2 ปี กับการต่อสู้กับทัวร์มักง่ายไม่สนใจความรู้สึกของลูกค้า กว่าจะจบมาได้ เลยอยากเอามาแชร์ให้อ่านกันครับ

ขอเกริ่นก่อนนะครับอาจจะยาวนิดนึงเพราะเป็นเรื่องที่ผ่านมาสองปีแล้ว เคยร่างกระทู้ไว้ประมาณนี้ครับ

-----------------------------------------------------------------------

ทริปนี้เป็นทริปเคาท์ดาวน์เพลียๆ เที่ยวดูไบได้พักอาบูดาบี เหมือนเที่ยวกรุงเทพแต่ได้พักพัทยา แถมต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 8,000 บาท เรื่องก็มีอยู่ว่า

ผมเพิ่งพาผู้ใหญ่ในบ้านไปเที่ยวดูไบเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ความตั้งใจหลักเลยคือจะไปเคาท์ดาวน์ที่นั่น ซึ่งแน่นอนครับว่าใครๆ ก็อยากมีความทรงจำดีๆ ในวันส่งท้ายปีเก่า แต่บริษัท O (ขอเป็นชื่อย่อละกันนะครับ) ที่เราเลือกไปด้วยนี้ดันทำให้บรรยากาศเสียเอามากๆ ทั้งที่อุตส่าห์จ่ายเงินตั้งใจจะไปมีความสุขเติมพลังในปีใหม่ แต่กลับมีหลายอย่างที่ไม่เป็นไปตามคาดหมาย เลยต้องขอเล่าสักหน่อยนะครับ เพราะมันไม่โอเคจริงๆ

ก่อนอื่นต้องบอกว่าเราเลือกทัวร์นี้ก็เพราะเท่าที่เสิร์ชหาบริษัททัวร์ ที่นี่ถึงจะมีคนรีวิวน้อยมาก แต่รีวิวที่มีก็โอเค ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร  เลยทำการจองผ่านอินเตอร์เน็ตล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2014 พร้อมจ่ายค่ามัดจำไว้ก่อนเป็นจำนวน 20,000 บาทต่อคน  และนัดชำระค่าทัวร์อีก 27,900 บาท ในวันที่ 1 ธันวาคม 2014

รายละเอียดคร่าวๆ ของทัวร์นี้ตามที่โปรแกรมได้โฆษณาไว้คือไปวันที่ 30 ธันวาคม ถึง 3 มกราคม เดินทางด้วยเครื่องการบินไทยเพื่อไปเที่ยวดูไบ (ก็เข้าใจว่าจะลงที่ดูไบ และพักที่ดูไบตามที่ได้โฆษณาไว้ตั้งแต่ต้น)

ครับ นั่นคือสิ่งที่ผมและครอบครัวคาดว่าจะได้รับจากทริปนี้ แต่ความขลุกขลักก็เริ่มตั้งแต่ตอนจองทัวร์กันเลย

ตั้งแต่วันที่จองไป ผมไม่ได้รับการติดต่อกลับมาจากบริษัททัวร์ไม่ว่าจะทางอีเมลล์หรือโทรศัพท์ จนถึงวันที่ 1 ธันวาคมซึ่งนัดจ่ายเงินรอบที่สอง ก็ยังเงียบหาย ผมเลยตัดสินใจโทรไปถามว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า

และในวันที่ 5 ธันวาคม ทางทัวร์ก็ได้บอกว่าไม่สามารถหาตั๋วเครื่องบินได้ ทำให้ต้องเปลี่ยนสายการบินเป็น Emirates Airline ซึ่งส่งผลให้ค่าทัวร์แพงขึ้น และขอเก็บเงินเพิ่มอีกหัวละ 8000 บาท แล้วก็เลื่อนวันเดินทางเร็วขึ้นหนึ่งวัน ผมก็ตกลงว่าจะจ่าย ยังไม่มีปัญหาอะไร (ตอนนั้นแอบฉุกคิดหน่อยๆ ว่าไม่น่าแพงขึ้นถึง 8000 บาท แต่ไหนๆ ไหนๆ คิดว่าบิน Emirate ก็โอเคแหละ)

ก็รอไปอีกจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม ทางทัวร์ก็ยังไม่เรียกเก็บเงิน จนต้องโทรไปตามความคืบหน้า ตอนนั้นเราเริ่มร้อนใจแล้ว เพราะวีซ่าก็ยังไม่ได้ทำ แล้วก็จะเดินทางวันที่ 30 นี้แล้ว ซึ่งทางทัวร์แจ้งว่า ยังรอลูกค้ารายอื่นคอนเฟิร์ม ทำให้ยังไม่สามารถปิดกรุ๊ปได้

เวลาเหลืออีกครึ่งเดือน ผมก็ร้อนใจขึ้นอีก เพราะพาผู้ใหญ่ไปด้วยก็อยากให้ได้ไปกันจริงๆ  การต้องรอลูกค้าคนอื่นคอนเฟิร์มแบบนี้ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันเลยว่าพวกเราจะได้เดินทางกันจริงรึเปล่า ผมเลยตัดสินใจติดต่อทัวร์อีกบริษัทนึง ซึ่งเค้าพร้อมให้เราจ่ายเงินและไปได้เลย แต่ทาง บริษัท O ไม่ยอมคืนเงินมัดจำให้ และพยายามต่อรองให้ผมรอลูกค้าท่านอื่นยืนยันภายในวันที่ 20 ธันวาคม และกว่าจะถึงตอนนั้น ถ้าปรากฎว่าลูกค้าคอนเฟิร์มไม่ครบ ปิดกรุ๊ปไม่ได้ เราจะหาทัวร์อื่นก็ไม่ทันก็อดไปงั้นเหรอ?

ผมก็เลยบอกไปว่าผมไม่สามารถรอได้ ยื่นคำขาดให้เป็นเช้าของวันรุ่งขึ้น พอถึงตอนเช้าก็สรุปว่าสามารถคอนเฟิร์มได้ พร้อมจ่ายเงิน โดยกำหนดการเดินทางเปลี่ยนกลับมาเป็นวันเดิม ซึ่งผมก็โอเค มองโลกในแง่ดี คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรอีก หลังจากจ่ายเงินแล้วก็รอจนถึงวันเดินทาง (และสรุปแล้วกรุ๊ปทัวร์ของผมมีทั้งหมด 12 คน จากที่ควรมี 15-20 คน)

แต่ระหว่างที่รอ ทางทัวร์ก็ไม่ได้มีเอกสารเกี่ยวกับการเดินทางใดๆ ส่งมาให้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตั๋วเครื่องบินหรือข้อมูลที่พัก พอมาถึงที่สนามบินจึงทราบว่าสรุปแล้ว ผมได้บินสายการบิน Etihad เดินทางจาก กรุงเทพ ไป อาบูดาบี ซึ่งผิดจากเอกสารที่เคยส่งมาก่อนหน้า วันที่ 24 พฤศจิกายน ว่าจะบิน Emirate จาก กรุงเทพ ไปลง ดูไบ ที่ทำให้ราคาค่าทัวร์แพงขึ้น 8,000 บาท

ในตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะคิดว่าลงเครื่องที่อาบูดาบี แล้วค่อยนั่งรถต่อไปดูไบก็ได้มั้ง เสียเวลาเดินทางเข้าที่พักอีก 2 ชั่วโมงคงไม่มีปัญหา

พอถึง อาบูดาบี หัวหน้าทัวร์มีการแจ้งปรับเปลี่ยนตารางการเที่ยวนิดหน่อย ซึ่งตรงนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของการเดินทางกับคณะทัวร์ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้างตามสถานการณ์ โดยเริ่มต้นเที่ยวในอาบูดาบีก่อน และเข้าพักที่โรงแรมในอาบูดาบีนั่นแหละ ซึ่งก็สมเหตุสมผล วันแรกผ่านไปด้วยดี ยังไม่มีอะไร

แต่เริ่มคิดแล้วว่าเราจะพักกันที่นี่จนจบทัวร์จริงๆ เหรอ เพราะเราตั้งใจมาเที่ยวดูไบ แต่พักในเมืองที่ห่างไกลออกไปอย่างอาบูดาบี ก็เหมือนมาเที่ยวในกรุงเทพฯ แต่ได้พักที่พัทยาอย่างไงอย่างงั้น


วันที่ 2 เราเที่ยวที่ Sharjah ซึ่งถ้าเดินทางออกจากอาบูดาบี Sharjah จะอยู่เลยดูไบไปเล็กน้อยต้องเดินทางเกือบ 2 ชม​. ซึ่งการเที่ยวทัวร์อาจจะต้องนั่งรถไกลบ้างเป็นเรื่องปกติเราก็พอจะทำใจยอมรับได้ แต่จะเริ่มรู้สึกไม่โอเคมากๆ ที่ได้แวะสถานที่ต่างๆ ที่ละครึ่งชั่วโมงซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อย และพอจบวัน ที่ก็ต้องนั่งรถอีกเกือบ 2 ชม เพื่อกลับมานอนที่โรงแรมในอาบูดาบี

บางคนอาจจะคิดว่า 2 ชั่วโมง ไม่ได้มากมายอะไร แต่อย่างแรกการไปเที่ยวต่างประเทศเราย่อมต้องอยากใช้เวลาที่มีให้คุ้มค่าที่สุด แล้วต้องเสียเวลาเดินทางไป-กลับโรงแรม รวมวันละ 4 ชั่วโมง นอกจากเสียเวลาแล้วยังต้องเพลียกับการนั่งรถนานๆ ด้วย

ยิ่งในวันที่เราต้องไป Countdown กันที่ดูไบ ทำให้กลับถึงโรงแรมเกือบตี 2 ซึ่งโอเค ทางทัวร์ก็แจ้งแต่ต้นแล้วว่ามันต้องดึกขนาดนี้ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าเรานอนโรงแรมใน Dubai จะทำให้เราสามารถ Countdown ได้สะดวกกว่านี้ ได้นอนเยอะกว่านี้หรือเปล่า และโรงแรมอยู่ไกลขนาดนี้ น่าจะได้พักโรงแรมที่คุณภาพดีกว่านี้หรือเปล่า โดยโรงแรม One to One ที่เราพักถือเป็นโรงแรมคุณภาพกลางๆ ถึงแม้จะเทียบเท่า Holiday Inn แม้ว่าทางหัวหน้าทัวร์จะบอกว่าโชคดีมาก โรงแรมดีมากๆ ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าใช่
แต่ถึงเรื่องเกรดโรงแรมจะเทียบเท่ากัน แต่ด้านความห่างไกลจากที่เที่ยวนั้นมันเทียบกันไม่ได้เลย

วันที่ 3 โปรแกรมทัวร์ นำเที่ยวที่อาบูดาบีช่วงเช้า และ ดูไบช่วงบ่าย ซึ่งก็เพราะต้องนั่งรถอีกเกือบ 2 ชม. ทำให้การเที่ยวในช่วงบ่ายทุกอย่างดูรีบไปหมด ไม่มีเวลาปล่อยอิสระให้ได้ช้อปปิ้งและถ่ายรูปตามที่เขียนบอกไว้ในโปรแกรม และกลับถึงโรงแรมเกือบ 5 ทุ่ม ซึ่งสำหรับคณะทัวร์มันไม่น่าจะดึกขนาดนี้

วันสุดท้าย ตื่นเช้ามาก็ต้องนั่งรถอีกเกือบ 2 ชม. เพื่อเข้าไปดูไบอีกครั้ง แถมช่วงบ่ายก็มีการพาไปซื้อพรม โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ไม่ได้มีอยู่ในโปรแกรม ในขณะที่สิ่งที่อยู่ในโปรแกรมเรากลับได้ทำไม่ครบถ้วน
ไฟลต์กลับ บินกลับจากสนามบินอาบูดาบีซึ่งเล็กกว่าสนามบินดูไบมาก สำหรับคนที่วางแผนจะช้อปของฝากที่สนามบินก็เลยอด

และตลอดระยะเวลาที่ไปเที่ยวกับทัวร์นี้ หัวหน้าทัวร์ที่บริษัทแจ้งว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในเส้นทาง กลับดูไม่เชึ่ยวชาญอย่างที่ทางบริษัทกล่าวอ้างไว้ ทำให้การตัดสินใจหลายๆ อย่างดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ดีเท่าที่ควร แถมการที่พักไกลทำให้เสียเวลาในการเที่ยวสถานที่ต่างๆ และยังทำให้เหนื่อยกับการเดินทางมากขึ้นอีกด้วย

สรุปแล้ว ผมคิดว่าผมเข้าใจปัญหาของบริษัททัวร์ที่ปิดกรุ๊ปไม่ได้สักที ทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาทั้งการจองสายการบินและโรงแรมไม่ได้ตามที่กำหนด หรือหากมีปัญหาเรื่องราคาในช่วงสิ้นปี ที่ทางทัวร์อาจสู้ราคาไม่ไหว ยังไงก็ตามทั้งนี้ทั้งนั้น ทางทัวร์ไม่ได้แจ้งเหตุผลในการเปลี่ยนแปลงให้ลูกทัวร์ทราบเลย

ที่สำคัญ ถึงแม้สุดท้ายแล้วลูกทัวร์จะน้อยกว่าเป้าที่ตั้งไว้ เราเองก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องของธุรกิจและผลกำไร แต่พวกเราก็ควรได้รับการบริการที่สมกับราคาที่เราจ่าย เพราะพวกเราก็จ่ายเต็มราคา แถมยังเพิ่มค่าทัวร์ไปอีก 8,000 บาท เรามีสิทธิ์ได้รับความสะดวกสบายอย่างที่ทางบริษัทได้โฆษณาเอาไว้

เป็นใครก็คงไม่อยากไปเที่ยวแบบจำทน นอกจากไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป จิตใจก็พลอยได้รับผลกระทบ เที่ยวไม่สนุกตามไปด้วย เป็นไปได้ก็อยากร้องเรียนให้ สคบ. ช่วยพิจารณาและให้ความคุ้มครองผู้บริโภคด้วยครับ

-----------------------------------------------------------------------


อันนี้เป็นเรื่องที่คิดจะโพสในพันทิพเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้โพสเพราะ ผมได้ติดต่อทาง สคบ ไป เพราะคิดว่าทางราชการน่าจะช่วยผู้บริโภคอย่างเราได้ เลยอยากจะให้เรื่องจบก่อนแล้วค่อยมาแชร์ประสบการณ์ให้ชาวพันทิพได้อ่านกันครับ และแล้วผ่านไป 2 ปี วันนี้ก็มาถึง...................

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่