ความรักของผมมันไม่พอจริงๆใช่ไหม

กระทู้คำถาม
สวัสดีครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาเขียนลงในพันทิป คือจะบอกว่าผมทำอะไรไม่ถูกก็ได้ นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ผมสามารถทำได้เพื่อให้ตัวผมผ่อนคลายความเครียดไปได้บ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ผมนอนไม่หลับเลยสักคืน ไข้ขึ้นสูง บางทีผมก็เวียนหัวแล้วก็อวก อาจจะมาจากผมพักผ่อนน้อยเพราะนอนไม่หลับ มันมีคำบางคำที่วนอยู่ในหัวผม ผมไม่สามารถหยุดมันได้ ผมดื่มเหล้าก็แล้ว เล่นดนตรี เล่นเกม ดูหนัง ทำงาน ผมก็ยังลืมสิ่งที่มันวนอยู่ในหัวผมไม่ได้ ปัญหาของผมก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรนะครับ ผมจะเล่าให้ฟัง ตั้งแต่แรกว่าความรักของผมที่มีให้ผู้หญิงคนนี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง

ในระหว่างช่วงปิดเทอมใหญ่ ตอนนั้นผมอยู่ ม.3 โรงเรียนก็ปิด 3 เดือนยาวๆ ผมเรียนอยู่โรงแห่งนึงในกรุงเทพ ซึ่งจากบ้านที่ผมอาศัพอยู่ ก็ค่อนข้างไกลจากโรงเรียนที่ผมเรียนอยู่มาก ผมเลยไม่ค่อยมีเพื่อนที่อยู่โรงเรียนเดียวกันเท่าไหร่ แต่ผมกลับมีเพื่อนในหมู่บ้าน ที่เรียนอยู่โรงเรียนใกล้ๆแถวที่ผมอาศัยอยู่มากกว่า ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนนึง ซึ่งอยู่หมู่บ้านเดียวกันกับผม เพื่อนผมคนนี่ก็เรียนอยู่โรงเรียนแถวบ้านนี่ละครับ คราวนี่เพื่อนผมคนนี่มีทริปที่จะไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆที่โรงเรียนของเค้า เค้าก็เลยชวนผมไปด้วย ซึ่งผมเองนอกจากเพื่อนที่หมู่บ้านแล้วก็ไม่มีเพื่อนที่ไหน ผมรีบตอบตกลงเลยตอนนั้นเพราะเบื่อๆอยู่แล้ว อีกอย่างคือ ผมก็รู้จักกับเพื่อนของเพื่อนผมบางคนมาก่อนหน้านี่ ก็เลยจะถือโอกาสนี่ไปเจอด้วยเลย พอถึงวันที่เราจะต้องไปเที่ยวทะเลกัน ผมและเพื่อนก็ออกจากบ้านกันแต่เช้า พวกเราเหมารถตู้กันไป มีประมาณ10กว่าคนได้ครับ ทุกคนที่มาก็มาจากโรงเรียนเดียวกัน ห้องเดียวกันหมดเลย ผมก็รู้สึกตึงๆบ้างเป็นบางทีเพราะมีผมคนเดียวที่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับคนอื่นๆ แต่ด้วยความเป็นกันเอง คุยเก่งของผม ผมก็คุยได้กับทุกคนสบายๆ ตอนนั้นพวกเราใกล้จะถึงทะเลกันแล้วครับ ผมนั่งอยู่หลังสุดทางขวาเลย ตอนนั้นผมจำได้ว่าผมกินข้าวเหนียวไป ผมง่วงมากๆ แต่นอนไม่หลับเลยครับ เพราะเสียงผู้หญิงที่อยู่แถวหน้าสุดของรถมันแบบว่า ไม่หยุดเลยและเธอก็พูดดังมาก ผมนึกในใจ กูโคตรลำคานเลยสลัดด แต่ก็เพื่อนๆกันทั้งนั้น ก็ฝืนหลับตานอนต่อไป จนพวกเราทั้งหมดถึงทะเลครับ ทุกคนก็ลงไปซื้อเครื่องดื่มบ้าง ไปเล่นทะเลบ้าง ส่วนผม บรรยากาศตอนนั้นจำได้แม่นเลย รู้สึกแบบว่า ไม่ได้ออกจากบ้านมานานมาก เลยขอสูดอากาศสดชื่นอยู่ที่ชายหาดก่อนเลยครับ เพื่อนๆทุกคนลงไปเล่นที่ชายหาดกัน จำผู้หญิงที่ผมพูดถึงได้ไหมครับ นั่งอยู่แถวหน้าสุดของรถ เสียงดังๆ แว็ดๆ ที่ทำให้ผมนอนไม่หลับ นั้นละครับ คือจุดเริ่มต้นของความรักของผม เธอกำลังอยู่ที่ชายหาดครับ เดินคุยอะไรไม่รู้อยู่กับเพื่อนของเธอ วินาทีนั้นผมก็นั่งดูทะเลไปเพลินๆ ดันหันไปเจอเธอตอนลมปะทะเข้าหน้าเธอพอดี ผมเธอปลิวสวยมากครับ ผมเห็นเธอจากด้านข้างครับ ตอนนั้นหัวใจผมเต้นแรงขึ้นมาเฉยๆ ไม่รู้ทำไม นั้นคงเป็นความรู้สึกชอบใครสักคนครับ แต่ตอนนั้นผมไม่รู้ตัวว่าผมชอบเธอ หลังจากนั้นผมก็คอยแอบมองเธอตลอดทริปเลยครับ เราได้คุยกันบ้าง ตามภาษาเพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกันครับ ทริปนั้นพวกเราไปเช้า-เย็นกลับ ครับ เพื่อนยังเด็กกันอยู่ พ่อแม่ไม่ให้ค้างครับ แต่เรื่องมันพีคตรงที่ว่าผมสังเกตุมานานแล้ว ว่าเธอดูสนิทกับเพื่อนผู้ชายในกลุ่มอีกคนนึง ผมก็คอยตามดูไปเรื่อยๆ จนผมเห็นเธอหอมแก้มเพื่อนผู้ชายคนนั้น ผมก็รู้ทันทีว่า สัส เค้าเป็นแฟนกัน อารมณ์นั้นผมยังงงๆอยู่ ว่า เอิ่ม กูจะยังไงต่อว่ะเนี่ย ผมคิดแล้วคิดอีก บอกตัวเองว่า เธอมีแฟนแล้ว อย่าไปมองเธอเลย อีกอย่างผมก็จีบใครไม่เป็น ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยครับ หน้าตาผม บ้านๆ ไม่หล่อเท่าแฟนเธอครับ ผมคิดแบบนั้น แต่งตัวก็สู้ใครไม่ได้ ก็พยายามเลิกคิดเรื่องเธอคนนั้นไปครับ จนเวลาล่วงเลยไปถึงตอนเย็น ก็ถึงเวลาที่พวกเราจะต้องกลับครับ ผมก็ยังคิดไม่เลิก แอบมองเธอตลอดทาง กลับมาถึงบ้านครับ ก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างชีวิตผมช่วงนี่ แต่ก็ยังเหลือเวลาอีกเยอะกว่าจะเปิดเทอม ทุกครั้งที่เพื่อนผมไปเที่ยวผมก็พยายามออกไปด้วยครับ เผื่อว่าจะได้เจอเธอ เป็นอย่างนี่เสมอๆครับ ผลก็เจอบ้างไม่เจอบ้างครับ แล้วแต่โอกาสและเวลา จนโชคชะตาเล่นตลกกับผม ในช่วงปิดเทอม ถ้าเรียนต่อ ม.4 ก็ต้องมีการไปมอบตัวเข้าเรียน ส่วนตัวผม ไม่ได้เรียนต่อ ม.4 แต่ผมจะไปเรียนต่อ สายอาชีวะ หรือ ต่อ ปวช. ครับ เรื่องมีอยู่ว่าผมกับแฟนของเธอได้เจอกันที่หมู่บ้านครับ จำไม่ได้ว่าแฟนของเธอมาทำไม แต่เราก็ได้คุยกัน แฟนของเธอดันไปสอบที่เดียวกับผม แต่สอบไม่เท่าไหร่ครับ ประกาศผลออกมา ดันอยู่ห้องเดียวกันอีก โห่ มีตั้งหลายห้อง ดันอยู่ห้องเดียวกันอีก ทุกคนเข้าใจความรู้สึกแบบว่า แอบชอบแฟนเพื่อนปะครับ กลืนไม่เข้า คายไม่ออกอะครับ จะทำหน้ายังไงเวลาคุยกับมัน ผมยังทำหน้าลำบากเลย ก็ตามนี้ครับ พอเปิดเรียนผมและก็แฟนของเธอก็เริ่มเรียนไปตามปกติ ผมกับแฟนของเธอกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในระยะเวลาไม่นาน เพราะไป-กลับด้วยกันตลอด ตัวนี่ติดกันเลยครับ แต่ต่างกันสุดขั๋ว มันหล่อ เท่ มีสไตล์ เรียนเก่ง ผู้หญิงนี่ชอบมันเยอะครับ ส่วนผม ถามว่าหล่อไหม คงตอบว่า ไม่ขี้เหล่แล้วกันครับ พอดูได้ แต่เป็นคนบ้านๆ โก็ะๆครับ แต่อะไรซุ่มซ้ามตลอด เรียนได้เกรดอยู่ประมาณ2เนี่ยละครับ ไม่เคยแตะ3เลย แม่ผมก็เคยพูดไว้ ถ้าผมเรียนแตะ3พายุจะเข้าครับ ผมละเหนื่อยใจ มันต่างกันมากครับ ณ ตอนนี้ แฟนของเธอกับเธอ ก็ยังคบกันอยู่ครับ ผมก็มีโอกาสหลายครั้งที่ไปกับแฟนของเธอแล้วได้เจอเธอด้วย แต่บางที่ก็ไม่อยากไปนะครับ เห็นภาพเค้าจับมือกัน แล้วมันบาดครับ หลังๆแฟนของเธอชวนผมไป ผมก็ไม่ค่อยไปแล้วครับ เวลาก็ผ่านไปหลายเดือน จนแฟนของเธอเริ่มนอกใจเธอ ผมเองก็รู้เพราะคนที่แฟนของเธอคุยด้วยก็เป็นเพื่อนอยู่ห้องเดียวกับผม เวลายิ่งผ่านไป ความสัมพันธ์ของแฟนของเธอกับผู้หญิงคนใหม่ยิ่งมากขึ้น แต่กับเธอมันยิ่งลดลงเรื่อยๆ ช่วงเวลานั้นเป็นระยะเวลาประมาณ 1ปีเต็มๆ ที่เธอโทรหาผมทุกวันเพื่อถามเกี่ยวกับแฟนของเธอ ผมนี่ไม่อยากจะคุยเรื่องแฟนของเธอเลย แต่อีกใจก็มีความสุขนะครับ ที่ได้คุยกับเธอทุกวัน มันบอกไม่ถูก ผมยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอครับ แค่เธอโทรตามผม ผมก็โดดเรียนไปหาเลยครับ คือผมออกจากโรงเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ครับ เพราะที่ผมเรียนเรียนแบบระบบมหาลัยครับ เรียนก็ได้ ไม่เรียนก็ได้ มีอยู่วันนึง ผมต้องออกไปเรียน ร.ด. ผมกำลังจะเดินเข้ารั๋วศูนย์ฝึกแล้วครับ ตอนนั้นมือถือผมดัง เธอโทรมาครับ บอกว่าอยู่เดอะมอลล์ ให้ผมมาหาหน่อยได้ไหม ว่างไหม อะไรประมาณนี่ครับ ผมรีบวิ่งไปขึ้นแทกซี่เลยครับ ด้วยความดีใจ จะได้เจอเธอ พอไปถึง นึกว่าจะได้อยู่กัน2-2 ที่ไหนได้ เพื่อนเธอมากันเกือบ10คน ครบแก็งของเธอเลยครับ ผมนี่ยืนมึนเลยเพราะคนไม่รู้จักก็เยอะ อายก็อาย เป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ครับ แต่เรามาแล้ว ก็ต้องกล้า มาเดินดิ่งเข้าไปเลยครับ ยิ้มให้ทุกคน เธอก็แนะนำผมให้ทุกคนรู้จัก ผมก็นั่งข้างๆเธอ เราก็คุยกันตามปกติ ตอนนั้นก็สนิทกันพอสมควร เพราะเราคุยกันมาเกือบปีแล้ว เธอพยายามลืมแฟนของเธอ ซึ่งผมคิดว่า เธอน่าจะเลิกกับแฟนของเธอแล้ว ผมเดานะครับ แล้วผมก็ถามเธอว่าเป็นยังไงบ้าง เธอก็เศร้าๆครับ คงไม่อยากพูดอะไรมาก เธอก็ชวนผมเดินออกไปที่ร้านขนมปัง กาโต้เฮ้าส์ พวกเราก็เดินเข้าไปที่ร้านขนมปัง ก่อนหน้านั้นเพื่อนของเธอก็รู้เรื่องที่เธอจะเลิกกับแฟนของเธอ เพื่อนเธอคนนึงพูดประมาณว่า "แล้วทำไมไม่คบกับผมไปเลยละ เพราะเค้าก็อยู่ปลอบใจตลอด " ตอนนั้นผมนี่ดีใจมาก เหมือนเพื่อนเค้าเปิดทางให้เลย ตัดกลับมาตอนอยู่ที่ร้านขนมปัง เธอก็ยืนอยู่หน้าผม กำลังเลือกขนมปัง วินาทีนั้น ผมพยายามรวบรวมความกล้า ที่จะบอกเธอว่าผมชอบเธอ ฟ้าเล่นตลกกลับผมอีกแล้วครับ ก่อนผมจะพูดออกไป เธอดันพูดขึ้นมาว่า พวกเพื่อนๆมันไม่รู้เนอะ ว่าเราเป็นเพื่อนกัน มันเลยจะให้เราคบกัน ฝันของผมสลายตรงหน้าเลยครับ ผมไม่กล้าที่จะพูดออกไป เพราะผมรู้ว่า เธอคิดกับผมยังไง ที่ผ่านมา ผมคิดเองคนเดียวมาตลอด สักพักเราเดินเล่น พอตกเย็นก็แยกย้ายกันกลับบ้านครับ เวลาก็ผ่านไปอีกหลายเดือนครับ ที่โรงเรียนของผม อาจารย์สั่งงานให้ไปเดินดูงานเครื่องจักรที่จัดแสดงอยู่ที่ไบเทคบางนาครับ พอถึงวันงาน ผมก็ไปตามปกติครับ พอถึงที่งาน ผมก็ไปเจอกลับกลุ่มเพื่อนๆ แฟนเก่าของเธอก็ไปครับ แฟนใหม่ก็มาด้วยครับ ส่วนเธอก็มาพร้อมกับแม่ของแฟนเก่าเธอครับ เธอสนิทกับแม่ของแฟนเก่าเธอครับ แต่ผมไม่รู้ว่าเธอไปคุยกันยังไงถึงมาได้ครับ เรื่องราววันนั้นชุลมุนมากครับ แฟนเก่าของเธอเดินมาบอกผมว่า ไม่อยากให้แฟนใหม่กับแฟนเก่าของมันมาเจอกันครับ กลัวมีปัญหา แต่จนแล้วจนรอด ก็ดันเจอกันครับ เกิดเหตุการณ์มองหน้ากัน อาจจะมีเรื่องได้ แฟนเก่าเธอเดินมากระซิบข้างหูผม ให้ผมพาแฟนเก่ามันกลับไป ผมก็กลัวจะมีปัญหากัน เลยรีบเดินไปหาเธอแล้วจูงมือเธอเดินออกไป ผมก็เรียกรถแทกซี่ ผมบอกเธอว่าเราไม่ควรอยู่ที่นี้แล้ว เดวจะมีเรื่องกัน ผมก็กลัวเธอโดนลุม เพราะเพื่อนฝั่งผมเยอะมาก แล้วผมก็ถามเธอว่า เธอจะไปไหน เธอบอกไม่รู้ ไปไหนก็ได้ ผมก็ไม่รู้จะไปไหน ผมเลยตัดสินใจกลับบ้านครับ ระหว่างทางที่อยู่บนรถแท็กซี่ เธอร้องไห้ตลอดทาง เธอคงเสียใจมาก เพราะเธอไม่ได้ทำอะไรผิด แต่แฟนของเธอกลับนอกใจเธอ ผมเข้าใจความรู้สึกนี่ดีมากครับ เพราะตัวผมขณะนี้ ที่กำลังเล่าอยู่นี่ความรู้สึกนี่เลย เธอร้องไห้หนักขึ้นๆ ผมไม่กล้าแตะตัวเธอ เพราะผมเกรงใจ ได้แต่ตบไหล่เบาๆให้เธอ แต่ด้วยความที่เธอคงต้องการใครสักคน เธอเข้ามาซบที่ไหล่ของผม ร้องไห้บนไหล่ผม น้ำตาปนน้ำมูกนี่เปียกเต็มเสื้อผมเลย ที่จริงผมเห็นเธอร้องไห้ ผมควรเสียใจ แต่ลึกๆแล้ว ผมแอบดีใจเพราะผมมั่นใจว่าผมจะไม่มีวันทำให้เธอเสียใจอย่างแน่นอน ถ้าเธออยู่ในอ้อมกอดผม พอเรามาถึงหน้าบ้านผม พวกเราเข้าบ้าน ผมพาเธอขึ้นมาบนห้องนอนของผม ให้เธอนั่งตรงโซฟา เธอร้องไห้ไม่หยุด ผมในขณะนั้นคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะปลอบยังไง เลยเข้าไปคุกเข่าต่อหน้าเธอ บอกเธอว่า "เสียใจใช่ไหม ร้องไห้ออกมาเยอะๆเลยนะ ที่นี้มีแค่เรา2คน ไม่เป็นไรนะๆ เดวมันจะดีขึ้นเอง มีอะไรอยากพูดก็พูดเลย" ผมก็ไม่กล้าแนะนำอะไรมาก เพราะตัวผมขณะนั้นไม่เคยมีแฟนเลย ไม่รู้จะปลอบยังไงด้วยซ้ำ ผมก็เป็นผู้ฟังที่ดีให้เธอ เธอก็พูดเรื่องราวต่างๆ มากมาย ผมก็ฟังไป ปลอบไป จนสุดท้าย เธอคงไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เธอก็ขอบใจผมที่ผมอยู่เป็นเพื่อนเธอ ที่จริงเธอขณะนั้นก็ไม่รู้ว่าผมแอบชอบเธอมาตั้งนานแล้ว ตัวผมเองก็ไม่สามารถบอกเธอได้ เพราะเธอพึ่งผ่านเรื่องราวที่ไม่ดีมา ตกเย็นพ่อของผมมาถึงบ้าน ผมก็ให้พ่อไปส่งเธอที่บ้านนั่งรถไปด้วยกัน ระหว่างทางไปบ้านเธอ เธอพูดกับผม สักวันถ้าเธอมีรถเป็นของตัวเองเธอจะมารับผมไปเที่ยว ผมได้ยินแบบนั้น ผมก็ดีใจมาก ก็ส่งเธอถึงหน้าบ้าน ก็ร่ำลากัน หลังจากวันนั้นเราก็ยังติดต่อกันทางโทรศัพท์เรื่อยมา เธอจะโทรมาตลอดตอน 8โมง15นาที ผมเข้าเรียน 8โมง ก็ต้องแอบอาจารย์ออกมาคุยกับเธอเป็นประจำ เราได้แต่คุยโทรศัพท์กัน ไม่ได้เจอกันอีกเลย ผมไม่กล้านัดเธอ เธอเองก็ค่อยๆดีขึ้นเป็นระยะๆ จนวันที่ผมคิดก็มาถึง วันนั้นเป็นวันแรกที่เธอไม่โทรมา ผมก็รอโทรศัพท์เธอเรื่อยมา 1 สัปดาห์ก็แล้ว 2 สัปดาห์ก็แล้ว 1เดือนผ่านไป เธอไม่ได้โทรมาอีกเลย ผมก็รู้อยู่แล้วว่าวันไหนที่เธอดีขึ้นจนลืมเรื่องทุกอย่างได้ เธอก็จะลืมผมด้วย ผมปลอบใจตัวเองแบบนั้น 1ปีผ่านไป ตอนนั้นผมเรียนอยู่ ปวช. ปี3 แล้ว อายุประมาณ17ไม่ก็18แล้ว วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ช่วงบ่ายๆ ผมก็ไม่รู้ว่าผมจำได้ไง จากตอนนั้นถึงตอนนี้ก็เกือบ8ปีแล้ว ผมจำได้ไม่เคยลืม มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาหาผม ผมก็รับสาย ประโยคแรก คุ้นหูมาก เธอพูดชื่อผม แบบที่เธอเคยพูด ผมก็ยังจำไม่ได้นะ ก็มัน1ปีแล้วนิน่า ผมก็เลยถามว่าใครอะครับ เธอก็ไม่ยอมบอก เธอบอกว่า โห้ย จำไม่ได้หรอ นึกดีๆ อะไรประมาณนี่ ผมก็นึกแล้วนึกอีก ก็จำไม่ได้ จนเธอต้องเฉลย พอเธอบอกชื่อเธอ ผมค้างไปสักพัก เหมือนสมองผมไม่ทำงานครับ ผมดีใจมากเลย ที่เธอไม่ลืมผม ผมพูดอะไรไม่ออก พูดไม่ถูก เราก็คุยกัน เธอถามผม สบายดีไหม ผมก็ตอบเธอสบายดี ผมก็อยากรู้ว่าชีวิตเธอเป็นยังไงบ้างก็เลยถามเธอกลับ ตอนนี่เป็นยังไงบ้าง ทำอะไรอยู่ ประมาณนี่ครับ แต่ผมก็ไม่กล้าถามเธอว่ามีแฟนรึยัง กลัวมันจะรุกหนักเกินไป จริงๆผมก็ใช้ชีวิตตามปกติมา1ปีแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่