อยู่ต่อไปหรือเดินออกมา

เรากับแฟนมีลูกด้วยกัน2คน ตอนนี้ก้อเรียกได้ว่าเป็นครอบครัวแล้ว แฟนเราทำงานตจว.และเค้าก้อกลับบ้านทุกอาทิตย์ เราคุยกะแฟนเกือบทุกวัน โดยมากเค้าจะโทรมา ส่วนใหญ่เราคุยกันเรื่องลูก จนกระทั่งเมื่อกลางปีที่แล้ว เราเห็นแฟนเราคุนไลน์กับแฟนเก่า คุยกันบ่อยมาก(คือเค้าจะไม่ล๊อกโทรศัพท์) พอเราถาม ก้อทำเป็นไม่ค่อยพอใจ และล๊อกโทรศัพท์ หลังจากนั้น เค้าก้อกลับมาบ้างไม่มาบ้าง แต่ก้อแอบคุยกันตลอด เวลาที่อยู่กับเราก้อปิดเสียงโทรศัพท์บล๊อกไลน์แฟนเก่า เพื่อไม่ให้เค้าทักมา จะเป็นแบบนี้ตลอด จนกระทั่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ประมานเดือนตุลา เราโทรไปหาแฟนแล้วเค้าไม่รับสาย โทรไปเยอะมาก เพื่อจะบอกเค้าว่าลูกไม่สบาย(วันนั้นเป็นวันเสาร์) เราโทรตั้งแต่ทุ่มจนถึงสามทุ่ม  แล้วเค้าก้อโทรกลับมา บอกว่าเค้าไม่สบายกินยาเลยหลับไป เราเลยบอกเรื่องลูก แล้วก้อถามว่าตอนนี้อยู่ไหน เต้าบอกเราว่าอยู่บ้านเพื่อนมันย้ายห้องมาช่วยขนของ เราก้อเชื่อไม่ได้คิดอะไร กระทั่งหกโมงเช่าของวันใหม่ มีคนส่งรูปมาให้เรา เป็นเฟสที่เราไม่รู้จัก และรูปนั้นคือ รูปแฟนเราที่ ไปอยู่ห้องแฟนเก่า เป็นภาพนั่งกินข้าว ดูหนัง ถ่ายบริเวณรอบๆห้อง ฯลฯ เราตกใจ อึ้งเลย เลยรีบโทนหาแฟน และ เค้าก้อไม่รับเราจึงโทรหาเพื่อนคนที่แฟนเราบอก เพื่อนแฟนงงมาก เค้าไม่ได้ย้ายห้องและนอนอยู่ห้องพักของที่ทำงาน และบอกเราว่าแฟนเราหน่ะ กลับบ้านตั้งแต่วันศุกร์แล้ว...ถึงตอนนี้ เราเงียบไม่รู้จะไปต่อยังไงแบบไหน เราไม่ได้บอกแฟนเรื่องที่มีคนส่งรูปมาให้ เราอยากรู้ว่าเค้าจะบอกความจริงเราไหม หลังจากวันนั้นเค้าก้อทำตัวเหมือนปกติ ปิดเสรียงโทรศัพท์ กลับบ้างไม่กลับบ้าง โทรหาเรา เล่นกับลูก....
เราเลยคิดว่าไม่เป็นไร ถ้าเค้ายังเป็นแบบนี้เรายังรับไหว ผ่านวันปีใหม่มาได้1อาทิตย์ เค้าก้อเริ่มเปลี่ยนอีก (ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเราถามเค้าว่าแฟนเก่ายังคุยอยู่ไหม เค้าบอกเราว่าไม่ค่อยได้คุยแล้ว น้องมันมีแฟนแล้ว เราสบายใจ) แต่ไม่นาน ความจริงก้อถูกเปิด วันนั้นแฟนเราคงลืมล๊อกไลน์ แฟนเก่าเค้าทักมา โดยใช้คำที่เราไม่เคยพูดด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะ ทำอะไรค่ะที่รัก คิดถึงที่สุด เมื่อไหร่ขะกลับและอีกมาก เราเลบนั่งอ่านไลน์ย้อนกลับดู ที่แฟนเราบอกน้องมันมีแฟน มันคือแฟนเราเอง เค้าบอกรักกันทุกวัน บอกคิดถึง คุยกันทุกวัน 2-3ชั่วโมงต่อครั้ง ไปหากัน เจอกันตลอด...
เราเลยอยากขอความเห็นว่า เราครวอยู่ต่อไป(เพราะคำว่าครอบครัว) หรือ เดินออกมา (ให้เค้า2คยได้รักกัน)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่