สวัสดีค่ะ คือเรามีคนรู้จักที่รู้สึกทนทุกข์กับการที่ต้องอยู่กับภรรยาที่ไม่มีความเป็นแม่บ้านแม่เรือนเลย และยังขี้โมโห ฉุนเฉียวง่ายอีก
ทั้งๆที่ภรรยาไม่ต้องทำงานประจำ มีหน้าที่เลี้ยงดูลูกวัย 2 ขวบกว่าเท่านั้น เงินใช้จ่ายของครอบครัว สามีก็เป็นคนออกให้ทุกอย่าง แถมให้เงินภรรยาใช้ส่วนตัวทุกเดือนด้วย
ความไม่เป็นแม่บ้านแม่เรือนของเธอก็เช่น ปล่อยให้บ้านรกมาก หาของอะไรไม่เคยเจอ เสื้อผ้าแค่เอาใส่เครื่องซักผ้าเท่านั้น แต่เธอก็กองเสื้อที่ใช้แล้วไว้เป็นภูเขา 3 วันถึงจะซักที ทั้งเสื้อตัวเอง เสื้อสามี และเสื้อลูก แถมพอตากแล้วเสื้อผ้าแห้งก็ไม่เก็บเข้ามา ตากไว้ค้างคืนหลายวัน พอเก็บเข้ามาก็เอากองไว้บนเตียง ไม่พับเก็บเข้าตู้ให้เรียบร้อย สามีกลับมาจากทำงานบางครั้งต้องคอยพับเก็บให้ จานชามกินแล้วก็กองไว้ ต้องมาล้างให้อีก บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมสามีไม่ว่ากล่าวตักเตือน ก็เพราะสามีเคยว่ากล่าวแล้ว เธอก็ไม่ยอมฟัง จะเถึยงและมีข้ออ้างตลอดค่ะ บางครั้งก็ขึ้นเสียงดังจนลูกตกใจร้องไห้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม คือถ้าเธอยอมเปิดใจรับฟังข้อที่ควรปรับปรุง และปรับตัวเข้าหากันบ้าง อะไรๆ มันก็คงจะดีขึ้น แต่นี่เธอไม่ยอมเปิดใจรับฟังอะไรเลยค่ะ ทำให้หลังๆ สามีก็ไม่อยากจะพูดอะไร เพราะไม่อยากให้มันกระทบจิตใจลูกค่ะ
อ้อ กับข้าวเธอก็ไม่ทำนะคะ เพราะเธอทำกับข้าวไม่เป็น แม้ว่าจะมีลูกเล็ก เธอก็ไม่คิดจะทำค่ะ เคยทำให้ลูกกินแล้วลูกไม่ยอมกิน ก็โมโห ตะคอกใส่ลูกอีก เวลาป้อนข้าวลูกก็ยัดเอายัดเอา เพราะอยากให้กินเสร็จเร็วๆ จนหลายครั้งลูกก็อาเจียนออกมาค่ะ ร้องไห้ น่าสงสารมาก

เพราะเหตุนี้ทำให้เด็กก็ไม่ได้รับโภชนาการที่ดีด้วย ตัวเล็กกว่าเด็กทั่วไป
และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้สามีอยากเลิกค่ะ อยู่ด้วยกันก็มีแต่ความเบื่อหน่าย แต่ตามกฎหมายแล้วถ้าเลิกกัน เด็กจะต้องอยู่กับแม่ใช่มั้ยคะ? จะมีวิธีไหนที่จะทำให้เด็กมาอยู่กับพ่อได้คะ เพราะพ่อมีความสามารถในการส่งเสียเลี้ยงดูมากกว่า และยังมีแม่และน้องสาวของพ่อเด็กยินดีที่จะช่วยเลี้ยงดูเป็นอย่างดีค่ะ
ถ้าสามีต้องการหย่ากับภรรยา ทำยังไงจะให้ลูกมาอยู่กับพ่อได้ถูกต้องตามกฎหมายบ้างคะ?
ทั้งๆที่ภรรยาไม่ต้องทำงานประจำ มีหน้าที่เลี้ยงดูลูกวัย 2 ขวบกว่าเท่านั้น เงินใช้จ่ายของครอบครัว สามีก็เป็นคนออกให้ทุกอย่าง แถมให้เงินภรรยาใช้ส่วนตัวทุกเดือนด้วย
ความไม่เป็นแม่บ้านแม่เรือนของเธอก็เช่น ปล่อยให้บ้านรกมาก หาของอะไรไม่เคยเจอ เสื้อผ้าแค่เอาใส่เครื่องซักผ้าเท่านั้น แต่เธอก็กองเสื้อที่ใช้แล้วไว้เป็นภูเขา 3 วันถึงจะซักที ทั้งเสื้อตัวเอง เสื้อสามี และเสื้อลูก แถมพอตากแล้วเสื้อผ้าแห้งก็ไม่เก็บเข้ามา ตากไว้ค้างคืนหลายวัน พอเก็บเข้ามาก็เอากองไว้บนเตียง ไม่พับเก็บเข้าตู้ให้เรียบร้อย สามีกลับมาจากทำงานบางครั้งต้องคอยพับเก็บให้ จานชามกินแล้วก็กองไว้ ต้องมาล้างให้อีก บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมสามีไม่ว่ากล่าวตักเตือน ก็เพราะสามีเคยว่ากล่าวแล้ว เธอก็ไม่ยอมฟัง จะเถึยงและมีข้ออ้างตลอดค่ะ บางครั้งก็ขึ้นเสียงดังจนลูกตกใจร้องไห้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม คือถ้าเธอยอมเปิดใจรับฟังข้อที่ควรปรับปรุง และปรับตัวเข้าหากันบ้าง อะไรๆ มันก็คงจะดีขึ้น แต่นี่เธอไม่ยอมเปิดใจรับฟังอะไรเลยค่ะ ทำให้หลังๆ สามีก็ไม่อยากจะพูดอะไร เพราะไม่อยากให้มันกระทบจิตใจลูกค่ะ
อ้อ กับข้าวเธอก็ไม่ทำนะคะ เพราะเธอทำกับข้าวไม่เป็น แม้ว่าจะมีลูกเล็ก เธอก็ไม่คิดจะทำค่ะ เคยทำให้ลูกกินแล้วลูกไม่ยอมกิน ก็โมโห ตะคอกใส่ลูกอีก เวลาป้อนข้าวลูกก็ยัดเอายัดเอา เพราะอยากให้กินเสร็จเร็วๆ จนหลายครั้งลูกก็อาเจียนออกมาค่ะ ร้องไห้ น่าสงสารมาก
และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้สามีอยากเลิกค่ะ อยู่ด้วยกันก็มีแต่ความเบื่อหน่าย แต่ตามกฎหมายแล้วถ้าเลิกกัน เด็กจะต้องอยู่กับแม่ใช่มั้ยคะ? จะมีวิธีไหนที่จะทำให้เด็กมาอยู่กับพ่อได้คะ เพราะพ่อมีความสามารถในการส่งเสียเลี้ยงดูมากกว่า และยังมีแม่และน้องสาวของพ่อเด็กยินดีที่จะช่วยเลี้ยงดูเป็นอย่างดีค่ะ