การบังคับใช้ถังคอมโพสิสในสามจังหวัดชายแดนใต้ มาตรการห้ามมีและใช้ถังก๊าซเหล็กขนาด 15 กก.โดยให้เปลี่ยนไปใช้ถังคอมโพสิสขนาด 11 กก.ทดแทนเป็นมาตรการที่สั่งการโดยรองนายกฯพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณโดยมีผู้ไปเสนอโครงการและบอกท่านว่าสามารถลดอันตรายจากระเบิดที่ประกอบในถังก๊าซเหล็กและประชาชนจะไม่ได้รับความเดือดร้อนจากการปรับเปลี่ยนถังก๊าซคอมโพสิส เพราะผู้ค้าก๊าซตามมาตรา7จะเป็นผู้จัดหาถังคอมโพสิสมาเปลี่ยนให้กับผู้ใช้ก๊าซของตนเองฟรี แต่หากผู้ค้าก๊าซตามม.7รายใดไม่พร้อม บริษัทปตท.ก็จะเป็นผู้ดำเนินการแทน ท่านประวิตรจึงเห็นชอบสั่งการให้ทัพภาค4ดำเนินการ
โครงการแลกเปลี่ยนถังก๊าซคอมโพสิสเริ่มมาประมาณ๓ปีกว่าก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากผู้ค้าก๊าซตามม.7รายอื่นไม่พร้อม มีเพียงปตท.รายเดียวที่พร้อมเพราะปตท.ได้ผลิตถังคอมโพสิสออกมาใช้จำนวนมากก่อนเริ่มโครงการนี้ แต่ผู้ใช้ไม่นิยมเนื่องจากราคาแพง(ถังก๊าซเหล็กขนาด15กก.ถังละประมาณ1,300บาท แต่ถังก๊าซคอมโพสิสขนาด11กก.ถังละประมาณ2,000บาท)อีกทั้งบอบบาง,ชำรุดเสียหายง่ายจึงไม่ทนทานต่อการใช้งาน ปตท.จึงมีถังคอมโพสิสค้างสต็อกจำนวนมาก
เวลาต่อมาบริษัทสยามแก๊ส(ใช้เครื่องหมายการค้าสยามแก๊สและยูนิคแก๊ส)แจ้งว่าจะผลิตถังคอมโพสิสนำมาให้ผู้ใช้ก๊าซแลกเพียง25%(8,000ใบ)ของจำนวนถังที่มีอยู่ในท้องตลาด ส่วนที่เหลือก็จะผลิตออกมาขาย บริษัทwp. (ใช้เครื่องหมายการค้าเวิลด์แก๊สและปิคนิค)แจ้งว่าบริษัทไม่พร้อมที่จะผลิตถังคอมโพสิส และยินดีมอบให้ปตท.ดำเนินการแทนโดยการเปลี่ยนโรงบรรจุก๊าซในพื้นที่ให้เป็นยี่ห้อปตท. ปตท.แจ้งโรงบรรจุก๊าซที่มีความประสงค์จเปลี่ยนมาใช้ยี่ห้อปตท.ต้องเป็นผู้ลงทุนจัดหาถังคอมโพสิสเองซึ่งต้องใช้เงินอย่างน้อย20,000,000บาทต่อแห่ง ซึ่งไม่มีโรงบรรจุก๊าซรายใดที่มีความพร้อม
การดำเนินโครงการเปลี่ยนถังก๊าซเหล็ก15กก.เป็นถังคอมโพสิส11กก.ในขณะที่ผู้ค้าก๊าซรายอื่น(ยกเว้นปตท.)ไม่พร้อมและจะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการค้าก๊าซ,ร้านค้าก๊าซ,และประชาชนที่ใช้ก๊าซในพื้นที่เป็นจำนวนมาก แต่กลับเอื้อประโยชน์ให้กับปตท.ผูกขาดการค้าก๊าซใน3จังหวัดชายแดนใต้แต่เพียงผู้เดียวและผู้ผลิตถังคอมโพสิส ฉะนั้นอยากให้ประชาชนลองพิจารณาเหุตผลโครงการบังคับใช้ถังคอมโพสิสว่ามีความจำเป็นเหมาะหรือไม่เพียงใด การห้ามมีหรือใช้ถังเหล็กเป็นการแก้ไขปัญหาปลายเหตุ หากไม่มีถังเหล็ก15กก.ระเบิดก็สามารถประกอบบรรจุในภาชนะเหล็กอย่างอื่นอีกมากมายเช่นถังเหล็กขนาด4กก.,ถังดับเพลิง,ถังน้ำยาแอร์,กล่องเหล็กและท่อเหล็กเป็นต้น เหตุระเบิดควรแก้ที่ต้นเหตุคือออกกฎหมายควบคุมวัสดุที่นำมาประกอบเป็นระเบิดเช่นปุ๋ยยูเรีย,แอมโมเนียมไนเตรทเป็นต้น ซึ่งจะได้ผลมากกว่ามากและจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน อีกทั้งจะไม่ทำให้เกิดการผูกขาดการค้าก๊าซ ฉะนั้นก่อนที่ทัพภาค4จะออกคำสั่งห้ามมีและใช้ถังก๊าซเหล็ก15กก.ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ขอได้โปรดทบทวนผลดี-ผลเสียอีกครั้งและสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ประกอบ
สุดท้ายนี้อยากให้ประชาชนช่วยแสดงความคิดเห็นเพื่อจะได้สะท้อนให้ทัพภาค4ทราบ จากประชาชนผู้ใช้ก๊าซ
คิดยังไงห้ามถังแก๊ส15กิโลกรัมเข้า3จังหวัดชายแดนใต้
โครงการแลกเปลี่ยนถังก๊าซคอมโพสิสเริ่มมาประมาณ๓ปีกว่าก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากผู้ค้าก๊าซตามม.7รายอื่นไม่พร้อม มีเพียงปตท.รายเดียวที่พร้อมเพราะปตท.ได้ผลิตถังคอมโพสิสออกมาใช้จำนวนมากก่อนเริ่มโครงการนี้ แต่ผู้ใช้ไม่นิยมเนื่องจากราคาแพง(ถังก๊าซเหล็กขนาด15กก.ถังละประมาณ1,300บาท แต่ถังก๊าซคอมโพสิสขนาด11กก.ถังละประมาณ2,000บาท)อีกทั้งบอบบาง,ชำรุดเสียหายง่ายจึงไม่ทนทานต่อการใช้งาน ปตท.จึงมีถังคอมโพสิสค้างสต็อกจำนวนมาก
เวลาต่อมาบริษัทสยามแก๊ส(ใช้เครื่องหมายการค้าสยามแก๊สและยูนิคแก๊ส)แจ้งว่าจะผลิตถังคอมโพสิสนำมาให้ผู้ใช้ก๊าซแลกเพียง25%(8,000ใบ)ของจำนวนถังที่มีอยู่ในท้องตลาด ส่วนที่เหลือก็จะผลิตออกมาขาย บริษัทwp. (ใช้เครื่องหมายการค้าเวิลด์แก๊สและปิคนิค)แจ้งว่าบริษัทไม่พร้อมที่จะผลิตถังคอมโพสิส และยินดีมอบให้ปตท.ดำเนินการแทนโดยการเปลี่ยนโรงบรรจุก๊าซในพื้นที่ให้เป็นยี่ห้อปตท. ปตท.แจ้งโรงบรรจุก๊าซที่มีความประสงค์จเปลี่ยนมาใช้ยี่ห้อปตท.ต้องเป็นผู้ลงทุนจัดหาถังคอมโพสิสเองซึ่งต้องใช้เงินอย่างน้อย20,000,000บาทต่อแห่ง ซึ่งไม่มีโรงบรรจุก๊าซรายใดที่มีความพร้อม
การดำเนินโครงการเปลี่ยนถังก๊าซเหล็ก15กก.เป็นถังคอมโพสิส11กก.ในขณะที่ผู้ค้าก๊าซรายอื่น(ยกเว้นปตท.)ไม่พร้อมและจะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการค้าก๊าซ,ร้านค้าก๊าซ,และประชาชนที่ใช้ก๊าซในพื้นที่เป็นจำนวนมาก แต่กลับเอื้อประโยชน์ให้กับปตท.ผูกขาดการค้าก๊าซใน3จังหวัดชายแดนใต้แต่เพียงผู้เดียวและผู้ผลิตถังคอมโพสิส ฉะนั้นอยากให้ประชาชนลองพิจารณาเหุตผลโครงการบังคับใช้ถังคอมโพสิสว่ามีความจำเป็นเหมาะหรือไม่เพียงใด การห้ามมีหรือใช้ถังเหล็กเป็นการแก้ไขปัญหาปลายเหตุ หากไม่มีถังเหล็ก15กก.ระเบิดก็สามารถประกอบบรรจุในภาชนะเหล็กอย่างอื่นอีกมากมายเช่นถังเหล็กขนาด4กก.,ถังดับเพลิง,ถังน้ำยาแอร์,กล่องเหล็กและท่อเหล็กเป็นต้น เหตุระเบิดควรแก้ที่ต้นเหตุคือออกกฎหมายควบคุมวัสดุที่นำมาประกอบเป็นระเบิดเช่นปุ๋ยยูเรีย,แอมโมเนียมไนเตรทเป็นต้น ซึ่งจะได้ผลมากกว่ามากและจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน อีกทั้งจะไม่ทำให้เกิดการผูกขาดการค้าก๊าซ ฉะนั้นก่อนที่ทัพภาค4จะออกคำสั่งห้ามมีและใช้ถังก๊าซเหล็ก15กก.ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ขอได้โปรดทบทวนผลดี-ผลเสียอีกครั้งและสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ประกอบ
สุดท้ายนี้อยากให้ประชาชนช่วยแสดงความคิดเห็นเพื่อจะได้สะท้อนให้ทัพภาค4ทราบ จากประชาชนผู้ใช้ก๊าซ