อีกไม่กี่วันละครแห่งการรอคอยก็จะออกอากาศผ่านสายตาให้ผู้ชมได้รับชมกันผ่านทางหน้าจอช่อง 7สีกันแล้ว
แต่ช่องทางการรับชมสดบนแพลทฟอร์มอื่นๆ ที่ไม่ใช่ของช่องเอง คาดว่าจะยังไม่มีตามสไตล์เจ็ดสี
แต่ถ้าหากช่อง7 ปรับกลยุทธ์เป็นการขายโฆษณาเพื่อออกอากาศออนไลน์โดยเฉพาะและดำเนินการเองด้วยตนเอง (คาดว่าเพจต่างๆที่ไม่เป็นทางการก็เตรียมไลฟ์สดแน่ช่องเองที่เสียโอกาส)
การออกอากาศคู่ขนาน เช่น ไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊ค หากเอเยนซี่ต้องการออกอากาศทั้งระบบทีวีและแพลทฟอร์มโซเชียลมีเดีย ก็เก็บค่าโฆษณาเพิ่มอีก 50% (จาก 5แสนก็ได้เพิ่มมาอีก 2.5แสน รวม 7.5แสน)
หากต้องการออกอากาศผ่านช่องทางไลฟ์เฟสบุ๊คอย่างเดียวก็คิดราคาเดียวกับการออกอากาศทางทีวีเลยคือ 100% (นาทีละ 500,000 บาท)

โดยโฆษณาแพลทฟอร์มออนไลน์ไม่เต็มก็เอารายการช่องไปออกอากาศแทน และเชื่อว่าโฆษณาที่มาเดือนนี้แพลนมาตั้งแต่ต้นปีเผื่อรายใดที่พลาดหรือไม่ทันซื้อเพื่อออกอากาศเพลิงพระนางจะได้มีช่องทางเพิ่ม
24 ตอนจะจบก็คงหลังสงกรานต์ไปแล้ว ขนาดช่อง WP ยังปรับราคาโฆษณาใหม่จากหน้ากากนักร้องสูงกว่า 300% ได้เลยจาก 1-2 แสน เป็น 4-5 แสนบาทต่อนาที
วิธีนี้อาจจะทำให้ช่อง 7 สนใจการออกอากาศไลฟ์สดมากยิ่งขึ้น ทีมขายโฆษณา ทีมมาเก็ตติ้ง ตัวแอดต่างๆ ก็แฮปปี้ WIN WIN ทุกฝ่าย คนรับชมก็ชมผ่านทุกช่องทางที่ถูกต้อง
งานนี้ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอเยนซี่ต่างๆจะไปกระตุ้นช่อง 7 สี เพราะงานนี้ใครออกอากาศผ่านทางไลฟ์สดคงได้ใจผู้ชมไม่มากก็น้อยแถมยังจดจำโฆษณาได้แน่ๆ เปลี่ยนช่องน้อยและมีตัวเลขยอดวิวให้เห็นเด่นชัด
ปรับปัญหาให้เป็นโอกาส แถมยังน่าจะได้เรตติ้งคนกรุงเพิ่มขึ้นอีกด้วย คนดูทีวีก็ยังดูทีวีต่อไปแต่คนดูผ่านสมาร์ทโฟนจะเป็นกลุ่มใหม่ๆที่มาชมช่องเจ็ดก็เวลานี้นี่แหละ
(งานนี้ช่องไม่ทำเองแน่ๆแต่พลังเอเยนซี่จะช่วยคนดูได้55)
ปล. ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ เชื่อว่าคนอยากอัดคงอัดละครไว้ดูหรือผ่านช่องทางที่แต่ละคนจะอัดได้แต่ไม่ใช่ค้าขาย หากช่องกังวลก็ส่งหนังสือไปที่เฟสบุ๊คก่อนเลยว่าหากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการไลฟ์สดภาพจากทางสถานนี
แม้มีไอคอนหรือแถบอะไรมาบังก็ถือว่ามีความผิดทางกฏหมาย
ความคาดหวังการออกอากาศ "เพลิงพระนาง" บนแพลทฟอร์มอื่นนอกเหนือจากออกอากาศทางทีวี
แต่ช่องทางการรับชมสดบนแพลทฟอร์มอื่นๆ ที่ไม่ใช่ของช่องเอง คาดว่าจะยังไม่มีตามสไตล์เจ็ดสี
แต่ถ้าหากช่อง7 ปรับกลยุทธ์เป็นการขายโฆษณาเพื่อออกอากาศออนไลน์โดยเฉพาะและดำเนินการเองด้วยตนเอง (คาดว่าเพจต่างๆที่ไม่เป็นทางการก็เตรียมไลฟ์สดแน่ช่องเองที่เสียโอกาส)
การออกอากาศคู่ขนาน เช่น ไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊ค หากเอเยนซี่ต้องการออกอากาศทั้งระบบทีวีและแพลทฟอร์มโซเชียลมีเดีย ก็เก็บค่าโฆษณาเพิ่มอีก 50% (จาก 5แสนก็ได้เพิ่มมาอีก 2.5แสน รวม 7.5แสน)
หากต้องการออกอากาศผ่านช่องทางไลฟ์เฟสบุ๊คอย่างเดียวก็คิดราคาเดียวกับการออกอากาศทางทีวีเลยคือ 100% (นาทีละ 500,000 บาท)
โดยโฆษณาแพลทฟอร์มออนไลน์ไม่เต็มก็เอารายการช่องไปออกอากาศแทน และเชื่อว่าโฆษณาที่มาเดือนนี้แพลนมาตั้งแต่ต้นปีเผื่อรายใดที่พลาดหรือไม่ทันซื้อเพื่อออกอากาศเพลิงพระนางจะได้มีช่องทางเพิ่ม
24 ตอนจะจบก็คงหลังสงกรานต์ไปแล้ว ขนาดช่อง WP ยังปรับราคาโฆษณาใหม่จากหน้ากากนักร้องสูงกว่า 300% ได้เลยจาก 1-2 แสน เป็น 4-5 แสนบาทต่อนาที
วิธีนี้อาจจะทำให้ช่อง 7 สนใจการออกอากาศไลฟ์สดมากยิ่งขึ้น ทีมขายโฆษณา ทีมมาเก็ตติ้ง ตัวแอดต่างๆ ก็แฮปปี้ WIN WIN ทุกฝ่าย คนรับชมก็ชมผ่านทุกช่องทางที่ถูกต้อง
งานนี้ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอเยนซี่ต่างๆจะไปกระตุ้นช่อง 7 สี เพราะงานนี้ใครออกอากาศผ่านทางไลฟ์สดคงได้ใจผู้ชมไม่มากก็น้อยแถมยังจดจำโฆษณาได้แน่ๆ เปลี่ยนช่องน้อยและมีตัวเลขยอดวิวให้เห็นเด่นชัด
ปรับปัญหาให้เป็นโอกาส แถมยังน่าจะได้เรตติ้งคนกรุงเพิ่มขึ้นอีกด้วย คนดูทีวีก็ยังดูทีวีต่อไปแต่คนดูผ่านสมาร์ทโฟนจะเป็นกลุ่มใหม่ๆที่มาชมช่องเจ็ดก็เวลานี้นี่แหละ
(งานนี้ช่องไม่ทำเองแน่ๆแต่พลังเอเยนซี่จะช่วยคนดูได้55)
ปล. ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ เชื่อว่าคนอยากอัดคงอัดละครไว้ดูหรือผ่านช่องทางที่แต่ละคนจะอัดได้แต่ไม่ใช่ค้าขาย หากช่องกังวลก็ส่งหนังสือไปที่เฟสบุ๊คก่อนเลยว่าหากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการไลฟ์สดภาพจากทางสถานนี
แม้มีไอคอนหรือแถบอะไรมาบังก็ถือว่ามีความผิดทางกฏหมาย