อนาคต
เสียงคำรามก้องและสายฟ้าที่วิ่งผ่านเมฆดำทะมึนอยู่เหนือผิวแม่น้ำกว้างนั่น...ไม่ได้ทำให้ผมอยากลุกออกไปจากริมฝั่งด้านนี้เลยแม้แต่น้อย
สาดกระหน่ำลงมาเลยอย่าได้ยั้ง...เอาให้หนักๆ ให้ฟ้าถล่มแผ่นดินทลายได้ยิ่งดี เสียงในใจผมเรียกร้องอย่างนั้นไม่รู้ทำไมเหมือนกัน หรือมันจะเป็นเพราะผมกำลังเศร้า...กระมัง
“เราคบกันมานานแล้วพี่นะ รู้จักกันมาก...มากพอที่จะรู้แล้วว่า เราเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเพื่อนที่ดีต่อกัน” ใบหน้าเรียวใสและแววตาที่สั่นไหวของน้องมัด มันช่างเป็นภาพที่ชัดเจนเหลือเกินในใจผมตอนนี้ น้ำเสียงบาดลึกนั่นอีกล่ะ...โถมเข้ามาพร้อมกันทีเดียวแบบนี้ กลัวคนที่โดนรอดไปได้หรืออย่างไร
ในที่สุดหยดน้ำจากฟากฟ้าก็เทลงมา ความจริงแล้วคงไม่มีใครหาข้อดีจากการนั่งตากฝนแบบนี้ได้หรอก...แต่ผมก็ดันทุรังหามาจนได้ เพราะวันนี้มันคล้ายกับดวงใจผมกำลังแตกสลาย ต้องการเพื่อน...และเม็ดฝนเย็นเฉียบนี่แหละคือสิ่งที่กำลังตามหา อย่างน้อยตอนกระทบกับผิว...มันก็ยังบอกได้ว่า...ผมยังเป็นคนที่มีเลือดเนื้อ และที่สำคัญ...ยังไม่ตาย
...
“มัดไปก่อนนะพี่นะ...เขารออยู่...” ผมยืนนิ่งที่หน้าประตู้รั้วบ้านของคนพูด...มองดูภาพชายหนุ่มรูปงามเปิดประตูรถสปอร์ตคันสวยให้เธอขึ้นไป
ทำไมผมรู้สึกหายใจไม่ทั่งท้องเลย เรี่ยวแรงที่เกิดจากการเต้นของหัวใจบีบส่งเลือดไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย คล้ายถูกลบออก
แต่ฉับพลันก็เหมือนระบบนั้นกลับคืนมาอีกครั้ง ผมรู้สึกได้ถึงแรงดันที่พุ่งตรงไปยังสมองด้วยความรวดเร็ว เมื่อหนุ่มหล่อคนนั้นหันมายิ้มมุมปากให้กับผมก่อนขึ้นรถไป
เจ็บใจ โกรธ โมโห แค้น คงเป็นส่วนผสมย่อยของคำว่าอกหัก ส่วนตัวหลักคงเป็นคำว่าเสียใจ...และมันทำให้ผมต้องหลั่งน้ำตาออกมาอย่างไม่อายใคร…ที่หน้าบ้านของหญิงคนรัก
...
“โธ่มัด...” ไม่แน่ใจว่ามันคือคำปลอบใจ ระบาย หรือว่าอะไร แต่ผมก็พูดมันกับตัวเองในขณะที่กำลังใช้ร่างกายรับแรงกระแทกเบาๆ จากเม็ดฝน...อยู่ริมแม่น้ำ
ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้นจากกระเป๋ากางเกง ผมจำเสียงเรียกเข้านี้ได้...น้องมัดโทรมา เดือดร้อนผมต้องวิ่งหาที่หลบฝนเพื่อรับสาย โชคดีเจอกระท่อมหลังหนึ่งอยู่ใกล้ๆ
“พี่นะอยู่ไหน ที่บ้านบอกพี่ยังไม่เข้าบ้าน ฝนก็ตกหนัก” น้ำเสียงหงุดหงิดดังมาจากปลายสาย
“อ๋อ...พอดีพี่อยู่ข้างนอก เดี๋ยวสักพักก็กลับแล้ว”
“ไปทำอะไรข้างนอก”
“เปล่า...คือพี่ไปดูดวงมา เขาบอกว่าเราจะเลิกกัน พี่ก็เลยมานั่งคิดอะไรหน่อย”
“เลิกกัน?...แล้วพี่นะเชื่อเขาเหรอ”
“ก็...เอ่อ มัดพี่ถามอะไรหน่อยสิ...”
“ว่า...”
“ถ้าเกิดว่าย้อนเวลากลับไปได้มัดจะคบกับพี่ไหม ถ้ารู้ว่า...ยังไงเราก็ต้องเลิกกัน”
**********************
ว่าจะเขียนเรื่องสั้นใบ้ที่ให้สัญญาไว้ครับ แต่ฟีลลิ่งไม่มาเลย...ก็เอาเป็นเรื่องสั้นเพี้ยนๆ ไปก่อนละกันครับ เรื่องนี้เขียนเล่นๆ ใช้เวลายี่สิบนาที ขอให้มีความสุขกับการอ่านทุกท่านครับ...^^
อนาคต
เสียงคำรามก้องและสายฟ้าที่วิ่งผ่านเมฆดำทะมึนอยู่เหนือผิวแม่น้ำกว้างนั่น...ไม่ได้ทำให้ผมอยากลุกออกไปจากริมฝั่งด้านนี้เลยแม้แต่น้อย
สาดกระหน่ำลงมาเลยอย่าได้ยั้ง...เอาให้หนักๆ ให้ฟ้าถล่มแผ่นดินทลายได้ยิ่งดี เสียงในใจผมเรียกร้องอย่างนั้นไม่รู้ทำไมเหมือนกัน หรือมันจะเป็นเพราะผมกำลังเศร้า...กระมัง
“เราคบกันมานานแล้วพี่นะ รู้จักกันมาก...มากพอที่จะรู้แล้วว่า เราเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเพื่อนที่ดีต่อกัน” ใบหน้าเรียวใสและแววตาที่สั่นไหวของน้องมัด มันช่างเป็นภาพที่ชัดเจนเหลือเกินในใจผมตอนนี้ น้ำเสียงบาดลึกนั่นอีกล่ะ...โถมเข้ามาพร้อมกันทีเดียวแบบนี้ กลัวคนที่โดนรอดไปได้หรืออย่างไร
ในที่สุดหยดน้ำจากฟากฟ้าก็เทลงมา ความจริงแล้วคงไม่มีใครหาข้อดีจากการนั่งตากฝนแบบนี้ได้หรอก...แต่ผมก็ดันทุรังหามาจนได้ เพราะวันนี้มันคล้ายกับดวงใจผมกำลังแตกสลาย ต้องการเพื่อน...และเม็ดฝนเย็นเฉียบนี่แหละคือสิ่งที่กำลังตามหา อย่างน้อยตอนกระทบกับผิว...มันก็ยังบอกได้ว่า...ผมยังเป็นคนที่มีเลือดเนื้อ และที่สำคัญ...ยังไม่ตาย
...
“มัดไปก่อนนะพี่นะ...เขารออยู่...” ผมยืนนิ่งที่หน้าประตู้รั้วบ้านของคนพูด...มองดูภาพชายหนุ่มรูปงามเปิดประตูรถสปอร์ตคันสวยให้เธอขึ้นไป
ทำไมผมรู้สึกหายใจไม่ทั่งท้องเลย เรี่ยวแรงที่เกิดจากการเต้นของหัวใจบีบส่งเลือดไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย คล้ายถูกลบออก
แต่ฉับพลันก็เหมือนระบบนั้นกลับคืนมาอีกครั้ง ผมรู้สึกได้ถึงแรงดันที่พุ่งตรงไปยังสมองด้วยความรวดเร็ว เมื่อหนุ่มหล่อคนนั้นหันมายิ้มมุมปากให้กับผมก่อนขึ้นรถไป
เจ็บใจ โกรธ โมโห แค้น คงเป็นส่วนผสมย่อยของคำว่าอกหัก ส่วนตัวหลักคงเป็นคำว่าเสียใจ...และมันทำให้ผมต้องหลั่งน้ำตาออกมาอย่างไม่อายใคร…ที่หน้าบ้านของหญิงคนรัก
...
“โธ่มัด...” ไม่แน่ใจว่ามันคือคำปลอบใจ ระบาย หรือว่าอะไร แต่ผมก็พูดมันกับตัวเองในขณะที่กำลังใช้ร่างกายรับแรงกระแทกเบาๆ จากเม็ดฝน...อยู่ริมแม่น้ำ
ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้นจากกระเป๋ากางเกง ผมจำเสียงเรียกเข้านี้ได้...น้องมัดโทรมา เดือดร้อนผมต้องวิ่งหาที่หลบฝนเพื่อรับสาย โชคดีเจอกระท่อมหลังหนึ่งอยู่ใกล้ๆ
“พี่นะอยู่ไหน ที่บ้านบอกพี่ยังไม่เข้าบ้าน ฝนก็ตกหนัก” น้ำเสียงหงุดหงิดดังมาจากปลายสาย
“อ๋อ...พอดีพี่อยู่ข้างนอก เดี๋ยวสักพักก็กลับแล้ว”
“ไปทำอะไรข้างนอก”
“เปล่า...คือพี่ไปดูดวงมา เขาบอกว่าเราจะเลิกกัน พี่ก็เลยมานั่งคิดอะไรหน่อย”
“เลิกกัน?...แล้วพี่นะเชื่อเขาเหรอ”
“ก็...เอ่อ มัดพี่ถามอะไรหน่อยสิ...”
“ว่า...”
“ถ้าเกิดว่าย้อนเวลากลับไปได้มัดจะคบกับพี่ไหม ถ้ารู้ว่า...ยังไงเราก็ต้องเลิกกัน”
ว่าจะเขียนเรื่องสั้นใบ้ที่ให้สัญญาไว้ครับ แต่ฟีลลิ่งไม่มาเลย...ก็เอาเป็นเรื่องสั้นเพี้ยนๆ ไปก่อนละกันครับ เรื่องนี้เขียนเล่นๆ ใช้เวลายี่สิบนาที ขอให้มีความสุขกับการอ่านทุกท่านครับ...^^