ประเพณีการโยนช่อดอกไม้ของเจ้าสาว มันมีมาจากไหนกันนะ ?

ประเพณีการโยนช่อดอกไม้ของเจ้าสาว มันมีมาจากไหนกันนะ ? เม่าเศร้า


จากการไปสืบค้นข้อมูลมาพอสรุปได้ว่า ประเพณีการโยนช่อดอกไม้ของเจ้าสาวสมัยก่อนยังไม่มีประเพณีการโยนช่อดอกไม้

แต่จะเป็นการถือดอกไม้แทน จะมีส่วนประกอบเช่น กระเทียม เครื่องเทศ สมุนไพร หรือพวกมีกลิ่นแรงๆ เชื่อกันว่าสามารถป้องกันปีศาจ

วิญญาณร้ายไม่ให้เข้าใกล้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ เพราะคนที่กำลังจะแต่งงานเป็นเรื่องของการกำเนิดชีวิตใหม่

เม่าปัดรังควาน

ต่อมาสมัย กรีก โรมัน ก็เปลี่ยนจากการถือดอกไม้เป็นใช้สวมมงกุฏใบไม้ไว้ที่ศรีษะแทน มีส่วนประกอบจากใบมะกอก ใบมะกอก

หมายถึง ต้นไม้เทพเจ้า เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ความหวัง ความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งในมงกุฏดอกไม้จะยังมีเครื่องเทศอยู่ด้วย


ที่มา http://www.ojgold.co.th/

พอมาช่วงยุคกลาง เริ่มเกิดประเพณีอย่างหนึ่ง คือการเชื่อว่าถ้าได้ชิ้นส่วน ของชุดเจ้าสาว รวมถึงสาย Garter หรือ สายรัดโคนขา


ที่มา http://boards.weddingbee.com/topic/show-me-your-garter/

และชุดแต่งงานก็ถือเป็นเครื่องรางนำโชคสำหรับหญิงคนอื่น จึงเกิดการแย่งชิงชุดถึงขั้นฉีกเป็นชิ้นๆจนรุ่งริ่งก็มี


ที่มา https://rebride.wordpress.com/

เพื่อเป็นการไม่ให้แขกมารุมเจ้าสาวมากเกินไป เจ้าสาวทั้งหลายเลยเริ่มหาสิ่งอื่นๆโยนแทน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ

หนึ่งในนั้นสายรัดโคนขา ต่อมาจึงเป็นช่อดอกไม้ และการโยนช่อดอกไม้จึงกลายเป็นความหมายที่ว่า คุณจะได้รับความโชคดีไป

เพราะดอกไม้เดิมมันเป็นของขับไล่พวกผีปีศาจ เป็นเครื่องราง พอได้รับไปจะมีโชค และอาจจะได้รับโอกาสแต่งงานด้วย

ทั้งนี้การโยนช่อดอกไม้ยังปลอดภัยกว่าการโยนสายรัดโคนขาอีกด้วย เพราะแขกบางคนถึงกับพยายามมาแย่งขณะที่เจ้าสาวยังใส่อยู่ก็มี

เม่าตกใจ

คู่บ่าวสาวยุคใหม่บางคู่อาจจะงดการโยนช่อดอกไม้ เพราะสำหรับแขกบางคนอาจจะรู้สึกอึดอัดใจ

เพราะประสงค์ที่จะไม่แต่งงานอยู่แล้วแต่ต้องออกมายืนรับ


ส่วนความเชื่อที่ว่า หากได้รับช่อดอกไม้จากเจ้าสาวมากกว่า 1 ช่อจะขึ้นคาน ?? เม่านอนไม่หลับ

อันนี้ยังไม่มีอะไรระบุไว้อย่างชัดเจน แต่โดยส่วนตัว คิดว่าการที่ได้ขึ้นไปบนเวทีให้แขกคนอื่นที่โสดได้มองเห็น

ก็เป็นการเพิ่มโอกาสให้มีคนมารู้จักได้มากขึ้นนะครับ 1 ในนั้นอาจจะเป็นว่าที่ เจ้าบ่าวคนต่อไปก็เป็นได้ ^^ เม่าบัลเล่ต์

ลองมาชมจังหวะรับดอกไม้ของเหล่าสาวงามกันดีกว่าครับ ว่าพวกเธอจะดีใจกันขนาดไหน
























แล้วคุณล่ะ ได้ช่อดอกไม้แล้วรึยัง เม่าเริงร่า

ที่มาภาพ

http://www.facebook.com/NuttomakiPhotography




ที่มาบทความ สรุปรวมจาก

http://www.thairath.co.th/content/486044
และ
https://pongphun.wordpress.com

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่