เรื่องมีอยู่ว่า สามีได้รู้จักกับหญิงสูงอายุคนหนึ่งที่ย้ายมาอยู่ข้างๆที่ทำงาน(กิจการส่วนตัว ของสามี และพี่น้อง) หญิงคนนี้ฐานะดีมากๆ อยู่กับชายสูงอายุกว่า ที่มีครอบครัวอยู่แล้ว โดยอยู่กันในฐานะอะไร ดิฉันไม่ได้สนใจ
ต่อไป ดิฉันขอเรียกแทนหญิงคนนี้ว่า ป้า
ป้าคอยส่งขนมส่งอาหารมาให้ที่ทำงานสามีเป็นประจำ และก็ส่งกันไปส่งกันมา โดยที่ดิฉันไม่ได้เข้าไปรู้จักกับป้าเลย
เรื่องมาเกี่ยวกับดิฉันตรงที่ ตอนนั้นดิฉันกะสามีคิดอยากมีลูก ไปปริกษาแพทย์ ทุกวิถีทางก็ไม่มี ป้าก็คุยกับสามีว่า เค้าจะช่วย(ด้วยวิธีประมาณนั่งกำหนดอะไรให้ ประมาณนี้)แต่ต้องให้ดิฉัน และสามี นับถือ และเนียกป้าเป็นแม่
สามีก็มาเล่าให้ฟัง ดิฉันซึ่งเป็นคนตรงๆ ก็บอกกะสามีไปว่า ไม่เอาหรอก พ่อ แม่ แท้ๆ ดิฉันยังรู้สึกว่า ดูแลท่านได้ไม่ดีพอ จะให้เอาคนอื่นมาเป็นแม่อีกคน ดิฉันไม่เอา
ที่บ้านป้ามักมีเลี้ยงพระบ่อยๆ โดยมีรถทัวร์รับพระมาเป็นคันรถ เพื่อมาเลี้ยงพระที่บ้าน
แล้วดิฉันก็ได้มีโอกาสเข้าไปในบ้านของป้า ในบ้านชั้นล่าง มีแต่รูปปั้นเทพเจ้า อะไรหลายองค์มากๆ โต๊ะหมู่บูชาชุดนึงมีเทพเจ้าหลาย10องค์ ในบ้านนั้น ที่เห็นๆ มี 4 โต๊ะได้ แต่แปลก ดิฉันแทบไม่เห็นพระพุทธรูปในบ้านป้า ป้าจะมีขนมแปลกๆมาให้ทาน เวลาที่เข้าไป ซึ่งดิฉันก็ไม่ได้เข้าไปบ่อยๆ
ต่อมา ป้าก็มาชวนสามี และดิฉันไปทำบุญที่เมืองจีน(ป้าเป็นคนชอบเดินทางไปทำบุญ โดยเฉพาะที่ต่างประเทศ) ดิฉัน และสามีก็ไปด้วย ป้าก็ไปทำพิธีอะไรกับทางวัดที่จีน ซึ่งดูแล้ว แกคงทำบุญเป็นเงินมากโข ถึงได้รับการต้อนรับดีขนาดนั้นจากพระที่ดิฉันทราบมาว่าท่านเป็นพระสังฆราชของมณฑลนั้น ในทริป ไม่มีอะไร นอกจากไปวัด ทำบุญ ทานอาหารดีๆ(ที่ทราบว่าดี เพราะดิฉันก๋เดินทางไปไหนๆบ่อย แต่ต้องยอมรับว่า การต้อนรับครั้งนี้ ดีจริงๆ) การเข้าพักโรงแรม ก็เป็นโรงแรมที่ค่อนข้างดี ห้องใหญ่กว้างขวาง ที่สำคัญ ไม่มีกลิ่นบุหรี่ในห้องพักเลยซึ่งปกติ ที่จีนไม่ใช่แบบนี้
การเดินทางครั้งนี้ ดิฉันและสามีก็ไม่มีความรู้สึกอะไรมาก นอกจากการมาเที่ยวเมืองจีน พร้อมกับการได้ทำบุญ เราก็ถ่ายรูปกันไปมา ปกติ โดยไม่ได้ชวนให้คนที่มาด้วยกันมาถ่ายรูปร่วมกันเท่าไหร่ เพราะไม่ได้สนิทกับใคร
พอกลับมา ดิฉันมีรูปคนที่ไปร่วมทริปด้วยก็ส่งให้สามีเอาไปให้ป้า หลังกลับมา ดิฉันรู้สึก ไม่ค่อยโอเคกับป้า และคณะของเค้าเท่าไหร่ เพราะดูจะมีคนที่มีสายตา และความรู้สึกที่ไม่ค่อยโอเคกับดิฉัน แต่สามี เป็นคนไม่ค่อยสนใจ หรือสังเกตุอะไร เค้าก็ไม่รู้สึกอะไร แค่บอกดิฉันว่า ก็คิดซะว่าไปเที่ยวกับทัวร์ ปกติ
อีกประมาณไม่ถึงปี ป้าก็ชวนสามีดิฉันไปไหว้พระ ที่ภูฐาน ซึ่ง เป็นประเทศที่เราอยากไปกันอยู่แล้ว ทั้งที่ดิฉันไม่อยากไปกับป้า และคณะของเค้า แต่ก็ตัดสินใจไป
ดิฉันได้คุยกับคนที่ร่วมทริปไปด้วย และส่วนใหญ่ เรียกป้าว่าแม่ ทั้งที่บางคนอายุห่างกันไม่มากเท่าไหร่ ดิฉันถามว่า ร฿จักกับป้าได้อย่างไร คำตอบที่ได้คือ มีคนแนะนำมา และป้าก็ได้ช่วยอะรเค้าบางอย่างโดยที่เค้าต้องนับถือ และเรียกป้าว่าแม่ ดิฉันคิดว่าคงคล้ายๆกับที่ป้าเคยเสนอตัวช่วยดิฉัน
และครั้งนี้เองที่สังเกตุเห็นการกระทำของป้าอย่างชัดเจน
คือเวลาที่ป้าหันมาพูดอะไรกับดิฉัน ก็ทำหน้าตาปกติ ยิ้มแย้มดี แต่พอคุยกันจบ ป้าก็จะทำหน้าเบะปาก แบบเหมือนในละครเลย ไม่มีผิด เวลาที่เรียกถ่ายรูปหลายๆคนในคณะที่ไป พี่ๆคนอื่นก็จะมาเรียกดิฉันและสามีไปถ่ายด้วย แต่ป้าก็ไปซุปซิบว่า ไม่ต้องไปเรียก เราถ่ายกันแค่นี้พอ ดิฉัน งง กับการแสดงออกของเค้ามาก ดิฉันเล่าให้สามีฟัง สามีก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะเวลาที่ป้า คุยกะสามีดิฉันเค้าก็จะดูเป็นปกติ แม่แต่เวลาที่ดิฉันถ่ายรูปให้เค้า พอตอนถ่ายเค้าก็ยิ้มแย้มดี พอหลังจากถ่ายเสร็จก็ทำเบะปากใส่ดิฉันอีก
กลับมาจากทริปภูฐาน ดิฉันก็ได้มีโอกาสเข้าไปที่บ้านป้าครั้งพร้อมสามี ป้าทำเหมือนไม่ชอบหน้าดิฉันมากๆ มีคนยกน้ำเปล่า กะน้ำชามาให้ ซึ่งดิฉันก็ดื่มน้ำชา น้ำเปล่าเก็บไว้ให้สามี ที่เดินออกไปด้านนอก พอสามีเข้ามา ดิฉันก็ยอกว่า ทานน้ำมั๊ย สามีก็ยกแก้วดื่ม ป้าพูดขึ้นทันที โห.....(พูดชื่อสามีดิฉัน)..เชื่อเมียน่าดู ธรรมดามาไม่เคยทานอะไรที่นี่เลย นี่เมียบอกให้ดื่มน้ำก็ดื่มทันที
ซึ่งปกติเวลาเข้ามา ที่นั่นจะมีขนม มีน้ำมาให้ตลอด ดิฉันและสามีก็เคยทานกัน โดยเฉพาะ สามีจะเข้าไปที่นั่นบ่อย เพราะติดกะที่ทำงาน เป็นไปไม่ได้ ที่จะไม่ทานอะไรของที่นั่น ดิฉันไม่เข้าใจว่า ป้าพูดแบบนั้น เพื่ออะไร
ดิฉันบังเอิญได้ยินคนที่ร่วมคณะไปด้วย พูดกับป้า ทำนองว่า ป้ามีองค์ อะไรซักอย่าง แต่คนที่มีองค์ เค้าต้องมีความเมตตา และประกอบบุญกุศลไม่ใช่หรอคะ แต่ส่งที่ดิฉันสัมผัสได้จากป้า มันดูไม่ใช่เลย
ดิฉันอยากทราบว่า ทำไมเค้าต้องอยากให้ใครๆนับถือ และเรียกเค้าว่าแม่
และทำไม เค้ามีอาการแปลกๆกับดิฉัน
ต้องทำอย่างไรกับคนที่คิดว่าตัวเค้าเองมีองค์ แต่บางทีทำอะไรแปลกๆ ทุกวันนี้ดิฉันได้แต่แผ่เมตตาให้ไป เพราะดิฉันนับถือในพระ
ต่อไป ดิฉันขอเรียกแทนหญิงคนนี้ว่า ป้า
ป้าคอยส่งขนมส่งอาหารมาให้ที่ทำงานสามีเป็นประจำ และก็ส่งกันไปส่งกันมา โดยที่ดิฉันไม่ได้เข้าไปรู้จักกับป้าเลย
เรื่องมาเกี่ยวกับดิฉันตรงที่ ตอนนั้นดิฉันกะสามีคิดอยากมีลูก ไปปริกษาแพทย์ ทุกวิถีทางก็ไม่มี ป้าก็คุยกับสามีว่า เค้าจะช่วย(ด้วยวิธีประมาณนั่งกำหนดอะไรให้ ประมาณนี้)แต่ต้องให้ดิฉัน และสามี นับถือ และเนียกป้าเป็นแม่
สามีก็มาเล่าให้ฟัง ดิฉันซึ่งเป็นคนตรงๆ ก็บอกกะสามีไปว่า ไม่เอาหรอก พ่อ แม่ แท้ๆ ดิฉันยังรู้สึกว่า ดูแลท่านได้ไม่ดีพอ จะให้เอาคนอื่นมาเป็นแม่อีกคน ดิฉันไม่เอา
ที่บ้านป้ามักมีเลี้ยงพระบ่อยๆ โดยมีรถทัวร์รับพระมาเป็นคันรถ เพื่อมาเลี้ยงพระที่บ้าน
แล้วดิฉันก็ได้มีโอกาสเข้าไปในบ้านของป้า ในบ้านชั้นล่าง มีแต่รูปปั้นเทพเจ้า อะไรหลายองค์มากๆ โต๊ะหมู่บูชาชุดนึงมีเทพเจ้าหลาย10องค์ ในบ้านนั้น ที่เห็นๆ มี 4 โต๊ะได้ แต่แปลก ดิฉันแทบไม่เห็นพระพุทธรูปในบ้านป้า ป้าจะมีขนมแปลกๆมาให้ทาน เวลาที่เข้าไป ซึ่งดิฉันก็ไม่ได้เข้าไปบ่อยๆ
ต่อมา ป้าก็มาชวนสามี และดิฉันไปทำบุญที่เมืองจีน(ป้าเป็นคนชอบเดินทางไปทำบุญ โดยเฉพาะที่ต่างประเทศ) ดิฉัน และสามีก็ไปด้วย ป้าก็ไปทำพิธีอะไรกับทางวัดที่จีน ซึ่งดูแล้ว แกคงทำบุญเป็นเงินมากโข ถึงได้รับการต้อนรับดีขนาดนั้นจากพระที่ดิฉันทราบมาว่าท่านเป็นพระสังฆราชของมณฑลนั้น ในทริป ไม่มีอะไร นอกจากไปวัด ทำบุญ ทานอาหารดีๆ(ที่ทราบว่าดี เพราะดิฉันก๋เดินทางไปไหนๆบ่อย แต่ต้องยอมรับว่า การต้อนรับครั้งนี้ ดีจริงๆ) การเข้าพักโรงแรม ก็เป็นโรงแรมที่ค่อนข้างดี ห้องใหญ่กว้างขวาง ที่สำคัญ ไม่มีกลิ่นบุหรี่ในห้องพักเลยซึ่งปกติ ที่จีนไม่ใช่แบบนี้
การเดินทางครั้งนี้ ดิฉันและสามีก็ไม่มีความรู้สึกอะไรมาก นอกจากการมาเที่ยวเมืองจีน พร้อมกับการได้ทำบุญ เราก็ถ่ายรูปกันไปมา ปกติ โดยไม่ได้ชวนให้คนที่มาด้วยกันมาถ่ายรูปร่วมกันเท่าไหร่ เพราะไม่ได้สนิทกับใคร
พอกลับมา ดิฉันมีรูปคนที่ไปร่วมทริปด้วยก็ส่งให้สามีเอาไปให้ป้า หลังกลับมา ดิฉันรู้สึก ไม่ค่อยโอเคกับป้า และคณะของเค้าเท่าไหร่ เพราะดูจะมีคนที่มีสายตา และความรู้สึกที่ไม่ค่อยโอเคกับดิฉัน แต่สามี เป็นคนไม่ค่อยสนใจ หรือสังเกตุอะไร เค้าก็ไม่รู้สึกอะไร แค่บอกดิฉันว่า ก็คิดซะว่าไปเที่ยวกับทัวร์ ปกติ
อีกประมาณไม่ถึงปี ป้าก็ชวนสามีดิฉันไปไหว้พระ ที่ภูฐาน ซึ่ง เป็นประเทศที่เราอยากไปกันอยู่แล้ว ทั้งที่ดิฉันไม่อยากไปกับป้า และคณะของเค้า แต่ก็ตัดสินใจไป
ดิฉันได้คุยกับคนที่ร่วมทริปไปด้วย และส่วนใหญ่ เรียกป้าว่าแม่ ทั้งที่บางคนอายุห่างกันไม่มากเท่าไหร่ ดิฉันถามว่า ร฿จักกับป้าได้อย่างไร คำตอบที่ได้คือ มีคนแนะนำมา และป้าก็ได้ช่วยอะรเค้าบางอย่างโดยที่เค้าต้องนับถือ และเรียกป้าว่าแม่ ดิฉันคิดว่าคงคล้ายๆกับที่ป้าเคยเสนอตัวช่วยดิฉัน
และครั้งนี้เองที่สังเกตุเห็นการกระทำของป้าอย่างชัดเจน
คือเวลาที่ป้าหันมาพูดอะไรกับดิฉัน ก็ทำหน้าตาปกติ ยิ้มแย้มดี แต่พอคุยกันจบ ป้าก็จะทำหน้าเบะปาก แบบเหมือนในละครเลย ไม่มีผิด เวลาที่เรียกถ่ายรูปหลายๆคนในคณะที่ไป พี่ๆคนอื่นก็จะมาเรียกดิฉันและสามีไปถ่ายด้วย แต่ป้าก็ไปซุปซิบว่า ไม่ต้องไปเรียก เราถ่ายกันแค่นี้พอ ดิฉัน งง กับการแสดงออกของเค้ามาก ดิฉันเล่าให้สามีฟัง สามีก็ไม่รู้สึกอะไร เพราะเวลาที่ป้า คุยกะสามีดิฉันเค้าก็จะดูเป็นปกติ แม่แต่เวลาที่ดิฉันถ่ายรูปให้เค้า พอตอนถ่ายเค้าก็ยิ้มแย้มดี พอหลังจากถ่ายเสร็จก็ทำเบะปากใส่ดิฉันอีก
กลับมาจากทริปภูฐาน ดิฉันก็ได้มีโอกาสเข้าไปที่บ้านป้าครั้งพร้อมสามี ป้าทำเหมือนไม่ชอบหน้าดิฉันมากๆ มีคนยกน้ำเปล่า กะน้ำชามาให้ ซึ่งดิฉันก็ดื่มน้ำชา น้ำเปล่าเก็บไว้ให้สามี ที่เดินออกไปด้านนอก พอสามีเข้ามา ดิฉันก็ยอกว่า ทานน้ำมั๊ย สามีก็ยกแก้วดื่ม ป้าพูดขึ้นทันที โห.....(พูดชื่อสามีดิฉัน)..เชื่อเมียน่าดู ธรรมดามาไม่เคยทานอะไรที่นี่เลย นี่เมียบอกให้ดื่มน้ำก็ดื่มทันที
ซึ่งปกติเวลาเข้ามา ที่นั่นจะมีขนม มีน้ำมาให้ตลอด ดิฉันและสามีก็เคยทานกัน โดยเฉพาะ สามีจะเข้าไปที่นั่นบ่อย เพราะติดกะที่ทำงาน เป็นไปไม่ได้ ที่จะไม่ทานอะไรของที่นั่น ดิฉันไม่เข้าใจว่า ป้าพูดแบบนั้น เพื่ออะไร
ดิฉันบังเอิญได้ยินคนที่ร่วมคณะไปด้วย พูดกับป้า ทำนองว่า ป้ามีองค์ อะไรซักอย่าง แต่คนที่มีองค์ เค้าต้องมีความเมตตา และประกอบบุญกุศลไม่ใช่หรอคะ แต่ส่งที่ดิฉันสัมผัสได้จากป้า มันดูไม่ใช่เลย
ดิฉันอยากทราบว่า ทำไมเค้าต้องอยากให้ใครๆนับถือ และเรียกเค้าว่าแม่
และทำไม เค้ามีอาการแปลกๆกับดิฉัน