คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 23
อันนี้ของผมไม่ได้เขียนพินัยกรรม แต่เขียนข้อมูลไว้ให้และเก็บไว้ในเซฟ
1. หุ้นที่มีตามบริษัทต่างๆ ที่ไม่จดทะเบียนในตลาด และพอร์ตโบรค 4 พอร์ต อันนี้ไม่รู้ตอนตายจะถือหุ้นอะไรไว้อยู่ ไปขอมาร์เอง ภรรยารู้จักมาร์ทุกคน (ภรรยาผมเป็นห่วงกรณีชูวงศ์)
2. โฉนดที่ดิน หรือบ้าน/ คอนโด แยกเป็นเล่มและพิกัดถ้ามีตัวจริงก็ผ่อนหมด ไม่มีตัวจริงไม่ผ่อนก็ค้ำ OD อยู่
3. บัญชีทองคำออนไลน์ (อันนี้สำคัญตายไปมันคงหายไปพร้อมชีวิต ถ้าลูกเมียไม่รู้)
4. เงินฝากประจำ เงินลงทุนในกอง ที่ต่างๆ อันนี้คงหาได้เพราะมีสมุด / มีตู้เซฟที่ธนาคารด้วยที่สาขา (อันนี้คงต้องเอาหมายศาลไปเปิดในฐานะผู้รับมรดก
5. กรมธรรม์ประกันชีวิตของตัวผมเองและครอบครัว (มีตารางไว้หมด เพราะมีคนดูแลเรื่องนี้) ให้น้องที่ดูแลช่วยเคลม คงได้เยอะอยู่รีบเอาเงินไปปิดหนี้ทั้งหมด
6. หนี้สิน อันนี้ update ไม่ค่อยได้ หาเองได้ เพราะไม่มีหนี้นอกระบบ มีแค่คอนโด / บ้าน ที่ผ่อน บัตรเครดิต มี 6 ใบ และมี O/D 3 ที่ บัตรเงินสดไม่มีนะให้ ผจก. ธนาคารเช็คยอด OD แล้วปิดก่อน เพราะ ดอกเบี้ยมันวิ่ง หรือส่งดอกก่อนถ้าเงินสดไม่พอ (มันอาจจะไปอยู่ในหุ้น หรืออสังหาอื่นได้เป็นระยะ)
7. ลูกนอกสมรส ( 555 เด็กๆ ที่ส่งเรียน ต่างจังหวัด 5 คน) ไปส่งต่อให้จนจบนะปีไม่กี่หมื่น ดูแลผลการเรียนมันด้วย
8. แค่นี้คงพอนะ เตรียมให้ขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องรีบตามมา อยู่ดูลูกๆ ให้โตก่อน
ปล.1 รักนะ แต่ชาติหน้าถ้ามีจริง ขอมีเมียน่ารักๆ อย่างเธอสัก 2-3 คนนะ เห็นมั้ยตายไปแล้วเสียใจไม่ให้มีกิ้กตอนที่มีชีวิต
ปล. 2 ถ้ามีคนมาจีบใหม่ ก็ดูด้วยนะ อย่าให้มันมาปอกลอก ผช. ดีๆ แบบพี่หายาก อิอิ
เรื่องจริงครับ เขียนอยู่ในซองไว้ในตู้เซฟ ทำไว้ไม่ให้เป็นภาระลูกเมียครับ
1. หุ้นที่มีตามบริษัทต่างๆ ที่ไม่จดทะเบียนในตลาด และพอร์ตโบรค 4 พอร์ต อันนี้ไม่รู้ตอนตายจะถือหุ้นอะไรไว้อยู่ ไปขอมาร์เอง ภรรยารู้จักมาร์ทุกคน (ภรรยาผมเป็นห่วงกรณีชูวงศ์)
2. โฉนดที่ดิน หรือบ้าน/ คอนโด แยกเป็นเล่มและพิกัดถ้ามีตัวจริงก็ผ่อนหมด ไม่มีตัวจริงไม่ผ่อนก็ค้ำ OD อยู่
3. บัญชีทองคำออนไลน์ (อันนี้สำคัญตายไปมันคงหายไปพร้อมชีวิต ถ้าลูกเมียไม่รู้)
4. เงินฝากประจำ เงินลงทุนในกอง ที่ต่างๆ อันนี้คงหาได้เพราะมีสมุด / มีตู้เซฟที่ธนาคารด้วยที่สาขา (อันนี้คงต้องเอาหมายศาลไปเปิดในฐานะผู้รับมรดก
5. กรมธรรม์ประกันชีวิตของตัวผมเองและครอบครัว (มีตารางไว้หมด เพราะมีคนดูแลเรื่องนี้) ให้น้องที่ดูแลช่วยเคลม คงได้เยอะอยู่รีบเอาเงินไปปิดหนี้ทั้งหมด
6. หนี้สิน อันนี้ update ไม่ค่อยได้ หาเองได้ เพราะไม่มีหนี้นอกระบบ มีแค่คอนโด / บ้าน ที่ผ่อน บัตรเครดิต มี 6 ใบ และมี O/D 3 ที่ บัตรเงินสดไม่มีนะให้ ผจก. ธนาคารเช็คยอด OD แล้วปิดก่อน เพราะ ดอกเบี้ยมันวิ่ง หรือส่งดอกก่อนถ้าเงินสดไม่พอ (มันอาจจะไปอยู่ในหุ้น หรืออสังหาอื่นได้เป็นระยะ)
7. ลูกนอกสมรส ( 555 เด็กๆ ที่ส่งเรียน ต่างจังหวัด 5 คน) ไปส่งต่อให้จนจบนะปีไม่กี่หมื่น ดูแลผลการเรียนมันด้วย
8. แค่นี้คงพอนะ เตรียมให้ขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องรีบตามมา อยู่ดูลูกๆ ให้โตก่อน
ปล.1 รักนะ แต่ชาติหน้าถ้ามีจริง ขอมีเมียน่ารักๆ อย่างเธอสัก 2-3 คนนะ เห็นมั้ยตายไปแล้วเสียใจไม่ให้มีกิ้กตอนที่มีชีวิต
ปล. 2 ถ้ามีคนมาจีบใหม่ ก็ดูด้วยนะ อย่าให้มันมาปอกลอก ผช. ดีๆ แบบพี่หายาก อิอิ
เรื่องจริงครับ เขียนอยู่ในซองไว้ในตู้เซฟ ทำไว้ไม่ให้เป็นภาระลูกเมียครับ
แสดงความคิดเห็น
คุณวางแผนหลังความตายกันรึยังครับ!?
แต่ผมหมายถึง การวางแผนว่าหลังจากที่ตัวคุณเสียชีวิตไป(ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร) คนที่อยู่ข้างหลัง เช่น พ่อ แม่ ภรรยา สามี ควรจะจัดการทรัพย์สิน และหนี้สินที่เป็นของคุณต่อไปอย่างไร จึงจะเกิดปัญหาน้อยที่สุด
เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ผมขอยกตัวอย่างปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นหลังคุณเสียชีวิตนะครับ
1.หนี้สินบัตรเครดิต ผมคิดว่ามีโอกาสสูงที่ทายาทของคุณ จะไม่ทราบว่าคุณใช้บัตรไหนบ้าง และถึงกำหนดชำระเมื่อไร ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ เกิดดอกเบี้ยผิดนัดปีละ 20 กว่าเปอร์เซ็นโดยไม่จำเป็น
2.หนี้สินเกี่ยวกับบ้านหรือรถ
อันนี้ก็คล้ายกับข้อแรก คือ ทายาทมีโอกาสที่จะไม่รู้ว่าบ้านหรือรถ ที่คุณผ่อนอยู่ ถึงกำหนดชำระเมื่อไร ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ 18% สำหรับสินเชื่อบ้าน และอาจถึงขั้นถูกฟ้องยึดบ้าน หรือถูกยึดรถ ทั้งๆที่หากมีการจัดการที่ดี จะสามารถขายบ้าน และรถ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อทายาทมากกว่าการถูกยึดไปขายถูกๆ
3.การจัดการทรัพย์สิน
อันนี้ก็เกี่ยวพันกับข้อที่2 ข้างต้น กล่าวคือในบรรดาทรัพย์สินที่คุณมีอยู่ ทั้งที่ผ่อนหมดแล้ว และยังผ่อนไม่หมด เช่น บ้าน คอนโด รถ พอร์ตหุ้น ประกันชีวิต บัญชีเงินฝาก เหล่านี้ ทายาทของคุณควรจะขายบ้านหลังไหน ในราคาเท่าไร และนำมาโปะหลังไหน หรือควรถอนเงินจากบัญชีไหน มาชำระหนี้อันไหน หรือ จะต้องไปทำเรื่องเคลมประกันชีวิตที่ไหนบ้าง
สิ่งต่างๆเหล่านี้ ผมว่ามีแต่ตัวคุณเท่านั้นที่รู้ดีที่สุดว่าคุณมีทรัพย์สินอะไรบ้าง แล้วควรจัดการอย่างไรจึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด
ตามที่ผมกล่าวมาข้างต้น ผมจึงคิดว่า พวกเราๆ ที่เป็นเสาหลักของครอบครัวนี้ ไม่ว่าจะอายุ 30 , 40 หรือ 50 ก็ตาม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องวางแผนหลังการตายของท่านไว้ก่อน เพื่อให้คนที่อยู่ข้างหลัง ง่ายในการจัดการสิ่งต่างๆต่อไปได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด (ผมไม่ได้หมายถึงต้องทำประกันชีวิตไว้เยอะๆนะครับ เพราะส่วนตัวผมก็ไม่แน่ใจว่าถ้าทำประกันไว้ แต่ทายาทไม่รู้ บริษัทประกันจะเอาเงินมาให้จริงมั้ย)
ประเด็นของกระทู้นี้ คือ อยากทราบความคิดเห็นของทุกท่านว่า เราๆท่านๆเนี่ย จำเป็นที่จะต้องทำ "แผนการหลังความตาย" หรืออาจจะเรียกว่า "คำสั่งเสีย" เอาไว้หรือไม่? และคุณๆ ทำกันไว้แล้วหรือยัง?
หรือ ผมคิดมากไปเอง ลองแชร์ความคิดเห็นกันดูนะครับ