...เหตุผลที่ฉันร้องไห้ง่าย ๆ น่ะหรอ วันนึงเธอจะเข้าใจมันด้วยตัวเธอเอง...

หลังจากสร้างความประทับใจอย่างมากมายให้กับวัยรุ่นหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้
Tomorrow I Will Date With Yesterday’s You
ก็ถึงเวลาลงจอเงินมาเรียกความอิ่มเอมใจไปกับความรักอันแสนอบอุ่นสักที

ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนิยาย Best Seller ของญี่ปุ่น ที่มียอดจำหน่ายสูงถึง 1 ล้านเล่ม ในระยะเวลา 2 ปี
ว่าด้วยเรื่องราวของหนุ่มเนิร์ด
ทาคาโตชิ (โซตะ ฟุคุชิ ) ที่พรหมลิขิตได้พาเขามาพบกับ
ฟุคุจุ เอมิ (โคมัตสึ นานะ)
สาวน้อยผู้ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความน่ารัก และแสนสดใส สเน่ห์ของเอมิจังนั้น ทำให้ทาคาโตชิตกหลุมรักเธอในแรกพบโดยทันที
หลังจากใช้เวลารวบรวมความกล้าไม่นานนัก ทาคาโตชิก็กลั้นใจเข้าไปทำความรู้จักกับเธอ
ทั้งเขา และเธอใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการสร้างเรื่องราวความรักแบบฉบับของทั้งคู่ ทุกอย่างดูลงตัวไปหมด
จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พบความจริงบางอย่าง ที่เข้ามาสั่นคลอนความรักที่แสนสวยงามนั้น
ในโลกแห่งความจริง ความสุขมักล่อลวงเราให้ติดอยู่กับเวลา และจากเราไปเสมอ...

ด้วยความที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ สร้างมาจากนิยายโรแมนติคชวนฝัน ทำให้ Live Action นี้ ออกมาสวยงามมากทีเดียวครับ
ไม่ว่าจะเป็นด้านภาพ ที่ออกมาเหมือนในจินตนาการเมื่อได้อ่านการ์ตูนรักโรแมนติคอย่างไรอย่างนั้น
จุดเด่นเห็นจะเป็นด้านภาพ เพราะทุกครั้งที่กล้องแพนไปหาเอมิจังนั้น มันทำให้เชื่อว่าเธอน่ารักมากจริง ๆ
แสงแฟร์ในเรื่องนี้ ถูกใช้อย่างเหมาะสม ไม่มาก หรือน้อยเกินไป ทำให้มีความฟุ้ง ๆ ดูโรแมนติคเข้ากับเรื่อง
เชื่อเถอะครับ แสงในเรื่องทำให้รู้สึกอบอุ่นมากจริง ๆ
ซีนต่าง ๆ ไม่ได้มีความหวือหวามากนัก เป็นการหยิบจับวัฒนธรรม และสถานที่ทั่วไปของญี่ปุ่นมาใส่
เนื้อหาจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของตัวละครเป็นหลัก ทำให้การดำเนินเรื่องค่อนข้างเป็นธรรมชาติ
ดูเหมือนคู่รักที่เพิ่งเริ่มศึกษาดูใจกันจริง ๆ
ด้านเพลงประกอบ เรื่องนี้แทบไม่มี soundtrack แทรกเลยครับ เป็น score บรรเลงคลอส่งเสริมเนื้อเรื่องมากกว่า
สิ่งที่ผมชอบที่สุดในเรื่องนี้เห็นจะเป็นความเรื่องราวความรักที่อบอุ่น สุขปนเศร้า
ส่วนตัวเคยมีประสบการณ์ไม่ดีกับ Sky of Love ที่รู้สึกว่ามันรักกันเร็วไปหน่อย ง่ายไปหน่อยจนรู้สึกไม่อินเลย
ในช่วงแรกของเรื่องนี้ ทำให้ผมรู้สึกแบบนั้นเลยครับ แบบเอาอีกแล้ว กะจะมาดรามาติคแต่แรกเลยใช่ไหม
แรก ๆ ผมยอมรับว่านอยด์ ๆ นิดนึง เพราะยังไม่ซื้อความรักนี้ และรู้สึกว่าแอบยัดเยียดไปหน่อย
จนกระทั่งมีซีนนึงครับ ที่ตัวพระเอกเหมือนจะ "Realize" ทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว
หนังมันเหวี่ยงผมจากที่กำลังจะเกลียด มาเป็นความเศร้าที่สุดแทนเจ็บปวดแทน
ในรอยต่อของเวลาเพียงไม่กี่นาทีนั้น มันยกระดับหนังเรื่องนี้มาอีกขั้นเลยครับ
(เชื่อว่าทุกคนดูแล้วจะเข้าใจครับ ว่าฉากไหน)
หลังจากนั้นเป็นต้นมา เราจะได้ดำดิ่งไปกับความที่สุขสุดขีด และความเศร้าสุดขั้วไปพร้อม ๆ กัน
ด้วยเคมีที่เข้ากันเหลือเกินของทั้งคู่ ทำให้ผมเชื่อทุกอย่างที่หนังอยากเล่าเลยครับ ผมเชื่อจริง ๆ ว่าพวกเขารักกันมากแค่ไหน
และทำให้เราเอาใจช่วย อยากให้เขาได้รักกัน เพราะไม่อยากเห็นตัวละครทั้งคู่ต้องเจ็บปวด
ยิ่งเมื่อมองไปที่ปลายทาง มี Point of no return รออยู่ ยิ่งทำให้รู้สึกเจ็บปวดที่ทำอะไรไม่ได้มากขึ้นไปอีก
(ถึงขนาดต้องสร้างจินตนาการให้ตัวเอง เพื่อบอกว่าเขาจะได้รักกัน ขนาดนั้นเลย)

ข้อแนะนำ ด้วยความที่เป็นหนังรัก แฟนตาซี ช่วงที่ปมเริ่มคลาย หากตามไม่ทันอาจจะทำให้สับสนได้เล็กน้อย
แนะนำว่าพยายามมองอะไร "ผ่านมุมมองของตัวละครทั้งสองตัว"
อย่าปักธงว่าจะมองผ่านมุมมองของใครคนใดคนดึง เพราะอาจจะงงได้ครับ
ข้อเสียเดียวจริง ๆ ของผมคือหนังดำเนินเรื่องแบบไปเรื่อย ๆ ให้เราค่อย ๆ ซึมลงไป
หากใครไม่ใช่ทางนี้ อาจจะหลับได้ครับ แต่ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะชอบแหละ มันไม่ได้ยากขนาดนั้น
ภาพรวมของหนังเรื่องนี้ มันทำให้เวลา 111 นาทีของผมอิ่มมากครับ อิ่มเอมทั้งความสุข ความเศร้า
จากที่กลัวจะไม่อินในทีแรก กลายเป็นซึมอยู่นานเลยครับ จนข้ามวันก็ยังซึม ๆ อยู่
ดีใจไปกับพวกเขาเมื่อได้รักกัน และอยากจะเสียใจไปกับพวกเขาเมื่อยามจากกัน
เรียกว่าสายแข็งต้องมียวบ สายอ่อนนี่ไม่ต้องสืบครับ ได้ร้องไห้โฮสมใจแน่ ๆ
สุดท้ายอยากบอกว่านางเอกเรื่องนี้น่ารักมากจริง ๆ ครับ สมัครเป็น FC น้อง โคมัตสึ นานะ ในนาทีแรกที่เห็นเลย ฮ่า ๆ

เปิดศักราชการดูหนังเรื่องแรกในปีนี้ของผม ไม่เสียใจที่เป็นเรื่องนี้เลยครับ คุ้มค่าตั๋วทุกบาททุกสตางค์แน่นอน
และไม่ว่าคุณจะกะเกณฑ์คะแนนคะแนนในใจไว้เท่าไหร่ จำไว้ว่าต้อง + อีก 1 คะแนนให้กับความน่ารักของเอมิจังด้วยนะครับ
ปล.พระเอกหน้าเหมือนเต้าหมิงซื่อมาก 5555 หล่อครับ แต่รู้สึกเหมือนเห็นเจอร์รี่ F4 หลายฉากเลย
ท้ายสุด ฝากเพจสำหรับพูดคุย ไม่ว่าจะเป็นสังคม ความรู้ และความบันเทิงทั่วไป
อยากได้กำลังใจ และคำติชมจากทุกคนนะครับ
เพจ : โตแล้วคุยอะไรก็ได้
https://www.facebook.com/TalksWithKaowPong/






[CR] โตแล้วคุยอะไรก็ได้ : Tomorrow I Will Date With Yesterday’s You ความรักสุดแสนประทับใจประเดิมต้นปี
หลังจากสร้างความประทับใจอย่างมากมายให้กับวัยรุ่นหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้
Tomorrow I Will Date With Yesterday’s You
ก็ถึงเวลาลงจอเงินมาเรียกความอิ่มเอมใจไปกับความรักอันแสนอบอุ่นสักที
ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนิยาย Best Seller ของญี่ปุ่น ที่มียอดจำหน่ายสูงถึง 1 ล้านเล่ม ในระยะเวลา 2 ปี
ว่าด้วยเรื่องราวของหนุ่มเนิร์ด ทาคาโตชิ (โซตะ ฟุคุชิ ) ที่พรหมลิขิตได้พาเขามาพบกับ ฟุคุจุ เอมิ (โคมัตสึ นานะ)
สาวน้อยผู้ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความน่ารัก และแสนสดใส สเน่ห์ของเอมิจังนั้น ทำให้ทาคาโตชิตกหลุมรักเธอในแรกพบโดยทันที
หลังจากใช้เวลารวบรวมความกล้าไม่นานนัก ทาคาโตชิก็กลั้นใจเข้าไปทำความรู้จักกับเธอ
ทั้งเขา และเธอใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการสร้างเรื่องราวความรักแบบฉบับของทั้งคู่ ทุกอย่างดูลงตัวไปหมด
จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พบความจริงบางอย่าง ที่เข้ามาสั่นคลอนความรักที่แสนสวยงามนั้น
ในโลกแห่งความจริง ความสุขมักล่อลวงเราให้ติดอยู่กับเวลา และจากเราไปเสมอ...
ด้วยความที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ สร้างมาจากนิยายโรแมนติคชวนฝัน ทำให้ Live Action นี้ ออกมาสวยงามมากทีเดียวครับ
ไม่ว่าจะเป็นด้านภาพ ที่ออกมาเหมือนในจินตนาการเมื่อได้อ่านการ์ตูนรักโรแมนติคอย่างไรอย่างนั้น
จุดเด่นเห็นจะเป็นด้านภาพ เพราะทุกครั้งที่กล้องแพนไปหาเอมิจังนั้น มันทำให้เชื่อว่าเธอน่ารักมากจริง ๆ
แสงแฟร์ในเรื่องนี้ ถูกใช้อย่างเหมาะสม ไม่มาก หรือน้อยเกินไป ทำให้มีความฟุ้ง ๆ ดูโรแมนติคเข้ากับเรื่อง
เชื่อเถอะครับ แสงในเรื่องทำให้รู้สึกอบอุ่นมากจริง ๆ
ซีนต่าง ๆ ไม่ได้มีความหวือหวามากนัก เป็นการหยิบจับวัฒนธรรม และสถานที่ทั่วไปของญี่ปุ่นมาใส่
เนื้อหาจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของตัวละครเป็นหลัก ทำให้การดำเนินเรื่องค่อนข้างเป็นธรรมชาติ
ดูเหมือนคู่รักที่เพิ่งเริ่มศึกษาดูใจกันจริง ๆ
ด้านเพลงประกอบ เรื่องนี้แทบไม่มี soundtrack แทรกเลยครับ เป็น score บรรเลงคลอส่งเสริมเนื้อเรื่องมากกว่า
สิ่งที่ผมชอบที่สุดในเรื่องนี้เห็นจะเป็นความเรื่องราวความรักที่อบอุ่น สุขปนเศร้า
ส่วนตัวเคยมีประสบการณ์ไม่ดีกับ Sky of Love ที่รู้สึกว่ามันรักกันเร็วไปหน่อย ง่ายไปหน่อยจนรู้สึกไม่อินเลย
ในช่วงแรกของเรื่องนี้ ทำให้ผมรู้สึกแบบนั้นเลยครับ แบบเอาอีกแล้ว กะจะมาดรามาติคแต่แรกเลยใช่ไหม
แรก ๆ ผมยอมรับว่านอยด์ ๆ นิดนึง เพราะยังไม่ซื้อความรักนี้ และรู้สึกว่าแอบยัดเยียดไปหน่อย
จนกระทั่งมีซีนนึงครับ ที่ตัวพระเอกเหมือนจะ "Realize" ทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว
หนังมันเหวี่ยงผมจากที่กำลังจะเกลียด มาเป็นความเศร้าที่สุดแทนเจ็บปวดแทน
ในรอยต่อของเวลาเพียงไม่กี่นาทีนั้น มันยกระดับหนังเรื่องนี้มาอีกขั้นเลยครับ
(เชื่อว่าทุกคนดูแล้วจะเข้าใจครับ ว่าฉากไหน)
หลังจากนั้นเป็นต้นมา เราจะได้ดำดิ่งไปกับความที่สุขสุดขีด และความเศร้าสุดขั้วไปพร้อม ๆ กัน
ด้วยเคมีที่เข้ากันเหลือเกินของทั้งคู่ ทำให้ผมเชื่อทุกอย่างที่หนังอยากเล่าเลยครับ ผมเชื่อจริง ๆ ว่าพวกเขารักกันมากแค่ไหน
และทำให้เราเอาใจช่วย อยากให้เขาได้รักกัน เพราะไม่อยากเห็นตัวละครทั้งคู่ต้องเจ็บปวด
ยิ่งเมื่อมองไปที่ปลายทาง มี Point of no return รออยู่ ยิ่งทำให้รู้สึกเจ็บปวดที่ทำอะไรไม่ได้มากขึ้นไปอีก
(ถึงขนาดต้องสร้างจินตนาการให้ตัวเอง เพื่อบอกว่าเขาจะได้รักกัน ขนาดนั้นเลย)
ข้อแนะนำ ด้วยความที่เป็นหนังรัก แฟนตาซี ช่วงที่ปมเริ่มคลาย หากตามไม่ทันอาจจะทำให้สับสนได้เล็กน้อย
แนะนำว่าพยายามมองอะไร "ผ่านมุมมองของตัวละครทั้งสองตัว"
อย่าปักธงว่าจะมองผ่านมุมมองของใครคนใดคนดึง เพราะอาจจะงงได้ครับ
ข้อเสียเดียวจริง ๆ ของผมคือหนังดำเนินเรื่องแบบไปเรื่อย ๆ ให้เราค่อย ๆ ซึมลงไป
หากใครไม่ใช่ทางนี้ อาจจะหลับได้ครับ แต่ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะชอบแหละ มันไม่ได้ยากขนาดนั้น
ภาพรวมของหนังเรื่องนี้ มันทำให้เวลา 111 นาทีของผมอิ่มมากครับ อิ่มเอมทั้งความสุข ความเศร้า
จากที่กลัวจะไม่อินในทีแรก กลายเป็นซึมอยู่นานเลยครับ จนข้ามวันก็ยังซึม ๆ อยู่
ดีใจไปกับพวกเขาเมื่อได้รักกัน และอยากจะเสียใจไปกับพวกเขาเมื่อยามจากกัน
เรียกว่าสายแข็งต้องมียวบ สายอ่อนนี่ไม่ต้องสืบครับ ได้ร้องไห้โฮสมใจแน่ ๆ
สุดท้ายอยากบอกว่านางเอกเรื่องนี้น่ารักมากจริง ๆ ครับ สมัครเป็น FC น้อง โคมัตสึ นานะ ในนาทีแรกที่เห็นเลย ฮ่า ๆ
เปิดศักราชการดูหนังเรื่องแรกในปีนี้ของผม ไม่เสียใจที่เป็นเรื่องนี้เลยครับ คุ้มค่าตั๋วทุกบาททุกสตางค์แน่นอน
และไม่ว่าคุณจะกะเกณฑ์คะแนนคะแนนในใจไว้เท่าไหร่ จำไว้ว่าต้อง + อีก 1 คะแนนให้กับความน่ารักของเอมิจังด้วยนะครับ
ปล.พระเอกหน้าเหมือนเต้าหมิงซื่อมาก 5555 หล่อครับ แต่รู้สึกเหมือนเห็นเจอร์รี่ F4 หลายฉากเลย
ท้ายสุด ฝากเพจสำหรับพูดคุย ไม่ว่าจะเป็นสังคม ความรู้ และความบันเทิงทั่วไป
อยากได้กำลังใจ และคำติชมจากทุกคนนะครับ
เพจ : โตแล้วคุยอะไรก็ได้
https://www.facebook.com/TalksWithKaowPong/