เจ็บปวดที่ต้องทนและจะต้องต่อสู้แบบไหนกับ HIV

กระทู้คำถาม
เจ็บปวดที่ต้องทนรับและปรับตัวเพื่ออยู่กับมัน Human immunodeficiency Virus Part1
แก้ไข
สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคน ผมก้จะมาแชร์ประสบการณ์โดยตรงของผม ผมขอแนะนำตัวคร่าวๆก่อนแล้วกันนะครับ ผมอายุ 25 ปี เป็นคนรูปร่างหน้าตาดี ทำงานแถวเขตใจกลางกรุง บ้านไม่ได้รวยครับหาเช้ากินค่ำ ชีวิตก้ไม่ได้หรูหราอะไร วันนี้ที่ออกมาพูดคืออยากแชร์ประสบการณ์ให้กับคนที่มีสุขภาพที่ดีอยู่และคนที่เพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นนะครับว่าควรใช้ชีวิตยังไง ผมอาจจะเล่าเรื่องย้อนไปมานิดนึงนะครับ เรื่องของเรื่องก้มีอยู่ว่าเมื่อตอน อายุ 20ปี ได้มีอาการแปลกๆเกิดขึ้นกับตัวผมอาจจะเป็นมาสักระยะแล้วล่ะ แต่ด้วยที่เรายังเด็กก้อมองข้างโรคนี้ไป หรือผมอาจเป็นมาก่อนหน้านี้สักปีก้อได้เพราะอาการมันเพิ่งแสดงออก ตอนนั้นไอตลอดเลย เจ็บคอบ้าง บ้างครั้งไอจนเป็นเลือด ออกมาเป็นลิ่มๆเลือดเลย ตอนอายุ20 ผมไม่สบายบ่อยมาก เจ็บป่วยบ่อย พออายุเข้า21 ก้อเหมือนเรารู้สึกตัวว่าทำไมกินอะไรก้อไม่อ้วนสักที่ แพ้อาหารก้อง่ายมาก ท้องเสียแบบงงๆ พอดีมีโอกาสได้ทำงาน พาร์ทไทม์แล้วมีเพื่อนทำพยาบาลอยู่ รพ. ตอนแรกก้ไปปรึกษาเขาว่าจะไปตรวจH ดีไหมรู้สึกทำอะไรก้เหนื่อยง่าย นอนเท่าไหร่ก้อไม่พอผิวแห้ง เพื่อนก้เล่าให้ฟังว่าเคยมีคนไข้มารักษาที่ รพ. เป็นไข้มา แล้วเหมือนไม่สบายหนักหมอต้องตรวจเลือดอะไรประมาณนี้แหละครับแต่ผลเลือดของเขามันออกมาเป็น Positive เพื่อนก้เล่าให้ฟังเหนือนกำลังปลอบใจเรา ว่าเขาดูดี ผิวพรรณดูดี รูปร่างดีเขายังเป็นH ได้ เทอลองไปตรวจก่อนไหมเดี๋ยวนี้เขารักษาได้นะ เพื่อนก้อจะพาไปตรวจแต่เราบอกไปว่าเดี๋ยวเราว่าจะไปตรวจวันหยุด เพื่อนบอกว่าเทอต้องพาเพื่อนไปด้วยนะเพื่อนเกิดอะไรขึ้นจะได้ไม่ต้องคิดมาก วันหยุดเราก้โทรหาเพื่อนให้เพื่อนพาไปตรวจที่ คลีนิคนิรนาม ตอนนั้นก้อเพิ่ง21 เอง แต่เตรียมใจไว้แล้วล่ะว่าต้องเป็นแน่ๆเลยแต่วันนั้นกว่าจะได้ตรวจก้อบ่ายๆแล้วพอเจาะเลือดเสร็จ พยาบาลบอกให้กลับบ้านได้พรุ่งนี้มาฟังผล วันมาฟังผลยิ้มมาคนเดียว วันรุ่งขึ้นก้มาเลยยย มาคลีนิคนิรนามตอนเช้า พอถึงคิวเขาเรียกเข้าห้องพบเหมือนจะเป็นคุณหมอหรือจิตวิทยานี่แหละ เขาก้อถามเราว่า หมอ: เสี่ยงมาหรอ คิดว่าตัวเองเป็นไหม
ผม: (ในใจก้ตื่นเต้นเนอะจะบอกก้อบอกมาเถอะว่าไม่เป็น) ตอบเขาไปว่าเสี่ยงมาครั้ง1ครับ
หมอ: เขาถามว่านานรึยัง
ผม: ก้สักพักแล้วครับ แล้วเขาถามว่า
หมอ: ทำไมไม่ป้องกันล่ะ
ผม: (นึกในใจเราก้ออายเนอะ อารมณ์มันพาไป เนอะ ก้เลยถามหมอไปว่าสรุปผมเป็นป่าวครับ หมอยื่นใบมาให้ดู (จะดูรู้เรื่องป่าวเนี่ย) คือเป็นหรือไม่เป็นครับ
หมอ: คุณผลออกมาเป็น Positive นะครับ
ผมก้อึ้งไปสิครับแบบเบลอเหมือนตัวหลุดลอย ถามหมอว่าจะต้องทำยังไงต่อไป คือตอนนั้นมาตรวจก่อนไปเกณฑ์ทหารอะครับ เพิ่ง21 เอง ใจเต้นแรงมากกกกหมอบอกผล CD4 252 ยังไม่ต้องรับยานะครับต่ำกว่า250 ถึงจะรับยาต้านและจะต้องทานตลอดชีวิตแค่ฟังเสร็จก้อจะเป็นลมแล้ววว  หมอก้อถามว่ามีไรจะปรึกษาหมอไหม ผมก้อตอบไปว่าไม่มีครับผมโอเครครับ(ในใจกุไม่โอเครเลยว่ะ) บอกหมอผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ คุณหมอบอกด้วยว่ารักตัวเองให้มากๆดูแลตัวเองด้วย อยู่ได้อีกนานนนน ขณะ ที่เดินออกมาจากคลีนิค เคยเห็นในซีรี่ย์ป่ะฉากที่พระเอกโดนนางเองทิ้งอ่ะเหมือนเลย อารมณ์ล่องลอยในสมองคิดไรไม่ออกเดินไปเรื่อยๆๆไปจนถึงป้ายรถเมลล์  ทั้งๆที่ขับรถมาด้วยนะ แต่เดินไปป้ายรถเมล์เพื่อ คือมันล่องลอยมาก คือคิดตลอดทางว่าจะทำยังไง อยู่ยังไง กุติดมากับใคร แค่ครั้งเดียวมันถึงขนาดนี้เลยหรอ นั่งที่ป้ายรถเมล์สักพักก้อร้องไห้ ร้องเหมือนคนจะตายอ่ะ คนก้มอง นึกได้กลับมาเอารถนั่งในรถร้องไห้จะโทรหาใครก้ไม่กล้า จะเล่าให้ใครฟังก้อไม่ได้ เพื่อนที่พาเราไปก้โทรมาเป็นยังไง เราตอบไปด้วยเสียงใสๆ กุไม่เป็นอะไร ก้อพูดเหมือนเป็นปรกติ (แต่ตอนหลังบอกมันล่ะว่าเป็นH เพื่อนก้คือเพื่อนจริงๆ รักมากเพื่อนคนนี้ไม่รังเกียจเราให้คำปรึกษาเราตลอด เดียวจะมาเล่าต่อๆให้ฟังมันมีหลายฉากชีวิตหลังเป็นH) เราก้ตัดบทวางสายไป หลังจากนั้นเราก้อกลับมามาที่ห้องเก็บตัวอยู่แต่ในห้องไม่คุยไม่โทรหาใครนอนร้องไห้คิดว่าจะตายดีไหม คิดไปหมด นอนร้องจนหลับอะคิดดูดิ. พอตื่นเช้ามา มหาลัยก้ไม่ไป งานพาร์ทไทม์ก้ไม่ไป โทรหาแม่แต่เช้าเราก้อเอาแต่ร้องไห้ว่าจะบอกยังไงดี ร้องจนแม่ถามว่าเป็นอะไรร้องอะไรหนักหนา ใครตาย 555แม่พูด เราเลยบอกผมนี่ดิจะตาย จะตายได้ไงยังคุยโทรศัพท์กับกุยุเลยแม่เล่นตลกตลอด เราก้อกลั้นใจบอกแม่ ผมเป็น HIV หลังจากนั้นในสายก้อไม่มีเสียงพูดเลยยยเราก้อร้องๆๆๆๆๆๆๆ. แม่พูดขึ้นมาคำหนึ่งไม่เป็นไร กลับมาบ้านเรา แม่ดูแลเอง เราได้ฟังก้ร้องไห้ร้องไม่หยุดตอบแม่ไม่เป็นไหร่แม่ผมโอเครๆ หลังจากวันนั้นผมก้อกลับบ้านไม่เรียนต่อ เพราะทำใจกับเรื่องนี้ยังไม่ได้ก้ดรอปไปกลับไปบ้านที่บ้านคือรู้หมดอะ พอเราถึงบ้านต่างพากันมาปลอบใจเรา(เราโชคดีที่มีครอบครัวรักและไม่รังเกียจเราและนี้คือแรงผลักดันให้กับเราในการอยู่)
****เราไม่เรียนต่อ เสียใจมากจนถึงตอนนี้ ถ้าย้อนไปได้ก้ออยากกลับไปเรียนให้จบ
****งานพาร์ทไทม์ก้ลาออก
****ทหารก้ไป เกณฑ์ทหารตามปรกติแต่จับได้ใบดำ
เดี๋ยวมาเล่าต่อชีวิตหลังจากนั้น. Part1
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่