คุณคิดว่าคนที่ไม่ได้รักกันแต่งงานกันเพราะความผิดพลาดที่เกิดขึ้น(ท้อง) จะอยู่ด้วยกันยืดไหม?

อันนี้เป็นเรื่องจากการพบเจอด้วยตัวเองสดๆร้อนๆนะครับ ผมได้รู้จักผู้หญิงคนนึงคนนี้นี้อายุแค่ 15 ย่าง 16 ปี (ให้นามสมมุติ ว่า น้อง ฝ.)เราคุยกันทางโปรแกรมแชทโปรแกรมนึง แล้วก็ตกลงคบกัน เพราะจากที่พูดคุยกันรู้สึกกันทั้ง 2 ฝ่ายว่ายอมรับซึ่งกันและกันได้ และมีอยู่คืนหนึ่ง น้อง ฝ. ก็บอกกับผมว่า เธอไม่ได้เป็นสาวบริสุทธิ์แล้วนะพี่ ผมก็เลยตกใจ เพราะน้อง ฝ. เธอยังเด็กมาก ผมเลยถามว่า ไปเสียท่ายังไง สมยอมเหรอ? น้อง ฝ. บอกว่าไม่ เธอเล่าว่า ออกไปเที่ยวกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน แล้วเมามาก เมาไม่มีสติ แล้วระหว่างที่ไม่ได้สติอยู่นั้น มีผู้ชายคนนึง(ให้นามสมมุติว่า นาย ม. มีอาชีพเป็น หมอ)ทำท่าทีเหมือนเป็นญาติของเด็กคนนี้ แล้วเข้ามาพูดกับเพื่อนเขาว่า จะพากลับบ้านเอง เพราะเมากันแบบนี้ไม่ปลอดภัย(นาย ม.คนนี้เคยคุยกับน้องเขามาสักระยะ แต่น้อง ฝ. เขาไม่เล่นด้วยแล้วก็หยุดคุยไป) จนเพื่อนๆของน้อง ฝ. คนนี้ไว้ใจ แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่นาย ม. คนนี้พูดครับ มันแอบฉวยโอกาสตอนที่น้อง ฝ.เมาไม่มีสติ แล้วมีอะไรกัน พอน้อง ฝ. สร่างเมา ตื่นมาก็ตกใจโวยวาย จนแม่ของนาย ม. ตกใจ แล้วก็จะเคลียร์กัน แต่น้อง ฝ.บอกไม่อยากเห็นหน้าไม่อยากเจออีกแล้วก็ไม่ติดต่อกันอีกเลย แล้วระหว่างที่ผมกำลังคบกับ น้อง ฝ. อยู่เธอดูวิตกกังวลกับเมนส์ที่ทิ้งช่วงไป ผมก็ปลอบใจว่าอาจจะเป็นเพราะความเครียด เลยไม่มาแต่ผมก็พูดกับเธอไว้ว่า หากท้องขึ้นมา ผมก็ยินดีที่จะเป็นพ่อของเด็กนะ ผมไม่รังเกียจเลยแม้แต่น้อย พอประมาณ กลางเดือนมกราคม เมนส์ของน้อง ฝ. ก็มาเธอก็ดีใจและอุ่นใจ คิดว่ายังไงก็ไม่ท้องแล้ว ผมก็แอบดีใจที่เธอไม่ท้อง(ณ ตอนนั้น) เราก็ยังคบกันตามประสาคู่รักทั่วไป ผมให้ทั้งความเอ็นดูและเอาใจใส่ทุกวัน พอช่วงหลังเมนส์ของน้อง ฝ. หมด เธอบอกผมว่าเธอเหนื่อยง่าย คลื่นไส้บ่อยๆ ผมก็บอกว่า อาจเป็นเพราะตอนเมนส์เธอมานั้น เธอมีอาการไข้ทับฤดูด้วย ประกอบกับเธอนอนดึกเพราะต้องทำการบ้านและช่วยเคลียร์งานของพ่อเธอ (มาถึงตอนนี้ ในใจผมเริ่มไม่สู้ดี เพราะคิดไว้ว่าอาจจะท้องกับ นาย ม.แล้วแน่ๆ แต่ผมก็ยังปลอบเพื่อให้น้อง ฝ. สบายใจ) จนเมื่อราวๆ กลางสัปดาห์ต้นเดือน กุมภาพันธ์ น้อง ฝ. เธอแอบไปซื้อชุดตรวจครรภ์มาตรวจเช็ค ผลก็คือ ท้อง แต่น้อง ฝ. ก็ยังปิดบังผม เพราะเธอไม่กล้าบอก จนวันศุกร์ของสัปดาห์นั้น น้อง ฝ. ก็ บอกผมว่าเธอ"ท้อง" (เวลาที่คุณรักใครมากๆ อยากดูแลเขาให้ดู คิดจะทำหลายๆสิ่งหลายๆอย่างร่วมกัน แล้วเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมเชื่อว่า หลายๆคนก็แอบชอคไปเหมือนกัน ผมก็เป็นแบบนั้น)และในเย็นวันศุกร์ น้อง ฝ. ก็ไปพบนาย ม. เพื่อพูดเรื่องที่เธอท้องและคืนวันศุกร์นั้นผมก็โทรคุยกับน้อง ฝ. ก็ถามว่าจะบอกพ่อแม่เธอตอนไหน เธอบอกยังไม่รู้ อยากจะปิดไปสัก 3 - 4 เดือนก่อนค่อยบอก ผมเลยบอกไปว่าไม่ได้หรอกนะ ยิ่งปิดนาน ยิ่งแก้ไขปัญหากันลำบาก ผมก็แนะนำให้เธอคุยกับแม่ของเธอก่อน เพราะด้วยความเป็นแม่ น่าจะเข้าใจลูกได้ดีกว่า  และผมก็บอกน้อง ฝ. อีกว่า ถ้าหากเรื่องออกมาไม่โอเค ฝ่ายของ นาย ม. ไม่รับ ผมจะรับเด็กในท้องของเธอเป็นลูกผมเอง เพราะผมรักเธอมาก (ไม่ได้พูดให้ดูดี แต่เพราะรู้สึกแบบนั้นจริงๆ) พอเย็นวันเสาร์ ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายก็มาคุยกัน และผู้ใหญ่ฝ่ายนาย ม. จะรับผิดชอบ เพราะยังไงก็หลาน ส่วนแม่ของน้อง ฝ. ก็ยินดีให้แต่งเพื่อหลาน แต่น้อง ฝ. บอกผมว่าเธอไม่พร้อม เพราะว่าเธอไม่ได้รัก นาย ม. (จากที่เธอพูดให้ผมฟัง) ส่วนพ่อของน้อง ฝ. ตามประสาแหละครับ มีใครก็ไม่รู้ มาทำลูกสาวคนเดียวท้อง ก็โกรธและไม่รับเป็นเขย (ถึงตอนนี้ผมยังไม่ทราบเรื่องว่าผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายมาคุยกันแล้ว)จนวันอาทิตย์ น้อง ฝ. ก็บอกผมว่า ผู้ใหญ่มาคุยกันแล้ว ฝ่าย นาย ม. ยินดีรับผิดชอบ แต่พ่อของเธอไม่เอา(ณ ขณะนั้น) ผมก็ยังให้คำปรึกษาแก่เธอ(ทั้งที่ในใจเจ็บสุดๆและรู้ว่าต้องจบกันแน่ๆ) ว่าเดี๋ยวอีกสัก 2 - 3 วันก็อาจจะมีคำตอบจากพ่อของเธอเองแหละเชื่อสิ คืนวันอาทิตย์ผมก็คิดแล้วคิดอีกเรื่องที่จะเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ทางฝ่าย น้อง ฝ. ว่าหากพ่อของน้อง ฝ. ไม่รับ นาย ม. ให้เป็นพ่อของหลาน ผมยินดีรับเด็กในท้องเป็นลูกของผม เพราะผมรักน้อง ฝ. มาก (คือความตั้งใจและบริสุทธิ์ใจจริงๆ) และเมื่อวาน(08-02-60) ช่วงสาย พ่อของ น้อง ฝ. ก็โทรหาเธอ และบอกว่า ให้เตรียมตัวแต่งงานนะ เพื่อเห็นแก่หลาน (ในตอนนั้นผมกำลังคุยไลน์กับเธออยู่พอดี) และเธอก็บอกผมเรื่องที่พ่อของเธอโทรมา ผมเลยถามไปว่า แน่ใจแล้วเหรอที่จะแต่งงานอยู่กินกับนาย ม. ทั้งๆที่ไม่ได้รัก เธอตอบแต่เพียงว่า อยากให้ลูกของเธอมีพ่อ และไม่อยากขัดใจพ่อแม่อีก ผมจึงต้องถอย แต่ผมก็ยังบอกเธอไว้ว่า ผมจะไม่บล็อคเบอร์ บล็อคไลน์ หรือเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ถ้าวันนึงเธอไปกับนายคนนั้นไม่ไหวแล้วจริงๆ และผมยังไม่มีใคร ผมก็ยินดีที่จะกลับไปคบและดูแลเธอเหมือนเดิม เพราะเราจบลง ไม่ใช่เพราะเกลียดกัน แต่เพราะเหตุผลความจำเป็นที่เกิดขึ้นต่างหาก...


***ตอนแรกตกลงจะเปลี่ยนสถานะจากคนเคยรักกันเป็นพี่น้องและให้ผมเป็นพ่อทูนหัวของลูกเธอ แต่ผมคิดแล้วว่า ผมคงทนไม่ไหวที่จะต้องเห็นเธอใช้ชีวิตกับผู้ชายคนอื่น แถมยังเป็นผู้ชายที่ทำ_ะยำ ใช้วิธีสกปรกเพื่อให้ได้มาอีก ผมจึงยอมถอยออกมา เพื่อให้ตัวเองไม่เจ็บไปมากกว่านี้ ผมคงไม่เห็นแก่ตัวใช่ไหม ต้องจำใจจำยอมถอยออกมา ทั้งๆที่ใจยังรักมากที่สุด***

ถามเพื่อนๆครับ คิดว่าสิ่งที่ผมทำนี้ ดีที่สุดแล้วใช่ไหม เพราะตอนนี้เครียดมาก นอนไม่หลับเท่าไหร่มา 5 คืนแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดค่ะ คุณก็ดำเนินชีวิตไปตามเส้นทางของคุณ ระหว่างที่เค้าอยู่กินกันเราไม่รู้หรอกว่าเค้าจะผูกพันธ์จะรักกันเมื่อไหร่หรือมากน้อยแค่ไหน ยิ่งมีลูกด้วยกันตอนลูกออกมาจะเป็นยังไงต่อไปเราก็ไม่รู้. เผื่อใจไว้บ้างก็ดีนะคะ อย่าไปยึดติดหรือจมปักกับอดีตค่ะ  คุณก็ให้กำลังใจเธออยู่ข้างๆ ให้เธอใช้ชีวิตในแบบที่ควรจะเป็น
คุณไปบอกเธอว่ายังไงก็ก็พร้อมที่จะดูแลเธอ ลองคิดตามนะคะถ้าวันนึงคุณเจออีกคน แล้วคุณรักหรือคิดจะใช้ชีวิต ซึ่งเราก็ไม่รุ้ว่าจะอีกกี่เดือนกี่ปี หรือจนลูกของน้อง ฝ โต. แล้ววันนึงน้องฝ กลับมา ในวันที่คุณกำลังใช้ชีวิตหรือเริ่มต้นใหม่กับอีกคน แบบนี้มันจะเจ็บ2ทางนะคะ ให้ชีวิตเป็นไปในแบบที่มันควรจะเป็นเถอะค่ะ. ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ
จากหัวอกคนที่หมดรักแฟนแต่กลับมารักกันได้เพราะลูกหัวใจดวงน้อยๆของพ่อกับแม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่