
Review Canon EOS M5
การกลับมาที่จริงจังอีกครั้งกับกล้อง MRL ของ Canon
**ต้องออกก่อนนะครับว่าอันนี้เป็นการเขียนรีวิวเป็นครั้งแรก อาจจะเขียนยืดยาดไปหน่อย แต่ถ้าตกหล่นยังไง ขออภัยด้วยนะครับ
ลองมาดูด้านสเปคกันก่อน
ครั้งนี้สำหรับเจ้า EOS M5 นั้น
- ใช้เซนเซอร์แบบ 24.2 ล้านพิกเซล เป็น CMOS APS-C
-สามารถดัน ISO ได้ตั้งแต่ 100-25600
-หน่วยประมวลผลภาพแบบ DIGIC 7 มาพร้อมกับระบบใช้ Dual Pixel CMOS AF ที่เป็นระบบจับโฟกัสที่ไวและแม่นยำมากๆของแคนนอล
สามารถถ่ายภาพได้รัวสุด 7 ภาพต่อวินาที (9 ภาพต่อวินาทีในโหมด AF Lock)
-ถ่ายวิดีโอ FHD ที่ 60 เฟรมต่อวินาที บันทึกเป็นไฟล์ MP4 และ มีกันสั่น Digital IS 5 แกน เพื่อช่วยในการถ่ายวิดีโอ สามารถทำงานร่วมกับ IS ในตัวเลนส์ได้
-EOS M5 จัดมาเต็มกับ Electronic Viewfinder 2.36 ล้านจุด พร้อมระบบ Touch and Drag AF ให้ผู้ใช้สามารถย้าย AF frame ไปมาได้เมื่อต้องการเปลี่ยนจุดโฟกัส และ จอ LCD 3.2 นิ้ว 1.62 ล้านจุด สามารถพับงอได้ ( ขึ้น 85 องศา ลง 180 องศา )
-มี Wi-Fi NFC และ Bluetoothใช้สำหรับการเชื่อมต่อทั้งควบคุมกล้องและโหลดไฟล์รูปเข้าอุปกรณ์ต่างๆได้โดยตรง
มาเริ่มเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
จากสเปคก็จะเห็นได้ว่ามีความคล้ายกับเจ้า EOS 80D ที่เป็นรุ่นพี่ DSRL นั้นเอง ทำให้ความสามารถของเจ้า EOS M5 นั้นจะเรียกได้ว่าจัดชุดใหญ่มาเลยแหละ อาจจะมีข้อติกันนิดหน่อยตรง VDO ยังไม่สามารถถ่ายเป็น 4K ได้ นั้นเอง แต่ถ้านำไปเปรียบเทียบกับตะกูลเดียวกันอย่าง EOS M , M3 และ M10 ก็จะเห็นได้ว่าครั้งนี้แคนนอลคงเริ่มจริงจังกับตะกูลนี้มากขึ้นมากทีเดียว
จากการใช้งานจริงมาสักระยะหนึ่ง ก็ต้องยอมรับเลยว่าเป็นกล้องที่พกพาสะดวก ระบบโฟกัสที่ใช้ Dual Pixel แล้วนั้นสามารถพึ่งพาได้มากทีเดียว
Dual Pixel CMOS AF อธิบายข้อมูลเชิงเทคนิค

*(ขอบคุณข้อมูลจาก youtube : CanonThailand)
เรามาเริ่มไล่กันจากด้านหน้านะครับ

Canon EOS M5 เป็นกล้องตะกูล Mirrorless จึงทำให้ระบบเลนส์ใช้เป็นระบบ EF-M นะครับ ขนาดของเม้าท์เลนส์จะเล็กกว่าตะกูลกล้อง DSRL ด้านหน้าตัวเครื่องมี Logo EOS ที่เป็นสัญลักษณ์ของแคนนอลเค้าอยู่แล้ว เหนือขึ้นไปก็จะเป็นปุ่มกดสำหรับคลายล๊อกเวลาจะเปลี่ยนเลนส์นั้นเอง ส่วนอีกด้านจะเป็น Hand Grip ครับ เจ้าตัวนี้ให้ขนาดมาจับพอดีมือ ถือใช้งานค่อนข้างสะดวกมาก แต่ติดอยู่อย่างหนึ่ง ( ไม่รู้ว่าเป็นเฉพาะของผมไหมนะ ) ตัว grip มันเหมือนประกอบมาไม่ค่อยแน่นหนาเท่าไหร่นัก เวลาจับๆ บางทีรู้สึกว่ามันขยับๆได้อ่ะครับ
ต่อมาเป็นด้านบนของกล้อง

จากด้านบนจะเห็นว่าครั้งนี้แคนนอลให้ปุ่มคอนโทลภายนอกมาเยอะมาก ซ้ายคือที่ปรับเปลี่ยนโหมดการถ่าย และสวิชท์เปิด-ปิด ตรงกลางก็มี Hot Shoe มาให้ด้วย ทำให้สามารถต่ออุปกรณ์เสริมภายนอกได้ เช่น Flash ภายนอก หรือจะต่อไมค์ภายนอกก็ได้เช่นกัน เหนือ Hot Shoe ขึ้นมาจะเป็นภายหัวกล้องที่มีปุ่มสำหรับเรียกแฟลชขึ้นมาด้านข้าง (ที่เป็นรูปสายฟ้า) ถัดมาที่ Dual FUNC. เป็นปุ่มกดตรงกลางจะทำให้คุณสามารถสลับฟังค์ชั่นของวงแหวนได้ว่าต้องการจะให้ทำหน้าที่อะไร ระหว่างเปลี่ยนค่า White Balance หรือจะไว้เปลี่ยนค่า ISO ( แต่จริงๆแล้ว วงแหวนรอบปุ่มชัตเตอร์ก็สามารถปรับเปลี่ยนค่า ISO ได้เหมือนกันนะครับ ) ถัดมาอีกจะเป็น DUAL ไว้ปรับค่าชดเชยแสง ได้สูงสุด +3 และ ต่ำสุดคือ -3 และปุ่มสุดท้ายมุมบนสุดด้านขวาเล็กๆ คือปุ่ม M-FN เรียกง่ายๆว่า ปุ่มที่คุณอยากให้เป็นฟังค์ชั่นใดๆสามารถตั้งให้ปุ่มนี้ได้เลย จะเห็นได้ว่า EOS M5 แคนนอลจัดปุ่มอำนวยความสะดวกมาให้ครบถ้วนมากๆ เพราะเวลาใช้งานจริงๆเรียกได้ว่าใช้งานง่ายและถนัดมือมากๆ
มาต่อกันที่ด้านหลังกล้อง

ด้านหลังมาก็ยังคงจัดมาให้ครบถ้วนเช่นกัน
เริ่มกันที่ EOS M5 มาพร้อมจอ LCD 3.2 นิ้ว ที่สามารถพับงอได้ ( ขึ้น 85 องศา ลง 180 องศา ) และยังเป็นจอที่สามารถ Touch Screen ได้อีกด้วย ทำให้สามารถควบคุมและตั้งค่ากล้องผ่านหน้าจอได้ทั้งหมดเช่นกันถ้าหากไม่สะดวกในการควบคุมผ่าน Dual นอกจากนี้ หน้าจอนี้ยังสามารถจิ้มเพื่อกำหนดจุดโฟกัสได้เลย และที่เหนือไปกว่ารุ่นอื่นๆของ Canon ด้วยกัน ( ผมไม่แน่ใจว่าฟังค์ชั่นนี้เจ้าอื่นเค้าให้กันมาแล้วรึเปล่า ) นั้นคือ ระบบ Touch and Drag AF คือระหว่างที่คุณมองผ่าน View Finder แล้วต้องการจะเปลี่ยนจุดโฟกัส คุณสามารถสัมผัสที่จากแล้วถูๆบนจอระหว่างนั้นได้เลย ในส่วนของจอที่พับงอได้ สามารถพับขึ้นได้ 85 องศา แต่ถ้าสำหรับคนที่ต้องการจะเซลฟี่ แคนนอลก็ยังปราณีคุณด้วยการให้จอมันพับลงได้ 180 องศา แต่อาจจะติดขัดเล็กน้อยสำหรับคนที่ต้องการต้องการจะเซลฟี่ตัวเองผ่านขาตั้งกล้อง เพราะ จอจะติดกับหัวขาตั้งได้นั้นเอง แต่ก็จะเห็นได้ว่าจอนี้สารพัดประโยชน์มากเลยทีเดียว สำหรับปุ่มด้านข้างก็ให้มาจัดแน่นมาก ยังคงให้ปุ่ม Dual หมุนๆ ที่สามารถปรับได้ทั้ง ISO , MF , FLASH และ ปุ่มลบไฟล์ ไว้ตรงกลางระหว่างปุ่มต่างๆ 4 ปุ่มแยก มีปุ่ม Rec. ที่ไว้ใช้ในการกด อัดวีดีโอจากตรงนี้ได้เลย จบท้ายด้วยสองปุ่มล๊อคแสงกับรีเซ็นเตอร์โฟกัสไว้บนขอบๆมุมๆ
ด้านซ้ายมือให้ Port มาค่อนข้างครบถ้วนทั้ง ช่องเสียบไมค์แยก 3.5 มม. Micro USB และช่องเสียบสายลั่นชัตเตอร์

ขวามือมาพร้อมกับช่อง HDMI และปุ่ม WIFI (เชื่อมต่อกับมือถือผ่าน Canon Camera Connect มีทั้ง iOS และ Android )

ถ่ายคู่กับรุ่นพี่ 70D จะเห็นได้ว่าเล็กลงมากกก ( ซ้ายมือ 70D + 24 F/2.8 ขวา M5 + 22 F/2 )

อีกข้อนึงที่ผมยกให้เป็นไฮไลท์ของ M5 คือสามารถใส่กับ Adapter แล้วใส่เลนส์ EF EF-S ของฝั่ง DSLR ได้แล้วยังสามารถใช้ได้แบบเต็มฟังค์ชั่นอีกตะหาก จากที่ลองกับเลนส์ที่ผมมีอยู่ ( 50 F1/8 II , 18 - 135 IS STM และ 24 2.8 STM ) เรียกได้ว่า โฟกัสเร็ว และ แม่นมากๆ เรียกได้ว่า ไม่ต่างกับตอนเลนส์พวกนี้ใส่กับ 70D เลยแหละครับ แต่จะติดอยู่ข้อเดียวคือ ถ้าไม่ได้ใส่กับเลนส์ระบบ STM จะมีอากาศโฟกัสแบบรัวๆครับ แบบ เลนส์จะพยายามหาโฟกัสตลอดเวลาทำให้มีเสียงดังออกมาตลอดเวลาครับ แต่ถ้าใส่กับเลนส์ STM ก็จะไม่มีปัญหาอะไรเงียบสนิท ( ถ้าใครเคยใช้ตะกูล 70D - 80D จะเห็นภาพครับ ตอนเข้าโหมด Live View )
EOS M5 + 50 F/1.8 II

(บน) EOS M5 + 50 F/1.8 II | (ล่าง) EOS M5 + 18-135 IS STM

ในส่วนของโหมดการถ่ายภาพหลักๆนะครับ
ตัวนี้มีระบบโฟกัสมาให้ใช้หลักๆคือ 3 แบบครับ
1.โฟกัสเฉพาะจุดที่ต้องการ
2.โฟกัสเป็นโซนที่กำหนด
3.โฟกัสตามวัตถุ
ไฟล์ที่บันทึกก็ให้มาตามมาตราฐานคือสามารถเลือกได้ว่าจะให้บันทึกเป็น jpg , raw หรือ jpg+raw และมีโหมดการถ่ายหลักๆคือ Single shoot / Hi Speed Con / Low Speed Con โดยที่ Hi จะถ่ายได้สูงสุด 7 ภาพต่อวินาทีครับ
อันนี้คือส่วนภาพนิ่งจากหลังกล้อง ไม่ได้ตกแต่งใดๆ มีแค่แปะโลโก้ลงไปเท่านั้นนะครับ

Canon EOS M5 22 F/2 ISO 100 F11 1/80.

Canon EOS M5 22 F/2 ISO 100 F4 1/800.

Canon EOS M5 22 F/2 ISO 6400 F2 1/30.
ในส่วนของ VDO ส่วนตัวได้ลองถ่ายแล้วแต่ยังไม่ได้ตัดต่อ หรือ ทำไฟล์ออกมาเลยนะครับเลยไม่มีผลงานให้พิจารณา ในส่วนของ EOS M5. นั้น สามารถถ่ายวีดีโอออกมาเป็นไฟล์ .MP4 เท่านั้นนะครับ ไม่สามารถถ่ายมาเป็น .MOV ได้เหมือนรุ่นพี่ๆ DSLR เค้า โดยตัวนี้ถ่ายได้สูงสุด FHD 1080P ที่ 60 เฟรมครับ ในส่วนของการใช้งาน สามารถกดปุ่ม rec. จากหลังกล้องได้เลยไม่ว่าจะอยู่ในโหมดอะไรนะครับกล้องจะตั้งค่าแบบ auto ให้เลย แต่ถ้าต้องการจะปรับค่าต่างๆเองทั้งหมดจะต้องหมุด Dual ข้างบนมาเป็น VDO แล้วถึงจะสามารถควบคุมได้หมดทั้ง สปีดชัดเตอร์ F ISO ล๊อคแสง หรือแม้กระทั่งหมุนโฟกัสเอง
จากเท่าที่ลองใช้งานแล้ว ส่วนตัวรู้สึกว่าฟีลเดียวกับการใช้งานของ 70D เลย ไฟล์ค่อนข้างดี โฟกัสนุ่มนวลดี แต่ เร็วและแม่นยำครับ แต่ถ้าจะดีก็คือต้องใช้ควบคู่กับเลนส์ในระบบ STM นะครับ เพราะโฟกัสได้เงียบมากๆ แต่ถ้าใส่กับเลนส์ระบบปกติก็ยังต้องยอมรับว่าอาจจะมีโฟกัสไม่แม่นบ้าง และเสียงค่อนข้างดังเลยทีเดียว
สรุปจากการใช้งานส่วนตัว
ต้องยอมรับว่าเป็นกล้อง Mirrorless ที่แคนนอลตั้งใจทำออกมาทีเดียว ถึงแม้ว่าอาจจะมีจุดติเล็กๆน้อยๆ แต่โดยรวมแล้ว เจ้า EOS M5 ก็ถือว่าเป็นกล้อง Mirrorless ที่ดีที่สุดของแคนนอลในตอนนี้ก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าช่วงเปิดตัวราคาอาจจะดุไปหน่อยก็ตาม.
ข้อดี
ภาพนิ่งโฟกัสเร็ว แม่นยำมาก
VDO โฟกัสเร็ว แต่นุ่มนวล ถ้าใช้คู่กับเลนส์ในระบบ STM
ขนาดเล็ก พกพาสะดวก
สามารถใช้ Adapter เพื่อไปใช้กับเลนส์ในระบบ EF EF-S ได้เต็มฟังค์ชั่น
มีโหมด Creative Assis ที่ค่อนข้างฉลาด
ข้อสังเกตุ
ยังไม่มี 4K VDO
ไม่สามารถชาร์ตผ่านระบบ Micro USB ได้ จำเป็นต้องถอดแบตออกมาชาร์จภายนอก
เลนส์ในระบบจริงๆของ EF-M ยังมีไม่เยอะมาก
EVF ยังมีอาการสะดุดๆเล็กน้อยในบางที
จอพับลงมาข้างล่าง ทำให้ไม่สามารถใส่ขาตั้งกล้องได้ถ้าต้องการพับจอลงมา
[CR] [Review] Canon EOS M5
การกลับมาที่จริงจังอีกครั้งกับกล้อง MRL ของ Canon
**ต้องออกก่อนนะครับว่าอันนี้เป็นการเขียนรีวิวเป็นครั้งแรก อาจจะเขียนยืดยาดไปหน่อย แต่ถ้าตกหล่นยังไง ขออภัยด้วยนะครับ
ลองมาดูด้านสเปคกันก่อน
ครั้งนี้สำหรับเจ้า EOS M5 นั้น
- ใช้เซนเซอร์แบบ 24.2 ล้านพิกเซล เป็น CMOS APS-C
-สามารถดัน ISO ได้ตั้งแต่ 100-25600
-หน่วยประมวลผลภาพแบบ DIGIC 7 มาพร้อมกับระบบใช้ Dual Pixel CMOS AF ที่เป็นระบบจับโฟกัสที่ไวและแม่นยำมากๆของแคนนอล
สามารถถ่ายภาพได้รัวสุด 7 ภาพต่อวินาที (9 ภาพต่อวินาทีในโหมด AF Lock)
-ถ่ายวิดีโอ FHD ที่ 60 เฟรมต่อวินาที บันทึกเป็นไฟล์ MP4 และ มีกันสั่น Digital IS 5 แกน เพื่อช่วยในการถ่ายวิดีโอ สามารถทำงานร่วมกับ IS ในตัวเลนส์ได้
-EOS M5 จัดมาเต็มกับ Electronic Viewfinder 2.36 ล้านจุด พร้อมระบบ Touch and Drag AF ให้ผู้ใช้สามารถย้าย AF frame ไปมาได้เมื่อต้องการเปลี่ยนจุดโฟกัส และ จอ LCD 3.2 นิ้ว 1.62 ล้านจุด สามารถพับงอได้ ( ขึ้น 85 องศา ลง 180 องศา )
-มี Wi-Fi NFC และ Bluetoothใช้สำหรับการเชื่อมต่อทั้งควบคุมกล้องและโหลดไฟล์รูปเข้าอุปกรณ์ต่างๆได้โดยตรง
มาเริ่มเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
จากสเปคก็จะเห็นได้ว่ามีความคล้ายกับเจ้า EOS 80D ที่เป็นรุ่นพี่ DSRL นั้นเอง ทำให้ความสามารถของเจ้า EOS M5 นั้นจะเรียกได้ว่าจัดชุดใหญ่มาเลยแหละ อาจจะมีข้อติกันนิดหน่อยตรง VDO ยังไม่สามารถถ่ายเป็น 4K ได้ นั้นเอง แต่ถ้านำไปเปรียบเทียบกับตะกูลเดียวกันอย่าง EOS M , M3 และ M10 ก็จะเห็นได้ว่าครั้งนี้แคนนอลคงเริ่มจริงจังกับตะกูลนี้มากขึ้นมากทีเดียว
จากการใช้งานจริงมาสักระยะหนึ่ง ก็ต้องยอมรับเลยว่าเป็นกล้องที่พกพาสะดวก ระบบโฟกัสที่ใช้ Dual Pixel แล้วนั้นสามารถพึ่งพาได้มากทีเดียว
Dual Pixel CMOS AF อธิบายข้อมูลเชิงเทคนิค
*(ขอบคุณข้อมูลจาก youtube : CanonThailand)
เรามาเริ่มไล่กันจากด้านหน้านะครับ
Canon EOS M5 เป็นกล้องตะกูล Mirrorless จึงทำให้ระบบเลนส์ใช้เป็นระบบ EF-M นะครับ ขนาดของเม้าท์เลนส์จะเล็กกว่าตะกูลกล้อง DSRL ด้านหน้าตัวเครื่องมี Logo EOS ที่เป็นสัญลักษณ์ของแคนนอลเค้าอยู่แล้ว เหนือขึ้นไปก็จะเป็นปุ่มกดสำหรับคลายล๊อกเวลาจะเปลี่ยนเลนส์นั้นเอง ส่วนอีกด้านจะเป็น Hand Grip ครับ เจ้าตัวนี้ให้ขนาดมาจับพอดีมือ ถือใช้งานค่อนข้างสะดวกมาก แต่ติดอยู่อย่างหนึ่ง ( ไม่รู้ว่าเป็นเฉพาะของผมไหมนะ ) ตัว grip มันเหมือนประกอบมาไม่ค่อยแน่นหนาเท่าไหร่นัก เวลาจับๆ บางทีรู้สึกว่ามันขยับๆได้อ่ะครับ
ต่อมาเป็นด้านบนของกล้อง
จากด้านบนจะเห็นว่าครั้งนี้แคนนอลให้ปุ่มคอนโทลภายนอกมาเยอะมาก ซ้ายคือที่ปรับเปลี่ยนโหมดการถ่าย และสวิชท์เปิด-ปิด ตรงกลางก็มี Hot Shoe มาให้ด้วย ทำให้สามารถต่ออุปกรณ์เสริมภายนอกได้ เช่น Flash ภายนอก หรือจะต่อไมค์ภายนอกก็ได้เช่นกัน เหนือ Hot Shoe ขึ้นมาจะเป็นภายหัวกล้องที่มีปุ่มสำหรับเรียกแฟลชขึ้นมาด้านข้าง (ที่เป็นรูปสายฟ้า) ถัดมาที่ Dual FUNC. เป็นปุ่มกดตรงกลางจะทำให้คุณสามารถสลับฟังค์ชั่นของวงแหวนได้ว่าต้องการจะให้ทำหน้าที่อะไร ระหว่างเปลี่ยนค่า White Balance หรือจะไว้เปลี่ยนค่า ISO ( แต่จริงๆแล้ว วงแหวนรอบปุ่มชัตเตอร์ก็สามารถปรับเปลี่ยนค่า ISO ได้เหมือนกันนะครับ ) ถัดมาอีกจะเป็น DUAL ไว้ปรับค่าชดเชยแสง ได้สูงสุด +3 และ ต่ำสุดคือ -3 และปุ่มสุดท้ายมุมบนสุดด้านขวาเล็กๆ คือปุ่ม M-FN เรียกง่ายๆว่า ปุ่มที่คุณอยากให้เป็นฟังค์ชั่นใดๆสามารถตั้งให้ปุ่มนี้ได้เลย จะเห็นได้ว่า EOS M5 แคนนอลจัดปุ่มอำนวยความสะดวกมาให้ครบถ้วนมากๆ เพราะเวลาใช้งานจริงๆเรียกได้ว่าใช้งานง่ายและถนัดมือมากๆ
มาต่อกันที่ด้านหลังกล้อง
ด้านหลังมาก็ยังคงจัดมาให้ครบถ้วนเช่นกัน
เริ่มกันที่ EOS M5 มาพร้อมจอ LCD 3.2 นิ้ว ที่สามารถพับงอได้ ( ขึ้น 85 องศา ลง 180 องศา ) และยังเป็นจอที่สามารถ Touch Screen ได้อีกด้วย ทำให้สามารถควบคุมและตั้งค่ากล้องผ่านหน้าจอได้ทั้งหมดเช่นกันถ้าหากไม่สะดวกในการควบคุมผ่าน Dual นอกจากนี้ หน้าจอนี้ยังสามารถจิ้มเพื่อกำหนดจุดโฟกัสได้เลย และที่เหนือไปกว่ารุ่นอื่นๆของ Canon ด้วยกัน ( ผมไม่แน่ใจว่าฟังค์ชั่นนี้เจ้าอื่นเค้าให้กันมาแล้วรึเปล่า ) นั้นคือ ระบบ Touch and Drag AF คือระหว่างที่คุณมองผ่าน View Finder แล้วต้องการจะเปลี่ยนจุดโฟกัส คุณสามารถสัมผัสที่จากแล้วถูๆบนจอระหว่างนั้นได้เลย ในส่วนของจอที่พับงอได้ สามารถพับขึ้นได้ 85 องศา แต่ถ้าสำหรับคนที่ต้องการจะเซลฟี่ แคนนอลก็ยังปราณีคุณด้วยการให้จอมันพับลงได้ 180 องศา แต่อาจจะติดขัดเล็กน้อยสำหรับคนที่ต้องการต้องการจะเซลฟี่ตัวเองผ่านขาตั้งกล้อง เพราะ จอจะติดกับหัวขาตั้งได้นั้นเอง แต่ก็จะเห็นได้ว่าจอนี้สารพัดประโยชน์มากเลยทีเดียว สำหรับปุ่มด้านข้างก็ให้มาจัดแน่นมาก ยังคงให้ปุ่ม Dual หมุนๆ ที่สามารถปรับได้ทั้ง ISO , MF , FLASH และ ปุ่มลบไฟล์ ไว้ตรงกลางระหว่างปุ่มต่างๆ 4 ปุ่มแยก มีปุ่ม Rec. ที่ไว้ใช้ในการกด อัดวีดีโอจากตรงนี้ได้เลย จบท้ายด้วยสองปุ่มล๊อคแสงกับรีเซ็นเตอร์โฟกัสไว้บนขอบๆมุมๆ
ด้านซ้ายมือให้ Port มาค่อนข้างครบถ้วนทั้ง ช่องเสียบไมค์แยก 3.5 มม. Micro USB และช่องเสียบสายลั่นชัตเตอร์
ถ่ายคู่กับรุ่นพี่ 70D จะเห็นได้ว่าเล็กลงมากกก ( ซ้ายมือ 70D + 24 F/2.8 ขวา M5 + 22 F/2 )
อีกข้อนึงที่ผมยกให้เป็นไฮไลท์ของ M5 คือสามารถใส่กับ Adapter แล้วใส่เลนส์ EF EF-S ของฝั่ง DSLR ได้แล้วยังสามารถใช้ได้แบบเต็มฟังค์ชั่นอีกตะหาก จากที่ลองกับเลนส์ที่ผมมีอยู่ ( 50 F1/8 II , 18 - 135 IS STM และ 24 2.8 STM ) เรียกได้ว่า โฟกัสเร็ว และ แม่นมากๆ เรียกได้ว่า ไม่ต่างกับตอนเลนส์พวกนี้ใส่กับ 70D เลยแหละครับ แต่จะติดอยู่ข้อเดียวคือ ถ้าไม่ได้ใส่กับเลนส์ระบบ STM จะมีอากาศโฟกัสแบบรัวๆครับ แบบ เลนส์จะพยายามหาโฟกัสตลอดเวลาทำให้มีเสียงดังออกมาตลอดเวลาครับ แต่ถ้าใส่กับเลนส์ STM ก็จะไม่มีปัญหาอะไรเงียบสนิท ( ถ้าใครเคยใช้ตะกูล 70D - 80D จะเห็นภาพครับ ตอนเข้าโหมด Live View )
EOS M5 + 50 F/1.8 II
(บน) EOS M5 + 50 F/1.8 II | (ล่าง) EOS M5 + 18-135 IS STM
ในส่วนของโหมดการถ่ายภาพหลักๆนะครับ
ตัวนี้มีระบบโฟกัสมาให้ใช้หลักๆคือ 3 แบบครับ
1.โฟกัสเฉพาะจุดที่ต้องการ
2.โฟกัสเป็นโซนที่กำหนด
3.โฟกัสตามวัตถุ
ไฟล์ที่บันทึกก็ให้มาตามมาตราฐานคือสามารถเลือกได้ว่าจะให้บันทึกเป็น jpg , raw หรือ jpg+raw และมีโหมดการถ่ายหลักๆคือ Single shoot / Hi Speed Con / Low Speed Con โดยที่ Hi จะถ่ายได้สูงสุด 7 ภาพต่อวินาทีครับ
อันนี้คือส่วนภาพนิ่งจากหลังกล้อง ไม่ได้ตกแต่งใดๆ มีแค่แปะโลโก้ลงไปเท่านั้นนะครับ
ในส่วนของ VDO ส่วนตัวได้ลองถ่ายแล้วแต่ยังไม่ได้ตัดต่อ หรือ ทำไฟล์ออกมาเลยนะครับเลยไม่มีผลงานให้พิจารณา ในส่วนของ EOS M5. นั้น สามารถถ่ายวีดีโอออกมาเป็นไฟล์ .MP4 เท่านั้นนะครับ ไม่สามารถถ่ายมาเป็น .MOV ได้เหมือนรุ่นพี่ๆ DSLR เค้า โดยตัวนี้ถ่ายได้สูงสุด FHD 1080P ที่ 60 เฟรมครับ ในส่วนของการใช้งาน สามารถกดปุ่ม rec. จากหลังกล้องได้เลยไม่ว่าจะอยู่ในโหมดอะไรนะครับกล้องจะตั้งค่าแบบ auto ให้เลย แต่ถ้าต้องการจะปรับค่าต่างๆเองทั้งหมดจะต้องหมุด Dual ข้างบนมาเป็น VDO แล้วถึงจะสามารถควบคุมได้หมดทั้ง สปีดชัดเตอร์ F ISO ล๊อคแสง หรือแม้กระทั่งหมุนโฟกัสเอง
จากเท่าที่ลองใช้งานแล้ว ส่วนตัวรู้สึกว่าฟีลเดียวกับการใช้งานของ 70D เลย ไฟล์ค่อนข้างดี โฟกัสนุ่มนวลดี แต่ เร็วและแม่นยำครับ แต่ถ้าจะดีก็คือต้องใช้ควบคู่กับเลนส์ในระบบ STM นะครับ เพราะโฟกัสได้เงียบมากๆ แต่ถ้าใส่กับเลนส์ระบบปกติก็ยังต้องยอมรับว่าอาจจะมีโฟกัสไม่แม่นบ้าง และเสียงค่อนข้างดังเลยทีเดียว
สรุปจากการใช้งานส่วนตัว
ต้องยอมรับว่าเป็นกล้อง Mirrorless ที่แคนนอลตั้งใจทำออกมาทีเดียว ถึงแม้ว่าอาจจะมีจุดติเล็กๆน้อยๆ แต่โดยรวมแล้ว เจ้า EOS M5 ก็ถือว่าเป็นกล้อง Mirrorless ที่ดีที่สุดของแคนนอลในตอนนี้ก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าช่วงเปิดตัวราคาอาจจะดุไปหน่อยก็ตาม.
ข้อดี
ภาพนิ่งโฟกัสเร็ว แม่นยำมาก
VDO โฟกัสเร็ว แต่นุ่มนวล ถ้าใช้คู่กับเลนส์ในระบบ STM
ขนาดเล็ก พกพาสะดวก
สามารถใช้ Adapter เพื่อไปใช้กับเลนส์ในระบบ EF EF-S ได้เต็มฟังค์ชั่น
มีโหมด Creative Assis ที่ค่อนข้างฉลาด
ข้อสังเกตุ
ยังไม่มี 4K VDO
ไม่สามารถชาร์ตผ่านระบบ Micro USB ได้ จำเป็นต้องถอดแบตออกมาชาร์จภายนอก
เลนส์ในระบบจริงๆของ EF-M ยังมีไม่เยอะมาก
EVF ยังมีอาการสะดุดๆเล็กน้อยในบางที
จอพับลงมาข้างล่าง ทำให้ไม่สามารถใส่ขาตั้งกล้องได้ถ้าต้องการพับจอลงมา