LaLaLand ดินแดนแห่งดวงดาว ภาคนุ่มนวลชวนฝันของ Whiplash

ผู้ใดได้อยู่กับความฝันในความจริงย่อมเป็นผู้ที่โชคดีที่สุด...

ไม่ผิดหวังจริงๆ กับสิ่งที่เพื่อนๆ หลายคนชมว่าดีมากและไม่ควรพลาด

แค่เห็นชื่อผู้กำกับก็ซี๊ดแล้ว Chazelle นางสร้างผลงานน่าประทับใจไม่มีวันลืม ภาพยนตร์ที่ชอบที่สุดในชีวิต "Whiplash" ที่ดูไปหลายรอบเมื่อปีกลาย

จากหนัง psycho drama ที่ดูแล้วต้องเกร็ง เครียด ดื่มด่ำ ลุ้นระทึก น้ำตาไหล สุดจะบรรยายอย่าง "Whiplash" ผู้กำกับคนนี้ก็นำเรามาสู่หนัง musical drama ที่แสนจะอบอุ่น อิ่มเอม เจริญใจ เกิดพลัง อย่าง LaLaLand (แต่แอบหลอนนิดนึงนะที่ป๋า Simmons โผล่มาเป็นผจก.บาร์ที่เซบส์ไปรับจ้างเล่นเปียโนช่วงวันคริสตมาสอะ ฮ่าๆๆ)

จะมีใครบ้างไม่เคยผ่านช่วงวัยหวานที่เต็มไปด้วยความหวังและความฝัน เต็มไปด้วยพลังที่จะสู้เพื่อให้ฝันของตนนั้นเป็นจริง มีคนที่เราร่วมแชร์ความฝัน ร่วมเป็นกำลังใจให้กันและกัน

แต่เมื่อเราเติบโตขึ้นในโลกของความเป็นจริง เมื่อมีความจำเป็นทางด้านอื่นของการดำรงชีพเข้ามาเกี่ยวข้อง จะมีสักกี่คนที่จะสามารถสานฝันให้เป็นจริงได้

ชีวิตของเซบส์กับมีอาก็เช่นเดียวกัน ทั้งสองมีความฝันและเป็นกำลังใจให้กันและกัน...

แต่เมื่อเส้นทางฝันต้องแยกไปคนละทาง ต่างก็ต้องมุ่งไปในทางของแต่ละคน จนท้ายที่สุด เมื่อชีวิตโลดแล่นไปตามเส้นทางฝัน 5 ปีต่อมา ต่างก็พบว่าเขาทั้งคู่ไม่ใช่คนที่เดินอยู่เคียงข้างกันในความเป็นจริงเหมือนในวันวานอีกต่อไป...

สำหรับคนที่เข้าใจชีวิตแล้วอาจจะไม่รู้สึกอะไรกับความจริงนี้

แต่สำหรับนักฝัน มันช่างเป็นความจริงที่แสนเจ็บปวดเหลือเกิน....

#LaLaLand
#AMovieThatInspires
#ดูแล้วนึกถึงหนูนาหนึ่งธิดา
#น่าจะทำเป็นละครเวทีดีๆได้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่