สวัสดีครับทุกคน สำหรับกระทู้นี้ผมมีเจตนาเขียนขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจทั้งตัวของผมเองและหลายๆคนที่กำลังเผชิญกับเรื่องราวเศร้าๆอยู่ ณ ขณะนี้ ก่อนอื่นมีกลอนบทหนึ่งจากนิราศอิเหนาของสุนทรภู่ที่ผมชื่นชอบมาก ความว่า..
“ จะหักอื่นขืนหักก็จักได้ หักอาลัยนี้ไม่หลุดสุดจะหัก
สารพัดตัดขาดประหลาดนัก แต่ตัดรักนี้ไม่ขาดประหลาดใจ ”
เป็นกลอนที่ผมมองว่ามันโคตรจะคลาสสิก โอ้โห หักอะไรก็หักได้ ตัดอะไรก็ตัดได้ แต่ตัดใจ..ตัดไม่ได้ (หรืออาจจะได้แต่ก็ไม่ใช้เรื่องง่ายๆเลย) ทุกคนลองคิดดูสิครับ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย คนเราก็ยังคงมีเรื่องราวความรักทำมะนองนี้วนเวียนอยู่รอบตัว ตัวของสุนทรภู่เองถ้าไม่เจอกับตัวก็เขียนออกมาไม่ได้หรอกครับ เพราะงั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เราจะต้องพบต้องเจอและต้องหาทางรับมือกับมัน
ย้อนกลับเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว ผมถูก
‘หักอก’ ครับ ยอมรับว่าเซสุดๆ พังสุดๆชนิดที่ว่ากินไม่ได้ นอนไม่หลับ ทำงานไม่ได้ สุดท้ายได้ลาออกจากงาน.. อย่าครับ อย่าพึ่งตำหนิผม ฮ่าๆ ด่าได้นะครับ แต่อย่าแรง เดี๋ยวเสียใจ

เพราะหลายๆคนคงมองว่าทำไมผมถึงได้ยอมปล่อยให้คนๆนึงทำลายชีวิตตัวเองได้ขนาดนี้ เปล่าเลยครับ ผมได้งานใหม่ที่ดีกว่า โอเคกว่า ผมเลยตัดสินใจออก และอีกใจก็คิดว่าการฝืนอยู่ต่อไปนั่นแหละคือการทำลายชีวิตตัวเองของจริง
ช่วงหยุดยาวที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้ดูซีรี่ย์เรื่อง the legend of the blue sea ซึ่งด้วยความที่เราได้มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ทำให้ได้คิด ได้พิจารณาทบทวนสิ่งต่างๆมากขึ้นตาม เลยได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างนอกจากความบันเทิงสนุกสนานของซีรี่ย์เรื่องนี้
เนื้อเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรมาก หลักๆก็เป็นเรื่องราวความรักระหว่างนางเงือกกับมนุษย์ เนื่องจากไม่ใช่กระทู้รีวิวซีรี่ย์เลยจะขอข้ามในส่วนของเรื่องราวต่างๆไป (แต่แนะนำให้หาชมนะครับ สนุกดี) เพราะประเด็นหลักๆที่อยากจะพูดถึงคือความสามารถพิเศษของนางเงือก นั่นก็คือ ‘การลบความทรงจำ’ ครับ
อาจจะด้วยความที่พึ่งเจอเรื่องชวนปวดใจมาเลยอินกับเรื่องราวเป็นพิเศษ ถึงขั้นคิดว่าถ้านางเงือกมีจริงก็คงจะดี อยากให้ช่วยลบบางความทรงจำที่คอยสร้างความเจ็บปวดออกไปให้หมด แต่มีอยู่ฉากหนึ่งที่ผมประทับใจ คือฉากที่มีผู้หญิงคนหนึ่งต้องมาเจ็บปวดกับการสูญเสียลูกสาวผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเธอไป นางเอกของเราเห็นว่าผู้หญิงคนนี้กำลังทุกข์ทรมานกับการสูญเสียครั้งนี้จึงยื่นข้อเสนอว่าจะลบความทรงจำให้ถ้าเธอต้องการ แต่กลับถูกปฏิเสธ เธอบอกกับนางเอกว่าถึงแม้จะต้องเจ็บปวด แต่เธอก็อยากจะเก็บความทรงจำนี้ไว้ เพราะอย่างน้อยๆมันก็ทำให้เธอได้ระลึกเสมอว่าครั้งหนึ่งเธอรักลูกสาวเธอมากแค่ไหน
ได้ยินแล้วบอกตรงๆว่าจุกเลยครับ ใช่.. มันคงจะดูง่ายไปถ้าเราคิดจะลืมอะไรก็ได้ที่อยากจะลืม ผมเชื่อว่าทุกๆคนมีเรื่องที่อยากจะลืม มีเรื่องที่ไม่ว่าจะหวนกลับไปนึกถึงเมื่อไหร่มันก็สร้างความเจ็บปวดให้เราได้เสมอ การตัดใจจากอะไรซักอย่างมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยิ่งเป็นเรื่องถูกทิ้งถูกเทแบบผมนี่เจ็บไปอีกนาน แต่ว่าผมก็มีวิธีตัดใจในแบบของผมมาแชร์ อาจจะไม่ใช่วิธีที่เวิร์คที่สุด หรือได้ผลดีที่สุด แต่สำหรับผมมันค่อนข้างโอเคในระดับหนึ่งเลยล่ะครับ
How to ตัดใจ
1. ทำใจยอมรับความเป็นจริง
เอาจริงๆข้อนี้ไม่ง่ายเลยครับ ถ้าเรารักใครซักคน เราจะยอมรับได้จริงๆหรอว่าเขาไม่รักเรา อย่างน้อยก็ต้องมีคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ลึกๆและปฏิเสธความจริงอยู่หน่อยๆว่า ‘บ้าหน่า เราออกจะดีกับเขาขนาดนี้ ทำไมเขาจะไม่รักเรา’ หยุดเลยนะครับ อย่าคิดแบบนี้ เพราะว่า ‘คนที่ดี’ กับ ‘คนที่รัก’ บางทีก็ไม่ใช่คนเดียวกันเสมอไป ต่อให้ดียังไง ถ้าไม่รัก ก็คือไม่รักครับ เพราะฉะนั้นทำใจยอมรับความจริงแล้วถอยออกมาแบบคูลๆดีกว่าครับ
2. Block ทุกช่องทาง
ข้อนี้เพื่อนผมบอกว่า “เป็นวิธีของเด็กๆ คนโตๆกันแล้วเขาไม่ทำกันหรอก!” ทำไมอ่ะ ทีความรักมันยังไม่เลือกเวลา ไม่เลือกอายุ ไม่เลือกเพศเลย แล้วทำไมถึงได้เจาะจงว่าวิธีนี้เป็นวิธีของเด็ก ผมไม่สนหรอกครับ ถ้ามันเป็นวิธีที่ผมจะรอด ผมก็จะทำ ผมต้องเป็น Survivor

– มี line / facebook / IG / twitter ฯลฯ บล็อกไปให้หมดครับ ตัดขาดกันได้เดี๋ยวก็คงตัดใจได้เอง (กระซิกๆ)
3. อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ (ตัดแบบซอฟๆ)
ถ้ายังใจแข็งทำแบบข้อ 2 ไม่ได้ก็ข้ามไปแล้วมาทำข้อนี้ก่อนก็ได้ครับ เข้าใจอารมณ์คนเคยรักที่ยังผูกพัน จะให้อยู่ๆมาตัดแบบจริงจังคงใจขาดก่อนพอดี สำหรับข้อนี้ผมแนะนำอย่างนี้ครับ
- กรณีของ line ถ้าไม่อยากต้องมานั่งใจจดใจจ่อรอดูว่าจะมีแจ้งเตือนของเขาขึ้นมามั้ย เหล่ดูโทรศัพท์ตลอดเวลาจนไม่เป็นอันทำมาหากิน กดปิดการแจ้งเตือนครับ จะทำหมดหรือแค่เฉพาะของเขาคนเดียวก็ได้ แบบว่าถ้าว่างค่อยเปิดเข้าไปดู ไลน์มาก็ตอบ ไม่ไลน์มาฉันก็ไม่ได้แคร์ แบบนี้มันจะทำให้เราไม่ต้องคอยหยิบมือถือขึ้นมาตลอดเวลา แต่ก็ไม่ใช่ว่าปิดการแจ้งเตือนแต่เปิดดูทุก 5 นาที แบบนี้ก็ไม่ไหวนะครับ
- กรณีของ facebook/IG ถ้ายังไม่อยากตัดสัมพันธ์ ยังอยากจะเป็นเพื่อนกันต่อไป ไม่อยากต้องมา unfriend ให้ใครเสียความรู้สึกก็กด unfollow ครับ เลิกติดตามกันไปเลย ไม่ต้องเห็นความเคลื่อนไหว เพราะการเห็นเขาเพ้อหาใครที่ไม่ใช่เรา โพสรูปคู่กับใคร มันไม่ดีต่อใจหรอกครับ เชื่อสิ เข้าใจว่าแรกๆคงอดที่จะเข้าไปส่องไม่ไหว ส่องเลยครับ แล้วก็พยายามให้จำนวนครั้งมันน้อยลงในทุกๆวัน จากวันละ 10 ครั้ง เป็น 5 , 4 , 3 , 2 , 1 จนถึงเลิกส่องไปเลย ถ้าทำได้ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีครับ
4. กลับไปไม่รู้จัก
ข้อนี้เป็นข้อสุดท้ายที่สมองอันปราดเปรื่องของผมจะคิดได้แล้วครับ เก็บพื้นที่ไว้คิดเรื่องอื่นๆที่มีประโยชน์บ้าง สำหรับข้อนี้ไม่ได้บอกให้ลืมว่าเคยรู้จักกัน หรือทำเป็นไม่รู้จักกันนะครับ แค่เราไม่ต้องรู้จักกันในฐานะเก่าๆแล้ว ไม่ต้องไปทำรู้ดีว่าเขาชอบกินอะไร ชอบทำอะไร ชอบไปที่ไหน เปล่าประโยชน์ครับ ชีวิตใครชีวิตมัน ถ้าเขาโอเคกับการไม่มีเรา เราก็ควรจะหันกลับมาดูแลตัวเองและโอเคกับชีวิตที่ไม่มีเขาได้แล้ว เพราะชีวิตยังต้องไปต่อ พูดไปก็จะหาว่าผมงมงาย แต่ผมเชื่อในเรื่องกรรมนะครับ ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วมีแต่ความทุกข์ มีแต่น้ำตา อย่างนั้นเขาเรียกว่า “คู่เวรคู่กรรม” การที่เราจบกันได้ ผมมองว่าเราหมดเวรหมดกรรมกันแล้ว การที่ผมต้องมาเสียใจเพราะเขานั่นอาจเป็นเพราะผมอาจจะเคยทำกับเขาเอาไว้ไม่ว่าชาติไหน แล้วผมก็ได้ชดใช้ให้เขาไปหมดแล้ว ด้วยหัวใจทั้งหมดที่มี ถือว่าเลิกแล้วต่อกัน คิดได้อย่างนี้ผมว่ามันก็สบายใจดี ลองเปลี่ยนความคิดว่าวันนี้เขาจะไปไหนหรือทำอะไรกับใคร เป็นวันนี้เราจะไปไหนไปทำอะไรดีกว่า ดีซะอีก อยากไปไหนก็ไป อยากกินอะไรก็กิน อยากทำอะไรก็ทำ ชีวิตคนเรามันสั้นจะตาย อย่าไปยึดติดอยู่กับอะไรนานๆให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์เลยครับ ล้มได้แต่ก็ต้องลุกให้ไวที่สุด เสียใจได้แต่ก็ต้องเข้มแข็งให้เร็วเพื่อก้าวต่อไป ชีวิตยังต้องเจออะไรอีกมากมาย คนนะครับ ไม่ใช่นกเงือก ที่จะผัวเดียวเมียเดียวตลอดชีวิต ผมเชื่อว่าถ้าเรามีความรักที่ดี ซักวันก็จะได้เจอกับคนดีๆที่พร้อมจะหยุดไปกับเราเองแหละครับ
ในโลกนี้ไม่มีใครไม่เจ็บปวดหรอกครับ เพราะเรามีหัวใจ มีความรู้สึก และนั่นคือสิ่งยืนยันว่าเรายังมีชีวิตอยู่ เหมือนกับเพลง Live and Learn ของคุณกมลา สุโกศล ที่ว่า "เพราะชีวิตคือชีวิต เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป มีสุขสม มีผิดหวัง หัวเราะ หรือหวั่นไหว เกิดขึ้นได้ทุกวัน"
เราไม่ต้องลืมความเจ็บปวดก็ได้ครับ แค่ต้องมาเรียนรู้ว่าจะอยู่กับมันอย่างไรให้มีความสุขที่สุดให้ได้ก็พอ อาจจะเก็บมันไว้เป็นบทเรียน ไม่มีบทเรียนไหนได้มาฟรีๆ ขนาดเรียนจนจบปริญญายังไม่รู้ว่าเสียเงินค่าเรียนไปตั้งเท่าไหร่ แค่บทเรียนนี้เราไม่ได้จ่ายด้วยเงินทอง แต่จ่ายมันด้วยความรู้สึกของเรา ผมว่ามันมีค่ามากกว่าเงินทองซะอีก เพราะฉะนั้นเรายิ่งควรเสียดาย ไหนๆมันก็เสียไปแล้ว อย่าให้มันต้องสูญเปล่า อย่าไปพยายามลืมเพียงเพราะมันทำให้เราเจ็บ แต่จงจำเพื่อจะได้ไม่เจ็บซ้ำ หรืออาจจะเก็บไว้เยียวยาหัวใจ และเตรียมตัวรับมือกับความเจ็บครั้งใหม่ให้ดีกว่าเดิมเท่านั้นเอง
ที่มาเขียนไม่ได้หมายความว่าผมทำได้
ทุกครั้งที่ฟังเพลงเศร้า..ผมยังคงร้องไห้
ทุกครั้งที่แม้แต่เห็นรถยี่ห้อเดียวกับของเขา…ผมยังน้ำตาไหล
หรือแม้กระทั่งฉากพระเอกนางเอกจูบกันในซีรี่ย์…ผมยังทนดูไม่ได้ มันจะมีภาพของเราทั้งคู่ทับซ้อนขึ้นมา นั่นเพราะผมยังไม่ลืม ผมยังจำทุกสัมผัสได้เป็นอย่างดี
ในโลกนี้มีมากมายหลายเรื่องที่เราเข้าใจแต่ทำไม่ได้ แต่ผมแค่อยากให้รู้ว่าถ้าวันนี้คุณเจ็บปวด คุณยังมีผมเป็นเพื่อน เราอาจจะยังตัดใจไม่ได้ในวันนี้ แต่เราจะพยายามไปด้วยกัน มันอาจจะเป็นเดือนหรือนานเป็นปี แต่ผมเชื่อว่าเวลาจะเยียวยาทุกอย่าง เพราะเวลาเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้น แล้วก็จะเป็นเวลาอีกนั่นแหละที่จะทำให้ทุกอย่างจบสิ้นลงไป ผมขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่เจ็บปวด รวมถึงตัวผมด้วย เรามาเจ็บปวดไปด้วยกันนะครับ
How to ตัดใจ (เจ็บปวดไปด้วยกัน)
สารพัดตัดขาดประหลาดนัก แต่ตัดรักนี้ไม่ขาดประหลาดใจ ”
เป็นกลอนที่ผมมองว่ามันโคตรจะคลาสสิก โอ้โห หักอะไรก็หักได้ ตัดอะไรก็ตัดได้ แต่ตัดใจ..ตัดไม่ได้ (หรืออาจจะได้แต่ก็ไม่ใช้เรื่องง่ายๆเลย) ทุกคนลองคิดดูสิครับ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย คนเราก็ยังคงมีเรื่องราวความรักทำมะนองนี้วนเวียนอยู่รอบตัว ตัวของสุนทรภู่เองถ้าไม่เจอกับตัวก็เขียนออกมาไม่ได้หรอกครับ เพราะงั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เราจะต้องพบต้องเจอและต้องหาทางรับมือกับมัน
ย้อนกลับเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว ผมถูก ‘หักอก’ ครับ ยอมรับว่าเซสุดๆ พังสุดๆชนิดที่ว่ากินไม่ได้ นอนไม่หลับ ทำงานไม่ได้ สุดท้ายได้ลาออกจากงาน.. อย่าครับ อย่าพึ่งตำหนิผม ฮ่าๆ ด่าได้นะครับ แต่อย่าแรง เดี๋ยวเสียใจ
ช่วงหยุดยาวที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้ดูซีรี่ย์เรื่อง the legend of the blue sea ซึ่งด้วยความที่เราได้มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ทำให้ได้คิด ได้พิจารณาทบทวนสิ่งต่างๆมากขึ้นตาม เลยได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างนอกจากความบันเทิงสนุกสนานของซีรี่ย์เรื่องนี้
เนื้อเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรมาก หลักๆก็เป็นเรื่องราวความรักระหว่างนางเงือกกับมนุษย์ เนื่องจากไม่ใช่กระทู้รีวิวซีรี่ย์เลยจะขอข้ามในส่วนของเรื่องราวต่างๆไป (แต่แนะนำให้หาชมนะครับ สนุกดี) เพราะประเด็นหลักๆที่อยากจะพูดถึงคือความสามารถพิเศษของนางเงือก นั่นก็คือ ‘การลบความทรงจำ’ ครับ
อาจจะด้วยความที่พึ่งเจอเรื่องชวนปวดใจมาเลยอินกับเรื่องราวเป็นพิเศษ ถึงขั้นคิดว่าถ้านางเงือกมีจริงก็คงจะดี อยากให้ช่วยลบบางความทรงจำที่คอยสร้างความเจ็บปวดออกไปให้หมด แต่มีอยู่ฉากหนึ่งที่ผมประทับใจ คือฉากที่มีผู้หญิงคนหนึ่งต้องมาเจ็บปวดกับการสูญเสียลูกสาวผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเธอไป นางเอกของเราเห็นว่าผู้หญิงคนนี้กำลังทุกข์ทรมานกับการสูญเสียครั้งนี้จึงยื่นข้อเสนอว่าจะลบความทรงจำให้ถ้าเธอต้องการ แต่กลับถูกปฏิเสธ เธอบอกกับนางเอกว่าถึงแม้จะต้องเจ็บปวด แต่เธอก็อยากจะเก็บความทรงจำนี้ไว้ เพราะอย่างน้อยๆมันก็ทำให้เธอได้ระลึกเสมอว่าครั้งหนึ่งเธอรักลูกสาวเธอมากแค่ไหน
ได้ยินแล้วบอกตรงๆว่าจุกเลยครับ ใช่.. มันคงจะดูง่ายไปถ้าเราคิดจะลืมอะไรก็ได้ที่อยากจะลืม ผมเชื่อว่าทุกๆคนมีเรื่องที่อยากจะลืม มีเรื่องที่ไม่ว่าจะหวนกลับไปนึกถึงเมื่อไหร่มันก็สร้างความเจ็บปวดให้เราได้เสมอ การตัดใจจากอะไรซักอย่างมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ยิ่งเป็นเรื่องถูกทิ้งถูกเทแบบผมนี่เจ็บไปอีกนาน แต่ว่าผมก็มีวิธีตัดใจในแบบของผมมาแชร์ อาจจะไม่ใช่วิธีที่เวิร์คที่สุด หรือได้ผลดีที่สุด แต่สำหรับผมมันค่อนข้างโอเคในระดับหนึ่งเลยล่ะครับ
How to ตัดใจ
1. ทำใจยอมรับความเป็นจริง
เอาจริงๆข้อนี้ไม่ง่ายเลยครับ ถ้าเรารักใครซักคน เราจะยอมรับได้จริงๆหรอว่าเขาไม่รักเรา อย่างน้อยก็ต้องมีคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ลึกๆและปฏิเสธความจริงอยู่หน่อยๆว่า ‘บ้าหน่า เราออกจะดีกับเขาขนาดนี้ ทำไมเขาจะไม่รักเรา’ หยุดเลยนะครับ อย่าคิดแบบนี้ เพราะว่า ‘คนที่ดี’ กับ ‘คนที่รัก’ บางทีก็ไม่ใช่คนเดียวกันเสมอไป ต่อให้ดียังไง ถ้าไม่รัก ก็คือไม่รักครับ เพราะฉะนั้นทำใจยอมรับความจริงแล้วถอยออกมาแบบคูลๆดีกว่าครับ
2. Block ทุกช่องทาง
ข้อนี้เพื่อนผมบอกว่า “เป็นวิธีของเด็กๆ คนโตๆกันแล้วเขาไม่ทำกันหรอก!” ทำไมอ่ะ ทีความรักมันยังไม่เลือกเวลา ไม่เลือกอายุ ไม่เลือกเพศเลย แล้วทำไมถึงได้เจาะจงว่าวิธีนี้เป็นวิธีของเด็ก ผมไม่สนหรอกครับ ถ้ามันเป็นวิธีที่ผมจะรอด ผมก็จะทำ ผมต้องเป็น Survivor
3. อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ (ตัดแบบซอฟๆ)
ถ้ายังใจแข็งทำแบบข้อ 2 ไม่ได้ก็ข้ามไปแล้วมาทำข้อนี้ก่อนก็ได้ครับ เข้าใจอารมณ์คนเคยรักที่ยังผูกพัน จะให้อยู่ๆมาตัดแบบจริงจังคงใจขาดก่อนพอดี สำหรับข้อนี้ผมแนะนำอย่างนี้ครับ
- กรณีของ line ถ้าไม่อยากต้องมานั่งใจจดใจจ่อรอดูว่าจะมีแจ้งเตือนของเขาขึ้นมามั้ย เหล่ดูโทรศัพท์ตลอดเวลาจนไม่เป็นอันทำมาหากิน กดปิดการแจ้งเตือนครับ จะทำหมดหรือแค่เฉพาะของเขาคนเดียวก็ได้ แบบว่าถ้าว่างค่อยเปิดเข้าไปดู ไลน์มาก็ตอบ ไม่ไลน์มาฉันก็ไม่ได้แคร์ แบบนี้มันจะทำให้เราไม่ต้องคอยหยิบมือถือขึ้นมาตลอดเวลา แต่ก็ไม่ใช่ว่าปิดการแจ้งเตือนแต่เปิดดูทุก 5 นาที แบบนี้ก็ไม่ไหวนะครับ
- กรณีของ facebook/IG ถ้ายังไม่อยากตัดสัมพันธ์ ยังอยากจะเป็นเพื่อนกันต่อไป ไม่อยากต้องมา unfriend ให้ใครเสียความรู้สึกก็กด unfollow ครับ เลิกติดตามกันไปเลย ไม่ต้องเห็นความเคลื่อนไหว เพราะการเห็นเขาเพ้อหาใครที่ไม่ใช่เรา โพสรูปคู่กับใคร มันไม่ดีต่อใจหรอกครับ เชื่อสิ เข้าใจว่าแรกๆคงอดที่จะเข้าไปส่องไม่ไหว ส่องเลยครับ แล้วก็พยายามให้จำนวนครั้งมันน้อยลงในทุกๆวัน จากวันละ 10 ครั้ง เป็น 5 , 4 , 3 , 2 , 1 จนถึงเลิกส่องไปเลย ถ้าทำได้ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีครับ
4. กลับไปไม่รู้จัก
ข้อนี้เป็นข้อสุดท้ายที่สมองอันปราดเปรื่องของผมจะคิดได้แล้วครับ เก็บพื้นที่ไว้คิดเรื่องอื่นๆที่มีประโยชน์บ้าง สำหรับข้อนี้ไม่ได้บอกให้ลืมว่าเคยรู้จักกัน หรือทำเป็นไม่รู้จักกันนะครับ แค่เราไม่ต้องรู้จักกันในฐานะเก่าๆแล้ว ไม่ต้องไปทำรู้ดีว่าเขาชอบกินอะไร ชอบทำอะไร ชอบไปที่ไหน เปล่าประโยชน์ครับ ชีวิตใครชีวิตมัน ถ้าเขาโอเคกับการไม่มีเรา เราก็ควรจะหันกลับมาดูแลตัวเองและโอเคกับชีวิตที่ไม่มีเขาได้แล้ว เพราะชีวิตยังต้องไปต่อ พูดไปก็จะหาว่าผมงมงาย แต่ผมเชื่อในเรื่องกรรมนะครับ ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วมีแต่ความทุกข์ มีแต่น้ำตา อย่างนั้นเขาเรียกว่า “คู่เวรคู่กรรม” การที่เราจบกันได้ ผมมองว่าเราหมดเวรหมดกรรมกันแล้ว การที่ผมต้องมาเสียใจเพราะเขานั่นอาจเป็นเพราะผมอาจจะเคยทำกับเขาเอาไว้ไม่ว่าชาติไหน แล้วผมก็ได้ชดใช้ให้เขาไปหมดแล้ว ด้วยหัวใจทั้งหมดที่มี ถือว่าเลิกแล้วต่อกัน คิดได้อย่างนี้ผมว่ามันก็สบายใจดี ลองเปลี่ยนความคิดว่าวันนี้เขาจะไปไหนหรือทำอะไรกับใคร เป็นวันนี้เราจะไปไหนไปทำอะไรดีกว่า ดีซะอีก อยากไปไหนก็ไป อยากกินอะไรก็กิน อยากทำอะไรก็ทำ ชีวิตคนเรามันสั้นจะตาย อย่าไปยึดติดอยู่กับอะไรนานๆให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์เลยครับ ล้มได้แต่ก็ต้องลุกให้ไวที่สุด เสียใจได้แต่ก็ต้องเข้มแข็งให้เร็วเพื่อก้าวต่อไป ชีวิตยังต้องเจออะไรอีกมากมาย คนนะครับ ไม่ใช่นกเงือก ที่จะผัวเดียวเมียเดียวตลอดชีวิต ผมเชื่อว่าถ้าเรามีความรักที่ดี ซักวันก็จะได้เจอกับคนดีๆที่พร้อมจะหยุดไปกับเราเองแหละครับ
ในโลกนี้ไม่มีใครไม่เจ็บปวดหรอกครับ เพราะเรามีหัวใจ มีความรู้สึก และนั่นคือสิ่งยืนยันว่าเรายังมีชีวิตอยู่ เหมือนกับเพลง Live and Learn ของคุณกมลา สุโกศล ที่ว่า "เพราะชีวิตคือชีวิต เมื่อมีเข้ามาก็มีเลิกไป มีสุขสม มีผิดหวัง หัวเราะ หรือหวั่นไหว เกิดขึ้นได้ทุกวัน"
เราไม่ต้องลืมความเจ็บปวดก็ได้ครับ แค่ต้องมาเรียนรู้ว่าจะอยู่กับมันอย่างไรให้มีความสุขที่สุดให้ได้ก็พอ อาจจะเก็บมันไว้เป็นบทเรียน ไม่มีบทเรียนไหนได้มาฟรีๆ ขนาดเรียนจนจบปริญญายังไม่รู้ว่าเสียเงินค่าเรียนไปตั้งเท่าไหร่ แค่บทเรียนนี้เราไม่ได้จ่ายด้วยเงินทอง แต่จ่ายมันด้วยความรู้สึกของเรา ผมว่ามันมีค่ามากกว่าเงินทองซะอีก เพราะฉะนั้นเรายิ่งควรเสียดาย ไหนๆมันก็เสียไปแล้ว อย่าให้มันต้องสูญเปล่า อย่าไปพยายามลืมเพียงเพราะมันทำให้เราเจ็บ แต่จงจำเพื่อจะได้ไม่เจ็บซ้ำ หรืออาจจะเก็บไว้เยียวยาหัวใจ และเตรียมตัวรับมือกับความเจ็บครั้งใหม่ให้ดีกว่าเดิมเท่านั้นเอง
ทุกครั้งที่ฟังเพลงเศร้า..ผมยังคงร้องไห้
ทุกครั้งที่แม้แต่เห็นรถยี่ห้อเดียวกับของเขา…ผมยังน้ำตาไหล
หรือแม้กระทั่งฉากพระเอกนางเอกจูบกันในซีรี่ย์…ผมยังทนดูไม่ได้ มันจะมีภาพของเราทั้งคู่ทับซ้อนขึ้นมา นั่นเพราะผมยังไม่ลืม ผมยังจำทุกสัมผัสได้เป็นอย่างดี
ในโลกนี้มีมากมายหลายเรื่องที่เราเข้าใจแต่ทำไม่ได้ แต่ผมแค่อยากให้รู้ว่าถ้าวันนี้คุณเจ็บปวด คุณยังมีผมเป็นเพื่อน เราอาจจะยังตัดใจไม่ได้ในวันนี้ แต่เราจะพยายามไปด้วยกัน มันอาจจะเป็นเดือนหรือนานเป็นปี แต่ผมเชื่อว่าเวลาจะเยียวยาทุกอย่าง เพราะเวลาเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้น แล้วก็จะเป็นเวลาอีกนั่นแหละที่จะทำให้ทุกอย่างจบสิ้นลงไป ผมขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่เจ็บปวด รวมถึงตัวผมด้วย เรามาเจ็บปวดไปด้วยกันนะครับ