***เสี้ยวเสน่หา บทที่ 4 ***


  
พลอยชมพูกลับมาทำงานตามปกติหลังวันลาของเธอครบกำหนด เพื่อนร่วมงานหลายคนดูประหลาดใจ ที่หญิงสาวไม่มีเพลนไปดื่มน้ำพระจันทร์ที่ไหน
เฉกเช่นคู่แต่งงานใหม่ทั้งหลายนิยมทำกัน

“พี่เค้างานยุ่งมากเลยล่ะค่ะ คงต้องรออีกพักใหญ่ถึงจะได้ไป”

หญิงสาวแก้ตัวไปตามเนื้อผ้า เธอจะบอกเล่าให้ใครฟังได้ยังไงว่าเธอแต่งงาน เพราะพ่อแม่ของเธอบริหารจัดการเรื่องเงินล้มเหลว
แถมสามีของเธอก็ไม่เคยคุยกันถึงสิบคำด้วยซ้ำไป เขาวางตัวเป็นพี่ชายคนเดิมและหลบเลี่ยงหน้าที่ของการเป็นสามีได้อย่างสุภาพ

“พลอยนอนบนเตียงให้สบายนะ พี่จะนอนที่โซฟาเบดเอง”

นั้นคือการเก็บหัวใจของเขาให้ออกห่างจากเธออย่างชัดเจนที่สุด…ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี เธอก็ไม่เคยอยู่ในสายตาของ
‘พี่ตี๋’ เลยสักนิด แม้แต่ตอนนี้ห่างกันแค่ฉากไม้ระแนงกั้น เขาก็สามารถกันเธอออกห่างไปจนได้

“จะยอมแพ้ทำไม…รักแท้แพ้ใกล้ชิดไม่ใช่หรือ”

เสียงหัวใจอีกด้านหนึ่งของหญิงสาวยังปลุกระดมไม่เลิก และดูเหมือนเสียงนั้นจะดังขึ้นเรื่อยๆ พลอยชมพูทำงานพร้อมกับหาข้อมูล
ส่วนตัวไปด้วย

“ผู้ชายโลกส่วนตัวสูง ควรเข้าหายังไง”  

สิ่งที่อยู่บนหน้าจอคือตัวอักษรหลายขนาดซึ่งบอกสิ่งที่หญิงสาวอยากรู้ เธออ่านมันอย่างละเอียดและทำความเข้าใจให้ถ่องแท้
หลังเลิกงานพลอยชมพูแวะซุปเปอร์มาร์เก็ตก่อนเข้าบ้าน เธอสอบถามแม่ครัวเรื่องอาหารจานโปรดของชนน

“คุณตี๋ชอบทานสลัดผักค่ะ”

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วหญิงสาวก็ไม่รอช้า เธอลงมือปรุงสลัดจานนั้นด้วยตัวเอง ใส่จินตนาการเอาเองว่าเขาชอบผักชนิดไหน
หากคนทานตักไปเพียงไม่กี่คำเท่านั้น

“พี่ไม่ค่อยหิว”

‘คนทำ’ ใจเสีย แต่ก็ฝืนยิ้มสดใส

“พี่ตี๋ชอบผักอะไรล่ะคะ วันหลังพลอยจะทำให้ใหม่”

ชนนยังคงนิ่งเช่นเดิม หญิงสาวจึงเลื่อนจานนั้นเข้ามาใกล้ตัว…สลัดไขมันต่ำก็เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักเช่นเธอเหมือนกัน


แสงไฟบริเวณโต๊ะทำงานส่องสว่าง สะท้อนภาพด้านหลังของร่างสูงที่กำลังเพ่งพิศอยู่กับงานตรงหน้า แฟ้มงาน
เอกสารหลายแผ่นวางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะ ทำให้ผู้ที่เปิดประตูก้าวเข้าไปในห้อง ต้องชลอฝีเท้าลงเดินเลี่ยงเข้าไปสู่พื้นที่เชื่อมต่อที่เป็นเตียงกว้าง
พลอยชมพูนั่งลงบนเตียงอย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไร สมองเริ่มคิดว่าเธอจะเริ่มต้นคุยกับเขายังไง

“กาแฟ! ต้องชงกาแฟให้ดื่มตอนเขากำลังทำงาน”  

ความทรงจำเกี่ยวกับตัวละครในนวนิยายรักโรแมนติค ผุดพรายขึ้นมา

“กาแฟค่ะพี่ตี๋”

หญิงสาวยื่นถ้วยกาแฟหอมกรุ่นให้ตรงหน้า ดวงตาดำคมมีแววประหลาดใจเล็กน้อย

“พี่ดื่มกาแฟเฉพาะตอนเช้า กลางคืนเดี๋ยวนอนไม่หลับ”

“งั้นเปลี่ยนเป็นโกโก้ไมคะ?”

หญิงสาวยังไม่ลดความพยายาม

“ไม่ต้อง…พลอยจะไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ ไม่ต้องห่วงพี่”

ชายหนุ่มตัดบท ทำให้คนที่ยืนถือถ้วยกาแฟค้างอยู่นั้น ต้องถอยห่างออกมา… พลอยชมพูอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนหลวมๆ
ความอวบหนาของร่างกายทำให้ภาพเงาที่สะท้อนผ่านกระจกเงาดูใหญ่โต

“เหมือนวัว…”

หญิงสาววิจารณ์ตัวเองพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ นี่มันคงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาไม่ใส่ใจในตัวเธอ
ผู้ชายยังไงก็ให้ความสำคัญเรื่องรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงเป็นหลักอยู่แล้ว พลังที่จะเอาชนะดูจะหึกเหิมขึ้นมาอีกระลอก

“ผ้าเช็คตัวกับชุดนอนของพี่ตี๋อยู่ตรงนี้นะคะ”

เธอวางสิ่งของเหล่านั้นลงบนเก้าอี้ด้านหลังชายหนุ่ม พลางชโงกมองหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างสนใจ
ภาพกราฟฟิคหลายสีทำมุมเป็นสามมิติดูแปลกตา

“งานพี่ตี๋เหรอคะ ออกแบบอะไร?”

คนถามยังยื่นหน้าเข้าไปเกือบชิดจอ

“ระบบความเย็นในอาคาร”

ชายหนุ่มหันมาตอบ พร้อมกับที่พลอยชมยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ห่างกันก็เพียงคืบเท่านั้นกระมัง
ทำให้เขาเห็นแววตาเป็นประกายพราวของหญิงสาวชัดเจน…ระยิบระยับคลับคล้ายดาว

“แค่วางเครื่องปรับอากาศทำไมมันยุ่งยากจังคะ”

“มันมีเรื่องซ่อมบำรุงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ต้องจัดระบบให้ง่ายต่อการทำงาน”

“งั้นพี่ตี๋ก็ต้องออกไปดูหน้างานด้วยซิคะเนี่ย”

“ก็ต้องไปดูบ้าง”

เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มพูดต่อประโยคได้ยาวกว่าทุกครั้งที่คุยกัน พลอยชมพูหันไปหยิบเสื้อผ้าที่วางอยู่บนเก้าอี้ยื่นส่งให้อีกครั้ง

“พลอยว่า…พี่ตี๋ไปอาบน้ำเถอะค่ะดึกแล้ว เดี๋ยวค่อยกลับมาทำใหม่”  

“ยัง…”

ชายหนุ่มยังอ้อยอิ่ง ความคุ้นเคยกับชีวิตโสดทำให้ชนนทำอะไรตามอารมณ์เสียมากกว่า

“งั้นก็ตามใจค่ะ พลอยไปนอนดีกว่า”

หญิงสาววางเสื้อผ้าชุดนั้นลงบนตักของเขา ใบหน้ายังยิ้มละไม ดวงตากลมโตเป็นประกายลึกซึ้งด้วยความรู้สึกภายในใจ
จนอีกฝ่ายหนึ่งรับรู้ได้


กลุ่มต้นไม้หลายชนิดหลากสีจัดเรียงไปตามแนวความยาวของถนน รถเก๋งคันเล็กสีขาวแล่นช้าๆฝ่าสายฝนที่กำลังพร่างพรมลงมา
เข้าไปจอดเทียบหน้าทางเดินที่ปูลาดด้วยอิฐก้อนโต จำนวนเม็ดฝนที่เพิ่มมากขึ้นทำให้พื้นดินที่เคยร้อนระอุชุ่มชื้นขึ้นมาในทันที
พลอยชมพูก้าวลงจากรถกางร่ม ในมือหอบหิ้วถุงพลาสติกหลายใบ ขณะเดินฝ่าสายฝนเข้าสู่ตัวบ้าน

“มาพร้อมกับฝนเลยนะพลอย …ร้อนอบอ้าวมาหลายวัน วันนี้ได้ฤกษ์ตกเสียที”

คุณทัศนาเดินเข้าไปรับถุงเหล่านั้นจากมือบุตรสาว พลางมองข้ามไหล่ไปยังข้างหลังว่ามีใครตามมาด้วยอีกหรือไม่
ระยะเวลาร่วมเดือนที่บุตรสาวแต่งงานออกเรือนไป ทำให้ไม่ได้พบกันบ่อยมากนัก นอกจากการพูดคุยผ่านโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว

“ตี๋ไม่มาด้วยรึ?”

“ไม่ค่ะ…หนูมาคนเดียวนั้นแม่ทำอะไรคะนั้น หอมจังเลย”

หญิงสาวเดินลิ่วเข้าสู่ห้องครัว หลบเลี่ยงที่จะตอบคำถามข้ออื่นที่อาจมีตามมา แต่มารดายังสนใจถามต่อไป

“อาไร้…วันอาทิตย์ไม่ได้หยุดเลยหรือตี๋เน่ะ งานเยอะขนาดนั้นเชียว”

“ช่วงเริ่มโครงการมั้งคะ ต้องออกไปดูสถานที่บ้าง งานของพี่ตี๋เวลาไม่ค่อยแน่นอนเท่าไร”

ความจริงเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชายหนุ่มไปไหน ตื่นเช้าขึ้นมาโซฟาเบดที่เขาเคยนอนว่างเปล่า ชีวิตแต่งงานที่แตกต่างจากคนทั่วไปตั้งแต่จุดเริ่มต้น
ความเป็นสามีภรรยามีเพียงนิตินัย แต่ทางพฤตินัยเธอและเขาเป็นเพียงชายหญิงที่ใช้ห้องนอนร่วมกันเท่านั้น

“เมื่อวานแพรเขาโทรมา โวยวายใหญ่ที่ไม่มีใครบอกเรื่องพลอยแต่งงาน  พี่แพรเขายินดีกับพลอยด้วยนะ
ว่าพลอยโชคดีที่ได้แต่งงานกับตี๋…พี่เค้าโทรหาหนูมั้งหรือเปล่า? ”

“ไม่เห็นโทรมานี่คะ พี่แพรเค้าเป็นไงมั้งคะแม่? เห็นคราวนั้นบ่นอยากย้ายโรงพยาบาล”

คุณทัศนาบอกเล่าถึงบุตรสาวคนโตที่สมรสกับนายแพทย์ชาวอเมริกันและใช้ชีวิตในต่างแดน ด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข
พลางชโงกหน้าดูแกงเผ็ดหมูที่กำลังเดือด ส่งกลิ่นหอมฉุยไปทั่วห้อง พลอยชมพูต้องอดกลั้นมื้อเที่ยงด้วยการทานข้าวเพียงสองทัพพี
เธอพยายามจะลดน้ำหนักส่วนเกินลงให้ได้มากที่สุด แม้ตอนขากลับมารดาจะคะยั้นคะยอให้เธอตักใส่ถุงพลาสติกกลับมาทานต่อที่บ้าน
แต่ก็ต้องตัดใจเพราะมื้อเย็นของเธอแต่ละวันล้วนเป็นเมนูผักทั้งนั้น

หญิงสาวขับรถกลับมาถึงคฤหาสห์หลังงามในเวลาเย็น ลำแสงสีส้มอ่อนจางกำลังจะลาลับจากไปเต็มที
พลอยชมพูหิ้วข้าวของหลายอย่างลงจากรถ ก่อนจะส่งต่อให้เด็กรับใช้ที่เดินเข้ามาอย่างงาน

“นั้นใครมาเหรอผึ้ง?”

หญิงสาวถามเสียงเบา พลางตาปรายไปยังศาลาหลังใหญ่กลางสวน

“อาจารย์เตชิต…เพื่อนคุณตี๋ค่ะ หายไปพักหนึ่งตอนนี้กลับมาอีกแล้ว”

“มาที่นี่บ่อยหรือจ๊ะ?”

“บ่อยมาก…”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่