เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ว่า เบื้องต้นได้นำเรื่องเสนอของบประมาณในการดำเนินการใช้จ่ายโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 3,557 ล้านบาทไปยังสภา กทม.แล้ว โดยจะสามารถหาข้อสรุปได้ในการประชุมสภา กทม. สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 2 (ครั้งที่ 4) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากเป็นงบประมาณมหาศาล ซึ่งหากสภาไม่เห็นชอบในการขอจัดสรรงบประมาณ ก็ต้องให้ทางให้ทางกระทรวงคมนาคมพิจารณาแนวทางต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก กทม.ไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์จะส่งผลกระทบต่อ กทม.อย่างไร พล.ต.ท.อำนวย กล่าวว่า ความจริงแล้วการเดินรถไฟฟ้าก็อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลทั้งหมด ซึ่งไม่ว่าหน่วยงานใดเข้ามาเป็นผู้ดูแลในการเดินรถก็สามารถทำได้ทั้งนั้น เพียงแต่บริษัทใดจะเข้ามาเดินรถเท่านั้นเอง หากเป็น กทม.ก็จะส่งต่อให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ดูแล และหากเป็นการรถไฟฟ้าขนส่งมวชชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ก็อาจส่งต่อให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชน จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส เข้ามาดูแล ในส่วนของประชาชนก็ไม่ต้องกังวล เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทาง กทม.มั่นใจว่าประชาชนจะได้ใช้บริการอย่างแน่นอน
เมื่อถามถึงกรณีภาคีเครือข่ายผู้คนพิการได้ยื่นฟ้องศาลแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย กรณี กทม.และบริษัท ระบบขนส่งมวลชน จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส ถึงการจัดสร้างลิฟต์และสิ่งอำนวยความสะดวกล่าช้า พล.ต.ท.อำนวย กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าจะเชิญชวนให้มาร่วมดูการทำงานก่อสร้างลิฟท์ผู้พิการตามสถานีบีทีเอสว่า มีกระบวนการทำงานอย่างไร ทาง กทม.ได้ติดขัดปัญหาต่างๆ จริงหรือไม่ เช่น ผู้รับจ้างสามารถทำงานได้เพียง 3-4 ชั่วโมงต่อวัน คือ ช่วงที่บีทีเอสปิดให้บริการเท่านั้น ส่วนที่ว่าจะมีการเรียกร้องค่าเสียหาย ก็ขอให้รอกระบวนการพิจารณาของศาล
ที่มา : มติชนออนไลน์
ลุ้น! 8 ก.พ. "รถไฟฟ้าสายสีเขียว" แบริ่ง-สมุทรปราการ หยุดชะงักหรือฉลุย!!
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก กทม.ไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์จะส่งผลกระทบต่อ กทม.อย่างไร พล.ต.ท.อำนวย กล่าวว่า ความจริงแล้วการเดินรถไฟฟ้าก็อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลทั้งหมด ซึ่งไม่ว่าหน่วยงานใดเข้ามาเป็นผู้ดูแลในการเดินรถก็สามารถทำได้ทั้งนั้น เพียงแต่บริษัทใดจะเข้ามาเดินรถเท่านั้นเอง หากเป็น กทม.ก็จะส่งต่อให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ดูแล และหากเป็นการรถไฟฟ้าขนส่งมวชชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ก็อาจส่งต่อให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชน จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส เข้ามาดูแล ในส่วนของประชาชนก็ไม่ต้องกังวล เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทาง กทม.มั่นใจว่าประชาชนจะได้ใช้บริการอย่างแน่นอน
เมื่อถามถึงกรณีภาคีเครือข่ายผู้คนพิการได้ยื่นฟ้องศาลแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย กรณี กทม.และบริษัท ระบบขนส่งมวลชน จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส ถึงการจัดสร้างลิฟต์และสิ่งอำนวยความสะดวกล่าช้า พล.ต.ท.อำนวย กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าจะเชิญชวนให้มาร่วมดูการทำงานก่อสร้างลิฟท์ผู้พิการตามสถานีบีทีเอสว่า มีกระบวนการทำงานอย่างไร ทาง กทม.ได้ติดขัดปัญหาต่างๆ จริงหรือไม่ เช่น ผู้รับจ้างสามารถทำงานได้เพียง 3-4 ชั่วโมงต่อวัน คือ ช่วงที่บีทีเอสปิดให้บริการเท่านั้น ส่วนที่ว่าจะมีการเรียกร้องค่าเสียหาย ก็ขอให้รอกระบวนการพิจารณาของศาล
ที่มา : มติชนออนไลน์