6 เหตุผลที่ทำให้ 'กงยู' เป็นโอปป้าที่ผู้หญิงทั่วเอเชียต้องการตัวมากที่สุด


1. ชีวิตส่วนตัวที่ไม่เปิดเผย

    
         ตัวละครคิมชินใน Goblin ซีรีส์เรื่องล่าสุดของเขา มีความใกล้เคียงตัวจริงกงยูมากที่สุดในเรื่องของความโลว์เทค เพราะเขาไม่มีเฟซบุ๊ก ไม่เล่นไอจี ทวิตเตอร์ หรือโซเชียลมีเดียอะไรเลย แนวโน้มที่เขาจะใช้สื่อโซเชียลฯ เท่ากับศูนย์ เพราะช่วงที่หนัง Train to Busan เข้าฉาย กงยูได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่มีวันที่จะสมัครแอ็กเคานต์ใดๆ ในโซเชียลเด็ดขาด เพราะว่ามันเป็นเครื่องมือที่น่ากลัว และทำให้ผู้คนโดดเดี่ยว
    
        ชีวิตส่วนตัวของเขาค่อนข้างเรียบง่าย กงยูชอบอยู่บ้าน ทำกิจวัตรประจำวันแบบเดิมๆ ออกกำลังกาย ฟังเพลง ดูหนัง และชอบทำอาหาร โดยมีรายการของ แพคจงวอน (Baek Jong-won) เชฟชื่อดังชาวเกาหลีเป็นรายการสุดโปรด ซึ่งกงยูเคยทำทุกเมนูตามเชฟคนนี้มาแล้ว หรือถ้ามีไปออกกองถ่ายฯ ต่างจังหวัด เขาจะแชร์ห้องพักกับผู้จัดการ และเป็นปกติที่เขาจะเป็นคนทำอาหาร ซึ่งนอกจากทำกินกันเอง ยังแบ่งให้ทีมงานในกองถ่ายได้ลองชิมด้วย


2. ความรักที่ไม่เคยเป็นข่าว

เรียกว่าไม่เคยมีข่าวเป็นจริงเป็นจังออกจากปากกงยูว่าเขาคบหาอยู่กับผู้หญิงคนไหน หรือมีความสัมพันธ์กับใครลึกซึ้ง ที่ผ่านมามีเพียงข่าวกับคู่จิ้นที่เคยร่วมงานกันอย่าง ยุนอึนฮเย นางเอก Coffee Prince ที่ฝ่ายหญิงเคยให้สัมภาษณ์ว่า ฉากจูบในซีรีส์ยังทำให้เธอตื่นเต้นได้อยู่เลยทั้งที่ผ่านไปหลายปีแล้ว และมันเป็นจูบที่เธอไม่มีวันลืม ส่วนหญิงสาวอีกคนที่เคยตกเป็นข่าวก็คือ อิมซูจอง นักแสดงที่เคยร่วมงานกันในซีรีส์เรื่อง School 4 ซึ่งในตอนท้ายอิมซูจองก็ออกมาให้ข่าวว่าเป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้น
     
ความลับเรื่องรักของกงยูสร้างความน่าสนใจในตัวเขาได้มากยิ่งกว่าเดิม บทสัมภาษณ์จำนวนมากมายไม่สามารถเจาะลึกเรื่องนี้ได้ มีเพียงคำตอบยืนยันความโสดของเขาที่มีตลอดมา นอกเหนือจากนี้เป็นเรื่องสเปกผู้หญิงและความคิดเรื่องแต่งงานที่กงยูให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ผมชอบผู้หญิงธรรมดาๆ เพราะอายุเท่านี้คงไม่สามารถควบคุมผู้หญิงสไตล์จัดอย่างที่เคยชอบไหวแล้ว”
    
ส่วนเรื่องการแต่งงาน เขาเพิ่งให้สัมภาษณ์ระหว่างหนัง The Age of Shadows เข้าฉายว่า “ตอนนี้ผมก็อายุ 30 ปลายๆ แล้ว ผมเริ่มคิดเกี่ยวกับการแต่งงานและสร้างครอบครัว เป็นช่วงเวลาที่สำคัญเพราะมันจะเป็นการบอกว่าชีวิตหลัง 40 ของผมจะเป็นอย่างไร ผมอยากแต่งงานก่อนอายุ 40 และมีลูกสักคน ความฝันเกี่ยวกับการแต่งงานก็ไม่ได้มีอะไรมาก เพียงอยากใช้ชีวิตกับผู้หญิงที่รักในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง”


3. นักแสดงมืออาชีพ
     ถึงจะมีเอเจนซี Soop Management คอยดูแลงานให้ แต่กงยูเป็นคนตัดสินใจที่จะรับงานแสดงด้วยตัวเองโดยการอ่านบท และศึกษาการทำงานของผู้กำกับอย่างละเอียด เพราะตั้งใจให้งานทุกชิ้นออกมาดีที่สุด หลังจากรับงานแสดงแล้ว กงยูจะทำความเข้าใจตัวละครของเขา ทั้งยังออกกำลังกายให้รูปร่างเหมาะกับบทนั้นๆ รวมถึงปรับเปลี่ยนบุคลิกให้เข้ากับอาชีพตัวละครนั้นๆ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขารับงานแสดงน้อยมาก แต่ในปีที่ผ่านมาเป็นกรณีพิเศษที่เขารับงานมากถึง 4 ชิ้น โดยกงยูบอกเองว่านี่เป็นบทที่เขาอยากเล่นและจะไม่ยอมพลาด
     คำพูดนี้ยืนยันได้จากบทสัมภาษณ์ คิมอึนซุก นักเขียนบทมือทอง -เจ้าของเดียวกับ Descendants of the Sun, Secret Garden, Lovers in Paris เธอเล่าว่าโดนกงยูปฏิเสธอย่างสุภาพมาตลอด 5 ปี ซีรีส์เรื่อง Descendants of the Sun เธอเองก็เคยเสนอให้กงยู แต่เขาติดคิวภาพยนตร์อยู่อีกเรื่อง จนมาถึงเรื่อง Goblin ที่เกือบโดนปฏิเสธเช่นกัน เพียงแต่กงยูขอให้ปรับบทตัวละครของเขาให้ดูเป็นคนขี้อายและขี้กลัวขึ้นมาหน่อย จึงได้ร่วมงานกันในท้ายที่สุด
     ในฐานะนักแสดงก็ต้องนับว่ากงยูมีความตั้งใจในสายงานนี้ตั้งแต่ต้น เพราะเขาเลือกเรียนต่อด้านภาพยนตร์ที่มหาวิทยาลัยคยองฮี (Kyung Hee) โดยเป็นนักศึกษารุ่นแรกๆ ของคณะ ก่อนจะเรียนจบและเข้าสู่วงการแสดงเต็มตัว โดยมีซีรีส์ The 1st Shop of Coffee Prince เป็นผลงานแจ้งเกิดในระดับที่เรียกว่าเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล


4. ส่วนสูง รูปร่าง และแฟชั่น
     184 เซนติเมตร คือส่วนสูงที่ลงตัวกับน้ำหนัก 74 กิโลกรัม รูปร่างของกงยูเฟอร์เฟกต์พอๆ กับนายแบบบนแคตวอล์กระดับโลก สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นได้ชัดคือ ตัวละครคิมชินในซีรีย์ Goblin ที่ทั้งเรื่องสวมใส่แต่เสื้อผ้าราคาแพง แบรนด์ไฮเอนด์ ยิ่งพ่วงมากับเทรนด์โอเวอร์ไซส์ของเสื้อผ้าในซีซัน Fall/Winter 2016 นี้แล้ว ถ้ารูปร่างไม่ดีจริงย่อมไม่มีทางรอด
     ‘Goblin Effect’ หรือคำเรียกปรากฏการณ์แฟชั่นในตอนนี้ เมื่อตัวเอกของเรื่องอย่างกงยู และอีดงอุก ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม Lanolin, Givenchy, Burberry, Tom Ford เข้าฉาก และทำให้พวกเขากลายเป็นเทรนด์เซตเตอร์ของแฟชั่นเกาหลีใต้ในฤดูกาลนี้ไปแล้ว เสื้อผ้าที่เขาใส่ในเรื่องมีเว็บไซต์-แฟนเพจมากมายตามหา และพรีออร์เดอร์กันอย่างคึกคัก ก็เพราะได้ไม้แขวนเสื้อระดับไฮเอนด์ชื่อกงยูนี่ล่ะ


5. ความสามารถพิเศษ
     ฟีเจอร์พิเศษเป็นของแถมที่ทำเอาผู้หญิงหลายรายใจละลาย และกงยูก็เป็นอีกคนที่เกิดมาครบ พร้อมในทุกเรื่อง ความสามารถพิเศษของเขาอย่างเช่น การร้องเพลง กงยูร้องเพลงได้ ร้องได้ดีเสียด้วย เพลงประกอบภาพยนตร์ Finding Mr. Destiny (2010) และเพลงประกอบซีรีส์ Big (2012) เขาก็ร้องเอง ถ้ายังไม่เชื่อโปรดลองหาคลิปที่เขาร้องเพลงในยูทูบดู คือเสียงดีระดับไปแข่ง The Voice ได้เลย นอกจากร้องเพลงได้ กงยูยังเล่นเครื่องดนตรีได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเปียโน หรือกีตาร์
     ส่วนของกีฬา กงยูเก่งทั้งบาสเก็ตบอลและเบสบอล โดยที่ความสามารถด้านเบสบอล เขาเคยบอกว่าคงเป็นสิ่งที่ถูกส่งต่อมาจากพ่อของเขาที่เคยเป็นนักกีฬาเบสบอลมาก่อน

6. กงยูเป็นคนตลก
     ตัวจริงเขาเป็นคนตลก ขี้เล่น อารมณ์ดี ถ้าติดตามภาพเบื้องหลังกองถ่ายฯ หรือคลิปที่ทางต้นสังกัดโพสต์ผ่านเว็บไซต์จะพบความน่ารักของเขาอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าหนุ่มใหญ่วัย 38 จะยังมีมุมมุ้งมิ้งสร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบตัวได้เสมอ ถ้าเปรียบเทียบกับนักแสดงบ้านเรา กงยูจะเป็นส่วนผสมครึ่งหนึ่งระหว่าง ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ในด้านความอารมณ์ดีและรับงานเองด้วยการอ่านบทอย่างละเอียด และอีกครึ่งหนึ่งของ ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี ที่ใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างเรียบง่าย และไม่ชอบการเปิดเผยตัวเองผ่านโลกโซเชียล

cr http://themomentum.co/successful-secret-ingredient-gongyoo
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่