[CR] เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง เที่ยวง่ายไม่ต้องง้อทัวร์ 8,900 รวมทุกอย่างจริงๆ !!

สวัสดีจ้าาาาา พอดีมีโอกาสไปเที่ยวสิงคโปร์มาเมื่อวันที่ 13-15 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา เลยอยากจะมาแชร์ ครั้งนี้เป็นการเดินทางออกต่างประเทศครั้งแรก ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก กับภาษาอังกฤษที่ไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไร ไปกัน 3 คน เรา แฟนเรา คุณป้าคนรู้จัก
(ค่าใช้จ่ายในรีวิวคือของเรากับแฟนนะ ไม่รวมของคุณป้าจ้า)
มาดูกันเลยจ้าาาาาา
เราจองตั๋วของ Scoot สายการบินหางเหลืองๆ ที่ยิ่งจองไว้แต่เนิ่นๆ ราคายิ่งถูก ราคาที่เราได้คือ ไป-กลับ 2 ที่นั่ง 5,100 บาท บวกค่าตัดบัตรเครดิตอีกขาละ 200 บาท รวมทั้งหมดเป็น 5,900 บาท หารเป็นคน ไป-กลับตกคนละ 2,950 บาท หรือขาละ 1,475 บาทเองจ้าาา ถูกอลังมากกกกกกกก
ส่วนที่พักเราจองกับ Agoda จองแล้วจ่ายเลย เราเลือกเป็นแบบ Hostel หรือพักรวมกันนั่นเองงงง เนื่องจากที่สิงคโปร์ค่าห้องแพ๊งงงแพง 4,000 บาทคือขั้นต่ำๆ ของที่นี่ 55555 --> เราเลือกที่พักเป็น Footprint hostel แถว Little India นะ จองไว้ 2 คน 2 คืน ราคาอยู่ที่ 1,530 บาท คิดเป็นคน คนละ 382.5 บาท/คน/คืน เอง ประหยัดอะไรขนาดนั้นนนนนน
ทีนี้มาเรื่องซิมเน็ตบ้าง เนื่องจากไปต่างประเทศครั้งแรก สิ่งที่เราต้องการคืออินเตอร์เน็ต อย่างน้อยก็ค้นหาคำศัพท์ภาษาอังกฤษ GPS ข้อมูล บลาๆๆ ตอนแรกเราคิดว่าจะซื้อซิมจากเว็บ Singapore fan club ราคาประมาณ 450 บาท + ค่าส่ง EMS 45 บาท รวมเป็น 495 บาท แต่ว่าช่วงก่อนไปโชคดีมากๆ เข้าไปเล่นเกมส์ ไลค์+แชร์ ของเพจ เพื่อนบอกโปร แล้วได้ซิม SIM2Fly ของ AIS มาฟรี เลยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ไป (ซิมใช้ดีค่ะ สัญญาณไม่ขัดข้องเลย ใครจะไปก็ลองไว้เป็นตัวเลือกดูนะ 399 บาทเอง)
เรื่องต่อมา หนีไม่พ้นเรื่องปลั๊กไฟ เพราะบ้านเค้าใช้ไฟเท่าไรไม่รู้ล่ะแต่ที่แน่ๆ หัวเสียบไม่เหมือนกัน เราจึงจำเป็นต้องใช้ตัวแปลงปลั๊ก เราประมูลมาได้จากเว็บ Cilindo ในราคารวมค่าส่งแล้ว 70 บาท  (แต่ถ้าใครไม่ถนัดประมูล ซื้อที่ 7-11 ก็ได้ค่ะ ราคา 159 บาท)
ทริปนี้เราเน้นการเดิน+รถไฟฟ้าเป็นหลัก ดังนั้นสิ่งสำคัญของเราคือ บัตร EZ-link ยืมเพื่อนจ้าาาาาา 3 ใบเลย เติมเงินแล้วใช้ได้เลย
ข้อมูลครบแล้ว เราเข้าเรื่องแล้วนะ !!!! เริ่มมมมมมมมมมมม
ไฟลท์เราบิน 15.50 น. ของวันที่ 13 ที่ดอนเมือง เราเป็นมือใหม่เราต้องมาถึงสนามบินก่อน 3 ชั่วโมง เป้าหมายที่ตั้งไว้คือ เที่ยง 50 นาที แต่ความเป็นจริงคือ 555555 เราไปถึง เกือบบ่าย 2 จ้าาาาา รถในสนามบินเยอะมาก ติดมากมายยยย จอดได้ตรงไหนก็จอดไปก่อน ตอนนั้นคิดแค่ว่า เสียค่าปรับดีกว่าตกเครื่อง แล้วเราก็มาเช็คอินที่เคาเตอร์ทัน ตกใจหมดเลยยยย เช็คอินเสร็จไปตรวจหนังสือเดินทาง แล้วก็ตรวจจับโลหะ (เราไม่ได้โหลดกระเป๋า)
พร้อมแล้วๆ ขึ้นเครื่องกันเลยยยย
ที่นั่งราคาประหยัด ความรู้สึกเหมือนนั่งรถทัวร์นิดนึง แต่สมราคา ถึงตอนนี้แล้วไปได้หมด ให้เกาะปีกเครื่องบินก็ไป
เครื่องกำลังขึ้นแล้ว ความรู้สึกเหมือนกับกำลังขึ้นลิฟท์แต่อันนี้จะรู้สึกนานหน่อย หูเริ่มดับ เสียงดังเป๊าะแป๊ะในหู เพราะความดันบรรยากาศเริ่มเปลี่ยนไป วิวข้างล่างสวยดี แต่ตอนนี้เริ่มไม่เห็นวิวแล้ว เมฆขาวไปหมด ทะเลหมอกเป็นแบบนี้นี่เอง
นั่งไปสักพัก แอร์จะเดินมาแจกใบ ตม.สิงคโปร์ เอามาเขียนด้วยนะคะ ขั้นตอนนี้เราก๊อปรูปจากในเน็ตไป ว่าต้องเขียนยังไงบ้าง แล้วก็ลอก+ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับของตัวเองนิสนึงงงงง เผลอแปบเดียวเครื่องก็ใกล้ลงแล้ววว พระอาทิตย์เริ่มลดต่ำลง เอ๊ะหรือเครื่องบินมันบินต่ำลง เอ๊ะหรือยังไง
ลงปุ๊บ มืดเลยยยย เราก็เดินดุ่มๆๆๆ เข้าไปหา ตม. ตามป้าย Arrival เลยจ๊าาาา ตอนนั้นไม่ได้กลัวอะไรเลย เพราะเอกสารเรามีครบมาก
1.Booking ที่พัก
2.ตั๋วเครื่องบินขากลับ
3.รายการท่องเที่ยว ประมาณว่าเราจะไปที่ไหนบ้าง
4.ตั๋ว USS ที่ซื้อไว้แล้วจากไทย ลืมบอก ราคา 1,650 บาทนะ ถ้าไปซื้อ See wheel travel จะราคา 1,500 บาท แต่เรากลัวหลงเลยซื้อจากไทยมาเลย
สุดท้ายยยยยย ตม. ไม่ถามสุขภาพสักคำ !!!
หลุดจาก ตม. มาแล้วเราก็ไปเข้าที่พักกันก่อนเลยจ้าาาาา เดินตามป้าย Train to city เลยจ้า เราจะเจอสถานีขึ้นรถไฟ ขึ้นแล้วไปลงที่ Tanah Merah แล้วเปลี่ยนสถานี ไปสายเขียวเหมือนเดิม มองหาคำว่า Joo koon แล้วขึ้นเลย เราจะลงที่ Bugis แล้วเปลี่ยนสถานีไปสีฟ้า ขึ้นต่อไปลง Rochor จากนั้น เดินค่ะประมาณ 450 เมตร ถึงเลย

นี่คือสภาพที่พักจ้าาา พอได้ซุกหัวนอนอยู่
เข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อย เราจะออกไปหาของกินกันแล้วววววววว
หลังจากเราเช็คอิน เอากระเป๋าไปเก็บ ทำธุระส่วนตัวกันเรียบร้อยแล้ว เราก็ได้เวลาออกหากินค่ะ หิวมากๆๆๆ ไปไชน่าทาวกัน
วิธีไป นั่งรถไฟฟ้าสายฟ้า จาก Rochor ไปลง Little India แล้วเปลี่ยนสถานีไปนั่งสายม่วง ลงที่ Chinatown เลยค่ะ ลงปุ๊บ ขึ้นบันไดเลื่อนมาจะเจอภาพแบบนี้เลย เฮ้ยๆๆ คนมาจากไหนเยอะแยะ นี่มัน 4 ทุ่มแล้วนะ
ที่นี่ติดไฟเต็มไปหมดเลยจ้า เหมือนหลุดเข้ามาอยู่ในประเทศจีนเลย
เดินวนๆ 2-3 รอบดูการขายของ ของที่นี่ ขายกันแบบจริงจังมาก ขายเอาเป็นเอาตาย เรียกได้ว่ามีไมโครโฟนเกือบทุกร้าน บรรยากาศคึกคักมาก แต่ฟังไม่ออก 5555
เอาล่ะ ได้ที่กินแล้ว เพราะแฟนบอกว่า เลิกเดินเถอะเมื่อย หิวแล้ว เอาสักร้านนึง เราเลยเข้าไปเลยจ้าาา ร้านอาหารจีน สั่งอะไรไม่รู้คล้ายๆ ผัดผักบุ้งไฟแดงบ้านเรา ผัดซีอิ้ว ผัดหมี่ไหมไม่แน่ใจ แล้วก็ข้าวป่าว น้ำอัดลม เบียร์อีก 1 ขวด (เบียร์รสชาดสิงคโปร์ค่อนข้างจืดนะคะ ถ้าเทียบกับเบียร์ที่ไทย) // ขออนุญาตเบลอหน้านิสสสนึงนะคะ เดี๋ยวโดนบ่น อิอิ
กินข้าวอิ่มแล้วรอไรล่ะ กลับที่พักสิค้าาาาา เวลาประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง คนเริ่มกลับกันหมดแล้ว
ระหว่างนั้นเอง คุณแฟนดันหิวบุหรี่ แต่ไม่ได้พกมาจากไทย หึหึ โชคดี เจอ 7-11 พอดี เข้าไปซื้อเลยจ้า บุหรี่ 1 ซอง ไฟแช็ค 1 อัน ตีเป็นเงินไทยประมาณ 300 บาท 555555 คราวหน้าพกมาให้พอดูดน้าค้าาาา
ยังค่ะ ปัญหายังไม่หมด !! เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่เข้มงวดเรื่องกฏระเบียบ การสูบบุหรี่ก็เช่นเดียวกัน จะสูบมั่วซั่วไม่ได้ ให้มองหาถังขยะเขียวๆ ข้างบนมีทราย (คล้ายที่เขี่ยบุหรี่) ตรงนั้นแหละสูบได้ แต่ในเวลานั้น หาแล้วไม่มีเลย พอดีเหลือบไปเห็นชาวสิงคโปร์นั่งสูบอยู่หน้าผับ เลยเอามั่ง เอาวะสูบตรงนี้แหละ ถ้าโดนก็ไม่โดนคนเดียวละ อิอิ
เช้าวันที่ 14 มกราคม วันนี้เรามีอาหารเช้าฟรีที่โฮสเทลนะ แนวซีเรียล พออยู่ท้อง
กินอิ่มแล้วออกเดินทางกันต่อค่ะ เช้านี้เราวางแผนกันว่าจะไปที่ Merlionnnnnnnnnn
วิธีการมานะคะ เรานั่งรถไฟฟ้าสายสีฟ้า มาลงที่ Bayfront เลย แล้วเดินเอาประมาณ 800 เมตร ซึ่งค่อนข้างไกลนิดนึง แต่ได้เห็นบ้านเมืองเขาเยอะดีค่ะ คนละเรื่องกับย่านไชน่าทาวเลย
เดินมาได้สักพักเราก็จะมองเห็นตึก Marina bay sand อยู่เนืองๆค่ะ มาถูกทางแล้ววว
เย้ๆ!! ในที่สุดเราก็เดินมาถึงนี่หรือคือ Merlion ที่ไม่ว่าใครที่มาสิงคโปร์ต้องมาถ่ายรูปที่นี่
อีกมุมค่ะ
อันนี้เป็นฝั่งตรงข้ามนะคะ ถ้ามากลางวันจะย้อนแสงแบบนี้ เดี๋ยวมีเวอร์ชั่นกลางคืนด้วยค่ะ
ถ่ายรูปจนพอใจแล้ว แพลนต่อไป เราจะไปตลุย Universal studio singapore ต้อนรับวันเด็กไทยกันนนนน
ว่าแล้วก็เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าเลย คราวนี้เราจะไปเริ่มต้นที่ สถานี Raffles place นะคะ เดินขึ้นบันไดนี้มาเลยค่ะ
จะเห็นถนนก็กดปุ่มข้ามเลยค่ะ รอสัญญาณไฟเขียวแล้วค่อยข้ามนะคะ รถในสิงคโปร์ค่อนข้างขับกันไวค่ะ ถนนโล่งมากๆเลย เพราะคนไปใช้ Mrt กันหมด กรุงเทพน่าจะโล่งแบบนี้บ้างงง
นั่งสายเขียวจาก Raffles place มาลงที่ Ourtrum park นะคะ แล้วเปลี่ยนสายไปนั่งสีม่วง ลงสถานี Habourfront ค่ะ รถไฟฟ้าจะนำเรามาส่งที่ห้าง Vivo ให้เราเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปยังชั้น 5 จะเจอ Sentosa express ค่ะ แตะบัตร EZ-link 1 ทีค่ะ นั่งไป-กลับได้ตลอดสาย อิอิขึ้น sentosa express แล้วมาลงสถานี Waterfront ค่ะ USS อยู่สถานีนี้
หลังจากถ่ายรูปกับลูกโลกเสร็จแล้ว เราก็เดินเข้ามาในส่วนของ USS กันเลยจ๊าาา ติ๊ดบัตรแล้วเข้าได้เลย เป็นตั๋วจริงนะคะ ซื้อจาก Singapore fan club ง่ายมากกกกกก ไม่ต้องต่อแถวนาน ราคาถูกกว่าหน้างานค่ะ
เดินเข้ามาเลยค่ะ USS มีทั้งหมด 7 โซนนะคะ (วนเป็นวงกลม) อันนี้เป็นภาพจากด้านหน้า ติดรถไฟเหาะเครื่องเล่นที่ใครมาแล้วไม่เล่น ถือว่ามาไม่ถึง 555 แต่เราก็ไม่ได้เล่น
เริ่มที่จุดแรกค่ะ ปราสาทยักษ์เขียวๆน่ะ ไม่รู้ใช่ยักษ์ไหม ข้างในมีโรงภาพยนต์ 4D เราก็ไปต่อแถวกันค่ะ ชมภาพยนต์การ์ตูนภาษาอังกฤษ ถามว่าฟังรู้เรื่องไม่ ตอบเลยว่า ม่ายยยยยยยย แต่ชอบตรงที่มีระบบแสง สี เสียง ความสั่นสะเทือน และระบบน้ำ ทำให้สมจริงมาก ยกตัวอย่างฉากที่มีแมงมุมคลานเต็มหน้าจอ ก็จะรู้สึกเหมือนมีตัวแมงมุมมาไต่ที่ขา สยองงงมาก 5555 แต่สนุกดีค่ะ ใครไปลองเข้าดูนะคะ
ถัดจากที่เราดูภาพยนต์ 4D เรียบร้อยแล้วเราก็เข้าห้องน้ำห้องท่ากันก่อน อันนี้ถ่ายให้ดูคือชักโครกอัติโนมัติ เหมือนจะเป็นระบบ Sensor ค่ะ ถ้าเราลุกจากชักโครก มันก็จะกดน้ำให้เองอัตโนมัติเลย แต่บางทีมันก็กดก่อนนะคะ แบบว่ากำลัง อี้ อยู่ดีๆ กดน้ำซะงั้น (ระวังกระเด็น) 5555
จากนั้นเราเดินต่อค่ะ ไปที่นี่เลย เราเรียกมันว่า ต้นถั่ว มั้ง อิอิ รอคิวนานมากกกกกก ขึ้นได้ 6 คน/คัน เรานั่งหน้าเลยจ้าาาาา คิดว่าไม่หวาดเสียว ที่แท้ก็เสียววววว ลองเล่นดูนะคะ
เราเดินต่อไปอีกโซนนึงค่ะ ตอนแรกไม่รู้ว่าอะไร เห็นคนเดินมาเยอะมากกกก ไม่รู้มาจากไหนนักหนา เราเลยตามไปมั่ง ตรงนี้เป็นหารแสดงค่ะ ออกแนวโจรสลัดอะไรประมาณนั้น แนะนำว่าถ้ามาดูการแสดงนี้ อย่านั่งข้างหน้านะคะ เปียกกกค่ะ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง เที่ยวง่ายไม่ต้องง้อทัวร์ 8,900 รวมทุกอย่างจริงๆ !!
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่