หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ประเพณีการโยนช่อดอกไม้ของเจ้าสาว มันมีมาจากไหนกันนะ ?
กระทู้สนทนา
พิธีแต่งงาน
แต่งงาน
ความเชื่อส่วนบุคคล
ชุดแต่งงาน
เพื่อนเจ้าสาว
ประเพณีการโยนช่อดอกไม้ของเจ้าสาว มันมีมาจากไหนกันนะ ?
จากการไปสืบค้นข้อมูลมาพอสรุปได้ว่า ประเพณีการโยนช่อดอกไม้ของเจ้าสาวสมัยก่อนยังไม่มีประเพณีการโยนช่อดอกไม้
แต่จะเป็นการถือดอกไม้แทน จะมีส่วนประกอบเช่น กระเทียม เครื่องเทศ สมุนไพร หรือพวกมีกลิ่นแรงๆ เชื่อกันว่าสามารถป้องกันปีศาจ
วิญญาณร้ายไม่ให้เข้าใกล้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ เพราะคนที่กำลังจะแต่งงานเป็นเรื่องของการกำเนิดชีวิตใหม่
ต่อมาสมัย กรีก โรมัน ก็เปลี่ยนจากการถือดอกไม้เป็นใช้สวมมงกุฏใบไม้ไว้ที่ศรีษะแทน มีส่วนประกอบจากใบมะกอก ใบมะกอก
หมายถึง ต้นไม้เทพเจ้า เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ความหวัง ความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งในมงกุฏดอกไม้จะยังมีเครื่องเทศอยู่ด้วย
ที่มา
http://www.ojgold.co.th/
พอมาช่วงยุคกลาง เริ่มเกิดประเพณีอย่างหนึ่ง คือการเชื่อว่าถ้าได้ชิ้นส่วน ของชุดเจ้าสาว รวมถึงสาย Garter หรือ สายรัดโคนขา
ที่มา
http://boards.weddingbee.com/topic/show-me-your-garter/
และชุดแต่งงานก็ถือเป็นเครื่องรางนำโชคสำหรับหญิงคนอื่น จึงเกิดการแย่งชิงชุดถึงขั้นฉีกเป็นชิ้นๆจนรุ่งริ่งก็มี
ที่มา
https://rebride.wordpress.com/
เพื่อเป็นการไม่ให้แขกมารุมเจ้าสาวมากเกินไป เจ้าสาวทั้งหลายเลยเริ่มหาสิ่งอื่นๆโยนแทน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
หนึ่งในนั้นสายรัดโคนขา ต่อมาจึงเป็นช่อดอกไม้ และการโยนช่อดอกไม้จึงกลายเป็นความหมายที่ว่า คุณจะได้รับความโชคดีไป
เพราะดอกไม้เดิมมันเป็นของขับไล่พวกผีปีศาจ เป็นเครื่องราง พอได้รับไปจะมีโชค และอาจจะได้รับโอกาสแต่งงานด้วย
ทั้งนี้การโยนช่อดอกไม้ยังปลอดภัยกว่าการโยนสายรัดโคนขาอีกด้วย เพราะแขกบางคนถึงกับพยายามมาแย่งขณะที่เจ้าสาวยังใส่อยู่ก็มี
คู่บ่าวสาวยุคใหม่บางคู่อาจจะงดการโยนช่อดอกไม้ เพราะสำหรับแขกบางคนอาจจะรู้สึกอึดอัดใจ
เพราะประสงค์ที่จะไม่แต่งงานอยู่แล้วแต่ต้องออกมายืนรับ
ส่วนความเชื่อที่ว่า หากได้รับช่อดอกไม้จากเจ้าสาวมากกว่า 1 ช่อจะขึ้นคาน ??
อันนี้ยังไม่มีอะไรระบุไว้อย่างชัดเจน แต่โดยส่วนตัว คิดว่าการที่ได้ขึ้นไปบนเวทีให้แขกคนอื่นที่โสดได้มองเห็น
ก็เป็นการเพิ่มโอกาสให้มีคนมารู้จักได้มากขึ้นนะครับ 1 ในนั้นอาจจะเป็นว่าที่ เจ้าบ่าวคนต่อไปก็เป็นได้ ^^
ลองมาชมจังหวะรับดอกไม้ของเหล่าสาวงามกันดีกว่าครับ ว่าพวกเธอจะดีใจกันขนาดไหน
แล้วคุณล่ะ ได้ช่อดอกไม้แล้วรึยัง
ที่มาภาพ
http://www.facebook.com/NuttomakiPhotography
ที่มาบทความ สรุปรวมจาก
http://www.thairath.co.th/content/486044
และ
https://pongphun.wordpress.com
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ความฝันแปลก มีความหมายไหม?
เมื่อคืน ผมได้ฝันเรื่องราวที่แปลกมาก ชายเลยเรื่องมีอยู่ว่า ผมได้ฝันว่าผมไป ทัศนศึกษาด้วยรถบัสกับโรงเรียน ที่ๆเป็นวัด แต่ในฝันตอนนั้นเป็นตอนกลางคือ ผมฝันว่าเพื่อนผมเสียชีวิตแต่ไม่รู้ว่าใครเสียนะ ผมอยู่
สมาชิกหมายเลข 7825275
ดีใจที่รับช่อดอกไม้ในงานแต่งได้. แต่รู้สึกผิดต่อเจ้าบ่าวเจ้าสาว
ถ้าพี่ทั้งสองได้มาอ่าน เค้าอยากบอกว่า เค้าขอโทษ เค้าไม่ได้ตั้งใจ. และขออวยพรให้พี่ทั้งสองมีความสุขตลอดไปค่ะ เรื่องของเรื่องคือ วันนี้ลูกค้าชวนเราไปงานแต่งของคนแถวบ้าน เราก็ไปร่วมงานตั้งแต่เช้า พอถึงช
Minta_มินตรา
ใครเคยรับช่อดอกไม้เจ้าสาวได้บ้าง?
เวลาไปงานแต่งงานสิ่งที่สาวโสดรอคอยก็คือตอนที่เจ้าสาวโยนช่อดอกไม้ เคยได้ยินมาว่า ใครที่รับดอกไม้จากเจ้าสาวได้ ปีหน้าจะได้แต่งงาน... มีใครเคยรับช่อดอกไม้ได้ แล้วได้แต่งโดยบังเอิญมั๊ยคะ อยากรู้ๆ เพราะ
Tanniesu
ผู้ชายสามารถรับช่อดอกไม้ที่เจ้าสาวโยนมาได้ไหมครับ?
คือ สงสัยจริงครับ เพราะส่วนมากจะมีแต่สาวโสดออกไปกัน แต่บางทีผู้ชายก็อยากได้เหมือนกันนะ 555
สมาชิกหมายเลข 3568882
ปกติแล้วเจ้าสาว จะต้องออกค่าอะไรให้เพื่อนเจ้าสาวบ้างคะ
เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าห้อง ค่าชุด ค่ารถรับส่งไปสถานที่ บางงาน เหมือนเพื่อนไม่ได้ออกค่าชุดให้ แต่บอกร้านมาว่าเช่าจากร้านนี้ แบบนี้ค่ะ เราต้องไปดีลเช่าเอง กับหาผ้าให้ แล้วเพื่อนเจ้าสาวมาตัดเอง
Bababubblequeen
แชร์ประสบการณ์ การเข้าร่วมงานแต่งแบบเกาหลี เกาใจ
หลายคนที่เป็นแฟนซีรี่ส์เกาหลี อาจจะคุ้นหรือผ่านตาพิธีการแต่งงานในเร่องมาบ้าง เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยเห็น เคยดู แต่ครั้งนี้เราได้มีโอกาสได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของงานแต่งเกาหลี เลยอยากจะแชร์ให้หลายๆคน
Orangeyui
เคยอยากแต่งงานเพราะเห็นคนรอบข้างแต่งงานกันหมดแล้วไหม?
ช่วงนี้คนแต่งงานกันเยอะมาก เพื่อนๆก็มีแฟนและแต่งงานกันไปเยอะ ข้างบ้านเราก็แต่งไปแล้ว 2 รอบ เขาดูมีความสุขกันจัง มีดนตรีมีเพลงให้เต้นให้สังสรรค์ เราก็พล้อยยิ้มตามไปด้วย ในปัจจุบันการแต่งงานก็คงจะเป็นตั
สมาชิกหมายเลข 5970066
ประสบการณ์การจัดงานแต่งเอง ตามแบบฉบับเจ้าสาว D I Y
ประสบการณ์การจัดงานแต่งเอง ตามแบบฉบับเจ้าสาว D I Y สวัสดีค่ะชาวพันทิพทุกท่าน ฤกษ์งามยามดีขอประเดิมUserด้วยรีวิวกระทู้งานแต่งของเราเองค่ะ เราอยากแชร์ประสบการณ์งานแต่งงานของเราตามแบบฉบับเจ้าสาว DIY
สมาชิกหมายเลข 2029745
มีใครบ้างที่แต่งงานแล้วตั้งสินสอดสูงอวดคนอื่น ทั้ง ๆ ที่ตกลงสินสอดจริงไว้ต่ำ
ประเพณีการแต่งงานที่เจ้าบ่าวต้องไปสู่ขอเจ้าสาว ผมทราบมาจากเพื่อน ๆ บางคู่ ที่สินสอดเป็นล้าน แต่เพื่อนแอบมากระซิบบอกในภายหลังที่ผ่านมาหลายปีแล้ว ว่าจริง ๆ แล้วมีการตกลงกันไปก่อนว่า ฝ่ายเจ้าสาวไม่เอาสิ
who_am_i(J)
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
พิธีแต่งงาน
แต่งงาน
ความเชื่อส่วนบุคคล
ชุดแต่งงาน
เพื่อนเจ้าสาว
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 21
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ประเพณีการโยนช่อดอกไม้ของเจ้าสาว มันมีมาจากไหนกันนะ ?
จากการไปสืบค้นข้อมูลมาพอสรุปได้ว่า ประเพณีการโยนช่อดอกไม้ของเจ้าสาวสมัยก่อนยังไม่มีประเพณีการโยนช่อดอกไม้
แต่จะเป็นการถือดอกไม้แทน จะมีส่วนประกอบเช่น กระเทียม เครื่องเทศ สมุนไพร หรือพวกมีกลิ่นแรงๆ เชื่อกันว่าสามารถป้องกันปีศาจ
วิญญาณร้ายไม่ให้เข้าใกล้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ เพราะคนที่กำลังจะแต่งงานเป็นเรื่องของการกำเนิดชีวิตใหม่
ต่อมาสมัย กรีก โรมัน ก็เปลี่ยนจากการถือดอกไม้เป็นใช้สวมมงกุฏใบไม้ไว้ที่ศรีษะแทน มีส่วนประกอบจากใบมะกอก ใบมะกอก
หมายถึง ต้นไม้เทพเจ้า เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ความหวัง ความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งในมงกุฏดอกไม้จะยังมีเครื่องเทศอยู่ด้วย
ที่มา http://www.ojgold.co.th/
พอมาช่วงยุคกลาง เริ่มเกิดประเพณีอย่างหนึ่ง คือการเชื่อว่าถ้าได้ชิ้นส่วน ของชุดเจ้าสาว รวมถึงสาย Garter หรือ สายรัดโคนขา
ที่มา http://boards.weddingbee.com/topic/show-me-your-garter/
และชุดแต่งงานก็ถือเป็นเครื่องรางนำโชคสำหรับหญิงคนอื่น จึงเกิดการแย่งชิงชุดถึงขั้นฉีกเป็นชิ้นๆจนรุ่งริ่งก็มี
ที่มา https://rebride.wordpress.com/
เพื่อเป็นการไม่ให้แขกมารุมเจ้าสาวมากเกินไป เจ้าสาวทั้งหลายเลยเริ่มหาสิ่งอื่นๆโยนแทน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
หนึ่งในนั้นสายรัดโคนขา ต่อมาจึงเป็นช่อดอกไม้ และการโยนช่อดอกไม้จึงกลายเป็นความหมายที่ว่า คุณจะได้รับความโชคดีไป
เพราะดอกไม้เดิมมันเป็นของขับไล่พวกผีปีศาจ เป็นเครื่องราง พอได้รับไปจะมีโชค และอาจจะได้รับโอกาสแต่งงานด้วย
ทั้งนี้การโยนช่อดอกไม้ยังปลอดภัยกว่าการโยนสายรัดโคนขาอีกด้วย เพราะแขกบางคนถึงกับพยายามมาแย่งขณะที่เจ้าสาวยังใส่อยู่ก็มี
คู่บ่าวสาวยุคใหม่บางคู่อาจจะงดการโยนช่อดอกไม้ เพราะสำหรับแขกบางคนอาจจะรู้สึกอึดอัดใจ
เพราะประสงค์ที่จะไม่แต่งงานอยู่แล้วแต่ต้องออกมายืนรับ
ส่วนความเชื่อที่ว่า หากได้รับช่อดอกไม้จากเจ้าสาวมากกว่า 1 ช่อจะขึ้นคาน ??
อันนี้ยังไม่มีอะไรระบุไว้อย่างชัดเจน แต่โดยส่วนตัว คิดว่าการที่ได้ขึ้นไปบนเวทีให้แขกคนอื่นที่โสดได้มองเห็น
ก็เป็นการเพิ่มโอกาสให้มีคนมารู้จักได้มากขึ้นนะครับ 1 ในนั้นอาจจะเป็นว่าที่ เจ้าบ่าวคนต่อไปก็เป็นได้ ^^
ลองมาชมจังหวะรับดอกไม้ของเหล่าสาวงามกันดีกว่าครับ ว่าพวกเธอจะดีใจกันขนาดไหน
แล้วคุณล่ะ ได้ช่อดอกไม้แล้วรึยัง
ที่มาภาพ
http://www.facebook.com/NuttomakiPhotography
ที่มาบทความ สรุปรวมจาก
http://www.thairath.co.th/content/486044
และ
https://pongphun.wordpress.com