ในฤดูกาลปี2015-2016 เชลซีคว้าที่3 สโมสรที่ขายเสื้อมากที่สุดในโลก

และในฤดูกาลปี2016-2017 เชลซีคว้าอันดับ 4 สโมสรที่ขายเสื้อมากที่สุดในโลก
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1466585/1
แม้จะเปนรองทั้งแมนยู บาเยิร์น ราชันมาดริด บาซ่า (4ทีมแรกนั้นมีประวัติศาสตร์มายาวนาน ฐานแฟนบอลแน่น) แต่ผมรู้สึกภูมิใจตรงที่ว่าอย่างน้อยเราก็เป็นสโมสรหน้าใหม่ที่เติบโตได้เร็ว มีสมาชิกและการตลาดเพิ่มขึ้นทุกปี แต่สิ่งที่ภูมิใจที่สุดคือสโมสรมีความทะเยอทะยาน ไขว่คว้าหาความสำเร็จทั้งถ้วยโทรฟี่และแง่การตลาด ผลกำไรที่สโมสรได้รับพวกนี้คือผลตอบแทนที่สโมสรได้ลงทุนลงไปแล้วมันค่อยทยอยกลับคืนมาให้ บนพื้นฐานการก้าวไปข้างหน้าทั้งสโมสรและแฟนบอล สิ่งหนึ่งที่ผมต้องชมบอร์ดบริหารและทุกๆฝ่าย คือ วิสัยทัศน์การดำเนินนโยบายที่ชัดเจน ฉับไว ทั้งการซื้อขายนักเตะ และในแง่การตลาด ยกตัวอย่างเช่น การซื้อสตาร์ทุกปี หรือแม้แต่การยกเลิกพันธมิตรอย่างอดิดาสที่ให้แง่ผลกำไรน้อยกว่าไนกี้ให้ ดีลถือว่าบอร์ดสิงห์ใจเด็ด+เหี้ยมมาก กล้าฉีกสัญญาที่อยู่มากันเกือบ10ปี พร้อมกับเอาเงินตบหน้าอดิดาสสำหรับค่าฉักสัญา40ล้านปอนด์ แล้วไปรับเน้นๆอย่างไนกี้ที่ให้มากกว่าเท่าตัว ซึ่งไนกี้คงมองเห็นอะไรบางอย่างในตัวเชลซีที่บันดาลให้ คือ
1. ความสำเร็จในระดับโทรฟี่ต่างๆ ถึงแม้เชลซีกำลังเป็นทีมหน้าใหม่แต่มีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง มีผลงานที่จับต้องได้(วัดจาก1ทศวรรษ คว้ามาทุกถ้วย) สิ่งนี้ไนกี้มองว่าจะสร้างมูลค่าและกำไรให้ไนกี้ได้
2. มูลค่าสปอนเซอร์ สิ่งนี้คือสิ่งที่ต่อยอดมาจากความสำเร็จ เมื่อสโมสรมีความสำเร็จ มีฐานแฟนบอลที่เยอะขึ้นมาก (สำหรับผมเชลซีถือว่าฐานแฟนบอลขยายได้เร็วนะ) สปอนเซอร์ต่างๆย่อมไหลมาเทมา สิ่งนี้ไนกี้น่าจะต่อยอดเพื่อคอนเนคไปหาสปอนเซอร์ต่างๆที่มีมีอยู่เดิมหรือเพิ่มขึ้นมาใหม่ เช่น เชลซีมีฐานแฟนบอลที่ทวีปอเมริกาใต้เยอะพอสมควร ไนกี้สามารถลงไปเจาะตลาดที่ทวีปอเมริกาใต้ได้เพราะตลาดอเมริกาใต้ยังไม่เปิดกว้างมาก สังเกตุดูนะครับ ว่าในสโมสรของเชลซีมีนักเตะอเมริกาใต้กี่คน และอนาคตจะนำเข้านักเตะอเมริกาใต้เพิ่มอีก
3. ฐานแฟนบอล ภายใต้กรอบแนวคิดของเชลซีที่ต้องการขยายฐานแฟนบอลไปทั่วโลก รวมถึงการแย่งฐานแฟนบอลจากทีมอื่น เป็นนโยบายที่เชลซีวางไว้ระยะที่3 ( ผมเคยเขียนไว้แล้วนะครับ ลองหากระทู้แผนโครงสร้าง นโยบายเชลซีในอนาคต ) นี่คือนโยบายที่เสี่ยหมีตั้งเป็นนโยบายที่ต้องกระทำให้สำเร็จ โดยอาศัยข้อ1และข้อ2ข้างต้นเป็นกลยุทธ์ดึงดูดเหล่าแฟนบอลหน้าใหม่ให้เข้ามาอยู่เชลซี และมันก็ค่อยทยอยขยายและเติบโตทุกปี
3สิ่งที่ผมกล่าวไปนี้คือสิ่งที่ไนกี้คงเห็นว่าเชลซีสมควรลงทุนด้วย จึงเข้ามาเป็นหัวสปอนเซอร์รายใหญ่ให้
ประเด็นต่อมาสิ่งที่ไนกี้จะต้องวางแผนให้หนักเลยคือ ตลอดเกือบ2ทศวรรษที่สิงห์บลูอยู่กับอดิดาสมา เรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างดีมากๆ สโมสรประสบความสำเร็จทุกถ้วยโทรฟี่ อดิดาสก็นอนตีพุงอิ่มแปล้ การจากลาของสิงห์ที่มีต่ออดิดาสนั้นมันเป็นเรื่องธุรกิจล้วนๆ การที่ไนกี้เข้ามาสานต่อต้องเรียกได้ว่า เป็นการบ้านของไนกี้เลยว่าจะทำอย่างไรให้เชลซีมุ่งไปข้างหน้าประสบความสำเร็จเหมือนที่อดิดาสทำร่วมกับเชลซี จะรื้อโครงสร้างของอดิดาสออกเช่นแนวคิด การคอนเนคชั่น รีสตาทใหม่หมดหรือไม่ นี่คือสิ่งท้าทายยักษ์ใหญ่อย่างไนกี้ ( ผมเชื่อไนกี้และอดิดาส มีแนวคิด วัฒนธรรมและโครงสร้าง กระบวนการทำงานที่ต่างกัน ) ว่าจะทำไรอย่างไรกับฤดูกาลข้างหน้าและต่อไปในอนาคต ซึ่งตอนนี้เชลซีก็แสดงให้ไนกี้เห็นขุมพลังของสิงห์แล้วว่าเป็นอย่างไร อยู่ที่ตัวไนกี้แล้วหล่ะ

สิ่งหนึ่งที่ไนกี้กล้าลงทุนกับเชลซีคือนอกจากมองเรื่องอนาคตของสิงห์บลูแล้ว ไนกี้จะใช้สิงห์เป็นหมัดหนักในการยึดตลาดของพรีเมียร์กลับมา กล่าวคือ
ไนกี้ครองตลาดของลาลีก้ามาอย่างยาวนาน นี่คือจุดแข็งที่อดิดาสไม่สามารถตีตลาดลากีก้าได้เท่าที่ควร ไนกี้เป็นสปอนเซอร์ชั้นนำรายใหญ่ให้กับบาซ่า และแอตลิโกมาดริด รวมถึงตีตลาดทีมน้องใหม่ที่คุณภาพคับแก้วด้วยคุณภาพอย่างเซบีย่า หากรีลมาดริด ที่กำลังมีปัญหากับอดิดาสในเรื่องของค่าสปอนเซอร์ที่ได้น้อยเกินไป แล้วหันไปซบอกสปอนเซอร์อริอย่างไนกี้แทนจะทำให้ไนกี้แทบจะครอตลาดและครองความสำเร็จลาลีก้าไปอีกนาน ซึ่งไนกี้พยายามหว่านล้อมให้รีลมาดริดหันมาใช้ไนกี้แทน (มองลึกๆแล้ว ไนกี้จะกำไรมหาศาลเพราะทีมลุ้นแชมป์ของลาลีก้าใช้สปอนเซอร์อย่างไนกี้หมดเลย) ซึ่งอดิดาสจะเสียทีมใหญ่อย่างรีลมาดริดส่งผลกระทบใหญ่ในด้านธุรกิจแน่นอน (คล้ายเคสเชลซี) ในทางตรงข้ามนอกจากไนกี้จะครองลาลีก้าแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ไนกี้พยายามกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้งในอังกฤษก็เพราะ การเสียทีมแมนยูไปให้อดิดาสที่ให้เงินเหนาะๆ75ล้านปอนด์ต่อปี (เป็นอีกประเด็นที่รีลมาดริดและเชลซีไม่พอใจที่ได้เงินน้อยกว่า) นอกจากเสียฐานตลาดอย่างแมนยูไปแล้ว ยังเสียฐานอำนาจไปอีกทีมก็คือ อาเซน่อล ที่ไปซบอกพูม่าแทน ด้วยการเสียฐานตลาดใหญ่นี้จึงทำให้ไนกี้ต้องดิ้นรนหาทางตีตลาดกลับคืนมาถึงแม้จะมีแมนซิตี้ ที่ไนกี้เป็นสปอนเซอร์ให้อยู่แล้วก็ตาม ประจวบเหมาะที่สิงห์น้ำเงินครามกำลังมีปัญหากับอดิดาส ไนกี้เห็นสบช่องโอกาสยื่นสัญญาให้สิงห์บลูทันที ซึ่งทั้งสองก็ต้องตกลงเป็นพันธมิตร ถือว่าไนกี้เดินเกมแก้หมากค่อนข้างดี เพราะหากพิจารณาแล้วไนกี้มองว่าโอกาสที่สิงห์หรือเรือจะสร้างกำไรและมูลค่าได้ไปอีก เพราะสองทีมนี้เป็นสองทีมที่น่าจับตามองและกำลังโตเร็ว มีความสำเร็จในถ้วยโทรฟี่ และในแง่การตลาด ดีลของไนกี้กับสิงห์จงเปรียบหมัดหนักของไนกี้ในคานอำนาจอดิดาสในเกาะอังกฤษ ถ้าเป็นไปตามที่คาดในกรณีของมาดริดที่จะโยกมาใช้ไนกี้แทน อดิดาสจะได้1 (แมนยู) แต่เสีย 2 (รีลมาดริด+เชลซี) หากมองแล้วขุมกำลังอดิดาสก็ยังแข็งแกร่งเพราะมีทั้งแมนยู ยูเว่ บาเยิร์นที่เป็นของตายสำหรับอดิดาส
สรุป นี่คือเกมเก้าอี้ดนตรีที่น่าสนใจระหว่างการทำศึกของสปอนเซอร์ชั้นนำอย่างไนกี้และอดิดาส ว่าใครจะแกร่งกว่ากัน โดยหมัดเด็ดของไนกี้คือซัพพอร์ตทีมมหาอำนาจเก่าอย่างบาซ่า แอตมาดริด เก็บไว้ เสริมทัพด้วยการยึดรีลมาดริด +และทีมน้องใหม่ไฟแรงอย่างเชลซี แมนซิ ปารีส
ปล. ผมพยายามรวบรวมข่าวเกี่ยวกับเสื้อเชลซีมานะครับ ซึ่งขอหลายๆท่านให้ตั้งมั่นและบอกตัวเองว่า มันยังไม่ออกมาเป็นทางการจากไนกี้ ไนกี้จะออกมายืนยันด้วยตัวเองเกี่ยวกับเสื้อก่อนฤดูกาล2017/2018 นะครับ พวกเสื้อที่หลุดๆออกมาจึงเป็นแค่ข่าวและข้อมูลที่ไม่ยืนยัน100% สิ่งที่ยืนยันคือเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรระหว่างเชลซีและไนกี้ครับ

ปล. เอามายั่วน้ำลายให้ทุกท่านพร้อมเสียตังค์กันครับ












ปล.ผิดพลาดประการใดขอประทานอภัยครับ
ไนกี้กับการบ้านนี่ต้องสานต่อจากอดิดาสในรั้วเชลซี
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1466585/1
แม้จะเปนรองทั้งแมนยู บาเยิร์น ราชันมาดริด บาซ่า (4ทีมแรกนั้นมีประวัติศาสตร์มายาวนาน ฐานแฟนบอลแน่น) แต่ผมรู้สึกภูมิใจตรงที่ว่าอย่างน้อยเราก็เป็นสโมสรหน้าใหม่ที่เติบโตได้เร็ว มีสมาชิกและการตลาดเพิ่มขึ้นทุกปี แต่สิ่งที่ภูมิใจที่สุดคือสโมสรมีความทะเยอทะยาน ไขว่คว้าหาความสำเร็จทั้งถ้วยโทรฟี่และแง่การตลาด ผลกำไรที่สโมสรได้รับพวกนี้คือผลตอบแทนที่สโมสรได้ลงทุนลงไปแล้วมันค่อยทยอยกลับคืนมาให้ บนพื้นฐานการก้าวไปข้างหน้าทั้งสโมสรและแฟนบอล สิ่งหนึ่งที่ผมต้องชมบอร์ดบริหารและทุกๆฝ่าย คือ วิสัยทัศน์การดำเนินนโยบายที่ชัดเจน ฉับไว ทั้งการซื้อขายนักเตะ และในแง่การตลาด ยกตัวอย่างเช่น การซื้อสตาร์ทุกปี หรือแม้แต่การยกเลิกพันธมิตรอย่างอดิดาสที่ให้แง่ผลกำไรน้อยกว่าไนกี้ให้ ดีลถือว่าบอร์ดสิงห์ใจเด็ด+เหี้ยมมาก กล้าฉีกสัญญาที่อยู่มากันเกือบ10ปี พร้อมกับเอาเงินตบหน้าอดิดาสสำหรับค่าฉักสัญา40ล้านปอนด์ แล้วไปรับเน้นๆอย่างไนกี้ที่ให้มากกว่าเท่าตัว ซึ่งไนกี้คงมองเห็นอะไรบางอย่างในตัวเชลซีที่บันดาลให้ คือ
1. ความสำเร็จในระดับโทรฟี่ต่างๆ ถึงแม้เชลซีกำลังเป็นทีมหน้าใหม่แต่มีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง มีผลงานที่จับต้องได้(วัดจาก1ทศวรรษ คว้ามาทุกถ้วย) สิ่งนี้ไนกี้มองว่าจะสร้างมูลค่าและกำไรให้ไนกี้ได้
2. มูลค่าสปอนเซอร์ สิ่งนี้คือสิ่งที่ต่อยอดมาจากความสำเร็จ เมื่อสโมสรมีความสำเร็จ มีฐานแฟนบอลที่เยอะขึ้นมาก (สำหรับผมเชลซีถือว่าฐานแฟนบอลขยายได้เร็วนะ) สปอนเซอร์ต่างๆย่อมไหลมาเทมา สิ่งนี้ไนกี้น่าจะต่อยอดเพื่อคอนเนคไปหาสปอนเซอร์ต่างๆที่มีมีอยู่เดิมหรือเพิ่มขึ้นมาใหม่ เช่น เชลซีมีฐานแฟนบอลที่ทวีปอเมริกาใต้เยอะพอสมควร ไนกี้สามารถลงไปเจาะตลาดที่ทวีปอเมริกาใต้ได้เพราะตลาดอเมริกาใต้ยังไม่เปิดกว้างมาก สังเกตุดูนะครับ ว่าในสโมสรของเชลซีมีนักเตะอเมริกาใต้กี่คน และอนาคตจะนำเข้านักเตะอเมริกาใต้เพิ่มอีก
3. ฐานแฟนบอล ภายใต้กรอบแนวคิดของเชลซีที่ต้องการขยายฐานแฟนบอลไปทั่วโลก รวมถึงการแย่งฐานแฟนบอลจากทีมอื่น เป็นนโยบายที่เชลซีวางไว้ระยะที่3 ( ผมเคยเขียนไว้แล้วนะครับ ลองหากระทู้แผนโครงสร้าง นโยบายเชลซีในอนาคต ) นี่คือนโยบายที่เสี่ยหมีตั้งเป็นนโยบายที่ต้องกระทำให้สำเร็จ โดยอาศัยข้อ1และข้อ2ข้างต้นเป็นกลยุทธ์ดึงดูดเหล่าแฟนบอลหน้าใหม่ให้เข้ามาอยู่เชลซี และมันก็ค่อยทยอยขยายและเติบโตทุกปี
3สิ่งที่ผมกล่าวไปนี้คือสิ่งที่ไนกี้คงเห็นว่าเชลซีสมควรลงทุนด้วย จึงเข้ามาเป็นหัวสปอนเซอร์รายใหญ่ให้
ประเด็นต่อมาสิ่งที่ไนกี้จะต้องวางแผนให้หนักเลยคือ ตลอดเกือบ2ทศวรรษที่สิงห์บลูอยู่กับอดิดาสมา เรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างดีมากๆ สโมสรประสบความสำเร็จทุกถ้วยโทรฟี่ อดิดาสก็นอนตีพุงอิ่มแปล้ การจากลาของสิงห์ที่มีต่ออดิดาสนั้นมันเป็นเรื่องธุรกิจล้วนๆ การที่ไนกี้เข้ามาสานต่อต้องเรียกได้ว่า เป็นการบ้านของไนกี้เลยว่าจะทำอย่างไรให้เชลซีมุ่งไปข้างหน้าประสบความสำเร็จเหมือนที่อดิดาสทำร่วมกับเชลซี จะรื้อโครงสร้างของอดิดาสออกเช่นแนวคิด การคอนเนคชั่น รีสตาทใหม่หมดหรือไม่ นี่คือสิ่งท้าทายยักษ์ใหญ่อย่างไนกี้ ( ผมเชื่อไนกี้และอดิดาส มีแนวคิด วัฒนธรรมและโครงสร้าง กระบวนการทำงานที่ต่างกัน ) ว่าจะทำไรอย่างไรกับฤดูกาลข้างหน้าและต่อไปในอนาคต ซึ่งตอนนี้เชลซีก็แสดงให้ไนกี้เห็นขุมพลังของสิงห์แล้วว่าเป็นอย่างไร อยู่ที่ตัวไนกี้แล้วหล่ะ
สิ่งหนึ่งที่ไนกี้กล้าลงทุนกับเชลซีคือนอกจากมองเรื่องอนาคตของสิงห์บลูแล้ว ไนกี้จะใช้สิงห์เป็นหมัดหนักในการยึดตลาดของพรีเมียร์กลับมา กล่าวคือ
ไนกี้ครองตลาดของลาลีก้ามาอย่างยาวนาน นี่คือจุดแข็งที่อดิดาสไม่สามารถตีตลาดลากีก้าได้เท่าที่ควร ไนกี้เป็นสปอนเซอร์ชั้นนำรายใหญ่ให้กับบาซ่า และแอตลิโกมาดริด รวมถึงตีตลาดทีมน้องใหม่ที่คุณภาพคับแก้วด้วยคุณภาพอย่างเซบีย่า หากรีลมาดริด ที่กำลังมีปัญหากับอดิดาสในเรื่องของค่าสปอนเซอร์ที่ได้น้อยเกินไป แล้วหันไปซบอกสปอนเซอร์อริอย่างไนกี้แทนจะทำให้ไนกี้แทบจะครอตลาดและครองความสำเร็จลาลีก้าไปอีกนาน ซึ่งไนกี้พยายามหว่านล้อมให้รีลมาดริดหันมาใช้ไนกี้แทน (มองลึกๆแล้ว ไนกี้จะกำไรมหาศาลเพราะทีมลุ้นแชมป์ของลาลีก้าใช้สปอนเซอร์อย่างไนกี้หมดเลย) ซึ่งอดิดาสจะเสียทีมใหญ่อย่างรีลมาดริดส่งผลกระทบใหญ่ในด้านธุรกิจแน่นอน (คล้ายเคสเชลซี) ในทางตรงข้ามนอกจากไนกี้จะครองลาลีก้าแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ไนกี้พยายามกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้งในอังกฤษก็เพราะ การเสียทีมแมนยูไปให้อดิดาสที่ให้เงินเหนาะๆ75ล้านปอนด์ต่อปี (เป็นอีกประเด็นที่รีลมาดริดและเชลซีไม่พอใจที่ได้เงินน้อยกว่า) นอกจากเสียฐานตลาดอย่างแมนยูไปแล้ว ยังเสียฐานอำนาจไปอีกทีมก็คือ อาเซน่อล ที่ไปซบอกพูม่าแทน ด้วยการเสียฐานตลาดใหญ่นี้จึงทำให้ไนกี้ต้องดิ้นรนหาทางตีตลาดกลับคืนมาถึงแม้จะมีแมนซิตี้ ที่ไนกี้เป็นสปอนเซอร์ให้อยู่แล้วก็ตาม ประจวบเหมาะที่สิงห์น้ำเงินครามกำลังมีปัญหากับอดิดาส ไนกี้เห็นสบช่องโอกาสยื่นสัญญาให้สิงห์บลูทันที ซึ่งทั้งสองก็ต้องตกลงเป็นพันธมิตร ถือว่าไนกี้เดินเกมแก้หมากค่อนข้างดี เพราะหากพิจารณาแล้วไนกี้มองว่าโอกาสที่สิงห์หรือเรือจะสร้างกำไรและมูลค่าได้ไปอีก เพราะสองทีมนี้เป็นสองทีมที่น่าจับตามองและกำลังโตเร็ว มีความสำเร็จในถ้วยโทรฟี่ และในแง่การตลาด ดีลของไนกี้กับสิงห์จงเปรียบหมัดหนักของไนกี้ในคานอำนาจอดิดาสในเกาะอังกฤษ ถ้าเป็นไปตามที่คาดในกรณีของมาดริดที่จะโยกมาใช้ไนกี้แทน อดิดาสจะได้1 (แมนยู) แต่เสีย 2 (รีลมาดริด+เชลซี) หากมองแล้วขุมกำลังอดิดาสก็ยังแข็งแกร่งเพราะมีทั้งแมนยู ยูเว่ บาเยิร์นที่เป็นของตายสำหรับอดิดาส
สรุป นี่คือเกมเก้าอี้ดนตรีที่น่าสนใจระหว่างการทำศึกของสปอนเซอร์ชั้นนำอย่างไนกี้และอดิดาส ว่าใครจะแกร่งกว่ากัน โดยหมัดเด็ดของไนกี้คือซัพพอร์ตทีมมหาอำนาจเก่าอย่างบาซ่า แอตมาดริด เก็บไว้ เสริมทัพด้วยการยึดรีลมาดริด +และทีมน้องใหม่ไฟแรงอย่างเชลซี แมนซิ ปารีส
ปล. ผมพยายามรวบรวมข่าวเกี่ยวกับเสื้อเชลซีมานะครับ ซึ่งขอหลายๆท่านให้ตั้งมั่นและบอกตัวเองว่า มันยังไม่ออกมาเป็นทางการจากไนกี้ ไนกี้จะออกมายืนยันด้วยตัวเองเกี่ยวกับเสื้อก่อนฤดูกาล2017/2018 นะครับ พวกเสื้อที่หลุดๆออกมาจึงเป็นแค่ข่าวและข้อมูลที่ไม่ยืนยัน100% สิ่งที่ยืนยันคือเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรระหว่างเชลซีและไนกี้ครับ
ปล. เอามายั่วน้ำลายให้ทุกท่านพร้อมเสียตังค์กันครับ
ปล.ผิดพลาดประการใดขอประทานอภัยครับ