน้ากาก บางคน 5-7 ปี ... เพราะแต่ละความสัมพันธ์มันมีรายละเอียด ความแน่นแฟ้นไม่เท่ากัน ... ถ้าปรับกันได้ก็ดี ถ้าปรับไม่ได้ก็แยกทาง ... และถ้าถึงจุดที่มีพันธะเพิ่มก็จะลำบาก ... ซึ่งบางทีการเปิดเผยตัวตนแต่แรกมันก็มีข้อเสียที่คนจะรับไม่ได้ แต่ข้อดีคือเราจะได้ฟีดแบคจริงๆกลับมา ...

รีวิวซะดราม่าเชียว (เอาเรื่องจริงมาล้อเล่นซะงั้น ฮาาาา) เป็นคนชอบดูหนังแล้วเอาชีวิตมาเปรียบเทียบประจำ ...
Relationship มันต่างกับ Ownership
ปล. ตอนสุดท้ายมี End Credit นะครับ อย่าเพิ่งไปไหน ...
จนกว่าจะพบกันใหม่
==================================================================================
รูปกิจกรรมผมเป็นคนถ่ายทั้งหมดนะครับ ig: tonyfreeman
ขอบคุณ Major Cineplex สำหรับโอกาสชมภาพยนตร์และกิจกรรมสนุกๆ
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
Tony Freeman
[SR] Fifty Shades Darker 7.5/10 + Exclusive Party ไม่สปอย (3g Warning)
"คำเตือน" ภาพยนตร์เรท 20+ มีภาพ คำพูดที่ไม่เหมาะสมเกือบทั้งเรื่องนะครับ
สำหรับคนที่จุดติดง่ายอาจจะต้องข่มอารมณ์กันนิดนึง
ก่อนเข้าชมภาพยนตร์มีปาร์ตี้ที่ Bangkok Airway Blue Ribbon Lounge มีเซเลปสวยหล่อมากมาย รวมทั้ง Mr. Grey ด้วย
สามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่างๆได้ที่ FANPAGE : MAJOR CINEPLEX (GROUP) THAILAND
เผื่อมีการแจกของรางวัลรวมไปถึงโอกาสชมภาพยนตร์แบบพิเศษด้วยนะคร๊าบ
======================================================================
Darker จริงๆ ... ตลอด 2 ชั่วโมง ผมนี่นั่งกัดเล็บเกือบหมดทุกนิ้วละ ... แอร์เยนๆที่เอาไม่อยู่ ร้อนรุ่มไปหมด (ขนาดนั้น)
สำหรับคนที่จำความภาคก่อนไม่ได้ ผมว่าไม่ค่อยจำเป็นอะครับ ถ้าเคยดูแล้วจะเกทไวขึ้นนิดนึง แต่ถ้าไม่เคยดูผมว่าทำความเข้าใจภาคใหม่ได้เลยนะ
เอาเรื่องแบบย่อๆ (ภาคนี้) ก็มีผู้ชายคนนึงที่รวย หล่อ ล่ำ ตามง้อ ผู้หญิงคนนึงที่เปลี่ยนชีวิตเค้าได้ ซึ่งก็จะมีอุปสรรคจากคนรอบข้าง รวมไปถึงอดีตของผู้ชายแว้งมากัดอยู่เนืองๆ ... เนื่องจากผมเป็นพวกไม่ได้อ่านหนังสือของหนัง มาถึงดูเลยมากกว่าครับ (ไม่ชอบโดนสปอย ฮาาา)
การเล่าเรื่อง ลำดับภาพไม่มีอะไรเยอะครับ เข้าใจง่ายๆจาก 1 ไป 10 ไม่ซับซ้อน เน้นอารมณ์อยู่แค่คนสองคนเป็นหลัก ซึงส่วนตัวผมว่ากำลังดีนะ ตัวละครไม่ต้องเยอะหรอก
นักแสดง Jamie (เกรย์) รู้สึกจะบวมๆนิดนึงแบบเห็นได้ แต่ยังคงล่ำเหมือนเดิม ส่วน Dakota Johnson (แอนาเตเซีย) ยังเช้งเหมือนเดิม แถมความเนียน เธอเหมือนคนสวยทั่วไปแต่มีอะไรน่าดึงดูดอยู่เยอะเลย โอย ... ดูแววตาทั้งสองคน มันรู้สึกเกินเลเวลคู่จิ้นไปละ เล่นกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย เพลินเชียว ...
ถามว่าเห็นแค่ไหน เหลือแค่อย่างเดียวของร่างกายที่ไม่ได้เห็นอ่ะ ... และก็มีฉากนั้นประมาณๆ 30% ของเรื่องเลย ... อีกนิดจะเป็นผู้หญิง 5 บาปละนะ ...
แซ่บแค่ไหน มีฉากนึงแบบจิกเล็บ มือหงิกเลยทีเดียว ... ผมว่าถ้าน้ำไม่เดินนี่ อาจจะเป็นเพราะไม่อินกะเรื่อง หรือไม่ชอบฝรั่ง ... ถ้าเปิดใจนี่จิตหลุดเลย 555
ผมชอบความกล้าในการถ่ายทอด เรื่องราวแบบนี้ออกมา ชอบในการพูดเรื่องเซ็กส์กันแบบตรงๆ แต่เคารพกันและกัน ซึ่งบ้านเราจะไม่ค่อยพูดเรื่องอะไรกันแบบนี้ เยาวชนบางส่วนเลยไม่เข้าใจเซ็กส์และการป้องกันที่ถูกต้องเท่าไหร่
และผมเชื่อว่ามันมีอยู่จริง นิสัยในการดำเนินชีวิตหรือเรื่องเซ็กส์แบบนี้ เพียงแต่อาจจะไม่ได้อยู่ในรูปลักษณ์แบบนี้หรือสถานะแบบนั้น
ลงลึกไปแล้ว มาพูดเรื่องเทคนิคกันบ้าง Cinematography เป็นมุมภาพ Close up เยอะเลย เน้นอารมณ์นักแสดงสุดๆ มีกว้างๆปนนิดหน่อย เน้นมุมกล้องเล่าเรื่องเล็กๆ ให้จินตนาการต่อมากกว่า
ถ้าตัดเอาเรื่องคาวๆ ออกจากหนัง ผมว่า Darker พูดได้ดีในเรื่องความสัมพันธ์เลยนะ
เมื่อถึงจุดๆนึงที่บางคนเรียกว่าหมดโปร หรือ ไม่ได้ใส่หน้ากากกันแล้ว ... ตัวตนที่แท้จริงมันก็จะโผล่ออกมา และถ้าถึงจุดนั้นทั้งสองฝ่ายปรับเข้าหากันไม่ได้ มันก็ต้องถึงจุดของมัน ... บางคนอาจจะใช้เวลา 5-6 เดือนในการถอดหน้ากาก บางคน 5-7 ปี ... เพราะแต่ละความสัมพันธ์มันมีรายละเอียด ความแน่นแฟ้นไม่เท่ากัน ... ถ้าปรับกันได้ก็ดี ถ้าปรับไม่ได้ก็แยกทาง ... และถ้าถึงจุดที่มีพันธะเพิ่มก็จะลำบาก ... ซึ่งบางทีการเปิดเผยตัวตนแต่แรกมันก็มีข้อเสียที่คนจะรับไม่ได้ แต่ข้อดีคือเราจะได้ฟีดแบคจริงๆกลับมา ...
รีวิวซะดราม่าเชียว (เอาเรื่องจริงมาล้อเล่นซะงั้น ฮาาาา) เป็นคนชอบดูหนังแล้วเอาชีวิตมาเปรียบเทียบประจำ ...
Relationship มันต่างกับ Ownership
ปล. ตอนสุดท้ายมี End Credit นะครับ อย่าเพิ่งไปไหน ...
จนกว่าจะพบกันใหม่
==================================================================================
รูปกิจกรรมผมเป็นคนถ่ายทั้งหมดนะครับ ig: tonyfreeman
ขอบคุณ Major Cineplex สำหรับโอกาสชมภาพยนตร์และกิจกรรมสนุกๆ
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
Tony Freeman