อ้างอิง
เฟสบุ๊ค หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ
https://www.facebook.com/buddhadasaarchives
"สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ หรือ หลวงปู่อัมพร อมฺพโร แห่งวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ท่านเป็นศิษย์ใน 'ท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร' แห่งวัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร
สมเด็จพระมหามุนีวงค์ ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ว่างครั้งใด ท่านจะไปเยือนวัดป่าในเขตภาคอิสาน เพื่อพบปะกับพระปฏิบัติดี-ปฏิบัติชอบหลายรูป หรือไปในงานของครูบาอาจารย์วัดป่ากรรมฐาน ทั้งธรรมยุตและมหานิกายหลายครั้ง
ท่านไม่ถือตัวว่าเป็นสมเด็จ ท่านกราบพระเถระผู้ใหญ่กว่าท่านได้อย่างงดงาม
บ่ายวันหนึ่ง ที่กุฏิเจ้าประคุณสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ หลังจากผู้ที่มาถวายสักการะท่านเจ้าประคุณสมเด็จกลับไปหมดแล้ว มีโยมท่านหนึ่งกราบเรียนถามท่านเจ้าประคุณสมเด็จว่า
'ท่านอาจารย์ ปัจจัยมากๆ ท่านอาจารย์ใช้ปัจจัยอย่างไรครับผม?'
ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ ก็เมตตาพูดให้ฟังว่า ปัจจัยที่เราได้มานั้น
๑.นำเข้ามูลนิธิหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่ท่านเป็นประธานอยู่
๒.นำไปช่วยเหลือโรงเรียนวัดราชบพิธฯ ที่ท่านเป็นประธานอยู่
๓.นำมาสงเคราะห์ให้กับพระเณร ที่อยู่ในวัดราชบพิธฯ และช่วยเหลือผู้คนที่ยากไร้
สุดท้าย ท่านเจ้าประคุณสมเด็จได้กล่าวไว้ว่า.........
'เราไม่มีแม้สักแดงเดียวนะ เราไม่สะสม แม้แต่เหรียญอาจารย์ฝั้นสักเหรียญเรายังไม่มี รถเราก็ไม่มี'"
- - - - -
สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ นามเดิม อัมพร ประสัตถพงศ์ ฉายา อมฺพโร เป็นสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม และแม่กองงานพระธรรมทูต
สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2470 ณ ตำบลบางป่า อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี โยมบิดาชื่อ นายนับ ประสัตถพงศ์ โยมมารดาชื่อ นางตาล ประสัตถพงศ์ ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย เรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนเทวานุเคราะห์ กองบินน้อยที่ 4 ตำบลโคกกระเทียม อำเภอเมืองฯ จังหวัดลพบุรี จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อ พ.ศ.2480 ณ วัดสัตตนารถปริวัตรวรวิหาร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฯ จังหวัดราชบุรี โดยมีพระธรรมเสนานี (เงิน นนฺโท) เป็นพระอุปัชฌาย์
ต่อมาได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2491 ณ พัทธสีมาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระจินดากรมุนี (ทองเจือ จินฺตากโร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์
สามเณรอัมพร ประสัตถพงศ์ ไปอยู่จำพรรษาที่วัดตรีญาติ ต.พงสวาย เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม พ.ศ.2483 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี จากนั้น พ.ศ.2484 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นโท และ พ.ศ.2486 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก และสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค เมื่อ พ.ศ.2488 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค เมื่อ พ.ศ.2490 ได้ย้ายมาอยู่จำพรรษา ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยสมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินฺตากโร) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระจินดากรมุนี นำมาฝากกับสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) สกลมหาสังฆปริณายก
ภายหลังอุปสมบทเมื่อ พ.ศ.2491 ศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักเรียนวัดราชบพิธฯ จน พ.ศ.2491 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค และ พ.ศ.2493 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค
ต่อมา เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นนักศึกษารุ่นที่ 5 จบศาสนศาสตรบัณฑิต เมื่อปี พ.ศ.2500 และได้เดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท ณ มหาวิทยาลัยพาราณสี (Banaras Hindu University) ประเทศอินเดีย จบการศึกษาเมื่อปี พ.ศ.2512 ด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี
ปี พ.ศ.2552 สภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ถวายศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพุทธศาสตร์ ปี พ.ศ.2553 สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถวายปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาธรรมนิเทศ
สมณศักดิ์ พ.ศ.2514 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระปริยัติกวี พ.ศ.2524 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสารสุธี ศรีปริยัติวราทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พ.ศ.2533 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพเมธาภรณ์ สุนทรธรรมานุนายก วิสุทธิสาธกสาธุกิจ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
พ.ศ.2538 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมเมธาภรณ์ สุนทรวาสนวงศวิวัฒ ศรีปริยัติกิจจานุกิจ ปาพจนวิภูษิตคุณาลงกรณ์ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พ.ศ.2543 เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองที่ พระสาสนโสภณ วิมลญาณอดุลสุนทรนายก ตรีปิฎกธรรมาลังการภูษิต ธรรมนิตยสาทร ศาสนกิจจานุกร ธรรมยุติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พ.ศ.2552 เป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ พิพัฒนพงศ์วิสุต พุทธปาพจนานุศาสน์ วาสนวรางกูร วิบูลศีลสมาจารวัตรสุนทร ตรีปิฎกธรรมวราลงกรณวิภูษิต ธรรมยุตติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัณยวาสี
- - การสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช - -
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดสถาปนา สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะมีพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ในวันที่ 12 ก.พ.นี้ เวลา 17.00 น. โดยจะมีการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจประเทศไทยจากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ตามแบบการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินไปถวายพระสุพรรณบัฏ หรือชื่อสมเด็จพระสังฆราชที่จารึกลงบนแผ่นทอง ถวายพัดยศ เครื่องสมณบริขาร หรือเครื่องยศสมเด็จพระสังฆราช และอาลักษณ์อ่านประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ถือเป็นอันเสร็จพิธี
พระนามของสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 จะใช้พระนามว่า "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ" และวงเล็บต่อท้ายด้วยชื่อเดิม ซึ่งเป็นพระนามของสมเด็จพระสังฆราช ตั้งแต่สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 1 ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จนถึงองค์ที่ 18 ส่วนสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 นั้น เหตุที่พระนามแตกต่างจาก 18 องค์ที่ผ่านมา เนื่องจากในหลวงรัชกาลที่ 9 โปรดสถาปนาให้มีชื่อเดิม ก่อนที่จะเป็นสมเด็จพระสังฆราช
สำหรับรายพระนามสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีดังนี้
1.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ศรี) ดำรงตำแหน่งระหว่าง พ.ศ.2325-พ.ศ.2337 สถิต ณ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
2.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ศุข) พ.ศ.2337-พ.ศ. 2359 วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
3.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (มี) พ.ศ.2359-พ.ศ.2362 วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
4.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) พ.ศ.2363-4 กันยายน พ.ศ.2365 วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
5.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ด่อน) พ.ศ.2365-พ.ศ.2385 วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
6.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (นาค) พ.ศ.2386-พ.ศ.2392 วัดราชบูรณะราชวรวิหาร
7.สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส (พระองค์เจ้าวาสุกรี สุวัณณรังสี) พ.ศ.2394-9 ธันวาคม พ.ศ.2396 วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
8.สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ (พระองค์เจ้าฤกษ์ ปญฺญาอคฺโค) ธันวาคม พ.ศ.2434-28 กันยายน พ.ศ.2435 วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร
9.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว) พ.ศ.2436-11 มกราคม พ.ศ.2443 วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
10.สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส 1 (พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ) 5 ธันวาคม พ.ศ.2453-2 สิงหาคม พ.ศ.2464 วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร
11.สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒ (หม่อมเจ้าภุชงค์ ชมพูนุท สิริวฑฺฒโน) 20 สิงหาคม พ.ศ.2464-25 สิงหาคม พ.ศ. 2480 วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
12.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2481-26 พฤศจิกายน พ.ศ.2487 วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
13.สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณ(หม่อมราชวงศ์ชื่น นพวงศ์ สุจิตฺโต) 31 มกราคม พ.ศ. 2488-11 พฤศจิกายน พ.ศ.2501 วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร
14.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ) 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2503-17 มิถุนายน พ.ศ.2505 วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
15.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทโย) 4 พฤษภาคม พ.ศ.2506-15 พฤษภาคม พ.ศ.2508 วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
16.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฐายี) 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2508-18 ธันวาคม พ.ศ.2514 วัดมกุฏกษัตริยารามวรวิหาร
17.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริ) 21 กรกฎาคม พ.ศ.2515-7 ธันวาคม พ.ศ.2516 วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
18.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) พ.ศ.2517-27 สิงหาคม พ.ศ.2531วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และ
19.สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) พ.ศ.2532-24 ตุลาคม พ.ศ.2556 วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร.
ข้อมูล
http://bit.ly/2ljiAGj http://bit.ly/2ljbZMe
http://bit.ly/2lpVtqr
***เราไม่มีแม้สักแดงเดียวนะ เราไม่สะสม แม้แต่เหรียญอาจารย์ฝั้นสักเหรียญเรายังไม่มี รถเราก็ไม่มี***
อ้างอิง
เฟสบุ๊ค หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ
https://www.facebook.com/buddhadasaarchives
"สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ หรือ หลวงปู่อัมพร อมฺพโร แห่งวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ท่านเป็นศิษย์ใน 'ท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร' แห่งวัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร
สมเด็จพระมหามุนีวงค์ ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ว่างครั้งใด ท่านจะไปเยือนวัดป่าในเขตภาคอิสาน เพื่อพบปะกับพระปฏิบัติดี-ปฏิบัติชอบหลายรูป หรือไปในงานของครูบาอาจารย์วัดป่ากรรมฐาน ทั้งธรรมยุตและมหานิกายหลายครั้ง
ท่านไม่ถือตัวว่าเป็นสมเด็จ ท่านกราบพระเถระผู้ใหญ่กว่าท่านได้อย่างงดงาม
บ่ายวันหนึ่ง ที่กุฏิเจ้าประคุณสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ หลังจากผู้ที่มาถวายสักการะท่านเจ้าประคุณสมเด็จกลับไปหมดแล้ว มีโยมท่านหนึ่งกราบเรียนถามท่านเจ้าประคุณสมเด็จว่า
'ท่านอาจารย์ ปัจจัยมากๆ ท่านอาจารย์ใช้ปัจจัยอย่างไรครับผม?'
ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ ก็เมตตาพูดให้ฟังว่า ปัจจัยที่เราได้มานั้น
๑.นำเข้ามูลนิธิหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่ท่านเป็นประธานอยู่
๒.นำไปช่วยเหลือโรงเรียนวัดราชบพิธฯ ที่ท่านเป็นประธานอยู่
๓.นำมาสงเคราะห์ให้กับพระเณร ที่อยู่ในวัดราชบพิธฯ และช่วยเหลือผู้คนที่ยากไร้
สุดท้าย ท่านเจ้าประคุณสมเด็จได้กล่าวไว้ว่า.........
'เราไม่มีแม้สักแดงเดียวนะ เราไม่สะสม แม้แต่เหรียญอาจารย์ฝั้นสักเหรียญเรายังไม่มี รถเราก็ไม่มี'"
- - - - -
สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ นามเดิม อัมพร ประสัตถพงศ์ ฉายา อมฺพโร เป็นสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม และแม่กองงานพระธรรมทูต
สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2470 ณ ตำบลบางป่า อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี โยมบิดาชื่อ นายนับ ประสัตถพงศ์ โยมมารดาชื่อ นางตาล ประสัตถพงศ์ ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย เรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนเทวานุเคราะห์ กองบินน้อยที่ 4 ตำบลโคกกระเทียม อำเภอเมืองฯ จังหวัดลพบุรี จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อ พ.ศ.2480 ณ วัดสัตตนารถปริวัตรวรวิหาร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฯ จังหวัดราชบุรี โดยมีพระธรรมเสนานี (เงิน นนฺโท) เป็นพระอุปัชฌาย์
ต่อมาได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2491 ณ พัทธสีมาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระจินดากรมุนี (ทองเจือ จินฺตากโร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์
สามเณรอัมพร ประสัตถพงศ์ ไปอยู่จำพรรษาที่วัดตรีญาติ ต.พงสวาย เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม พ.ศ.2483 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี จากนั้น พ.ศ.2484 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นโท และ พ.ศ.2486 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก และสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค เมื่อ พ.ศ.2488 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค เมื่อ พ.ศ.2490 ได้ย้ายมาอยู่จำพรรษา ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยสมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ จินฺตากโร) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระจินดากรมุนี นำมาฝากกับสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) สกลมหาสังฆปริณายก
ภายหลังอุปสมบทเมื่อ พ.ศ.2491 ศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักเรียนวัดราชบพิธฯ จน พ.ศ.2491 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค และ พ.ศ.2493 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค
ต่อมา เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นนักศึกษารุ่นที่ 5 จบศาสนศาสตรบัณฑิต เมื่อปี พ.ศ.2500 และได้เดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท ณ มหาวิทยาลัยพาราณสี (Banaras Hindu University) ประเทศอินเดีย จบการศึกษาเมื่อปี พ.ศ.2512 ด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี
ปี พ.ศ.2552 สภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ถวายศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพุทธศาสตร์ ปี พ.ศ.2553 สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถวายปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาธรรมนิเทศ
สมณศักดิ์ พ.ศ.2514 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระปริยัติกวี พ.ศ.2524 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสารสุธี ศรีปริยัติวราทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พ.ศ.2533 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพเมธาภรณ์ สุนทรธรรมานุนายก วิสุทธิสาธกสาธุกิจ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
พ.ศ.2538 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมเมธาภรณ์ สุนทรวาสนวงศวิวัฒ ศรีปริยัติกิจจานุกิจ ปาพจนวิภูษิตคุณาลงกรณ์ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พ.ศ.2543 เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองที่ พระสาสนโสภณ วิมลญาณอดุลสุนทรนายก ตรีปิฎกธรรมาลังการภูษิต ธรรมนิตยสาทร ศาสนกิจจานุกร ธรรมยุติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พ.ศ.2552 เป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ พิพัฒนพงศ์วิสุต พุทธปาพจนานุศาสน์ วาสนวรางกูร วิบูลศีลสมาจารวัตรสุนทร ตรีปิฎกธรรมวราลงกรณวิภูษิต ธรรมยุตติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัณยวาสี
- - การสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช - -
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดสถาปนา สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะมีพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ในวันที่ 12 ก.พ.นี้ เวลา 17.00 น. โดยจะมีการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจประเทศไทยจากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ตามแบบการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินไปถวายพระสุพรรณบัฏ หรือชื่อสมเด็จพระสังฆราชที่จารึกลงบนแผ่นทอง ถวายพัดยศ เครื่องสมณบริขาร หรือเครื่องยศสมเด็จพระสังฆราช และอาลักษณ์อ่านประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ถือเป็นอันเสร็จพิธี
พระนามของสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 จะใช้พระนามว่า "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ" และวงเล็บต่อท้ายด้วยชื่อเดิม ซึ่งเป็นพระนามของสมเด็จพระสังฆราช ตั้งแต่สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 1 ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จนถึงองค์ที่ 18 ส่วนสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 นั้น เหตุที่พระนามแตกต่างจาก 18 องค์ที่ผ่านมา เนื่องจากในหลวงรัชกาลที่ 9 โปรดสถาปนาให้มีชื่อเดิม ก่อนที่จะเป็นสมเด็จพระสังฆราช
สำหรับรายพระนามสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีดังนี้
1.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ศรี) ดำรงตำแหน่งระหว่าง พ.ศ.2325-พ.ศ.2337 สถิต ณ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
2.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ศุข) พ.ศ.2337-พ.ศ. 2359 วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
3.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (มี) พ.ศ.2359-พ.ศ.2362 วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
4.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) พ.ศ.2363-4 กันยายน พ.ศ.2365 วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
5.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ด่อน) พ.ศ.2365-พ.ศ.2385 วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร
6.สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (นาค) พ.ศ.2386-พ.ศ.2392 วัดราชบูรณะราชวรวิหาร
7.สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส (พระองค์เจ้าวาสุกรี สุวัณณรังสี) พ.ศ.2394-9 ธันวาคม พ.ศ.2396 วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
8.สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ (พระองค์เจ้าฤกษ์ ปญฺญาอคฺโค) ธันวาคม พ.ศ.2434-28 กันยายน พ.ศ.2435 วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร
9.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว) พ.ศ.2436-11 มกราคม พ.ศ.2443 วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
10.สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส 1 (พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ) 5 ธันวาคม พ.ศ.2453-2 สิงหาคม พ.ศ.2464 วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร
11.สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒ (หม่อมเจ้าภุชงค์ ชมพูนุท สิริวฑฺฒโน) 20 สิงหาคม พ.ศ.2464-25 สิงหาคม พ.ศ. 2480 วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
12.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2481-26 พฤศจิกายน พ.ศ.2487 วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
13.สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณ(หม่อมราชวงศ์ชื่น นพวงศ์ สุจิตฺโต) 31 มกราคม พ.ศ. 2488-11 พฤศจิกายน พ.ศ.2501 วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร
14.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ) 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2503-17 มิถุนายน พ.ศ.2505 วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
15.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทโย) 4 พฤษภาคม พ.ศ.2506-15 พฤษภาคม พ.ศ.2508 วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
16.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฐายี) 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2508-18 ธันวาคม พ.ศ.2514 วัดมกุฏกษัตริยารามวรวิหาร
17.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริ) 21 กรกฎาคม พ.ศ.2515-7 ธันวาคม พ.ศ.2516 วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
18.สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) พ.ศ.2517-27 สิงหาคม พ.ศ.2531วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และ
19.สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) พ.ศ.2532-24 ตุลาคม พ.ศ.2556 วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร.
ข้อมูล http://bit.ly/2ljiAGj http://bit.ly/2ljbZMe http://bit.ly/2lpVtqr