[CR][SR] เที่ยวญี่ปุ่น5วัน4คืนด้วยงบ 3 หมื่นรวมทุกอย่างยกเว้นค่าช้อปปิ้ง #Japan2017


ทริปเที่ยวญี่ปุ่น 5 วัน 4 คืน  ออกตัวก่อนเลยว่าไม่เคยเขียนกระทู้รีวิวการไปเที่ยวที่ไหนเลย ครั้งนี้คงเป็นครั้งแรกในการเขียนรีวิวโดยจุดประสงค์ในการเขียนก็คือการเก็บความทรงจำในการไปเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งนี้จริงๆ ทริปนี้ไป 2 คน รวมๆ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 30,000 บาท/1คน รวมทุกอย่างแล้วยกเว้นช้อปปิ้ง ส่วนตัวเราช้อปปิ้งแค่ 5,000 บาท (เพราะหมดงบไปกับการซื้อของให้เพื่อนซะส่วนใหญ่แลกเงินมาแค่ 65,000 เยน ตีเป็นเงินไทย 20,000 บาท) เรามาเริ่มที่การจองตั๋วเครื่องบินครั้งนี้ได้ตั๋วเครื่องบินจากสารการบิน Airasia x เที่ยวบิน XJ606 ขาไปและขากลับ XJ607 ชั้นประหยัดเพิ่มน้ำหนักขาไป 20 กิโล รวมราคา 23,000 บาท/ 2 คน โดยรวมก็ถือว่าเป็นราคากลางๆ ไม่ถูกไปและไม่แพงไป (แต่ถ้าหาได้ราคา 7,000-8,000/คนจะดีงามมากและไป สัก 7-8 วัน) ส่วนเรามีข้อจำกัดในเรื่องวันในการลางานเลยได้แค่ 5 วัน  

             ขั้นตอนต่อมาคือการจองโรงแรมอันนี้เราเลือกจองโรงแรมที่อยู่ใกล้สถานนีรถไฟฟ้าและใกล้สถานนี Ueno ตอนขากลับ keisei skyliner จองผ่าน Agoda โรงแรม 3 ดาว my stay ueno iriyaguchi ในราคา 4 คืน 12,400 บาท ที่เลือกจองโรงแรมนี้คือใกล้สถานนี inaricho เดินเข้าไปโรงแรมระมาณ 200 เมตรโดยประมาณและพื้นที่ 16 ตรม. (โดยปกติโรงแรมแถวๆ สถานนีจะมีพื้นที่ 11-12 ตรม.) พนักงานก็สามารถสื่อสารได้ดี มีเครื่องครัวสามารถทำอาหารทานเองได้มื้อแรกเราต้มราเมงและเวปอาหารกินกันที่ห้องเลย ข้อเสียคือไม่มีการทำความสะอาดเปลี่ยนผ้าและทิ้งขยะให้ ส่วนตัวเราไม่ซีเรียสถือว่าโอเครเลย 8/10

             ในส่วนของค่าเดินทางโปรแกรมการเที่ยวเราส่วนใหญ่อยู่ที่โตเกียวมีไปคาวาคูจิโกะวันแรกไปเช้าเย็นกลับเราเลยเลือกที่จะซื้อโปร keisei skyliner + Subway 72 Hr จาก H.I.S ในราคา 1,720 บาท/คน และเติมบัตร Suica 2,000 เยน ที่ยืมมาจากบริษัท easypocketwifi  ใช้ดีนะราคาเช่า wifi ต่อวันก็ 250 บาทมีค่าประกันเครื่อง 300 รวม 1,300 บาท รับส่งคืนที่สนามบินเลย

              ขอแยกค่าเดินทางไปคาวาคูจิโกะออกมาละกันเราจองตั๋วผ่านเวปไว้ซึ่งมันดีมากๆ สะดวกมากๆ ไม่ต้องรอต่อแถวเลยยืนใบจองในเจ้าหน้าที่และจ่ายเงินได้เลยเราจองไปตอน 8:15 กลับตอน 15:15 น. (ตอนแรกกลับ 16:10 สามารถเลื่อนขากลับได้) การจองมันช่วยให้เรากำหนดเวลาต่างๆ ได้เป็นอย่างดีจริงๆ เชื่อเรา และพอถึงคาวาคูจิโกะก็ซื้อตั๋ว  R coupon ที่รวมค่ารถขึ้นได้ไม่กำจัด 2 วัน + กระเช้า + ล่องเรือ ในราคา 2,300 เยน (720 บาท/คน)
ตั๋วรถบัสไปกลับคาวาคูจิโกะ

ตั๋ว R coupon (Bus+Cable-car+Boat)

            พอเรารู้แล้วว่าเราต้องอยู่ที่ไหนเป็นส่วนใหญ่แล้วบ้างเราก็เริ่มทำการจัดตารางการเที่ยวต่อวันของเราได้เลยเราทำ Power Point ตั้งแต่การ Check in สนามบินทำเป็นชีสแล้วปริ้นออกมา 2 ชุด เราทำไป 18 หน้าเลย >< ซึ่งหนามากแต่ก็เป็นการเที่ยวครั้งแรกเนอะเผื่อไว้ดีกว่าขาดมีอะไรสำคัญๆ ก็ใส่ไว้ให้หมดเลยโดยเฉพาะเรื่องการเดินออกประตูไหนไปจุดไหนเป็นเรื่องสำคัญมากในการเที่ยวต่างประเทศ และทำเป็น Pdf. ส่งเข้ามือถือไว้ด้วยก็ดีเพราะบางสถานที่ไม่ต้องใช้เอกสารที่เป็นกระดาษให้รูปเค้าดูก็ได้ ^^"  แต่การปริ้นเอกสารออกมามันดีมากเลยนะมันช่วยเราในเรื่องการ Check in สนามบินของเราทั้งขาไปและขากลับไม่ต้องไปต่อรอ Check in กับคนเยอะๆ เข้าแถวรอโหลดกระเป๋าและไปเดินชิวได้เลยยยยย ^^ สบายยยยยยยยย


          มาเริ่มกันที่การเดินทางวันแรกกันเลยเราขึ้นเครื่องไฟท์ 10:45น. ถึง 19:30น. ตามเวลาที่ญี่ปุ่น (ห่างจากไทย 2 ชม.) รวมเวลาการเดินทาง 5 ชั่วโมงนิดๆ มาถึงเราก็ไปแลกตั๋วรถไฟ keisei skyliner + Subway 78 Hr เลย ทางเจ้าหน้าที่จะเช็ครอบขาไปให้เราเลยส่วนขากลับให้เราไประบุเองตอนกลับเราได้เที่ยว 20:11 ลงสถานี Ueno เวลา 20:56 ซึ่งเป๊ะมากกกก ถึงสถานนี Ueno แล้วก็เดินไปตามเส้นทางที่บอกว่าไปต่อสถานนีรถไฟ Subway สาย Ginza line สาย G ที่จะไปลงสถานนี inaricho (G17) แค่ 1 สถานีโดยการใช้บัตร Suica (170 เยน) ที่เราเติมเงินมาเพราะถ้าเปิดใช้บัตร Subway 72 hr. เราจะใช้ไม่ถึงวันที่ 3 และจะไม่คุ้มเพราะวันแรกเราไม่ได้เดินทางไปไหนแล้วเพราะค่อนข้างดึกแล้ว

         อาหารมื้อแรกของเราก็ซื้อของกินในเซเว่นมาทำกินกันที่ห้องซึ่งเยอะมากวันแรกมื้อแรกกิน 2 คนก็รวม 820 บาทแล้ววววววว 5555 คือเห็นอะไรแล้วก็อยากกินไปหมด ซึ่งก็คุ้มอยู่นะกินแบบไม่หมดน้ำเปล่าก็ซื้อมา 2 ขวดใหญ่กินได้ถึงวันกลับเลย แต่ขอบอกว่าสตรอว์เบอร์รีอร่อยยยมากและถูกกว่าที่อื่นมากกกๆ เลย ที่อื่นขาย 600 เยน แถวโรงแรมขาย 429 เยน ก็ประมาณ 135 บาท กินเสร็จก็นอนพร้อมที่จะลุยต่อพรุ่งนี้.....

         Day 1 ตื่นตี 5 ออกจากโรงแรม 6 โมงครึ่ง นั่งรถไฟใต้ดินเพื่อไปถึงสถานนีชินจุกุขึ้นรถบัสไปคาวาคูจิโกะ *ราคาและการจองแจ้งไปก่อนหน้านี้แล้ว และมื้อแรกของเราก็ง่ายๆ ข้าวปั้นและน้ำดื่มในสถานีรอรถบัสประมาณ 205 บาท


         ได้เวลาขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางไปทะเลสาบคาวาคูจิโกะกันแล้วใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 2 ชม. นิดๆ ก็ถึงหน้าสถานนีเลย ถึงแล้วลงไปซื้อตั๋ว  R coupon ที่รวมค่ารถขึ้นได้ไม่กำจัด 2 วัน + กระเช้า + ล่องเรือ ในราคา 2,300 เยน (720 บาท/คน) แล้วมารอ Retro Bus ซึ่งเป็นรถเมล์สายพิเศษที่วิ่งรอบทะเลสาบคาวากูจิโกะ จากสถานีรถไฟ Kawaguchiko ไปยังป้ายสุดท้ายป้ายที่ 22  ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่กว้างที่สุดของทะเลสาบคาวาคูจิโกะ ถ่ายรูปกันสักพักก็มารอรถเพื่อไปต่อกันที่ป้ายที่ 11 Mt.Tenjo มีกระเช้าไฟฟ้า Kachi Kachi Ropeway มองเห็นวิวทะเลสาบคาวากูจิและภูเขาไฟฟูจิ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบเลย และยังมีร้ายขายของชำให้นักท่องเที่ยวได้ไปหาอะไรทานและพักชมวิว เสร็จจาก Ropeway ก็เดินมาท่าเรือ Ensoleille เพื่อจะล่องเรือชมฟูจิซังกลางทะเลสาบใช้เวลาไปและกลับจากการล่องเรือ 15 นาทีโดยประมาณ อากาศหนาวมากบวกลมแรงมากแดดก็เช่นกัน แต่เพื่อได้ชมภูเขาไฟฟูจิด้วยตาเปล่าก็ยอมมมมมม เหลือเวลาไม่มากเราต้องต่อรถไปยังสถานนีแรกที่เราได้ขึ้นมาเพื่อต่อรถเที่ยวบ่าย 3 กลับไปที่ชินจุกุ สรุปแล้วการมาเที่ยวเช้าไปเย็นกลับก็ได้เที่ยวแต่ละจุดประมาณ 3-4 ที่ก็คือว่าคุ้มแหละได้มาสัมผัสบรรยากาศที่ไม่เคยเห็นครั้งหนึ่งในชีวิต ^^  

ถ่ายรูปมาเก็บเป็นความทรงจำดีๆ ที่คาวาคูจิโกะ "ฟูจิซัง"

           พอถึงชินจุกุก็หิวพอดีเดินหาของกินมื้อแรกจริงจังและเป็นครั้งแรกที่กดตู้สั่งข้าวเอง แอบดีใจเพราะร้านที่เข้ามีเมนูภาษาอังกฤษเมนูที่สั่งมาเป็นข้าวหน้าเนื้อและราเมงเป็นเซทเซทละ 780เยน (250บาท) เรียกว่าโครตตตตอิ่มเลยและฟินกับน้ำซุปที่เข้มข้นมากก

            กินข้าวเสร็จแล้วก็เดินเล่นที่ Big Camera และ Don Quijote สาขาชินจูกุ สำรวจราคาก่อนวันแรกก็ยังไม่ได้ซื้ออะไรมากมายก็หมดเวลาของวันนี้แล้ว เดินเจอกาชาปองก็หมดที่จะลองหมุนๆ ไม่ได้ ^^" เยอะแยะไปหมดเบย


             แวะผ่านเจอร้านเครปเยอะมากเลยอยากลองชิมดูจริงๆ เคยอ่านรีวิวเค้าบอกว่าต้องไปกินแถวๆ ชิบูย่าแต่ความอยากเลยต้องจัด ^^ รสชาติอร่อยเหมือนที่เคยกินที่ไทยเลยแต่มีความรู้สึกว่าครีมจะนุ่มกว่าไอติมอร่อยและสตรอว์เบอร์รีสดมาก แต่ด้วยอากาศหนาว 3 องศาทำให้แป้งเครปค่อนข้างแข็งไปหน่อย ^^ หมดวันแล้ววววกลับห้องนอนถึงห้องก็ประมาณ 4-5 ทุ่มแช่น้ำอุ่นแล้วนอนพักเอาแรงพรุ่งนี้ลุยยยยต่อ......

             Day 2 วันนี้ตื่นสายหน่อย 9 โมงออกจากบ้านก็ 10 โมงครึ่งแล้ววันนี้จุดแรกที่เราจะไปเที่ยวกันคือศาลเจ้าเมจิเดินต่อสถานนีเห็นขนมปังมีคนต่อแถวอยู่ เห็นแล้วก็หิวเลยเดินไปต่อคิวแล้วสั่งมา 2 ชิ้น คือ Danish ใส้ครีมนั่นเองอร่อยดี กรอบนอกนุ่มใน ชอบอยากกลับไปกินอีกเลย

            มาถึงแล้วที่แรกของวันนี้ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine / Meiji Jingu) ที่ฮาราจูกุ  นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Chiyoda หรือ Fukutoshinลงที่สถานี Meiji-Jingumae ‘Harajuku’ Station ตรงนี้เราไม่ได้เข้าไปข้างในแค่ไปกลางๆ ถ่ายรูปแล้วก็กลับไปต่อที่ชิบุย่า

           บ่ายนิดๆ เริ่มหิวกันละเลยหาอะไรกินเอาแรงก่อนที่จะไปเดินต่อ เจอร้านนี้อยู่ในซอยชิบูย่าจำไม่ได้ว่าตรงโซนไหนชื่อร้านอะไรเห็นว่าคนเยอะดีและมีหลายเมนูก็เลยเข้าไปกดตู้สั่งเลยได้เป็นข้าวทงคัสสึ เนื้อหมูเนื้อไก่แน่นมากข้าวเยอะมาก ซุปคือดีงามมากอร่อยลงตัวสุดๆ เซทละประมาณ 760 เยน (240 บาท) คือคนญี่ปุ่นกินข้าวกันจริงจังมากเอาให้อิ่มสุดๆ จริงๆ ไม่เสียเงินที่จ่ายไป

          พอกินอิ่มแล้วก็เดินหาของช้อปปิ้งต่อแถวชิบูย่านี่แหละบางอย่างก็ดูราคาไว้ก่อนแล้วค่อยมารวบบทีเดียวเลย ^^ แต่ก็ได้มาบางอย่าง 2 อย่างเบาๆ

เห็นมาริโอคาร์ท ขับผ่านมาด้วย ^^ เจ๋งดี!

ชื่อสินค้า:   #Japan2017 #Tokyo #โตเกียว #คาวาคูจิโกะ #ภูเขาไฟฟูจิ #ฟูจิ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่