Reverse Culture Shock เราจะรับมือกับมันยังไงดีคะ

ขอระบายหน่อยค่ะ ตอนนี้ใกล้บ้าแล้ว แนะนำจิตแพทย์ได้นะคะ

เราอึดอัดมาก ตั้งแต่เริ่มทำงานมา เราจะเป็นบ้า กลับบ้านมาร้องไห้ทุกวัน ไม่อยากนอนเพราะไม่อยากให้พรุ่งนี้มาถึง ไม่โอเคกับอะไรหลายๆอย่าง แต่คุยกับที่บ้านแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นเลย พ่อ บอกว่าว่าคนอื่นเค้าก็อยู่ได้ ทำไมเราต้องทำตัวมีปัญหา ส่วนแม่เครียดง่าย มีเรื่องอะไรนิดนึงก็นอนไม่หลับแล้ว เราเลยไม่พูดดีกว่า คุยกับเพื่อนที่เคยมีประสบการณ์คล้ายๆกัน เรื่องจบที่ทุกคนลาออก

เราต้องเก็บทุกอย่างไว้ ที่แย่คือข้างในเครียดมาก แต่เวลาออกเจอคนอื่นเราคุยยิ้มได้เหมือนไม่เป็นไร คิดฆ่าตัวตายหลายรอบมาก ดีที่ยังไม่ได้ทำ บางวันก็อยากนอนแล้วหลับไปเลย บางวันเดินตรงทางเชื่อมรถไฟฟ้าแล้วก็อยากกระโดดลงไป ทุกอย่างจะได้จบ ไม่ต้องทนกับอะไรอย่างนี้อีก ลองหาข้อมูลดู เค้าบอกว่าให้แก้ที่สาเหตุ ฏ็มีทางเดียวคือลาออก ซึ่งยังไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น

เราเกลียดระบบอาวุโส ที่แค่อายุมากกว่า ทำงานมานานกว่าแล้วจะพูดจะทำอะไรยังไงก็ได้ เรารู้สึกว่าหลายอย่างมัน offensive ถ้าเป็นฝรั่งคงมีเรื่องแล้ว ต้องทำงานกับพวกอายุเยอะ แต่แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ได้ อย่างเช่น ทะเลาะกับคนที่บ้านแล้วมาอารมณ์เสียใส่คนที่ทำงาน เราอายุแทบจะรุ่นลูกเค้าก็เลยพูดอะไรไม่ได้ คุยกับหัวหน้างานเค้าก็บอกให้เราทำใจ ให้เข้าใจว่าเค้าเป็นแบบนั้น อย่าไปตอบโต้ไม่งั้นผู้ใหญ่จะมองว่าก้าวร้าว แต่เราไม่เข้าใจค่ะ ในเมื่อเค้าไม่เคารพเรา ทำไมเราต้องเคารพเค้าด้วย แค่เกิดก่อนนี่มีสิทธิ์ขนาดนี้เลย

มีหัวหน้าอีกแผนกนึง ตอนไปแนะนำตัวตอนเริ่มงาน พูดกับเราว่าเด็กเดี๋ยวนี้ไม่อดทน มาแป๊บเดียวก็ออก ถ้าเราอยู่เดือนสองเดือนออก จะไปหาที่บ้านเลย ไปคุยกับแม่ว่าเลี้ยงลูกมายังไงถึงเป็นแบบนี้ เรานี่อยากจะด่ากลับมาก แต่ได้แค่คิดในใจ who the hell are you เหมือนอยู่ๆก็โดนด่าถึงพ่อแม่ จริงๆถ้าคนอยู่ไม่นานแล้วออกเรื่อยๆ นี่ควรพิจารณาตัวเองก่อนมั้ย

ชอบตัดสินคน เค้ารู้จักเราแค่ในแบบที่เราอยากให้รู้แค่นั้นแหละ แต่ทำเหมือนรู้จักเราดี เอาเราไปพูดนู่นนี่ให้คนอื่นฟัง แล้วก็พูดแรงๆเกี่ยวกับรูปลักษณ์คนอื่น บอกว่าแซวเล่น สำหรับเรามันเป็นการ insult แล้วแหละ แต่ถ้ามีคนพูดกลับก็โกรธ บอกไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่

ขี้ยิ้ม อันนี้เจอเยอะเพราะองค์กรใหญ่ ถามเรื่องส่วนตัวที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงาน ไม่ใช่เรื่องตัวเองเนี่ยหูผึ่ง ลาหยุดก็ถาม ถ้ารู้ว่าไปเที่ยว ไม่ฝากซื้อของก็มาทวงของฝาก ลาล่วงหน้าไปแล้ว พอถึงวันที่หยุดจริงก็ไลน์ตามงานทั้งที่ไม่ใช่เรื่องด่วน ไลน์มาส่วนตัวว่าในสเตตัสไลน์คือยังไง มีเรื่องอะไรหรอ  ไม่รู้ความเป็นส่วนตัวอยู่ที่ไหน อยากรู้อยากเห็นไปหมด เดี๋ยวนี้ใช้ไลน์ทำงานคือปกติหรอคะ เราเพิ่งเคยเจอที่นี่

มีเรื่องอื่นๆอีกเยอะค่ะ อาการเราเหมือนโรคซึมเศร้าระยะแรกแล้ว ใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้ มาแชร์กันหน่อยค่ะ ว่าควรจะรับมือกับมันยังไงดี มีทางออกอื่นมั้ยนอกจากลาออก

จขกท.ไปเรียนต่อต่างประเทศตั้งแต่ม.ปลายค่ะ จบตรีกลับไทยไปทำงานบริษัทต่างชาติ ในทีมที่ต้องทำงานด้วยกันเป็นต่างชาติล้วนๆ พูดง่ายๆว่าไม่เคยทำงานกับคนไทยเลย ทำอยู่ 3 ปี แล้วไปเรียนต่อโทอีกประเทศนึง เทอมสุดท้ายมาฝึกงานที่ไทย กะว่าจะกลับมาอยู่ไทยละ พอไปทำจริงๆไม่รอด งานโอแต่คนไม่โอเลย สภาพจิตย่ำแย่ ฝึกงานเสร็จเลยกลับไปต่างประเทศ เรียนจบเรียบร้อยก็หางานต่อที่นู่นระหว่างนั้นเกิดไม่สบายขึ้นมาทำให้ต้องกลับมาอยู่ไทย เราเลยหางานทำ เข้าไปแล้ว culture shock รุนแรงมาก เราไม่ได้อยู่กับระบบไทยๆมาเป็นสิบปี เราเปลี่ยนไปเยอะจนไม่สามารถเข้ากับสังคมที่นี่ได้แล้ว รู้สึกแย่ที่เรากลับมาอยู่ในที่ๆเคยคิดว่าเป็นบ้านไม่ได้อีกแล้ว
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  สุขภาพจิต โรคซึมเศร้า ชีวิตในต่างแดน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่