พอดีวันก่อนได้มีโอกาสอ่านเว็บไซต์ของ
Bloomberg โดยเค้าได้รวบรวมรายชื่อมหาเศรษฐีโดยจัดลำดับการเปลี่ยนแปลงความรวย ในแต่ละวัน! และที่เด็ดอีกหน่อยคือในเว็บไซต์ยังบอกลำดับเวลาชีวิตของแต่ละท่านว่า ล้มลุกคลุกคลานอย่างไร และมีประวัติคร่าวๆว่าที่รวยและมั่งคั่งขึ้นมาได้ ด้วยธุรกิจหรือประสบความสำเร็จในด้านไหนบ้าง
ตามนี้ครับ > > https://www.bloomberg.com/billionaires/2016-11-02/aaa/jaaaa
พี่ไทยเราก็มีเสี่ยท่านนึงติดไปด้วยครับ (ท่านที่รวยจากการขายเบียร์ที่มีงาอะ อิอิ) ..อย่างไรก็ตามในเว็บไซต์นี้เราสามารถเลือกดู ลำดับ ของมหาเศรษฐีทั้งโลกเหล่านั้นโดยสามารถแบ่ง (Filter)
ได้ 2 ประเภทหลักๆคือ Inherit & Self-made หรือ รวยจากการได้มรดก และรวยด้วยตัวเอง
นั่นแหละครับ ผมเลยอ่านไปมาก็ฉุกคิดได้ว่า ...เออโลกเรามีคนที่ .ประสบความสำเร็จ. หรือ .รวยในระดับเท่าๆกันมากมาย. แต่มีเพียงหยิบมือที่เราเลือกที่จะอ่านประวัติ เลือกที่จะศรัทธา กลุ่มเหล่านั้นก็คือการรวยขึ้นมาด้วย Self-Made หรือ รวยด้วยมือตัวเอง
ซึ่งไม่ได้ผิดอะไรเลยครับที่หลายๆท่านจะมีความมั่งคั่งจากการได้รับมรดก หรือจากการได้สมบัติจากสกุลของเขาเหล่านั้น แต่ที่น่าสังเกตุคือ คนนอกที่มองเข้าไป มักจะยอมรับและศรัทธาในกลุ่มคนที่สำเร็จที่มักเริ่มจาก 0 หรือบางท่าน ติดลบ ด้วยซ้ำ ด้วยศรัทธาด้วยใจจริง ด้วยความอยากเรียนรู้ หรืออ่าน Biography หรือประวัติความเป็นมา ว่าเขาเหล่านั้น ...ทำอะไร ทำอย่างไร ล้มอย่างไร
ผมเชื่อมากๆอย่างนึงว่าหลายๆคนก็ต้องการ ความสำเร็จ ความรวย ความมั่งคั่ง ในระดับที่ สูง กว่ามาตรฐานหรือภาวะสังคมที่เป็นอยู่ หรือแม้แต่ไปสู่ระดับที่ใจต้องการ ...แต่มันจะมีความภูมิใจมากน้อย อันนี้เป็นเรื่องที่ในระหว่างทางของแต่ละคนจะเผชิญ พบเจอ และสร้างสรรค์ขึ้นมา ซึ่งหลายคนเลือกที่จะ ทำมันขึ้นมาด้วยตัวเอง เพราะเขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่ ความมั่งคั่ง ความสำเร็จ แต่สิ่งที่ต้องการมากไปกว่านั้นคือ ความภูมิใจในตัวเองและศรัทธาในตัวเอง หรือผมว่ามันตรงกับคำว่า Self esteem นะครับ
สิ่งที่อยากจะบอกคือ เราทุกคนกำลังแล่นอยู่ใน เส้นทางที่เราต้องการเพื่อไปถึง จุดมุ่งหมายต่างๆที่เราตั้งใจไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การเรียนที่โดดเด่น ,ความมั่งคั่งที่สูงกว่าคนอื่นๆ, การทำงานที่ได้รับการยอมรับ โดยสรรหาหนทางมากมาย และหนทางเหล่านั้นรวมถึงการใช้ ทางลัด เช่น การเบียดบังคนอื่น ,การใช้ทรัพย์สินที่มีจ่ายซื้อความสำเร็จ หรือการโกง
โดยเราลืมนึกไปหรือไม่ว่า พอชีวิตมาถึงจุดหนึ่งๆ ความเป็นจริงที่หลีกไม่ได้คือ คนอื่นๆสังคมจะศรัทธาในตัวคุณอย่างแท้จริง หรือไม่นั้น มันอาจจะไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณสำเร็จในจุดที่ตั้งไว้สูงเพียงใด แต่เขาเหล่านั้นจะศรัทธาด้วยหัวใจมากกว่ามั้ย ถ้าความสำเร็จที่ได้มา...คุณทำมันเองด้วยมือล้วนๆ
ซึ่งถ้าเปลี่ยนมุมมองจากคนนอก มองคนที่สำเร็จมากๆ มาเป็น คนที่สำเร็จหรือคนที่ต้องการความสำเร็จ มองตัวเขาเอง ผมยังมองว่ามันสอดคล้องกับหลัก ความต้องการในชีวิต 5 ขั้นของ Maslow อีกด้วย ซึ่งถ้าใครเคยอ่านก็จะเห็นว่าในระยะแรกๆหรือความต้องการขั้นต้นนั้น เราสามารถสรรหาความต้องการของเรามาด้วย เงินทอง หรือสิ่งที่เป็น กาย มากกว่า แต่พอมองในความต้องการที่สูงขั้นไปนั้น ...มันเป็นเรื่องของ ใจ ของจิต ที่เราต้องการมาเพื่อเติมเต็มชีวิตนั่นเอง ดังนั้นอย่าลืมสรรสร้างความ สวยงามระหว่างทางเดินของเราๆท่านๆ ไปสู่ความสำเร็จ โดยพึ่งพิงการช่วยเหลือ การเบียดเบียน คนอื่นๆให้
น้อยกว่า ความสามารถของเราที่ใส่ลงไป หรือพูดอีกอย่างก็คือ ถ้ามีแค่เรา ไม่มีใคร จะสำเร็จมั้ย .... ถ้าสำเร็จ นั่นแหละครับ คุณได้รับการศรัทธา ด้วยหัวใจที่แท้จริงทั้งคนรอบข้าง และจิตคุณเองเรียบร้อยแล้ว
เราเคยยกมือไหว้ครูทุกคน....แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เราอยากกราบลงด้วยหัวใจ
เราเคยเห็นลูกเศรษฐีทุกคนรวย....แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มาพร้อมความสามารถที่น่าเลื่อมใส
เราเคยเห็นคนเรียนจบเมืองนอกเมืองนาที่เก่ง....แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถไปเรียนได้ด้วยความสามารถตัวเอง 100%
เราเคยเห็นคนประสบความสำเร็จในจุดที่สูงมากมาย.....แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอก ที่ทำมันด้วยมือเขาเอง
เลยอยากเอาลิงค์จาก Bloomberg ดีๆมาแบ่งๆกันอ่านน่ะครับ
ตามนั้นครับ ^^
อ้อบทความนี้พอดีผมพิมพ์ในบล็อค ถ้าเคยอ่านแล้วก็คือคนเดียวดันครับ
http://whollyhall.blogspot.com/2017/01/blog-post.html
Cr.รูปภาพ
http://robertrolih.com/how-money-affect-self-worth-self-esteem/
http://www.123rf.com/photo_7009818_a-concept-of-an-abstract-way-to-success-in-the-competitive-world-of-business-or-real-life.html
http://blog.relearningtoteach.com/2016/05/day-169-diverse-needs.html
ผลลัพธ์เหมือนกัน.... ความภูมิใจต่างกัน
พอดีวันก่อนได้มีโอกาสอ่านเว็บไซต์ของ Bloomberg โดยเค้าได้รวบรวมรายชื่อมหาเศรษฐีโดยจัดลำดับการเปลี่ยนแปลงความรวย ในแต่ละวัน! และที่เด็ดอีกหน่อยคือในเว็บไซต์ยังบอกลำดับเวลาชีวิตของแต่ละท่านว่า ล้มลุกคลุกคลานอย่างไร และมีประวัติคร่าวๆว่าที่รวยและมั่งคั่งขึ้นมาได้ ด้วยธุรกิจหรือประสบความสำเร็จในด้านไหนบ้าง
ตามนี้ครับ > > https://www.bloomberg.com/billionaires/2016-11-02/aaa/jaaaa
พี่ไทยเราก็มีเสี่ยท่านนึงติดไปด้วยครับ (ท่านที่รวยจากการขายเบียร์ที่มีงาอะ อิอิ) ..อย่างไรก็ตามในเว็บไซต์นี้เราสามารถเลือกดู ลำดับ ของมหาเศรษฐีทั้งโลกเหล่านั้นโดยสามารถแบ่ง (Filter) ได้ 2 ประเภทหลักๆคือ Inherit & Self-made หรือ รวยจากการได้มรดก และรวยด้วยตัวเอง
นั่นแหละครับ ผมเลยอ่านไปมาก็ฉุกคิดได้ว่า ...เออโลกเรามีคนที่ .ประสบความสำเร็จ. หรือ .รวยในระดับเท่าๆกันมากมาย. แต่มีเพียงหยิบมือที่เราเลือกที่จะอ่านประวัติ เลือกที่จะศรัทธา กลุ่มเหล่านั้นก็คือการรวยขึ้นมาด้วย Self-Made หรือ รวยด้วยมือตัวเอง
ซึ่งไม่ได้ผิดอะไรเลยครับที่หลายๆท่านจะมีความมั่งคั่งจากการได้รับมรดก หรือจากการได้สมบัติจากสกุลของเขาเหล่านั้น แต่ที่น่าสังเกตุคือ คนนอกที่มองเข้าไป มักจะยอมรับและศรัทธาในกลุ่มคนที่สำเร็จที่มักเริ่มจาก 0 หรือบางท่าน ติดลบ ด้วยซ้ำ ด้วยศรัทธาด้วยใจจริง ด้วยความอยากเรียนรู้ หรืออ่าน Biography หรือประวัติความเป็นมา ว่าเขาเหล่านั้น ...ทำอะไร ทำอย่างไร ล้มอย่างไร
ผมเชื่อมากๆอย่างนึงว่าหลายๆคนก็ต้องการ ความสำเร็จ ความรวย ความมั่งคั่ง ในระดับที่ สูง กว่ามาตรฐานหรือภาวะสังคมที่เป็นอยู่ หรือแม้แต่ไปสู่ระดับที่ใจต้องการ ...แต่มันจะมีความภูมิใจมากน้อย อันนี้เป็นเรื่องที่ในระหว่างทางของแต่ละคนจะเผชิญ พบเจอ และสร้างสรรค์ขึ้นมา ซึ่งหลายคนเลือกที่จะ ทำมันขึ้นมาด้วยตัวเอง เพราะเขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่ ความมั่งคั่ง ความสำเร็จ แต่สิ่งที่ต้องการมากไปกว่านั้นคือ ความภูมิใจในตัวเองและศรัทธาในตัวเอง หรือผมว่ามันตรงกับคำว่า Self esteem นะครับ
สิ่งที่อยากจะบอกคือ เราทุกคนกำลังแล่นอยู่ใน เส้นทางที่เราต้องการเพื่อไปถึง จุดมุ่งหมายต่างๆที่เราตั้งใจไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การเรียนที่โดดเด่น ,ความมั่งคั่งที่สูงกว่าคนอื่นๆ, การทำงานที่ได้รับการยอมรับ โดยสรรหาหนทางมากมาย และหนทางเหล่านั้นรวมถึงการใช้ ทางลัด เช่น การเบียดบังคนอื่น ,การใช้ทรัพย์สินที่มีจ่ายซื้อความสำเร็จ หรือการโกง
โดยเราลืมนึกไปหรือไม่ว่า พอชีวิตมาถึงจุดหนึ่งๆ ความเป็นจริงที่หลีกไม่ได้คือ คนอื่นๆสังคมจะศรัทธาในตัวคุณอย่างแท้จริง หรือไม่นั้น มันอาจจะไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณสำเร็จในจุดที่ตั้งไว้สูงเพียงใด แต่เขาเหล่านั้นจะศรัทธาด้วยหัวใจมากกว่ามั้ย ถ้าความสำเร็จที่ได้มา...คุณทำมันเองด้วยมือล้วนๆ
ซึ่งถ้าเปลี่ยนมุมมองจากคนนอก มองคนที่สำเร็จมากๆ มาเป็น คนที่สำเร็จหรือคนที่ต้องการความสำเร็จ มองตัวเขาเอง ผมยังมองว่ามันสอดคล้องกับหลัก ความต้องการในชีวิต 5 ขั้นของ Maslow อีกด้วย ซึ่งถ้าใครเคยอ่านก็จะเห็นว่าในระยะแรกๆหรือความต้องการขั้นต้นนั้น เราสามารถสรรหาความต้องการของเรามาด้วย เงินทอง หรือสิ่งที่เป็น กาย มากกว่า แต่พอมองในความต้องการที่สูงขั้นไปนั้น ...มันเป็นเรื่องของ ใจ ของจิต ที่เราต้องการมาเพื่อเติมเต็มชีวิตนั่นเอง ดังนั้นอย่าลืมสรรสร้างความ สวยงามระหว่างทางเดินของเราๆท่านๆ ไปสู่ความสำเร็จ โดยพึ่งพิงการช่วยเหลือ การเบียดเบียน คนอื่นๆให้น้อยกว่า ความสามารถของเราที่ใส่ลงไป หรือพูดอีกอย่างก็คือ ถ้ามีแค่เรา ไม่มีใคร จะสำเร็จมั้ย .... ถ้าสำเร็จ นั่นแหละครับ คุณได้รับการศรัทธา ด้วยหัวใจที่แท้จริงทั้งคนรอบข้าง และจิตคุณเองเรียบร้อยแล้ว
เราเคยยกมือไหว้ครูทุกคน....แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เราอยากกราบลงด้วยหัวใจ
เราเคยเห็นลูกเศรษฐีทุกคนรวย....แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มาพร้อมความสามารถที่น่าเลื่อมใส
เราเคยเห็นคนเรียนจบเมืองนอกเมืองนาที่เก่ง....แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถไปเรียนได้ด้วยความสามารถตัวเอง 100%
เราเคยเห็นคนประสบความสำเร็จในจุดที่สูงมากมาย.....แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอก ที่ทำมันด้วยมือเขาเอง
เลยอยากเอาลิงค์จาก Bloomberg ดีๆมาแบ่งๆกันอ่านน่ะครับ
ตามนั้นครับ ^^
อ้อบทความนี้พอดีผมพิมพ์ในบล็อค ถ้าเคยอ่านแล้วก็คือคนเดียวดันครับ
http://whollyhall.blogspot.com/2017/01/blog-post.html
Cr.รูปภาพ
http://robertrolih.com/how-money-affect-self-worth-self-esteem/
http://www.123rf.com/photo_7009818_a-concept-of-an-abstract-way-to-success-in-the-competitive-world-of-business-or-real-life.html
http://blog.relearningtoteach.com/2016/05/day-169-diverse-needs.html