The Mask Singer Thailand ปรากฏการณ์ล่าสุดของวงการทีวีไทย


คำเตือน เปิดเผยเนื้อหาของรายการ

พิมประโยคข้างต้นแล้วก็เขิน ๆ ดีนะครับ ผมรีวิวหนังในนามอื่นมานาน
รู้สึกว่าการแจ้งว่าจะสปอยล์เนื้อหาของภาพยนต์มันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติโดยทั่วไป

แต่กับสปอยล์รายการวาไรตี้ทางทีวีมันคงเป็นเรื่องใหม่ และน่าสนใมากจสำหรับผม

หลายคนรวมถึงผม รอให้รายการจบ และอัพโหลดผ่านยูทูปเสร็จก่อนค่อยดูยาว ๆ
ในห้วงเวลาที่ยาวนาน 20.00-22.00น. นั้น เป็นเวลาที่ผมปิดการสื่อสารทุกรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุค ทวีตเตอร์ หรือเวบบอร์ดต่าง ๆ เพราะกลัวว่าจะจ๊ะเอ๋กับศิลปินภายใต้หน้ากากไปเสียก่อน

ว่ากัน ว่าสิ่งที่สำคัญในการประชุม คือทุกคนควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ แนวทางปฏิบัติ หรือนโยบายต่าง ๆ
เพราะมีกฏข้อหนึ่งบอกไว้ว่า เราจะรัก และสนับสนุนกิจกรรม หรือความคิดใด ๆ ก็ตาม ที่ตนเองได้มีส่วนร่วม
และรายการนี้ก็เหมือนจะเล่นกับความรู้สึกนี้ได้เป็นอย่างดี

ถึงแม้รายการดังกล่าวจะมีคณะกรรมการ 6+1 ท่านก็ตาม แต่การโหวตนั้นขึ้นกับผู้ชมในห้องส่ง
และตัวแปรในการตัดสินก็ไม่ใช่เพียงเสียงร้องเพียงอย่างเดียวตามชื่อรายการ
ยังรวมถึงจริตจะก้าน การแสดงบนเวที รวมถึงการตอบคำถามต่าง ๆ ที่เป็นสเน่ห์ของผู้เข้าแข่งขัน
แบบที่ยากจะพบได้เมื่อเจ้าตัวถอดหน้ากาก

ด้วยความที่รายการนี้มีคอนเทนต์ที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่กลับมีดึงดูดคนดูได้มหาศาล
ทำให้เป็นไวรัลที่พูดกันปากต่อปาก การเล่นกับความอยากรู้อยากเห็นของคน
ว่าภายใต้หน้ากากนั้นมีใครซ่อนอยู่ ใช่คนที่เราคิดไหม หรือคนว่าคนที่เพื่อนเราคิดจะถูก

รวมถึงนิสัยการเล่นสังคมออนไลน์สมัยใหม่ เมื่อคนขวนขวายจะรู้ก่อน อยากจะบอกต่อก่อน
มันจึงรวมเป็นพลังขับเคลื่อนที่เกินคาด ยิ่งยุคที่ข่าวสารรวดเร็วแบบนี้ ยิ่งสร้างแรงกระเพื่อมให้มากขึ้น
แม้ในความจริงแล้ววงการทีวีจะซบเซา และถูกมองว่ากำลังตกยุคไปแล้ว
แต่ผลลัพธ์ของมันทำให้รายการดังกล่าวเป็น talk of the town
และมีเรตติ้งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จนเอาชนะละคอนน้ำเน่าหลังข่าวไปได้

สุดท้าย ถึงรายการนี้จะเป็นการซื้อลิขสิทธิ์มาจากเกาหลี ทำให้หลายคนคงมีคำถามว่าจะเทียบต้นฉบับได้หรือไม่
แต่ผู้จัดก็ทำได้ดีพอจะทำให้คนคิดว่ามันดีกว่าของเกาหลีอีกด้วยซ้ำ
ไม่ว่าจะแง่โปรดักส์ชั่น คอสตูมดีไซน์ และความเป็นปริศนาของการแข่งขัน
ทั้งยังช่วยตอกย้ำซ้ำอีกครั้งว่า ปัญญา นิรันดร์กุล คือเจ้าพ่อรายการทีวีที่ไม่มีใครเทียม

และเป็นกรณีศึกษาว่า หากคอนเทนต์รายการมีความน่าสนใจ และสามารถประยุกต์ใช้ร่วมกับสื่อรูปแบบต่าง ๆ
ก็สามารถทำให้ประสบความสำเร็จแม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนก็ตามครับ

ผมเพิ่งเริ่มทำเพจสำหรับพูดคุย อยากได้กำลังใจ และคำติชมจากทุกคนนะครับ
เพจ : โตแล้วคุยอะไรก็ได้
https://www.facebook.com/TalksWithKaowPong/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่