คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
ขอบคุณพี่สาวที่พาเที่ยว เพิ่งรู้จักสะพานไม้ไผ่แห่งนี้ค่ะ
แม่ฮ่องสอนแต่เดิมเป็นหมู่บ้านไทยใหญ่ มีชื่อหมู่บ้านนี้ว่า "บ้านแม่ร่องสอน"
ต่อมาคำว่า "แม่ร่องสอน" ได้เพี้ยนมาเป็น "แม่ฮ่องสอน"
สำหรับความเชื่อของสะพานแห่งนี้ ...
ใครที่มาที่นี่ให้เดินข้ามผ่านสะพานอธิษฐานสำเร็จ แล้วไปอธิษฐาน ณ วัดที่ปลายสะพาน
ความสำเร็จในสิ่งที่หวัง ก็คงจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
นั่นคือข้อคิดที่ว่า ...
ก่อนจะทำการใหญ่ หรือก้าวไปสู่ความสำเร็จใดๆ ให้ถามใจตัวเองก่อนว่ามีแรงศรัทธามากพอหรือเปล่า?
ด้วยพลังแห่งศรัทธาและการร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านที่ก่อประสานกันเป็นสะพานที่มีความงดงาม
รางวัลแด่คนช่างฝัน - จรัล มโนเพ็ชร
https://www.youtube.com/watch?v=p_g40VPIOsc

อย่ากลับคืนคำ เมื่อเธอย้ำสัญญา อย่าเปลี่ยนวาจาเมื่อเวลาแปรเปลี่ยนไป
ให้เธอหมายมั่นคง แล้วอย่าหลงไปเชื่อใคร เดินทางไปอย่าหวั่นไหวใครขวางกั้น

มีดวงตะวัน ส่องเป็นแสงสีทอง กระจ่างครรลองให้ใฝ่ปองและสร้างสรรค์
เมื่อดอกไม้แย้มบาน ให้คนหาญสู้ไม่หวั่น คือรางวัล แด่ความฝันอันยิ่งใหญ่ ให้เธอ

บนทางเดินที่มีขวากหนาม ถ้าเธอคร้าม ถอยไปฉันคงเก้อ
ฉันยังพร้อมช่วยเธอเสมอ เพียงตัวเธอ ไม่หนีไปเสียก่อน

จะปลอบดวงใจให้เธอหายร้าวราน จะเป็นสะพานให้เธอเดินไปแน่นอน
จะเป็นสายน้ำเย็นดับกระหายยามโหยอ่อน คอยอวยพรให้เธอสมดังหวังได้ นิรันดร์

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แม่ฮ่องสอนแต่เดิมเป็นหมู่บ้านไทยใหญ่ มีชื่อหมู่บ้านนี้ว่า "บ้านแม่ร่องสอน"
ต่อมาคำว่า "แม่ร่องสอน" ได้เพี้ยนมาเป็น "แม่ฮ่องสอน"
สำหรับความเชื่อของสะพานแห่งนี้ ...
ใครที่มาที่นี่ให้เดินข้ามผ่านสะพานอธิษฐานสำเร็จ แล้วไปอธิษฐาน ณ วัดที่ปลายสะพาน
ความสำเร็จในสิ่งที่หวัง ก็คงจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
นั่นคือข้อคิดที่ว่า ...
ก่อนจะทำการใหญ่ หรือก้าวไปสู่ความสำเร็จใดๆ ให้ถามใจตัวเองก่อนว่ามีแรงศรัทธามากพอหรือเปล่า?
ด้วยพลังแห่งศรัทธาและการร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านที่ก่อประสานกันเป็นสะพานที่มีความงดงาม
รางวัลแด่คนช่างฝัน - จรัล มโนเพ็ชร
https://www.youtube.com/watch?v=p_g40VPIOsc

อย่ากลับคืนคำ เมื่อเธอย้ำสัญญา อย่าเปลี่ยนวาจาเมื่อเวลาแปรเปลี่ยนไป
ให้เธอหมายมั่นคง แล้วอย่าหลงไปเชื่อใคร เดินทางไปอย่าหวั่นไหวใครขวางกั้น

มีดวงตะวัน ส่องเป็นแสงสีทอง กระจ่างครรลองให้ใฝ่ปองและสร้างสรรค์
เมื่อดอกไม้แย้มบาน ให้คนหาญสู้ไม่หวั่น คือรางวัล แด่ความฝันอันยิ่งใหญ่ ให้เธอ

บนทางเดินที่มีขวากหนาม ถ้าเธอคร้าม ถอยไปฉันคงเก้อ
ฉันยังพร้อมช่วยเธอเสมอ เพียงตัวเธอ ไม่หนีไปเสียก่อน

จะปลอบดวงใจให้เธอหายร้าวราน จะเป็นสะพานให้เธอเดินไปแน่นอน
จะเป็นสายน้ำเย็นดับกระหายยามโหยอ่อน คอยอวยพรให้เธอสมดังหวังได้ นิรันดร์

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม....มีแต่เสียง....31/1/2017.../sao..เหลือ..noi
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม....แต่มีเสียง.........
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกัน
แล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
(เนื้อร้อง ทำนอง ดนตรี ขับร้อง โดย MC มาริโอ้)
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป
ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพส
สิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลง
จึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
สุขสันต์เย็นวันอังคารนะคะ .... สวัสดีเพื่อนๆ ห้องเพลง
วันนี้พาเพื่อน ๆ ไปแม่ฮ่องสอน ไปรู้จักสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในเมืองไทย
สะพานซูตองเป้ : สะพานแห่งศรัทธา
ซูตองเป้ สะพานแห่งศรัทธา จ.แม่ฮ่องสอน
สะพานซูตองเป้ ตั้งอยู่ที่บ้านกุงไม้สัก ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 8 กิโลเมตร
สะพานซูตองเป้ เป็นสะพานไม้(โครงสร้าง เสา-คาน)ส่วนพื้นปูด้วยไม้ไผ่ที่ทำในลักษณะพื้นสับฟาก พื้นขัดแตะ
(เหมือนฝาบ้าน) และพื้นไม้ไผ่สาน มีความกว้างประมาณ 2 เมตร แต่ยาวถึง 500 เมตร ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น
สะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในเมืองไทย
สะพานซูตองเป้ สร้างเชื่อมระหว่างสวนธรรมภูสมะกับบ้านกุงไม้สัก
สะพานแห่งนี้ เกิดจากแรงกายแรงใจของทั้งพระภิกษุสามเณร ชาวบ้านกุงไม้สัก และคณะศรัทธาต่างๆ
(โดยการนำของพระปลัดจิตตพัฒน์ อคคฺปัญโญ ประธานสงฆ์สวนธรรมภูสมะ)ที่ได้ร่วมกันสร้างขึ้นทอดข้ามแม่น้ำสะงา
ข้ามทุ่งนาของชาวบ้าน เชื่อมระหว่าง“สวนธรรมภูสมะ”สถานปฏิบัติธรรมอันปลีกวิเวกสงบ กับ“หมู่บ้านกุงไม้สัก”
เพื่อให้พระภิกษุสามเณรจากสวนธรรมภูสมะเดินบิณฑบาต รวมถึงชาวบ้าน เกษตรกรที่อยู่ในบริเวณนั้นได้เดินข้ามสัญจรไป-มา
ซูตองเป้ เป็นภาษาไทใหญ่ แปลว่า อธิษฐานสำเร็จสัมฤทธิผล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สร้างจากแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชน
โดยเจ้าของที่นาได้ถวายผืนนาที่สะพานสร้างทอดผ่าน ส่วนคณะศรัทธาอื่นๆก็ได้บริจาคเสาไม้ บริจาคไม้ไผ่ แรงงาน และปัจจัยอื่นๆ
ในการสร้างสะพานแห่งนี้
หัวสะพานซูตองเป้ฝั่งบ้านกุงไม้สัก
ส่งผลให้สะพานซูตองเป้ใช้งบประมาณในการก่อสร้างไม่มากไม่มาย เพียง 8 แสนกว่าบาท(ถ้าเป็นของทางราชการหรือ
นักการเมืองท้องถิ่นนี่คงปาเข้าหลายล้านเพราะต้องเสียค่าหักหัวคิวด้วย) ใช้เวลาก่อสร้างไม่นานราว 3 เดือนกว่า โดยได้ทำการ
วางเสาเอกในวันที่ 20 เม.ย. 2554 และทำการก่อสร้างเสร็จสิ้นเปิดใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 5 ส.ค. 2554
ด้วยความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางมาสัมผัสในกับความงามของสะพานแห่งนี้
สะพานช่วงที่สร้างข้ามแม่น้ำสะงา
พระ-เณรออกบิณฑบาต โดยมีหมาในวัดมาส่งและเดินนำ
หลังสะพานแห่งนี้สร้างแล้วเสร็จนอกจากประโยชน์ด้านการสัญจรแล้ว ด้วยความสวยงามคลาสสิกเป็นเอกลักษณ์ของสะพาน
กับทำเลที่ตั้งที่มีทิวทัศน์สวยงาม รวมถึงวิถีปฏิบัติของพระ-เณรแห่งสวนธรรมภูสมะนั้นก็เปี่ยมศรัทธาน่าเลื่อมใส ส่งผลให้
สะพานซูตองเป้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นมาในเวลาไม่นาน
http://www.manager.co.th/travel/viewnews.aspx?NewsID=9580000025684
[[ DJ.PamJp.SR ]] สะพานไม้ไผ่ ( Remix )
https://www.youtube.com/watch?v=fPFwAF7efIg