[เรื่องสั้น] สองสามนาที

สองสามนาที


"ผมขอรบกวนเวลาคุณสักสองสามนาทีหน่อยนะ"

ผู้ชายภูมิฐานอายุราวห้าสิบกว่าคนหนึ่ง กำลังพูดประโยคนี้กับผม เขาเป็นหัวหน้าของผมโดยตำแหน่งหน้าที่การงาน ห้องทำงานของเขา ไม่ใช่ที่ที่ใครจะย่างกรายเข้ามาง่าย ๆ แม้แต่ผมเองก็ไม่ประสงค์ที่จะเข้าไป การที่เขาขอรบกวนเวลาของผมด้วยตนเองเช่นนี้ แถมอนุญาตให้ผมเข้ามาพบถึงห้องทำงาน ก็ยิ่งตอกย้ำความสำคัญของเรื่องที่จะคุยกันต่อจากนี้ด้วย

"ได้ครับ"
"ผมมีเรื่องที่อยากจะถามคุณจริง ๆ เกี่ยวกับเรื่องแผนกของคุณ"
"ครับ"
"ครึ่งปีที่ผ่านมานี้ ลูกน้องแผนกคุณลาออกไปถึงหกคน เฉลี่ยก็เดือนละคนเลยนะ เกิดอะไรขึ้น"

หกคน! ผมแทบไม่รู้สึกอะไรเลย ผมแค่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ออกไปประชุมหรือคุยงานบ้างบางครั้งตามโอกาส ผมคิดว่าผมทำหน้าที่ของตัวเองดีที่สุดแล้ว แต่ทำไปทำมา แผนกของผมก็ดูเหมือนคนจะค่อย ๆ บางตาลงเรื่อย ๆ คนเก่าก็ออกไป คนใหม่ก็เข้ามาบ้าง คนที่อยู่กับผมมานานที่สุดเท่าที่ยังอยู่ตอนนี้ อายุงานก็แค่ปีกว่าเท่านั้น ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยู่กับผมได้นานขนาดนี้นะ

"พวกที่ออกไปพวกนั้น คงได้งานใหม่เงินเดือนดีกว่า ประมาณนั้นแหละครับ"
"คุณยังไม่รู้ตัวอีกรึไง!" น้ำเสียงของเขาแข็งขึ้น "หกคนแผนกคุณที่ออกไป เขาออกไปเพราะคุณทั้งนั้นเลยนะ นี่เอชอาร์รายงานผมมาเนี่ย ผมเลยต้องเรียกคุณมาคุยไง ผมอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
"แล้วทำไมต้องถามผมล่ะ ทำไมไม่ไปถามหกคนนั่นที่ลาออกไป"
"ผมอยากถามคุณ ไม่ใช่ลูกน้องคุณ คุณแค่ตอบผมมาว่าเกิดอะไรขึ้นในแผนกคุณ"

...

วันนั้นเป็นวันแรกหลังจากที่ผมถูกเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นหัวหน้าแผนก หน้าที่และความรับผิดชอบของผมในตอนนี้ คือการดูแลเพื่อนร่วมแผนก ที่ตอนนี้ต้องมาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผม นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมสัมผัสความเป็นเจ้าคนนายคนอย่างแท้จริง แต่มันก็ดูเงียบเชียบราวกับว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ผมใช้อำนาจในตำแหน่งหัวหน้าแผนกครั้งแรก ด้วยการเรียกทุกคนในแผนกมาประชุม สมาชิกทั้งแผนกสิบกว่าคน ตอนนี้มาอยู่รวมกันในห้องประชุมแคบ ๆ โดยมีผมเป็นประธาน แล้วผมก็เริ่มพูดถึงสิ่งที่แต่ละคนต้องปรับปรุงตัวเอง ก่อนจะจบการประชุมไป ทุกคนเดินออกจากห้องประชุม เหลือเพียงแค่ผม กับพงศ์ เพื่อนร่วมงานที่ผมสนิทกันมานาน เขามีอะไรบางอย่างจะคุยกับผมต่อ

"สมศักดิ์ เราขอคุยกับนายในฐานะเพื่อนเก่าได้มั้ย"
"ได้สิ"
"คือที่นายเรียกประชุมแล้วก็ด่าทุกคนเรียงตัวแบบนั้น นายคิดดีแล้วหรอ"
"ก็มันเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องปรับปรุงตัวจริง ๆ นี่หว่า อันนี้ก็พูดตามที่เห็นนะ ไม่ได้อคติอะไร"
"แต่นายไม่คิดบ้างหรอ ว่ามาตรฐานของนายน่ะ มันสูงเกินไปนะ แต่ละอย่างที่นายบอกน่ะ นายทำของนายไม่มีใครว่าหรอก แต่นายดันเอามาตรฐานของนายไปบังคับคนอื่น คนนะไม่ใช่เครื่องจักร ทำแบบนายไม่ได้ทุกคนหรอก"
"ถ้าทำได้แบบนั้นทุกคน มันก็ดีไม่ใช่หรอ เคพีไอแผนกเราทะลุเป้าผ่านฉลุยทุกอย่าง ก็เห็น ๆ อยู่ จะว่ามาตรฐานสูงได้ไง"
"แต่มาตรฐานนายมันสูงเกินไปจริง ๆ นะ แค่ทำงานหกโมงเช้าถึงสี่ทุ่มไม่หยุดพักอย่างเดียวก็เครื่องจักรแล้ว"
"สูงของคุณ แต่ปกติของผม ผมเป็นหัวหน้าคุณแล้วนะ ไม่ใช่เพื่อนคุณ ผมทำได้ พวกคุณก็ต้องทำได้สิ"
"ครับท่านสมศักดิ์ ผมจะทำตามมาตรฐานของท่านให้ได้ทุกกระเบียดนิ้วเลยครับ"

หลังการสนทนาระหว่างผมกับพงศ์วันนั้นไม่กี่สัปดาห์ ผมก็ทราบข่าวการลาออกของพงศ์ และหลาย ๆ คนที่ผมเคยรู้จักในแผนก ก็ค่อย ๆ หายหน้าไปทีละคน ทีละคน คนไม่ได้เรื่องก็สมควรออกไป ผมได้แต่คิดยิ้มเยาะคนพวกนั้นอยู่ในใจ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องเสียใจสำหรับการจากไปของพวกเขา

...

"ก็คนที่ออกไปมันก็มีแต่พวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ไม่ได้เรื่องซักคนนี่ครับ ลาออกไปก็ดีแล้วครับ บริษัทเราจะได้มีแต่คนทำงานคุ้มเงินเดือน" ผมตอบหัวหน้าอย่างแข็งขัน
"แน่ใจนะว่าพวกเขาไม่ได้เรื่อง คุณไม่เห็นเหรอว่าเคพีไอแผนกคุณตกลงแค่ไหนตั้งแต่พวกเขาออกไป"
"คงเพราะคนน้อยลงด้วยครับ เคพีไอถึงตกลง"
"ถ้าคนน้อยลงแล้วเคพีไอรวมมันตก อันนี้ผมไม่แปลกใจ แต่อันนี้ผมเทียบเป็นต่อคน คุณได้ยินมั้ย ต่อคนนะ! แย่ลงแบบชัด ๆ เลย คุณจำคุณพงศ์ได้มั้ย"
"จำได้ครับ เขาเป็นเพื่อนสนิทผมเอง"
"ผมเป็นคนเลือกเขาเองมากับมือ ผมรู้ว่าเขาทำงานดี แต่ประสบการณ์กับอายุงานน้อยกว่าคุณไปหน่อย ไม่อย่างนั้นผมคงโปรโมตเขาแทนคุณแล้ว คุณสมศักดิ์"
"ไอ้คนไม่ได้เรื่องอย่างมันเนี่ยนะครับ ท่านล้อผมเล่นรึเปล่า"
"ผมไม่ได้ล้อคุณเล่น ก่อนจะออก คุณพงศ์เขามาบอกผมเรื่องคุณ บอกว่าคุณเป็นคนบ้างานจัด ตอนคุณเป็นหัวหน้าวันแรก คุณก็พยายามบังคับลูกน้องให้บ้างานเหมือนคุณ จริงรึเปล่า"
"ไม่จริงครับท่าน ผมไม่ได้บ้างาน ผมแค่ทำตามมาตรฐานของผม ก็แค่นั้นเอง"
"คุณไม่ต้องกังวลไป ผมไม่ได้ว่าคุณหรอก ที่คุณทำน่ะ ดีแล้ว ผมดีใจที่ได้ลูกน้องแบบคุณนะ ..."

คำพูดประโยคนี้ของหัวหน้า ทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาบ้าง ผมนึกว่าหัวหน้าจะเรียกผมมาด่าซะแล้ว ที่ไหนได้ เขาเรียกผมมาชมเชยนี่เอง

"... แต่ผมเสียใจที่ได้หัวหน้าแบบคุณ"

จบหักมุมกันแบบนี้ หัวหน้าต้องการอะไรจากผม อยากให้ผมเป็นหัวหน้าที่ดีอย่างนั้นเหรอ นี่ผมก็เป็นให้แล้วนะ จะเอาอะไรอีก

"ผมขอร้องคุณช่วยทำอะไรอย่างนึงได้มั้ย"
"อะไรครับ"
"ลาออก!"

คำ ๆ นี้ ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะออกจากปากของหัวหน้าที่ดูเหมือนจะชื่นชมทุกการกระทำของผมมาโดยตลอด สั้น ๆ สองพยางค์ แต่ก็เจ็บปวด บริษัทที่ผมอุทิศร่างกายและจิตวิญญาณให้อย่างไม่เสียดายชีวิต แล้วอยู่ดี ๆ ก็ขอให้ผมลาออก ทำไมเรื่องนี้มันต้องมาเกิดขึ้นกับผมด้วย ทำไม?

"ท่านครับ ทำไมต้องไล่ผมออกด้วย" ผมถาม ในขณะที่น้ำตาของผมไหลเอ่ออย่างไม่มีเหตุผล
"ผมไม่ได้ไล่คุณออกหรอกนะ แต่ผมแนะนำว่าคุณควรจะไปหาบริษัทที่จะสามารถซัพพอร์ทคุณได้ดีกว่า ด้วยประสบการณ์และทักษะของคุณ ผมมั่นใจว่าคุณจะหาได้ในเร็ว ๆ นี้แน่นอน"
"ท่านครับ" ผมสะอื้น "ก่อนผมจะไป ผมถามอะไรท่านอย่างนึงได้มั้ยครับ"
"ได้เลย คุณจะถามอะไรผมล่ะ"
"ทำไมต้องให้ผมเป็นหัวหน้าด้วย!"

ไม่มีคำตอบจากหัวหน้า ผมเดินออกมาจากห้องทำงาน บรรยากาศรอบตัวผมช่างเงียบสงบเสียจริง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่