เตือนภัยผู้หญิงที่อยู่หอพักหรือคอนโดคนเดียว

สวัสดีค่ะ ขอมาแบ่งปันเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเองเพื่อเตือนภัยสาวๆ ที่อยู่หอพักหรือคอนโดคนเดียว ความจริงเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันพุธที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา แต่ที่เพิ่งจะนำมาโพสต์ลงก็เพื่อรอหลักฐานและจัดการเรื่องการย้ายต่างๆ ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนค่ะ

เมื่อคืนวันพุธที่ 17 มกราคม ช่วงเวลาประมาณ 21.00-21.30 น. ขณะนั้นดิฉันกำลังพักอาศัยอยู่ในห้อง และมีคนมาไขประตูห้อง ซึ่งดิฉันล็อคไว้ตามปกติ จึงนึกว่ามาผิดห้อง เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ จึงได้ตะโกนบอกไปว่า "คุณมาผิดห้องแล้วค่ะ" แต่ปรากฏว่าเขายังไม่หยุดไข และพยายามไขแรงขึ้นเพื่อที่จะเข้ามาในห้องให้ได้ ตอนนั้นรู้สึกผิดปกติแล้วจึงทุบประตูออกไป แต่ก็ยังไม่หยุด เป็นแบบนี้อยู่ 2-3 ครั้ง จึงได้ทุบสุดแรงชนิดที่ได้ยินทั้งชั้น จึงได้หยุดไข ซึ่งระหว่างนั้นดิฉันได้มองลอดตาแมวออกไปเพื่อดูว่าเป็นใคร แต่เขาพยายามหลบไปอยู่ในมุมที่ทำให้เห็นไม่ชัด จึงไม่สามารถเห็นหน้าบุคคลผู้นั้นได้ จากนั้นดิฉันจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดูแลหอว่ามีคนพยายามไขประตูห้อง แต่เมื่อขึ้นมาดูก็ไม่เห็นใครแล้ว

รุ่งเช้าวันพฤหัสที่ 18 มกราคม ดิฉันได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามีคนมาพยายามไขประตูห้องกลางดึก จึงขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดหน่อย ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะต้องมีการใช้รหัสผ่านจึงสามารถดูได้ ดิฉันจึงให้ช่วยเช็คและโทรมาแจ้งรายละเอียดในภายหลัง ช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ A (เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่หลายคน เพื่อป้องกันการสับสน ขอใช้ชื่อว่า เจ้าหน้าที่ A, B, C แทนนะคะ) ได้โทรมาแจ้งว่า "เห็นภาพว่ามีคนมาไขห้องจริง แต่ไม่ชัด" พอดิฉันถามต่อว่าหลังจากนั้นเขาเดินไปทางไหนต่อ เจ้าหน้าที่ A ก็อ้างว่ามองไม่เห็นกล้องไม่จับภาพ

เย็นวันพฤหัสที่ 18 มกราคม ดิฉันกลับจากที่ทำงานจึงขอเจ้าหน้าที่ดูภาพจากกล้องวงจรปิดด้วยตนเอง แต่เป็นช่วงค่ำแล้ว เจ้าหน้าที่ A ไม่อยู่ จึงให้เจ้าหน้าที่ B เปิดให้แทน ปรากฎว่าเปิดกล้องผิดตัว จึงต้องใช้เวลาหา และเจ้าหน้าที่ B แจ้งว่าขอเวลาหาให้ก่อนแล้วจะบอกในวันถัดมา  

เย็นวันศุกร์ที่ 19 มกราคม ดิฉันได้ถามความคืบหน้าเรื่องกล้องจากเจ้าหน้าที่ B ซึ่งได้แจ้งว่า "เห็นภาพคนมาไขจริง ดูลักษณะแล้วน่าจะเป็นผู้ชาย แต่กล้องไม่ชัด คาดว่าน่าจะเข้าห้องผิด หรือเมา" ดิฉันจึงได้ขอดูภาพด้วยตนเอง แต่เจ้าหน้าที่ B แจ้งว่ากำลังปรับภาพให้ชัดอยู่ตอนนี้จึงดูไม่ได้ และขอเวลาสัก 2-3 วันเพื่อปรับภาพ ซึ่งด้วยเรื่องเทคนิคของกล้อง ดิฉันไม่เข้าใจว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน จึงได้แจ้งว่าวันอังคารจะมาดูภาพอีกครั้ง โดยระหว่างนี้ดิฉันได้กลับมาพักที่บ้านของตนเองก่อน (เหตุผลที่ต้องเช่าหอคือที่ทำงานอยู่ไกลบ้านมากพอสมควรและเพื่อความสะดวกในการเดินทาง)

เย็นวันจันทร์ที่ 23 มกราคม ดิฉันได้โทรมาหาเจ้าหน้าที่ B เพื่อขอทราบความคืบหน้าเรื่องกล้อง แต่มีเจ้าหน้าที่อื่นรับสายแทนและบอกว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่ B ไม่อยู่ ให้โทรมาอีกทีตอน 1 ทุ่ม ดิฉันจึงรอจนถึง 19.15 แล้วโทรไป ก็มีเจ้าหน้าที่อื่นรับสายแทนอีก แล้วบอกเหมือนเดิมว่าไม่อยู่ ให้โทรมาอีกทีตอน 23.00 น. ซึ่งนาทีนั้นดิฉันว่ามันผิดปกติไปมากแล้ว และสัมผัสได้ถึงการพยายามปกปิดข้อมูลเรื่องกล้อง จึงตัดสินใจย้ายออกภายในสิ้นเดือนมกราทันที เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะอยู่ต่อ

เที่ยงวันอังคารที่ 24 มกราคม ดิฉันได้พาเพื่อนมาขอเจ้าหน้าที่ A ดูกล้องวงจรปิด แต่เธออ้างว่าไม่สามารถเปิดได้  (แล้ววันที่ 18 ใครเปิด? เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ A คนแรกที่โทรแจ้งเรื่องกล้องเอง) ต้องให้เจ้าหน้าที่ที่มีรหัสมาเปิด เย็นวันเดียวกันดิฉันจึงกลับมาที่หอพร้อมเพื่อนอีกครั้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ B เปิดกล้องให้ดู แต่ก็อ้างว่า "ไฟล์เสีย ไม่สามารถเปิดได้"  ดิฉันจึงบอกไปว่าขอย้ายออกสิ้นเดือนนี้ทันที เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะอยู่ต่อ ทางเจ้าหน้าที่ B จึงให้คุยกับเจ้าหน้าที่ C ทางโทรศัพท์ ซึ่งเบื้องต้นที่คุยนั้น เจ้าหน้าที่แจ้งว่าตามกฏคือต้องแจ้งออกภายในไม่เกินวันที่ 7 ของเดือน มิฉะนั้นต้องจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าที่เกินมา 1 เดือน ดิฉันจึงแย้งกลับไปว่า ทางเราต่างหากที่เสียเปรียบ เพราะอยู่ไม่ครบเดือน แต่เกิดเรื่องแบบนี้คงไม่มีใครอยากอยู่ต่อ ทางเจ้าหน้าที่ C จึงได้บอกว่าถ้าอย่างนั้นจะขอเก็บแค่ค่าน้ำค่าไฟถึงวันที่อยู่เท่านั้น และไม่เก็บเงินค่าหอล่วงหน้า  จึงเป็นอันตกลงกันเรียบร้อยว่าจะขออกสิ้นเดือนมกราโดยไม่เสียค่าเช่าเดือนกุมภาล่วงหน้า ส่วนเรื่องกล้อง ทางเจ้าหน้าที่ C ก็ยืนยันเช่นกันว่าไฟล์เสีย ต้องรอให้ "เจ้าหน้าที่มาเปิดในสัปดาห์หน้า"

ซึ่งนับจากวันที่เกิดเหตุก็เป็นเวลากว่า 2 อาทิตย์แล้ว ในความเป็นจริง การขอดูภาพไม่ควรจะกินเวลานานขนาดนั้น นอกเสียจากว่าต้องการ "ปกปิดข้อมูล" ดิฉันจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ โดยบอกทางหอว่าจะขอนำภาพไปเป็นหลักฐาน

วันพุธที่ 25 มกราคม ตอนเที่ยง "ผู้จัดการหอ" ได้โทรมาหาดิฉันเพื่อคุยเรื่องกล้อง โดยอ้างว่าสามารถเปิดได้ ภาพไม่เสีย แต่ต้องขอเวลาอาทิตย์หน้า ดิฉันจึงได้ถามกลับไปว่า "ทำไมเจ้าหน้าที่ B และ C บอกว่า ไฟล์เสียล่ะคะ?" ทางผู้จัดการหอจึงได้ชะงักไปและบอกว่าขอคุยกับเจ้าหน้าที่ก่อนแล้วจะโทรกลับมาใหม่...แต่ก็ไม่มีการติดต่อใดๆ กลับมา เย็นวันนั้นดิฉันจึงไปแจ้งความ โดยลงบันทึกประจำวันไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความร่วมมือดีมาก และบอกว่าทางหอพักไม่ควรปิดบังข้อมูล มันเป็น "สิทธิ์" ที่ผู้เช่าอาศัยควรได้รับรู้ เนื่องจากเป็นความปลอดภัยในการพักอาศัย

วันเสาร์ที่ 28 มกราคม ดิฉันมาขนของออกจากห้องทั้งหมด และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ A ว่ายืนยันที่จะย้ายออกสิ้นเดือนนี้ โดยคุยเรื่องค่าเช่ากับทางเจ้าหน้าที่ C เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีการคืนเงินค่าประกันให้โดยหักค่าน้ำค่าไฟที่ใช้ไปออก ดิฉันจึงได้แจ้งว่าให้รบกวนโทรแจ้งด้วยว่าต้องหักค่าใช้จ่ายอะไรออกไปบ้าง และได้ยื่นใบแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ A พร้อมบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจขอดูไฟล์ภาพ เพื่อตรวจสอบว่าบุคคลที่มาไขห้องเป็นใคร หากไม่นำไฟล์ภาพให้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางมาตรวจสอบที่หอเอง

วันอังคารที่ 31 มกราคม ทางเจ้าหน้าที่ C โทรมาบอกว่าต้องหักค่าเช่าล่วงหน้าของเดือนกุมภาพันธ์ออกไปด้วย เพราะตามกฏคึอต้องแจ้งล่วงหน้า 1 เดือน ดิฉันจึงได้สวนกลับไปว่าวันก่อนไม่ได้พูดแบบนี้ และได้ตกลงกันแล้วว่าจะขอเก็บแค่ค่าน้ำค่าไฟ แต่เธอก็ยังยืนยันว่าไม่เคยพูดแบบนั้น และต้องทำตามกฏ ดิฉันจึงได้โทรหา "ผู้จัดการหอ" เพื่อแจ้งให้ทราบ และบอกว่าเข้าใจเรื่องกฏ แต่เราก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ควรจะต้องเห็นใจกันบ้าง แต่สิ่งที่เธอตอบกลับมาคือ..."ขอเช็คภาพก่อนนะคะว่ามีคนมาไขห้องคุณจริงไม๊ จะขอเวลา 1 อาทิตย์ เพราะตอนนี้ยุ่งมาก ไม่มีเวลาเลย"....

ค่ะ นี่คือสิ่งที่ได้รับจากการเป็นผู้พักอาศัยหอพักที่มาตรฐานโดยรวมดูดี น่าพักอาศัย มีทั้งสระว่ายน้ำและฟิตเนสให้บริการ มีเจ้าหน้าที่รปภ. 24 ชั่วโมง พร้อมกล้องวงจรปิดติดรอบทั้งภายในและภายนอกหอพัก...จากตอนแรกที่จะแจ้งความเพื่อตามหาคนพยายามไขห้อง ก็แจ้งความหอพักที่ไม่ดูแลผู้อาศัยด้วยเลยทีเดียว

จากการที่ได้คุยกับเพื่อนผู้หญิงหลายคนบอกว่าเหตุการณ์ที่มีคนมาพยายามบุกรุกห้องนี้ 80% "เคยเจอ" มาทั้งนั้น  อยากให้ทุกคนมี "สติ" และดูแลตัวเองดีๆ อย่าไปหวังพึ่งพาความปลอดภัยจากใคร แม้แต่ "ผู้ดูแลหอพัก" ก็ตาม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่