เช้าวันของการทำงานในวันสุดท้ายของสัปดาห์ก่อนสุดท้ายของเดือนแรกของปี
ขับรถมาตามปกติด้วยอาการง่วง เป็นเชี่ยนๆ สะลึมสะลือมาเรื่อยๆ จนมาถึงถนน อิสรภาพ หน้าวัดใหม่พิเรนทร์จะมุ่งหน้าสามแยกโพธิ์สามต้น ซึ่งการจราจรในฝั่งผมหยุดนิ่งสลับเคลื่อนตัวได้ช้าๆ แต่ฝั่งตรงข้ามเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆจนถึงโล่ง ,, และในขณะที่รถติดหยุดนิ่งอยู่นั้น
หนุ่มน้อยวัยประถม ใส่ชุดนักเรียนเต็มยศ พร้อมด้วยรองเท้านันยางเบอร์32 สีดำ คาดการณ์น่าจะประมาณ ป.4ไม่เกิน ขนน่าจะยังไม่ขึ้น ดูทรงแล้วน่าจะยังไม่มีแฟนและน่าจะชอบทีมฟุตบอลอาร์เซนอลเป็นชีวิตจิตใจ เพราะเป็นทีมที่มีศักยภาพและมีนักเตะชื่อดังมากมายรวมถึงมีแฟนบอลหน้าตาดี ,, สะพายกระเป๋าเป้ใบตุง ยืนอยู่ฝั่งกงข้ามเลนถนนผม ท่าทางลุกลี้ลุกลน เดินวนไปวนมาขอบฟุตบาทชะเง้อมองถนนเป็นระยะ โดยรวมอาการแสดงได้ว่า ไอ้หนูคนนี้กำลังจะข้ามถนน ,, แต่ด้วยความที่รถเยอะหรือใจไม่ถึงหรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้การติดสินใจของไอ้หนูนี่เป็นไปอย่างยึกยักๆ ,, แว้บเดียวที่สมองคิด
เป็นจังหวะที่เลนเราติดไฟแดงพอดี ,, ปลดเข็มขัดนิรภัย ดึงเบรกมือ เปิดไฟฉุกเฉิน และเปิดประตู เดินข้ามไปหาไอ้หนู โดยจอดรถคาไว้กลางถนนแบบนั้น
“จะข้ามเปล่า มาเลย” ผมยื่นมือให้ไอ้หนูเป็นสันญาณว่าจะพาข้าม ,, หนุ่มน้อยยิ้มแก้มปริ วิ่งเข้ามาจับมือผมอย่างแน่น ผมหันหลัง และพาหนุ่มน้อยเดินข้าม โดนที่รถคันที่ต่อหลังผมก็ไม่ได้มีทีท่าจะไล่หรืออะไรยังไง ที่ผมจอดรถคากลางถนนแบบนั้น
ถึงอีกฝั่ง ,, หนุ่มน้อยปล่อยมือผม พร้อมยกมือไหว้ “ขอบคุณครับพี่” ด้วยเสียงแบบเด็กๆ แล้ววิ่งกระโดด ดึ๊งๆๆแบบจิงโจ้ พร้อมด้วยกระเป๋าที่ตุงเต็มแผ่นหลังแกว่งไปแกว่งมา กระโดดตามฟุตบาทไปเรื่อยๆ เพื่อเลี้ยวจะเดินทางไปโรงเรียน หรือไปไหนอันนี้ไม่รู้ เพราะถ้าเป็นผม ผมจะแวะร้านเกมส์ก่อน ,, รีบกลับเข้ามาที่รถ และขับออกไป เพราะรถผมทำรถติดอยู่คันเดียวเป็นแถวยาวเนื่องจากไฟเขียวแล้ว
,,
เป็นเช้าวันทำงานเพียงวันเดียวที่มีรอยยิ้มและความอิ่มใจ และที่สำคัญเป็นความอิ่มใจที่สร้างขึ้นมาเอง ,, ขอบคุณรถทุกคันที่ต่อหลังผมที่ไม่บีบแตรไล่ที่ผมทำแบบนั้น ลึกๆแล้วเชื่อว่าคนมีน้ำใจในไทยยังมีอยู่จริง
เล่าเหตุการณ์ของผม เมื่อเช้านี้ครับ ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านครับ
เหตุการณ์เมื่อเช้านี้
ขับรถมาตามปกติด้วยอาการง่วง เป็นเชี่ยนๆ สะลึมสะลือมาเรื่อยๆ จนมาถึงถนน อิสรภาพ หน้าวัดใหม่พิเรนทร์จะมุ่งหน้าสามแยกโพธิ์สามต้น ซึ่งการจราจรในฝั่งผมหยุดนิ่งสลับเคลื่อนตัวได้ช้าๆ แต่ฝั่งตรงข้ามเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆจนถึงโล่ง ,, และในขณะที่รถติดหยุดนิ่งอยู่นั้น
หนุ่มน้อยวัยประถม ใส่ชุดนักเรียนเต็มยศ พร้อมด้วยรองเท้านันยางเบอร์32 สีดำ คาดการณ์น่าจะประมาณ ป.4ไม่เกิน ขนน่าจะยังไม่ขึ้น ดูทรงแล้วน่าจะยังไม่มีแฟนและน่าจะชอบทีมฟุตบอลอาร์เซนอลเป็นชีวิตจิตใจ เพราะเป็นทีมที่มีศักยภาพและมีนักเตะชื่อดังมากมายรวมถึงมีแฟนบอลหน้าตาดี ,, สะพายกระเป๋าเป้ใบตุง ยืนอยู่ฝั่งกงข้ามเลนถนนผม ท่าทางลุกลี้ลุกลน เดินวนไปวนมาขอบฟุตบาทชะเง้อมองถนนเป็นระยะ โดยรวมอาการแสดงได้ว่า ไอ้หนูคนนี้กำลังจะข้ามถนน ,, แต่ด้วยความที่รถเยอะหรือใจไม่ถึงหรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้การติดสินใจของไอ้หนูนี่เป็นไปอย่างยึกยักๆ ,, แว้บเดียวที่สมองคิด
เป็นจังหวะที่เลนเราติดไฟแดงพอดี ,, ปลดเข็มขัดนิรภัย ดึงเบรกมือ เปิดไฟฉุกเฉิน และเปิดประตู เดินข้ามไปหาไอ้หนู โดยจอดรถคาไว้กลางถนนแบบนั้น
“จะข้ามเปล่า มาเลย” ผมยื่นมือให้ไอ้หนูเป็นสันญาณว่าจะพาข้าม ,, หนุ่มน้อยยิ้มแก้มปริ วิ่งเข้ามาจับมือผมอย่างแน่น ผมหันหลัง และพาหนุ่มน้อยเดินข้าม โดนที่รถคันที่ต่อหลังผมก็ไม่ได้มีทีท่าจะไล่หรืออะไรยังไง ที่ผมจอดรถคากลางถนนแบบนั้น
ถึงอีกฝั่ง ,, หนุ่มน้อยปล่อยมือผม พร้อมยกมือไหว้ “ขอบคุณครับพี่” ด้วยเสียงแบบเด็กๆ แล้ววิ่งกระโดด ดึ๊งๆๆแบบจิงโจ้ พร้อมด้วยกระเป๋าที่ตุงเต็มแผ่นหลังแกว่งไปแกว่งมา กระโดดตามฟุตบาทไปเรื่อยๆ เพื่อเลี้ยวจะเดินทางไปโรงเรียน หรือไปไหนอันนี้ไม่รู้ เพราะถ้าเป็นผม ผมจะแวะร้านเกมส์ก่อน ,, รีบกลับเข้ามาที่รถ และขับออกไป เพราะรถผมทำรถติดอยู่คันเดียวเป็นแถวยาวเนื่องจากไฟเขียวแล้ว
,,
เป็นเช้าวันทำงานเพียงวันเดียวที่มีรอยยิ้มและความอิ่มใจ และที่สำคัญเป็นความอิ่มใจที่สร้างขึ้นมาเอง ,, ขอบคุณรถทุกคันที่ต่อหลังผมที่ไม่บีบแตรไล่ที่ผมทำแบบนั้น ลึกๆแล้วเชื่อว่าคนมีน้ำใจในไทยยังมีอยู่จริง
เล่าเหตุการณ์ของผม เมื่อเช้านี้ครับ ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านครับ