สวัสดีค่ะ วันนี้เกิดความอัดอั้นตันใจกับระบบขนส่งมวลชนของประเทศไทย โดยเฉพาะรถประจำทาง จนถึงขั้นอยากจะรวบรวมความคิดเห็น ถึงปัญหาต่างๆ และแนวทางการแก้ไข สำหรับผู้ที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะเป็นประจำ
ส่วนตัวเราเป็นคนที่เดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนตลอด เพราะการขับรถส่วนตัวมีค่าใช้จ่ายมากกว่า บวกกับปัญหารถติด (แอบหลับก็ไม่ได้) ปัญหาเรื่องการหาที่จอดรถ ฯลฯ ส่วนใหญ่เราเดินทางด้วยยานพาหนะหลากหลายเช่น มอเตอร์ไซค์รับจ้าง, รถสองแถว, รถตู้โดยสาร, รถประจำทาง, รถไฟฟ้า, รถไฟใต้ดิน ซึ่งเราก็คิดว่าประเทศไทย มีความหลากหลายและค่อนข้างเข้าถึงเกือบทุกจุด (มอเตอร์ไซค์นี่ดีนะ ไม่อยากจะนึกภาพว่าไม่มีมอเตอร์ไซค์แล้วต้องเดินเข้าซอยเป็นกิโล)
เราลองสำรวจกระทู้แล้วก็เห็นว่า มีหลายๆ คนเคยตั้งกระทู้ทำนองนี้มาเยอะแล้ว และมีการเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ หลายประเทศ แต่ครั้งนี้อยากจะลองสรุปปัญหาเป็นข้อๆ และลองช่วยกันคิดหาทางแก้ไขปัญหากัน ดูซิว่ามันจะไม่มีทางแก้เลยจริงๆ เหรอ อย่าเพิ่งไปคิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ เช่น ไม่มีทางหรอก ไม่มีงบประมาณ, ไม่ได้หรอก คนไทยไร้จิตสำนึก, ไม่ได้หรอก ตอนนี้ชินแบบนี้ไปแล้ว ปรับเปลี่ยนยาก, คนที่รายได้น้อย นั่งรถแอร์แพง ฯลฯ บลา บลา บลา
เราทราบว่ามีโครงการและแนวคิดต่างๆ เกี่ยวกับระบบขนส่งที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอยู่เช่นกัน แต่ก็ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่า จะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ เช่นโครงการติดตั้ง GPS บนรถประจำทาง, โครงการบัตรโดยสารร่วมแมงมุม
โครงการทดลอง GPS ในสายรถเมล์
http://www.bangkokbusclub.com/cms/showthread.php?t=12227
ฝันใกล้เป็นจริง? ขสมก. เปิดร่าง TOR เตรียมติดตั้ง GPS, กล้องวงจรปิด, ระบบควบคุมการเดินรถ
http://droidsans.com/bmta-tor-new-system
"บัตรแมงมุม" ตั๋วร่วม ถึงไหนแล้ว? ใช้กับอะไร? เมื่อไร?
http://www.js100.com/en/site/post_share/view/24823
ดีเดย์ 'บัตรแมงมุม' ต้นปี 60
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/715505
*หมายเหตุ หากข้อมูลไม่อัพเดท ต้องขออภัยด้วยค่ะ
มาช่วยกันหาหนทางแก้ไขที่เหมาะสมกับประเทศไทยกันเถอะ เราเชื่อว่าทุกคนเห็นปัญหา แต่ไอเดียในการแก้ไขล่ะ ถึงแม้อาจจะแก้ได้ไม่ทั้งหมด หรือไม่ได้แก้ได้กันในระยะเวลาสั้นๆ แต่อย่างน้อยปรับปรุง หรือพัฒนาให้ดีขึ้นได้หรือไม่
+++ เคยไหม จะเดินทางแต่ละที ต้องโทรไปสอบถาม ขสมก. +++
เวลาที่จะเดินทางในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย จะต้องโทรไปสอบถาม 1348 ทุกครั้ง เพราะเร็วกว่าเสิร์ชหาในเว็บไซต์ (กว่าจะพิมพ์ เน็ทช้าอีก -*-) ป้ายรถประจำทางบอกแต่สายที่ผ่านป้าย แต่ไม่บอกจุดหมายปลายทาง เวลาจะดูข้างรถ ก็ดูไม่ทันอีก แถมถ้าเราไม่รู้จักป้ายที่จะลงว่ามันอยู่ตรงไหนก็ไม่เกิดประโยชน์ ต้องคอยตะโกนถามกระเป๋ารถเมล์เอา
ปัญหานี้เหมือนเกือบจะได้รับการแก้ไข โดยการทำป้ายบอกเส้นทางรถเมล์ แต่...

สังเกตได้ว่าป้ายบอกรายละเอียดนี้ ทำมาไม่เกิดประโยชน์เลย (เราไม่แน่ใจว่ามีคนได้ใช้ประโยชน์จากมันจริงๆ หรือเปล่า) เนื่องจากตัวหนังสือเล็กมาก คนสายตาปกติเราว่ายังอ่านยากเลยอ่ะ แทบมองไม่เห็น ข้อมูลที่ไม่จำเป็นเยอะเกินไป

ขออนุญาตเปรียบเทียบกับประเทศเกาหลี (เพราะเป็นประเทศเดียวที่เคยเดินทางไป) อ่านก่อนอย่าเพิ่งคิดว่าเกาหลีดีทุกอย่าง ส่วนที่ยังไม่ดีก็มีนะ
ข้อดีของรถเมล์ที่เกาหลี
1.บอกสายรถประจำทางที่ผ่าน
2.บอกรายละเอียดเส้นทางเดินรถของรถประจำทางที่ผ่านป้ายนั้นๆ (บางป้ายบอกเวลาเดินรถด้วยนะจ๊ะ)

3.มีจอตัววิ่งบอกสายรถประจำทางที่กำลังจะถึงป้าย เป็นนาที พร้อมเสียงประกาศจากลำโพงที่ป้าย (มีความแม่นยำ)

4.บางป้ายมีจอทัชสกรีนสามารถค้นหาเส้นทางเดินรถได้ด้วย
5.บนรถเมล์มีป้ายบอกเส้นทางเดินรถของสายนั้นๆ ตามจุดต่างๆ (เป็นสติ๊กเปอร์แปะอยู่บนรถ)
6.มีป้ายตัววิ่งพร้อมเสียงประกาศ บอกป้ายที่กำลังจะถึง และป้ายถัดไป ทั้งภาษาเกาหลี และภาษาอังกฤษ (แต่บางคันอาจไม่มี หรือชำรุดบ้าง)

7.ใช้ระบบตั๋วร่วบัตรเติมเงินในการชำระค่าโดยสาร (บัตรเดียวใช้ได้กับการขนส่งสาธารณะทุกประเภท จ่ายเงินสดก็ได้นะคะ)

8.มีพื้นที่นั่งบนรถสำหรับคนพิการที่ต้องใช้รถเข็น (อาจจะไม่มีทุกคัน)
ข้อเสีย
1.ส่วนใหญ่เป็นภาษาเกาหลี มีภาษาอังกฤษเฉพาะป้ายที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว, สถานีรถไฟ หรือสถานที่สำคัญ
2.ป้ายข้างรถเมล์ที่บอกว่าผ่านที่ไหนบ้าง มีแต่ภาษาเกาหลี
3.จอตัววิ่งพร้อมเสียงประกาศ ที่บอกว่ารถเมล์สายไหนกำลังจะมา มีแต่ภาษาเกาหลี
(อื่นๆ ตอนนี้นึกไม่ออก ขอแปะไว้ก่อน ถ้านึกออกจะมาเพิ่ม)
อ้างอิงจากคลิปวิดีโอ
จอโลกเศรษฐกิจ
รายการหนังพาไป
ท่องเที่ยวสะดุดตา
คนไทยดีดี
+++ อยากรู้จัง เมื่อไหร่จะมานะ +++
อีกหนึ่งปัญหาที่เรามักจะเจอบ่อยๆ คือ ไม่สามารถคำนวณเวลาได้ว่า จากจุดที่อยู่ จะไปถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการได้ภายในระยะเวลาเท่าไหร่ หรือถ้าจะต้องรอรถเมล์ เมื่อไหร่สายที่ต้องการจะขึ้น จะมาถึงป้าย
เราเห็นความพยายามในการที่จะแก้ปัญหานี้ ซึ่งได้มีการเริ่มไปบ้างแล้วจากการทดลองติด GPS บนรถประจำทาง แต่ขออธิบายถึงระบบของประเทศเกาหลี ที่เรารู้สึกว่ามันสะดวกมากๆ และควรนำมาเป็นต้นแบบ
ยกตัวอย่างแอปพลิเคชัน Naver Map (เราใช้ประจำแม้จะมีแอปอื่นเช่น Daum Map ด้วย) เราขอพูดถึงข้อเสียก่อน แอปนี้มีเฉพาะภาษาเกาหลีเท่านั้น จึงไม่ค่อยสะดวกสำหรับคนที่ไม่รู้ภาษา ซึ่งถ้าไปเที่ยวจะใช้ Google Map ก็ได้ (ไม่เคยใช้หรอก เห็นคนอื่นเขาใช้กัน) แต่เราพบว่าแอปของประเทศเขามีความแม่นยำกว่า
มาดูหน้าตาของแอปพลิเคชันกันก่อน

คุณสมบัติของแอปพลิเคชัน
- แผนที่ ค้นหาสถานที่ที่ต้องการ
- ค้นหาเส้นทาง จากจุดเริ่มต้น ไปจุดหมายปลายทาง โดยสามารถคำนวณระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทาง ขั้นตอนการเดินทาง ทั้งแบบรถยนต์ส่วนบุคคล, ขนส่งสาธารณะ (รถไฟ, รถเมล์), จักรยาน, และเดินเท้า (ระยะไม่เกิน 8 กิโลเมตร)

- ระบบนำทาง (ไม่เคยใช้)
- รถเมล์ สามารถค้นหาสายรถเมล์ที่ต้องการ พร้อมบอกรายละเอียดป้ายประจำทางที่ผ่าน แสดงทะเบียนรถคันที่กำลังจะถึงป้าย และบอกระยะเวลาที่กำลังจะถึง บอกเวลาให้บริการรถคันแรกและคันสุดท้าย บอกเวลา Real Time



- รถไฟ ค้นหาเส้นสถานีรถไฟเริ่มต้น และจุดหมายปลายทาง บอกเวลาเดินรถเที่ยวแรกและเที่ยวสุดท้ายของแต่ละสถานี คำนวณเวลาจากสถานีเริ่มต้น ถึงสถานีปลายทาง
- แท็กซี่ สามารถเรียกรถแท็กซี่ให้มารับได้ (ไม่เคยใช้)
(หมายเหตุ ถ้ามีโอกาสจะรีวิววิธีการใช้งานแอปเต็มๆ ภายหลังนะคะ)
+++ นักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ ใช้รถเมล์ได้ไหมนะ +++
เวลาขึ้นรถเมล์ตรงป้ายจตุจักร มักจะเจอนักท่องเที่ยวที่มารอขึ้นรถเมล์เพื่อไปหมอชิต 2 หรือดอนเมืองบ่อยครั้ง บางคนก็จะถามคนตรงป้ายเลยว่า ต้องการจะไปที่นี่ ต้องขึ้นรถสายไหน แต่บางครั้งก็เห็นบางคนตะโกนถามกระเป๋ารถเมล์ไปเรื่อยๆ ทุกคันที่จอดป้าย ซึ่งแม้ว่ารถเมล์บางสายก็มีป้ายบอกเป็นภาษาอังกฤษก็จริง แต่บางครั้งมันก็ไม่ชัดเจนมากพอ หรือรถอาจจะวิ่งเร็วมากจนอ่านไม่ทัน ซึ่งเราคิดว่า ถ้าเป็นไปได้ควรปรับปรุงให้ง่ายสำหรับนักท่องเที่ยวมากกว่านี้
+++ บัตรเดียว ใช้ได้ทุกที่ +++
ความเห็นส่วนตัวเชื่อว่า การใช้บัตรเดียวที่สามารถเดินทางได้ทุกประเภทขนส่งมวลชน จะทำให้ประหยัดกำลังคนและค่าใช้จ่ายได้มาก อีกทั้งยังมีความสะดวกด้วย ไม่ต้องมาเสียเวลาควักเงิน ทอนเงิน บางทีเจอแบงค์ใหญ่ก็ไม่รับอีก เวลาจะขึ้นรถไฟฟ้า ต่อรถไฟใต้ดิน ก็ดั๊นนนนน ใช้บัตรคนละแบบ ทำให้ต้องเสียเวลาต่อคิวซื้อตั๋ว แลกเงินอีก ตอนแรกเห็นบัตรแรบบิท คิดว่าจะมาทำหน้าทีนี้ได้ ก็ปรากฏว่าไม่ได้อีก (ก็ยังดี ใช้จ่ายสินค้าอื่นๆ ได้ด้วย)
-----------------------------------------
ทั้งหมดนี้ เราอาจจะรวบรวมได้ไม่ดีนัก เพราะไม่ได้ศึกษา หรือค้นคว้าหาข้อมูลอย่างถ่องแท้ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย จึงอยากรบกวนเพื่อนๆ สมาชิก ช่วยกันเสริม เพิ่มเติม แสดงความคิดเห็นกันค่ะ
ร่วมด้วยช่วยกัน อภิปราย 'ปัญหาขนส่งมวลชนไทย (รถประจำทาง)' พร้อมแนวทางการแก้ไข
ส่วนตัวเราเป็นคนที่เดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนตลอด เพราะการขับรถส่วนตัวมีค่าใช้จ่ายมากกว่า บวกกับปัญหารถติด (แอบหลับก็ไม่ได้) ปัญหาเรื่องการหาที่จอดรถ ฯลฯ ส่วนใหญ่เราเดินทางด้วยยานพาหนะหลากหลายเช่น มอเตอร์ไซค์รับจ้าง, รถสองแถว, รถตู้โดยสาร, รถประจำทาง, รถไฟฟ้า, รถไฟใต้ดิน ซึ่งเราก็คิดว่าประเทศไทย มีความหลากหลายและค่อนข้างเข้าถึงเกือบทุกจุด (มอเตอร์ไซค์นี่ดีนะ ไม่อยากจะนึกภาพว่าไม่มีมอเตอร์ไซค์แล้วต้องเดินเข้าซอยเป็นกิโล)
เราลองสำรวจกระทู้แล้วก็เห็นว่า มีหลายๆ คนเคยตั้งกระทู้ทำนองนี้มาเยอะแล้ว และมีการเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ หลายประเทศ แต่ครั้งนี้อยากจะลองสรุปปัญหาเป็นข้อๆ และลองช่วยกันคิดหาทางแก้ไขปัญหากัน ดูซิว่ามันจะไม่มีทางแก้เลยจริงๆ เหรอ อย่าเพิ่งไปคิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ เช่น ไม่มีทางหรอก ไม่มีงบประมาณ, ไม่ได้หรอก คนไทยไร้จิตสำนึก, ไม่ได้หรอก ตอนนี้ชินแบบนี้ไปแล้ว ปรับเปลี่ยนยาก, คนที่รายได้น้อย นั่งรถแอร์แพง ฯลฯ บลา บลา บลา
เราทราบว่ามีโครงการและแนวคิดต่างๆ เกี่ยวกับระบบขนส่งที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอยู่เช่นกัน แต่ก็ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่า จะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ เช่นโครงการติดตั้ง GPS บนรถประจำทาง, โครงการบัตรโดยสารร่วมแมงมุม
โครงการทดลอง GPS ในสายรถเมล์
http://www.bangkokbusclub.com/cms/showthread.php?t=12227
ฝันใกล้เป็นจริง? ขสมก. เปิดร่าง TOR เตรียมติดตั้ง GPS, กล้องวงจรปิด, ระบบควบคุมการเดินรถ
http://droidsans.com/bmta-tor-new-system
"บัตรแมงมุม" ตั๋วร่วม ถึงไหนแล้ว? ใช้กับอะไร? เมื่อไร?
http://www.js100.com/en/site/post_share/view/24823
ดีเดย์ 'บัตรแมงมุม' ต้นปี 60
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/715505
*หมายเหตุ หากข้อมูลไม่อัพเดท ต้องขออภัยด้วยค่ะ
+++ เคยไหม จะเดินทางแต่ละที ต้องโทรไปสอบถาม ขสมก. +++
เวลาที่จะเดินทางในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย จะต้องโทรไปสอบถาม 1348 ทุกครั้ง เพราะเร็วกว่าเสิร์ชหาในเว็บไซต์ (กว่าจะพิมพ์ เน็ทช้าอีก -*-) ป้ายรถประจำทางบอกแต่สายที่ผ่านป้าย แต่ไม่บอกจุดหมายปลายทาง เวลาจะดูข้างรถ ก็ดูไม่ทันอีก แถมถ้าเราไม่รู้จักป้ายที่จะลงว่ามันอยู่ตรงไหนก็ไม่เกิดประโยชน์ ต้องคอยตะโกนถามกระเป๋ารถเมล์เอา
ปัญหานี้เหมือนเกือบจะได้รับการแก้ไข โดยการทำป้ายบอกเส้นทางรถเมล์ แต่...
สังเกตได้ว่าป้ายบอกรายละเอียดนี้ ทำมาไม่เกิดประโยชน์เลย (เราไม่แน่ใจว่ามีคนได้ใช้ประโยชน์จากมันจริงๆ หรือเปล่า) เนื่องจากตัวหนังสือเล็กมาก คนสายตาปกติเราว่ายังอ่านยากเลยอ่ะ แทบมองไม่เห็น ข้อมูลที่ไม่จำเป็นเยอะเกินไป
ขออนุญาตเปรียบเทียบกับประเทศเกาหลี (เพราะเป็นประเทศเดียวที่เคยเดินทางไป) อ่านก่อนอย่าเพิ่งคิดว่าเกาหลีดีทุกอย่าง ส่วนที่ยังไม่ดีก็มีนะ
ข้อดีของรถเมล์ที่เกาหลี
1.บอกสายรถประจำทางที่ผ่าน
2.บอกรายละเอียดเส้นทางเดินรถของรถประจำทางที่ผ่านป้ายนั้นๆ (บางป้ายบอกเวลาเดินรถด้วยนะจ๊ะ)
5.บนรถเมล์มีป้ายบอกเส้นทางเดินรถของสายนั้นๆ ตามจุดต่างๆ (เป็นสติ๊กเปอร์แปะอยู่บนรถ)
6.มีป้ายตัววิ่งพร้อมเสียงประกาศ บอกป้ายที่กำลังจะถึง และป้ายถัดไป ทั้งภาษาเกาหลี และภาษาอังกฤษ (แต่บางคันอาจไม่มี หรือชำรุดบ้าง)
ข้อเสีย
1.ส่วนใหญ่เป็นภาษาเกาหลี มีภาษาอังกฤษเฉพาะป้ายที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว, สถานีรถไฟ หรือสถานที่สำคัญ
2.ป้ายข้างรถเมล์ที่บอกว่าผ่านที่ไหนบ้าง มีแต่ภาษาเกาหลี
3.จอตัววิ่งพร้อมเสียงประกาศ ที่บอกว่ารถเมล์สายไหนกำลังจะมา มีแต่ภาษาเกาหลี
(อื่นๆ ตอนนี้นึกไม่ออก ขอแปะไว้ก่อน ถ้านึกออกจะมาเพิ่ม)
อ้างอิงจากคลิปวิดีโอ
จอโลกเศรษฐกิจ
รายการหนังพาไป
ท่องเที่ยวสะดุดตา
คนไทยดีดี
+++ อยากรู้จัง เมื่อไหร่จะมานะ +++
อีกหนึ่งปัญหาที่เรามักจะเจอบ่อยๆ คือ ไม่สามารถคำนวณเวลาได้ว่า จากจุดที่อยู่ จะไปถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการได้ภายในระยะเวลาเท่าไหร่ หรือถ้าจะต้องรอรถเมล์ เมื่อไหร่สายที่ต้องการจะขึ้น จะมาถึงป้าย
เราเห็นความพยายามในการที่จะแก้ปัญหานี้ ซึ่งได้มีการเริ่มไปบ้างแล้วจากการทดลองติด GPS บนรถประจำทาง แต่ขออธิบายถึงระบบของประเทศเกาหลี ที่เรารู้สึกว่ามันสะดวกมากๆ และควรนำมาเป็นต้นแบบ
ยกตัวอย่างแอปพลิเคชัน Naver Map (เราใช้ประจำแม้จะมีแอปอื่นเช่น Daum Map ด้วย) เราขอพูดถึงข้อเสียก่อน แอปนี้มีเฉพาะภาษาเกาหลีเท่านั้น จึงไม่ค่อยสะดวกสำหรับคนที่ไม่รู้ภาษา ซึ่งถ้าไปเที่ยวจะใช้ Google Map ก็ได้ (ไม่เคยใช้หรอก เห็นคนอื่นเขาใช้กัน) แต่เราพบว่าแอปของประเทศเขามีความแม่นยำกว่า
มาดูหน้าตาของแอปพลิเคชันกันก่อน
คุณสมบัติของแอปพลิเคชัน
- แผนที่ ค้นหาสถานที่ที่ต้องการ
- ค้นหาเส้นทาง จากจุดเริ่มต้น ไปจุดหมายปลายทาง โดยสามารถคำนวณระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทาง ขั้นตอนการเดินทาง ทั้งแบบรถยนต์ส่วนบุคคล, ขนส่งสาธารณะ (รถไฟ, รถเมล์), จักรยาน, และเดินเท้า (ระยะไม่เกิน 8 กิโลเมตร)
- ระบบนำทาง (ไม่เคยใช้)
- รถเมล์ สามารถค้นหาสายรถเมล์ที่ต้องการ พร้อมบอกรายละเอียดป้ายประจำทางที่ผ่าน แสดงทะเบียนรถคันที่กำลังจะถึงป้าย และบอกระยะเวลาที่กำลังจะถึง บอกเวลาให้บริการรถคันแรกและคันสุดท้าย บอกเวลา Real Time
- รถไฟ ค้นหาเส้นสถานีรถไฟเริ่มต้น และจุดหมายปลายทาง บอกเวลาเดินรถเที่ยวแรกและเที่ยวสุดท้ายของแต่ละสถานี คำนวณเวลาจากสถานีเริ่มต้น ถึงสถานีปลายทาง
- แท็กซี่ สามารถเรียกรถแท็กซี่ให้มารับได้ (ไม่เคยใช้)
(หมายเหตุ ถ้ามีโอกาสจะรีวิววิธีการใช้งานแอปเต็มๆ ภายหลังนะคะ)
+++ นักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ ใช้รถเมล์ได้ไหมนะ +++
เวลาขึ้นรถเมล์ตรงป้ายจตุจักร มักจะเจอนักท่องเที่ยวที่มารอขึ้นรถเมล์เพื่อไปหมอชิต 2 หรือดอนเมืองบ่อยครั้ง บางคนก็จะถามคนตรงป้ายเลยว่า ต้องการจะไปที่นี่ ต้องขึ้นรถสายไหน แต่บางครั้งก็เห็นบางคนตะโกนถามกระเป๋ารถเมล์ไปเรื่อยๆ ทุกคันที่จอดป้าย ซึ่งแม้ว่ารถเมล์บางสายก็มีป้ายบอกเป็นภาษาอังกฤษก็จริง แต่บางครั้งมันก็ไม่ชัดเจนมากพอ หรือรถอาจจะวิ่งเร็วมากจนอ่านไม่ทัน ซึ่งเราคิดว่า ถ้าเป็นไปได้ควรปรับปรุงให้ง่ายสำหรับนักท่องเที่ยวมากกว่านี้
+++ บัตรเดียว ใช้ได้ทุกที่ +++
ความเห็นส่วนตัวเชื่อว่า การใช้บัตรเดียวที่สามารถเดินทางได้ทุกประเภทขนส่งมวลชน จะทำให้ประหยัดกำลังคนและค่าใช้จ่ายได้มาก อีกทั้งยังมีความสะดวกด้วย ไม่ต้องมาเสียเวลาควักเงิน ทอนเงิน บางทีเจอแบงค์ใหญ่ก็ไม่รับอีก เวลาจะขึ้นรถไฟฟ้า ต่อรถไฟใต้ดิน ก็ดั๊นนนนน ใช้บัตรคนละแบบ ทำให้ต้องเสียเวลาต่อคิวซื้อตั๋ว แลกเงินอีก ตอนแรกเห็นบัตรแรบบิท คิดว่าจะมาทำหน้าทีนี้ได้ ก็ปรากฏว่าไม่ได้อีก (ก็ยังดี ใช้จ่ายสินค้าอื่นๆ ได้ด้วย)
-----------------------------------------
ทั้งหมดนี้ เราอาจจะรวบรวมได้ไม่ดีนัก เพราะไม่ได้ศึกษา หรือค้นคว้าหาข้อมูลอย่างถ่องแท้ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย จึงอยากรบกวนเพื่อนๆ สมาชิก ช่วยกันเสริม เพิ่มเติม แสดงความคิดเห็นกันค่ะ