บันทึกการเดินทาง
12 - 26 กรกฎาคม 2559

ทุกคนย่อมมีความฝันเนอะ ฝันเล็ก ฝันใหญ่ก็ว่ากันไป สำหรับเรา ความฝันมีเยอะแยะมากมายก่ายกอง
ตั้งแต่มีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมืองครั้งแรก ๆ ตอนนั้นไปเกาหลี ก็รู้สึกสนุกกับการเดินทาง
โอเคมันอาจจะเหนื่อย ยาก ต้องใช้บริการการขนส่งสาธารณะซึ่งอยู่เมืองไทยไม่ใช้เลย
แต่สำหรับเรา การได้ไปเปิดหูเปิดตาที่ต่างบ้านต่างเมือง มันคือ ความสนุกอย่างหนึ่ง
วันที่ 12 มกราคม 2559 เป็นวันครบรอบแต่งงงานปีที่ 2
ของขวัญที่บังคับหักคอสามีซื้อมา คือ ตั๋วเครื่องบิน ไป- กลับ กรุงเทพ – ปารีส ในราคาคนละ 24,120 บาท
โอเค ราคาคงไม่ถูกนัก แต่ถ้าเทียบกับชื่อชั้นสายการบิน ช่วงเวลาการเดินทาง ราคานี้เราก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง
หลังจากซื้อเรียบร้อย หัวใจก็พองโต มีเรี่ยวแรงมาต่อสู้กับการทำงานในอีก 6 เดือนที่เหลือ
ทริปนี้เราขอวีซ่าที่สถานทูตฝรั่งเศส โดยของผ่าน TLS
สะดวกสบายค่ะ จองคิวแล้วก็ไปยื่น ใช้เวลาไม่น่าเกินสองชั่วโมง
โดยรอบนี้ใจดีให้วีซ่ายาวมาปีนึงเลย กราบขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ค่ะ
แผนการเดินทางเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มมีเมืองชื่อแปลก ๆ เข้ามาเรื่อย ๆ
หลายคนคงคิดว่าต้องเป็นชะโงกทัวร์แน่ ๆ กับระยะเวลา 14 วัน กับ 4 ประเทศ
แต่เราไม่เคยคิดแบบนั้นนะ แล้วเราก็ไม่เคยคิดว่าไปทั้งทีต้องเอาให้คุ้มด้วย
ความคิดเราคือ จะไปในที่ที่อยากไป จะดูในสิ่งที่อยากดู เท่านั้น
เป็นที่มาว่าทำไมถึงไม่เข้า Louvre ไม่ไปแวร์ซายส์ ไม่เข้ามิวเซี่ยมที่มีเป็นสิบในอัมเตอร์ดัมส์
แผนการเดินทางของเราจึงกึ่ง ๆ เป็นวงกลม ๆ ที่สร้างจากความชอบล้วน ๆ ยึดจากตั๋วเครื่องบิน ไป – กลับ กทม. -ปารีส
ยุโรปหน้าร้อนมีอะไร ?
เป็นฤดูที่คนไทยไม่ค่อยเที่ยวนะเอาจริง ๆ ทั้งที่มันโอเคมาก มืดช้า เที่ยวได้ยันห้าทุ่มอ่ะ ขาถ่ายรูปน่าจะชอบ
ของก็ลดราคา เดินทุกหัวถนนสายตาจะต้องเห็นป้ายสีแดง ๆ อยู่ร่ำไป แต่ข้อเสียมันก็มีไง
คนเยอะ เพราะฝรั่งชอบเที่ยวหน้าร้อน ค่าที่พักจึงอาจจะแพงขึ้นหน่อย แล้วอากาศก็ค่อนข้างร้อน
แต่ทำยังไงได้ ว่างช่วงนี้ ลาเวนเดอร์ก็บานช่วงนี้ ไม่ไปช่วงนี้แล้วจะไปช่วงไหน จริงมั้ย
ไปไหนมาบ้าง
โอย...เยอะแยะ ไปที่ชอบ ที่ชอบ ของแท้
Valensole เมืองหลวงของลาเวนเดอร์
Marseille เมืองคนโหด
ดื่มด่ำประวัติศาสตร์ที่ Rome
Venice แสนโรแมนติก
ทักทายเดวิด (ตัวปลอม) ที่ Florence
เลาะเลียบชายฝั่ง Italian Riviera
Pisa และ Milan ที่ไม่ค่อยมีอะไร
Zaanse Schans และ Volendam ที่น่ารักสุด ๆ
เมากลิ่นกัญชาที่ Amsterdam
Brugge เมืองนี้รักมาก
เมืองหลวงแห่งช็อคโกแลตที่ Brussels
ปิดท้ายที่ Paris เมืองที่เต็มไปด้วยมิจฉาชีพทุกรูปแบบ
เก็บกระเป๋าแล้วไปเที่ยวกัน !!!
((...ยุโรปหน้าร้อน ที่ไม่ร้อนอย่างที่คิด...))
12 - 26 กรกฎาคม 2559
ตั้งแต่มีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมืองครั้งแรก ๆ ตอนนั้นไปเกาหลี ก็รู้สึกสนุกกับการเดินทาง
โอเคมันอาจจะเหนื่อย ยาก ต้องใช้บริการการขนส่งสาธารณะซึ่งอยู่เมืองไทยไม่ใช้เลย
แต่สำหรับเรา การได้ไปเปิดหูเปิดตาที่ต่างบ้านต่างเมือง มันคือ ความสนุกอย่างหนึ่ง
ของขวัญที่บังคับหักคอสามีซื้อมา คือ ตั๋วเครื่องบิน ไป- กลับ กรุงเทพ – ปารีส ในราคาคนละ 24,120 บาท
โอเค ราคาคงไม่ถูกนัก แต่ถ้าเทียบกับชื่อชั้นสายการบิน ช่วงเวลาการเดินทาง ราคานี้เราก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง
หลังจากซื้อเรียบร้อย หัวใจก็พองโต มีเรี่ยวแรงมาต่อสู้กับการทำงานในอีก 6 เดือนที่เหลือ
สะดวกสบายค่ะ จองคิวแล้วก็ไปยื่น ใช้เวลาไม่น่าเกินสองชั่วโมง
โดยรอบนี้ใจดีให้วีซ่ายาวมาปีนึงเลย กราบขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ค่ะ
หลายคนคงคิดว่าต้องเป็นชะโงกทัวร์แน่ ๆ กับระยะเวลา 14 วัน กับ 4 ประเทศ
แต่เราไม่เคยคิดแบบนั้นนะ แล้วเราก็ไม่เคยคิดว่าไปทั้งทีต้องเอาให้คุ้มด้วย
ความคิดเราคือ จะไปในที่ที่อยากไป จะดูในสิ่งที่อยากดู เท่านั้น
เป็นที่มาว่าทำไมถึงไม่เข้า Louvre ไม่ไปแวร์ซายส์ ไม่เข้ามิวเซี่ยมที่มีเป็นสิบในอัมเตอร์ดัมส์
แผนการเดินทางของเราจึงกึ่ง ๆ เป็นวงกลม ๆ ที่สร้างจากความชอบล้วน ๆ ยึดจากตั๋วเครื่องบิน ไป – กลับ กทม. -ปารีส
ของก็ลดราคา เดินทุกหัวถนนสายตาจะต้องเห็นป้ายสีแดง ๆ อยู่ร่ำไป แต่ข้อเสียมันก็มีไง
คนเยอะ เพราะฝรั่งชอบเที่ยวหน้าร้อน ค่าที่พักจึงอาจจะแพงขึ้นหน่อย แล้วอากาศก็ค่อนข้างร้อน
แต่ทำยังไงได้ ว่างช่วงนี้ ลาเวนเดอร์ก็บานช่วงนี้ ไม่ไปช่วงนี้แล้วจะไปช่วงไหน จริงมั้ย
ไปไหนมาบ้าง
โอย...เยอะแยะ ไปที่ชอบ ที่ชอบ ของแท้