กระทู้บอกต่อ!! แนะนําหนังออสการ์ที่ดูแล้วอยากบอกต่อกว่า 36 เรื่อง!!!

1.Gone With The Wind (1939)

เป็นภาพยนตร์สีเรื่องแรกที่ชนะออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เป็นหนังที่คลาสสิกมากก ในต่างประเทศมีวนมาฉายอยู่เรื่อง เป็นหนังที่ถูกกล่าวขวัญมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นหนังที่อยู่ในยุคทองของฮอลลีวูด และยังเป็นหนังที่สามารถทํารายได้สูงที่สุดในโลกหลังจากคิดอัตราเงินเฟ้อแล้วอีกด้วย เป็นหนังดราม่า-รัก สู้ชีวิต อยู่บนฉากหลังของสงคราม โปรดักชั่น เสื้อผ้า ฉาก อลังการมาก มีฉากในตํานานอยู่ 2 ฉาก คือ ฉากที่พ่อกับนางเอกยืนอยู่ใต้ต้นไม้ตอนที่ดูพระอาทิตย์ที่จะลับขอบฟ้ากับฉากที่ทหารนอนตายอยู่หลายพันคน คือทุ่มทุนสร้างมากจริงๆ และนางเอกตอนแรกๆจะเป็นคนที่ร้ายหน่อย อ่อยผู้ชายไปทั่ว แต่สวยจริง ถึงจะร้ายแต่ก็มีความดีอยู่ในตัวนาง ตัวละครนี้ทําให้หมั่นไส้และทําให้ชอบไปพร้อมกันได้

2.Rebecca (1940)

หนังให้บรรยากาศลึกลับชวนค้นหาทั้งเรื่องราวชีวิตของรีเบคก้าและความตายที่เป็นปริศนาของเธอ หนังใช้ภาษาหนังให้เป็นประโยชน์ในการเล่าเรื่องราว และสร้างความเร้าใจในเวลาที่สมควร พร้อมทั้งยังคงความลี้ลับของรีเบคก้าไว้เช่นเดียวกับเมื่อครั้งเป็นหนังสือ นักแสดงนํา คือ โจน ฟอนเทน ในบทมิสซิสเดอ วินเทอร์ และที่สำคัญคือ จูดิธ แอนเดอค์สัน ในบทมิสซิสแดนเวอร์ส แม่บ้านแห่งคฤหาสน์มันเดอเรย์ที่ยังคงภักดีกับนายหญิงคนเก่าไม่เสื่อมคลาย หนังเรื่องเดียวของฮิตช์ค็อกที่ได้ ''best picture'' จากเวทีออสการ์ หนังเล่าถึงมุมมองของหญิงสาวที่กลายมาเป็นมิสซิสเดอ วินเทอร์คนใหม่แห่งคฤหาสน์มันเดอเลย์ แต่เธอกลับไม่พ้นเงาของ รีเบคก้า เดอ วินเทอร์ คุณนายคนเก่าที่เคยครอบครองคฤหาสน์แห่งนี้และมีอิทธิพลกับทุก ๆ คน แม้จะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม

3.Casablanca (1942)

การดำเนินเรื่องที่ชวนติดตาม ไม่น่าเบื่อ เป็นหนังชิงไหวพริบ ตื่นเต้น นักแสดงแสดงได้สมจริง บทกระชับ ส่วนที่ดีที่สุดคือบทพูด กระชับ ได้ใจความ มีความหมาย เชือดเฉือน ตลกร้าย อยู่ในนั้นหมด แบบว่าประโยคแต่ละประโยคสั้นๆ แต่กินความหมายมากมาย และเพลงก็เพราะมาก เป็นหนังเกี่ยวกับการเสียสละเพื่อความรัก และความอึดอัดจากสงคราม เป็นหนังคลาสสิกในตํานานอีกเรื่อง

4.All About Eve (1950)

เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการเข้าชิงออสการ์มากที่สุดถึง 14 รางวัล ตีคู่มากับ Titanic ในปี1997 และ La La Land ในปี2016 เป็นหนังยุคเก่า สามารถครองสถิติอยู่ได้ถึง 47 ปี แต่มีเนื้อหาที่ดีและทันสมัย เรื่องนี้มีกลิ่นอายของละครไทยอยู่ แต่น่าติดตามและไม่นํ้าเน่า เป็นหนังที่สะท้อนวงการบันเทิงได้เป็นอย่างดี มีการแสดงที่เข้มข้นและบทพูดที่เฉือดเฉือน มีกลิ่นอายของมารยาริษยา การแสดงของ Bette Dadis ในบทมาร์โก เล่นดีมีพลังทางการแสดงมากๆ แต่อีฟดูจิตมากก โคตรหลอน เรื่องนี้ Marilyn Monroe แสดงด้วยนะ

5.On The Waterfront (1954)

เป็นหนังคลาสสิกที่สมบูรณ์แบบอีกเรื่องหนึ่ง หนังสามารถล่าเรื่องราวได้อย่างคมคายด้วยภาษาภาพ รวมทั้งการแสดงที่สุดยอดโดยเฉพาะมาร์ลอน แบรนโด ที่สร้างความซับซ้อนและสับสนให้กับบทของเขาได้เป็นอย่างดี คนดูอยากจะมีอารมณ์ร่วมเอาใจช่วยเทอรี่ไปตลอดทั้งเรื่อง การแสดงของปู่ Brando มาถึงจุดพีคสุดๆก็ตอนฉากบอกความจริงในใจกับพี่ชายบนรถแท็กซี่ด้วยหนึ่งในวรรคทองที่เป็นที่จดจำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์... "You don't understand. I coulda had class. I coulda been a contender. I coulda been somebody, instead of a bum, which is what I am, let's face it." วรรคทองนี้ได้รับการจัดอันดับจาก AFI (สถาบันภาพยนตร์อเมริกัน) ให้ติดอันดับที่สามจากการจัดอันดับ AFI's 100 Years…100 Movie Quotes)  หนังเกี่ยวกับหนุ่มกรรมกรท่าเรือที่เป็นมือเป็นเท้าให้กับเจ้าพ่อท่าเรือผู้คุมสหภาพไว้ทั้งหมดและยังใช้อำนาจในทางไม่ชอบ เมื่อมีผู้ที่ต้องการจะเปิดโปงความชั่วร้ายเขาจึงโดนเก็บโดยเทอรี่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย และนั่นทำให้มโนของเขาเกิดสำนึกในความผิดบาปจึงต้องการจะทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ต้องเผชิญกับอิทธิพลของผู้ยิ่งใหญ่รวมทั้งถูกตราหน้าจะเพื่อนร่วมงานว่าเป็นคนทรยศ

6.The Bridge On The River Kwai (1957)

เป็นหนังออสการ์ชนะภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทยมากที่สุดเรื่องหนึ่ง หนังถูกสร้างเค้าโครงมาจากเรื่องในสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อทหารญี่ปุ่นเกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรมาสร้างทางรถไฟจากประเทศไทยสู่พม่าซึ่งต้องผ่านป่าดงดิบอันแสนหฤโหดของกาญจนบุรี ส่งผลให้เชลยศึกต้องเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ทางรถไฟสายนี้จึงถูกเรียกขานมาทางรถไฟสายมรณะ แม้หนังจะเกี่ยวกับประเทศไทย แต่จะถ่ายทําในศรีลังกาตลอดทั้งเรื่อง เป็นสงครามโลกครั้งที่2ของเอเชียที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง จะเล่าถึงการต่อต้านสงคราม รวมถึงตีแผ่จิตใจของมนุษย์อีกด้วย

7.Ben-Hur (1959)

เป็นหนังเอพิคในตํานานที่สามารถคว้ารางวัลออสการ์ไปได้ถึง 11 สาขา!! หนังอลังการงานสร้างมากๆ แต่หนังก็ยาวมากเช่นกัน แต่หนังไม่น่าเบื่อ น่าติดตามไปตลอดทั้งเรื่อง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ศาสนา เพื่อน ตำแหน่ง หน้าที่ ความรัก โชคชะตา  เป็นหนังที่ตรึงตา ตรึงใจมาก ไม่มีการใช้CGแม้แต่น้อย ฉากทุกอย่างเป็นฉากที่เซ็ตขึ้นมาหมดเลย ฉากพายเรือ รถม้า สุดยอดมากๆ เป็นหนังที่ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมถึงคว้าออสการ์ถึง 11 รางวัล และในปี 2016 ก็ได้มีการรีเมคหนังเรื่องนี้ออกมาใหม่ แต่ก็แป๊กทั้งรายได้และคําวิจารณ์ หนังที่มันEpicอยู่แล้ว แนะนําอย่าไปรีเมคใหม่เลย เพราะเวอร์ชั่นนี้คือที่สุดของที่สุดจริงๆ

8.The Apartment (1960)

หนังตลกเสียดสีที่แฝงไว้ด้วยความโรแมนติค จนทำได้รับการยอมรับว่าเป็นหนังเนื้อหาง่าย ๆ แต่แฝงไว้ซึ่งคุณค่าที่โดดเด่นทั้งเนื้อเรื่องซึ่งเสียดสีชีวิตสังคมเมือง การแสดงที่มีทั้งเข้มข้นและลื่นไหล ไปจนถึงบทภาพยนตร์ที่วางจังหวะของหนังได้อย่างพอเหมาะเจาะลงตัวเป็นที่สุด หนังเกี่ยวกับหนุ่มออฟฟิชที่ก้าวหน้าในอาชีพการงานได้เป็นอย่างดีเพราะเขาใช้อพาร์ทเมนท์ของเขาเป็นรังรักแบบลับ ๆ ให้กับบรรดาผู้บริหารของบริษัท แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็พบว่าหญิงสาวที่เขาหลงรักกลับเป็นหนึ่งในบรรดาสาว ๆ ที่มาใช้บริการห้องพักของเขาร่วมกับผู้บริหารของบริษัท เขาจึงต้องทบทวนตัวเองว่า สิ่งที่เขาทำอยู่นั้นถูกต้องเพียงใด เป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งก็ว่าได้ เป็นหนังที่น่าสนุกและประทับใจอย่างยิ่งเลย  การแสดงของแจ็ค เลมมอนในบทกุ๊กกิ๊กแบบนี้นี่ ลื่นไหลได้สุดยอดจริงๆ

สามารถแนะนําหนังออสการ์เรื่องอื่นๆที่ท่านชอบเข้ามากันได้เลยน้าาา..

แล้วคุณล่ะชอบเรื่องอะไรในลิสต์นี้กันบ้าง?..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่