คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
กระทู้นี้ mind blown
จขกท ชอบเขียนโปรแกรม
แต่พากันแนะนำให้ไม่ต้องศึกษาเรื่องการเขียนโปรแกรมเลย
ให้ไปตั้งใจเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ก่อน
ทำไมการหัดเขียนโปรแกรมคือการไม่สนใจวิชาอื่นๆไม่สนใจการเข้ามหาวิทยาลัยไม่สนใจปริญญาไปได้งง
แล้วทำไมถ้าจขกท จะฝึกภาษาอังกฤษกับคณิตศาสตร์ จขกท จะต้องเข้ามหาวิทยาลัยก่อน งงมาก
ผมเรียนจบนานแล้วแล้ว ไม่ได้อยู่มหาวิทยาลัยแล้ว
ยังไปดู khanacademy, channel ต่างๆใน youtube ที่สอนภาษากับคณิตศาสตร์บ่อยๆเลย
คือผมว่าเดี๋ยวนี้ internet มันมีแทบทุกสิ่งทุกอย่างที่เราอยากรู้
จขกท ชอบเขียนโปรแกรม
แต่พากันแนะนำให้ไม่ต้องศึกษาเรื่องการเขียนโปรแกรมเลย
ให้ไปตั้งใจเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ก่อน
ทำไมการหัดเขียนโปรแกรมคือการไม่สนใจวิชาอื่นๆไม่สนใจการเข้ามหาวิทยาลัยไม่สนใจปริญญาไปได้งง
แล้วทำไมถ้าจขกท จะฝึกภาษาอังกฤษกับคณิตศาสตร์ จขกท จะต้องเข้ามหาวิทยาลัยก่อน งงมาก
ผมเรียนจบนานแล้วแล้ว ไม่ได้อยู่มหาวิทยาลัยแล้ว
ยังไปดู khanacademy, channel ต่างๆใน youtube ที่สอนภาษากับคณิตศาสตร์บ่อยๆเลย
คือผมว่าเดี๋ยวนี้ internet มันมีแทบทุกสิ่งทุกอย่างที่เราอยากรู้

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
ขอมาเสริม... ด้วยความที่ไม่เห็นด้วยอย่างมาก กับ พี่ คห.1 คือเข้าใจประเด็นที่ต้องการจะสื่อนะครับ แต่แค่ไม่เห็นด้วยว่าเราควรไปเริ่มเอาตอนมหาลัยตอนเข้ามหาลัยดีๆ ...
คนรอบตัวผม ถ้าวัดจากระดับหัวกะทิในวงการเลย โดยมากแล้ว "เริ่ม"เขียนโปรแกรมเองระดับมัธยมทั้งนั้น ที่เหลือ... คือระดับประถม - -
เพื่อนสนิทที่ผมนับถือความสามารถที่สุดคนหนึ่ง เริ่มเรียนเขียนโปรแกรมตั้งแต่ป.4 และเขียน Assembly ตั้งแต่ป.6 เพราะอยากโกงเกมเป็น
การเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้ก็สำคัญครับ ไม่ใช่ไม่สำคัญ แต่ที่สำคัญกว่าคือเช็คอัพตัวเองให้ดีกว่า ทางการเขียนโปรแกรมนี่ใช่สิ่งที่เราอยากไปจริงๆ ไหม ... มีหลายต่อหลายคนที่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนเพื่อจะเข้าวิศวคอมพิวเตอร์ แต่พอเข้าไปแล้วรู้สึกเหมือนเป็นนรก เพราะต้องทนอยู่กับอะไรที่ไม่ใช่ทาง...
ขอเสริมวิธีการฝึกฝน และ check up ตัวเองนะครับ ... อย่าเริ่มจาก "ภาษา" ที่จะหัดเขียน ตลาดว่าแบบนั้น เขาว่าแบบนี้ บลาๆ
เพราะอะไรครับ เพราะมันไม่ "สนุก" ... จะเริ่มเขียนโปรแกรม ต้องเริ่มจากความสนุก คือ มีโจทย์อยู่ตรงหน้า แล้วเราต้องพิชิตมันให้ได้
แทนที่จะเริ่มจากภาษา ให้เริ่มจากการหา "เป้าหมาย" ก่อน ... ว่าเราอยากทำอะไรขึ้นมาดี ด้วยสองมือของเรานี่แหละ คิดโปรเจคขึ้นมา แล้วลุยเลยครับ ... Google it - Youtube it พอรู้ว่าอยากทำอะไร ก็ค้นเครื่องมือ ค้นเทคโนโลยี อ่านๆๆๆ เรียนๆๆๆ โหลดมาฝึกๆๆๆ ค่อยๆ เดินไปทีละก้าว ทำให้ได้ทีละขั้น โดยมีเป้าหมายคือโปรเจคชัดอยู่ในหัว ... แต่ละวันมันจะเหมือนมีไฟพลุ่งพล่าน อยากเรียนให้เสร็จ จะกลับไปเขียนโปรแกรมต่อ นั่นแหละครับ ทางก้าวหน้าที่เร็วที่สุด และดีที่สุด
เมื่อเรามีแผนที่ในหัวแล้ว เข้าไปมหาวิทยาลัยได้ เราจะกลายเป็นเสือติดปีก วิชาที่เรียนจะเสริมพื้นฐานให้แน่น พร้อมๆ กับ ให้สายตาคู่ใหม่ที่เรามองโลกให้กว้างขึ้น ... นั่นแหละที่เราจะวิ่งก้าวกระโดด เพราะเรารู้แล้วว่าเรามาถูกทาง
แต่ถ้าน้องทำโปรเจคแล้วไม่สนุกเลย... เจอบั๊กอีกแล้ว เบื่อ เซ็ง ช่างแม่ม ... น้องจะรู้เองครับว่าทางนี้ไม่ใช่ทางของน้องแล้ว ให้พิจารณาสอบเข้าคณะอื่นต่อไป ^^"
ความรู้ไม่ได้มีอยู่แต่ในมหาวิทยาลัยอย่างเดียวครับ ...
คนรอบตัวผม ถ้าวัดจากระดับหัวกะทิในวงการเลย โดยมากแล้ว "เริ่ม"เขียนโปรแกรมเองระดับมัธยมทั้งนั้น ที่เหลือ... คือระดับประถม - -
เพื่อนสนิทที่ผมนับถือความสามารถที่สุดคนหนึ่ง เริ่มเรียนเขียนโปรแกรมตั้งแต่ป.4 และเขียน Assembly ตั้งแต่ป.6 เพราะอยากโกงเกมเป็น
การเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้ก็สำคัญครับ ไม่ใช่ไม่สำคัญ แต่ที่สำคัญกว่าคือเช็คอัพตัวเองให้ดีกว่า ทางการเขียนโปรแกรมนี่ใช่สิ่งที่เราอยากไปจริงๆ ไหม ... มีหลายต่อหลายคนที่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนเพื่อจะเข้าวิศวคอมพิวเตอร์ แต่พอเข้าไปแล้วรู้สึกเหมือนเป็นนรก เพราะต้องทนอยู่กับอะไรที่ไม่ใช่ทาง...
ขอเสริมวิธีการฝึกฝน และ check up ตัวเองนะครับ ... อย่าเริ่มจาก "ภาษา" ที่จะหัดเขียน ตลาดว่าแบบนั้น เขาว่าแบบนี้ บลาๆ
เพราะอะไรครับ เพราะมันไม่ "สนุก" ... จะเริ่มเขียนโปรแกรม ต้องเริ่มจากความสนุก คือ มีโจทย์อยู่ตรงหน้า แล้วเราต้องพิชิตมันให้ได้
แทนที่จะเริ่มจากภาษา ให้เริ่มจากการหา "เป้าหมาย" ก่อน ... ว่าเราอยากทำอะไรขึ้นมาดี ด้วยสองมือของเรานี่แหละ คิดโปรเจคขึ้นมา แล้วลุยเลยครับ ... Google it - Youtube it พอรู้ว่าอยากทำอะไร ก็ค้นเครื่องมือ ค้นเทคโนโลยี อ่านๆๆๆ เรียนๆๆๆ โหลดมาฝึกๆๆๆ ค่อยๆ เดินไปทีละก้าว ทำให้ได้ทีละขั้น โดยมีเป้าหมายคือโปรเจคชัดอยู่ในหัว ... แต่ละวันมันจะเหมือนมีไฟพลุ่งพล่าน อยากเรียนให้เสร็จ จะกลับไปเขียนโปรแกรมต่อ นั่นแหละครับ ทางก้าวหน้าที่เร็วที่สุด และดีที่สุด
เมื่อเรามีแผนที่ในหัวแล้ว เข้าไปมหาวิทยาลัยได้ เราจะกลายเป็นเสือติดปีก วิชาที่เรียนจะเสริมพื้นฐานให้แน่น พร้อมๆ กับ ให้สายตาคู่ใหม่ที่เรามองโลกให้กว้างขึ้น ... นั่นแหละที่เราจะวิ่งก้าวกระโดด เพราะเรารู้แล้วว่าเรามาถูกทาง
แต่ถ้าน้องทำโปรเจคแล้วไม่สนุกเลย... เจอบั๊กอีกแล้ว เบื่อ เซ็ง ช่างแม่ม ... น้องจะรู้เองครับว่าทางนี้ไม่ใช่ทางของน้องแล้ว ให้พิจารณาสอบเข้าคณะอื่นต่อไป ^^"
ความรู้ไม่ได้มีอยู่แต่ในมหาวิทยาลัยอย่างเดียวครับ ...
แสดงความคิดเห็น
อยากเขียนโปรแกรม และอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ในอนาคตครับ
การเขียนกระทู้นี้ ผมแค่อยากรู้จริงๆครับ ไม่ได้จะละเลยการเรียนที่เรียนอยู่ ถ้าใครเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่ต้องมาทำอะไรอย่างงี้ก็ต้องขออภัยด้วยครับ