หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
รีโนเวท ห้องนอนเก่าด้วยตัวเอง (ภายในงบจำกัด ทำเองทุกขั้นตอนไม่ง้อช่าง)
กระทู้สนทนา
ตกแต่งบ้าน
รีโนเวทบ้าน
บ้าน
ออกแบบและสร้างบ้าน
เฟอร์นิเจอร์
ขอออกตัวก่อนครับว่า นี่เป็นกระทู้แรกของผมเลยครับ โดยประสบการณ์ที่ผมจะมาแชร์กับเพื่อนๆก็คือ การแต่งห้องนอนบ้านตึกแถวด้วยตัวเองของผมครับ โดยจะพยายามเล่าเป็นลำดับๆ พร้อมรูปประกอบนะครับ ถ้าผิดพลาดยังไงขอให้ช่วยแนะนำด้วยครับ
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า บ้านผมเป็นตึกแถวย่านเยาวราชครับ ซึ่งข้อดีของย่านนี้ก็คือเดินทางสะดวก(โดยรถประจำทาง) แต่ข้อเสียก็คือ พื้นที่บ้านคับแคบ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการอยู่อาศัยกันทั้งครอบครัวแล้วด้วย การจัดสรรพื้นที่ใช้งานยิ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งครับ สำหรับห้องนอนของผมเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตตุรัส ขนาดประมาณ 4x4 เมตร ไม่มีหน้าต่างครับ!!! มีประตูเข้าห้องนอน แล้วก็ประตูหนีไฟที่จะเปิดออกไปข้างนอกเลย ส่วนห้องน้ำต้องเดินออกจากห้องนอนไปครับ แรกทีเดียวผมไม่ได้ตกแต่งอะไรเลย เพราะไม่ได้อยู่ประจำที่นี่ เรียกได้ว่าเดินเข้าห้องมา มีฟูก หมอน แล้วก็ราวแขวนเสื้อนิดหน่อย แค่นั้นจริงๆครับ (ก็มันมีไว้นอนแค่นั้นนี่นา)
ลองดูภาพห้องจะเป็นประมาณนี้
หลังจากนั้น ก็มีช่วงหนึ่งที่ Index ที่ MBK เอาเฟอร์นิเจอร์มาลดราคาแบบถูกสุดๆเนื่องจากจะย้ายออกจากห้างแล้ว ผมก็ไปสอยโต๊ะเขียนหนังสือกับชั้นวางหนังสือ มาเพิ่ม... โต๊ะเขียนหนังสือตัวนี้เป็นตัวโชว์ครับ จำได้ว่าซื้อมาประมาณ 1,500 บาทเอง ถูกมากกกกกกกก
ชั้นนี้ก็ซื้อตอนลดเหมือนกัน 693 บาทเองครับ
พอซื้อมาแล้วก็เลยไปล้างรูปถ่ายรับปริญญาตัวเองมาแปะตกแต่ง (ตอนนั้นเพิ่งเรียนจบพอดี กำลังเห่อชุดครุย 55) แล้วก็ซื้อเก้าอี้ทำงานเพิ่มเพื่อมาใช้กับโต๊ะตัวนี้ แล้วลืมบอกไปว่าโคมไฟสีน้ำเงิน ที่ตั้งหนังสือนั้นก็ซื้อที่ Index ตอน Sale เหมือนกัน อิอิ ก็อยู่แห้งๆแบบนั้นเรื่อยมาตลอดเลยครับ
ทีนี้ มาถึงจุดเปลี่ยนครับ เรื่องมีอยู่ว่า ผมเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิตและจะต้องกลับมาอยู่ในเมืองแบบถาวรเพื่อทำงาน ประกอบกับในช่วงนั้นญาติผมคนหนึ่งกำลังจะซื้อคอนโดครับ ผมจึงได้ไปดูคอนโดทั่วกรุงเทพฯเลย ตรงนี้เองครับก็เลยทำให้ผมอยากแต่งห้องนอนขึ้นมาครับ (จริงๆอยากได้คอนโด 555) ก็เลยถ่ายรูปการแต่งคอนโดจากห้องตัวอย่างต่างๆมา แล้วก็หาแรงบันดาลใจ จาก Pinterest แล้วก็พวกตัวอย่างห้องตามร้านเฟอร์ พวก SB, Index, Ikea ครับ โดยมีหลักอยู่ว่า
1. การแต่งห้องนี้ต้องทำด้วยตัวเองครับ และรบกวนคนอื่นให้น้อยที่สุด ที่บ้านมีแม่กับพี่สาวอยู่ประจำอยู่แล้ว จึงไม่สะดวกที่จะให้ช่างเข้ามาวุ่นวายในบ้านเยอะหลายๆวันครับ
2. การแต่งห้องนี้ต้องใช้งบประมาณไม่สูงนัก โดยกลยุทธิ์คือใช้วิธีทยอยซื้อของมาแต่งทีละชิ้นๆ อันไหนทีมีของเก่าอยู่แล้ว ก็จะหยิบมาใช้แล้วก็ทำให้มันกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไปครับ ดังนั้น เพื่อนๆไม่ต้องคาดหวังสูงนะครับว่ามันจะออกมาว้าวๆๆ เข้าชุดเหมือนห้อง Studio ในคอนโด อันนี้เรียกว่าแต่งกันตามมีตามเกิดกันไปเลยครับ
โดยผมเริ่มต้นจากการทาสีก่อนเลยครับ ผมคิดเอาเองว่าถ้าอยู่ห้องขาวๆทั้งห้องแบบเดิมก็ไม่ต่างอะไรกับห้องที่ไม่ได้แต่งเลย เลยกะจะทาสีเพื่อให้ห้องมีมิติและแบ่งสัดส่วนการใช้งานต่างๆในห้องครับ โดยสีหลักของห้องก็คือ ขาว เทา และนำ้เงินครับ ผมก็เลือกสีตามรูปใน Pinterest แล้วก็เอารูปไปให้ร้านสีผสมเป็นกระป๋อง แล้วก็ซื้อแปรง ลูกกลิ้งอุปกรณ์ทุกอย่างมาทาเองเลยครับ เริ่มจากสีเทาในผนังทั้งสองด้านครับ
ตัดด้วยสีเทาแบบครึ่งผนังครับ
แล้วมุมที่เป็นโต๊ะทำงานเดิมก็ทาด้วยสีน้ำเงินครับ ทีนี้สีน้ำเงินเนี่ยแหละตัวเจ้าปัญหาเลย เพราะพอผมลงสีไปแล้วมันไม่ติดผนังครับ (คงเพราะไม่ได้ลงรองพื้น) ต้องทาซ้ำหลายต่อหลายรอบมากจนจะได้สีน้ำเงินสนิทตามทีเห็นในภาพนี้ครับ
กว่าจะทาสีเสร็จเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ใช้เวลาทาสีรวมแล้วประมาณ 3-4 วันได้ ทำๆหยุดๆ ประกอบกับลองผิดลองถูกไปด้วย ตอนนั้นย้ายตัวเองมานอนที่ห้องนั่งเล่นแทน เพราะห้องนอนเหม็นสีครับ หลังจากทาสีไปแล้วก็จะเห็นว่าห้องเริ่มเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น หัวเตียงสีน้ำตาล ฟูก โต๊ะหนังสือ กับชั้น ก็ถูกเลื่อนเข้ามาไว้ตามเดิมครับ เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น
ทีนี้สิ่งที่เพื่อนๆยังไม่เห็นก็คือราวแขวนพอ และกองสิ่งของที่ผมนำมากองไว้ที่มุมห้องอีกฝั่งหนึ่งหนะครับ (ตามภาพเลย 555) ดังนั้น โจทย์ก็คือผมต้องหาวิธีกำจัดกองสิ่งของนี้ หรือไม่ก็หาตู้หาชั้นมาใส่ให้มันเข้าที่ครับ และทางออกของมันก็คือ......
>
>
>
>
>
ตู้เสื้อผ้าครับ ผมไปตระเวนดูตู้เสื้อผ้าที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ดังๆหลายที่มาก ส่วนใหญ่จะหลัก 8K UP ทั้งนั้น ซึ่งผมไม่อยากจะซื้อดีขนาดนั้น ก็ไปดู Ikea มีตู้รุ่นหนึ่งถูกมากประมาณ 5K-6K แต่ภายในไม่มีฟังก์ชั่นอะไรเลย เป็นไม้อัดมาตีๆเข้ากันเป็นตู้ ท้ายที่สุดคือ ผมจะขนกลับมาบ้านยังไงครับ รถก็มีแต่รถคันเล็ก คนช่วยประกอบก็ไม่มี อย่ากระนั้นเลย ผมเลยเกิดไอเดียว่าไปดูเฟอร์นิเจอร์แถวสวนมะลิดีกว่า เป็นเฟอร์บ้านๆที่มีช่างมาประกอบให้เสร็จ ตรงจุดนี้เราต้องใช้ Sense ในการเลือกนิดนึงครับ อย่างที่บอกแล้วว่าเฟอร์บ้านๆเหล่านี้ ถ้าเราดูดีๆจะพบแบบที่มันเหมาะกับเราและไม่ดูแก่จนเกินไปครับ ผมก็เลือกได้ตู้เสื้อผ้ามาแบบหนึ่งในราคาที่ต่อรองแล้วได้ถูกสุดๆ ประมาณ 4,500 บาท ครับ หลังจากนั้นก็เลือกสี (ข้อดีคือบางครั้งร้านเฟอร์บ้านๆพวกนี้ได้เปรียบตรงที่มีคนยกมาประกอบให้ถึงที่เลย ถ้าซื้อจากร้านเฟอร์ชื่อดังย่านบางนาคงมาประกอบกันปาดเหงื่อเลยหละครับ) ซึ่งอย่างที่บอกแล้วครับว่าผมว่า Tone สีห้องไว้แต่แรกแล้วว่าจะใช้ 3 สี คือ ขาว เทา น้ำเงิน ในที่นี้จึงเลือกสีขาวครับ
หลังจากตู้มาส่งเรียบร้อยผมก็ไปเอาชั้นวางโทรทัศน์จาก Koncept ที่ซื้อไว้ตั้งแต่ตอนเข้าบ้านใหม่ๆ แต่ไม่มีใครใช้แล้วประกอบเข้า Set มาประกอบกันวางไว้ข้างตู้ครับ ก็ถือว่าเต็มห้องพอดี จัดการเก็บพวกของต่างๆเข้าตู้เสื้อผ้า และลิ้นชักต่างๆ ก็ทำให้ห้องกว้างและเป็นระเบียบชึ้นเยอะครับ
โจทย์ที่ผมต้องแก้ต่อไปก็คือ ประตูหนีไฟที่อยู่ตรงกับประตูทางเข้าพอดีถ้าไม่ทำอะไรเลยจะดูเป็นของแปลกปลอมมาก แต่จะเอาตู้เสื้อผ้าปิดไปก็ไม่ดี เพราะถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินเราจะแย่ครับ ก็เลยแก้ปัญหาด้วยวิธีการทำม่านขึ้นมาบังประตูแทนครับ ซึ่งทำให้ห้องซื่งไม่หน้าต่างนั้น ดูหลอกแล้วเหมือนมีหน้าต่างขึ้นมาทีเดียว แล้วความพริ้วของผ้าก็ช่วยให้ห้องแข็งๆดูนุ่มนวลขึ้นด้วยครับ
ขั้นตอนสุดท้ายก็คือ การเลือกของมาตบแต่งห้องแล้วครับ ผมเลือกซื้อกระจกหกเหลี่ยม ราวแขวนเสื้อรูปกิ่งไม้ และของจุกจิกอีกหลายอย่างจาก Ikea มาแต่งห้องครับ สำหรับตัวกระจกนั้นทำให้ห้องดูกว้าง มีลูกเล่นขึ้นเยอะครับ ทั้งหมดนี้ก็จัดการบรรเลงเองเลยครับ ก็ค่อยๆแต่งเอา ประกอบกับตัวเองเป็นคนชอบอ่านหนังสือ และสะสมพวกโมเดลรถ โมเดลตึก อะไรพวกนี้อยู่แล้วครับก็เอามาจัดวางตามจุดต่างๆครับ ส่วนที่วางหนังสือตัว B นั้น จขกท. เอามาตั้งโชว์สวยๆครับเพราะ จขกท. ชื่อเล่นขึ้นต้นด้วยตัว “B” ครับ
ขอบอกเลยว่าตอนแต่งห้องนี่มีความสุขมากๆครับ มันเหมือนกับว่าเราค่อยๆทำอะไรบางอย่างแล้วเห็นว่ามันสำเร็จขึ้นทีละน้อยๆ หนะครับ ในส่วนการตกแต่งอื่นๆก็มีการซื้อตู้ลิ้นชักมาเพิ่มบ้าง แล้วก็มีล้างพวกภาพโปสเตอร์ละครที่ทำสมัยเรียนมาเข้ากรอบแต่งห้องไว้ครับ ส่วนใบปริญญาบัตรนั้นผมเอาไปเข้ากรอบย่านท่าพระจันทร์มาเก็บไว้เลยครับ ก็เลยได้เอามาแต่งห้องร่วมด้วยครับ
ส่วนรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่จะเติมเต็มให้ห้องสมบูรณ์ก็คือ ผ้าปูที่นอนครับ อย่างที่บอกว่าแต่ก่อนผมใช้ (ซุกหัว) นอน อย่างเดียงเลยไม่แคร์เท่าไหร่ว่าผ้าปูที่นอนจะเป็นสีอะไร หลังจากแต่งห้องแล้วก็เลยซื้อผ้าปูที่นอนใหม่มาให้มีสีคุมโทนเดียวกับห้องครับ และสิ่งที่มักจะลืมกันก็คือ Lighting ครับ ซึ่งจริงๆแล้วมีผมต่อความรู้สึกของห้องมากครับ แต่อย่างที่บอกว่า งานแต่งห้องครั้งนี้ทำเองไม่ง้อช่างครับ จึงใช้ไฟนีออนหลอดยาวดวงเดิมเป็นหลักครับ แต่ตอนกลางคืนจะเปิดไปไฟสีส้ม บนโต๊ะทำงาน และหัวเตียงแทนครับ ก็ช่วยให้ห้องสวยไปอีกแบบ และเป็นการเตรียมร่างกายเข้าสู่การพักผ่อนอย่างแท้จริงครับ
ท้ายที่สุดนี้ ผมก็ลงรูปห้องมุมต่างๆที่ถ่ายไว้นะครับ เผื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆลุกขึ้นมารีโนเวทห้องนอนด้วยตัวเองกันบ้างครับ หวังว่ารีวิวประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆทุกคนนะครับ
[img]
https://f.ptcdn.info/797/048/000/ok8vg02ap4kQ7H9lF4O
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อยากทาสีห้องนอนใหม่ต้องเริ่มยังไงคะ
คืออยากทาสีห้องนอนใหม่ค่ะ เลยอยากรู้ว่าต้องเริ่มยังไงคะ ต้องทำความสะอาดกำแพงก่อนหรือว่ายังไง แล้วเราควรเลือกสีแบบไหนยี่ห้อไหน พวกอุปกรณ์ต้องมีอะไรบ้าง อะไรจำเป็น อะไรไม่จำเป็นคะ พอดีไม่ค่อยรู้เรื่องพว
สมาชิกหมายเลข 3237938
DIY ทาสีห้องด้วยแรงงานส่วนตัว ค่าๆ
เนื่องจากว่าคุณพ่อและคุณแม่ จัดผ้าใบผืนใหญ่ให้ลงสีเล่น พี่และน้องจึงจัดการละเลงกันซะ ชาวบ้านแถวนั้นมี งงค่ะ เราเลยตั้งชื่อบ้านหลังนี้ว่า บ้านลูกกวาด เพราะห้องแต่ละห้องจะต่างสีกันและให้อารมณ์กันคนละแ
Jaise
ทาสีภายในห้องด้วยตัวเองต้องเตรียมตัวอย่างไร
คำนวณขนาดพื้นที่ หลังจากเลือกสไตล์การตกแต่ง เลือกประเภทของสี เช่น สีเงา สีด้าน หรือสีแบบกึ่งเงา สีด้านจะให้อาร
CondoNewb
จะทาสีห้องใหม่ค่ะ ใช้งบประมานเท่าไร
คือเราอยากทาสีห้องนอนใหม่ค่ะ ห้อง4x4 เมตร สีเก่าเป็นสีด้าน ยังไม่หมดอายุ อยากได้สีใหม่เป็นสีทึบๆ สีเทา สีคราม อะไรประมานนี้ อยากทราบว่างบประมานเท่าไรคะ? รบกวนตอบหน่อยนะคะ
สมาชิกหมายเลข 2237607
+ + + เปลี่ยน เปลี๊ยน เปลี่ยน ห้องนอนเก่า ให้น่านอน หลับฝันดี+ + +
สวัสดีเพื่อนๆๆ พี่ๆๆ ชาวพันทิปค่ะ รีวิวนี้เกิดจากอารมณ์ล้วนๆๆ ก็อยากได้ห้องนอนใหม่ จัดเลยค่ะ วันนี้จะมารีวิว รีโนเวท+DIYห้องนอนของตัวเอง ทาวน์เฮ้าส์นี้อยู่มาประมาณ 9 -10 ปีแล้วค่ะ เลยอยากจะเปลี่ยนบรร
เที่ยงคืนสองนาที
ระหว่าง “ อาบน้ำแล้วใส่เสื้อผ้าเก่า” กับ ”ไม่อาบน้ำแต่เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่“ อันไหนรับได้รับไม่ได้
ระหว่าง “ อาบน้ำแล้วใส่เสื้อผ้าเก่า” กับ ”ไม่อาบน้ำแต่เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่“ อันไหนรับได้รับไม่ได้ ต้องเลือกอย่างเดียวเท่านั้น !!! 😁😂 ยิ่งตปท.นะ บางทีอาบน้ำบ่อยโดนด่าก็มี
สก๊อยซ้อนรถเครื่องสีแสด
หอพัก
ห้องพัดลมราคา2700แพงไปไหมครับ พัดลมเพดาน มีตู้เสื้อผ้าอะไรครบแต่แค่ ไม่มีตู้เย็น ไฟ7 น้ำเหมา200
สมาชิกหมายเลข 8816920
เรียนตัดเสื้อผ้าคิดว่าได้ประโยขน์ไหมค่ะเสื้อผ้าสมัยนี้ถูกมากแถมยังมีเสื้อผ้ามือสองมาขายอีก
เรียนตัดเสื้อผ้าคิดว่าได้ประโยขน์ไหมค่ะเสื้อผ้าสมัยนี้ถูกมากแถมยังมีเสื้อผ้ามือสองมาขายอีก
สมาชิกหมายเลข 8309379
เลือกหนังสือเล่มใหนดี
คือกำลังลังเลค่ะว่าจะซื้อเล่มใหนดีระหว่างสีม่วงกับสีน้ำเงินหรือเอาทั้ง2เล่มเลยคือจะสอบแล้วแต่บางเรื่องยังไม่ค่อยเข้าใจบางเรื่องเข้าใจแต่ไม่สุดขอคนเคยใช้จริงแนะนำหน่อยค่ะ
สมาชิกหมายเลข 7996529
รีโนเวทห้องนอนกันเถ๊อะะะ ใช้งบประมาณน้อยมาก แต่ก็ได้ตามที่ต้องการ
สวัสดีค่ะ นี่กระทู้แรกในการรีวิว ผิดถูกยังไงขออภัย ณ ที่นี้นะคะ ก่อนอื่น ขอบอกก่อนเลยว่าชอบเล่น the sims มาก 5555555555 ชอบเกมส์แต่งบ้าน แต่งห้องนอน วันนี้เลยลงมือทำเอง ไม่จ้างช่างสักบาท ทำเอง เ
สมาชิกหมายเลข 3199802
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ตกแต่งบ้าน
รีโนเวทบ้าน
บ้าน
ออกแบบและสร้างบ้าน
เฟอร์นิเจอร์
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 12.5 พัน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
รีโนเวท ห้องนอนเก่าด้วยตัวเอง (ภายในงบจำกัด ทำเองทุกขั้นตอนไม่ง้อช่าง)
ขอออกตัวก่อนครับว่า นี่เป็นกระทู้แรกของผมเลยครับ โดยประสบการณ์ที่ผมจะมาแชร์กับเพื่อนๆก็คือ การแต่งห้องนอนบ้านตึกแถวด้วยตัวเองของผมครับ โดยจะพยายามเล่าเป็นลำดับๆ พร้อมรูปประกอบนะครับ ถ้าผิดพลาดยังไงขอให้ช่วยแนะนำด้วยครับ
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า บ้านผมเป็นตึกแถวย่านเยาวราชครับ ซึ่งข้อดีของย่านนี้ก็คือเดินทางสะดวก(โดยรถประจำทาง) แต่ข้อเสียก็คือ พื้นที่บ้านคับแคบ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการอยู่อาศัยกันทั้งครอบครัวแล้วด้วย การจัดสรรพื้นที่ใช้งานยิ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งครับ สำหรับห้องนอนของผมเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตตุรัส ขนาดประมาณ 4x4 เมตร ไม่มีหน้าต่างครับ!!! มีประตูเข้าห้องนอน แล้วก็ประตูหนีไฟที่จะเปิดออกไปข้างนอกเลย ส่วนห้องน้ำต้องเดินออกจากห้องนอนไปครับ แรกทีเดียวผมไม่ได้ตกแต่งอะไรเลย เพราะไม่ได้อยู่ประจำที่นี่ เรียกได้ว่าเดินเข้าห้องมา มีฟูก หมอน แล้วก็ราวแขวนเสื้อนิดหน่อย แค่นั้นจริงๆครับ (ก็มันมีไว้นอนแค่นั้นนี่นา)
ลองดูภาพห้องจะเป็นประมาณนี้
หลังจากนั้น ก็มีช่วงหนึ่งที่ Index ที่ MBK เอาเฟอร์นิเจอร์มาลดราคาแบบถูกสุดๆเนื่องจากจะย้ายออกจากห้างแล้ว ผมก็ไปสอยโต๊ะเขียนหนังสือกับชั้นวางหนังสือ มาเพิ่ม... โต๊ะเขียนหนังสือตัวนี้เป็นตัวโชว์ครับ จำได้ว่าซื้อมาประมาณ 1,500 บาทเอง ถูกมากกกกกกกก
ชั้นนี้ก็ซื้อตอนลดเหมือนกัน 693 บาทเองครับ
พอซื้อมาแล้วก็เลยไปล้างรูปถ่ายรับปริญญาตัวเองมาแปะตกแต่ง (ตอนนั้นเพิ่งเรียนจบพอดี กำลังเห่อชุดครุย 55) แล้วก็ซื้อเก้าอี้ทำงานเพิ่มเพื่อมาใช้กับโต๊ะตัวนี้ แล้วลืมบอกไปว่าโคมไฟสีน้ำเงิน ที่ตั้งหนังสือนั้นก็ซื้อที่ Index ตอน Sale เหมือนกัน อิอิ ก็อยู่แห้งๆแบบนั้นเรื่อยมาตลอดเลยครับ
ทีนี้ มาถึงจุดเปลี่ยนครับ เรื่องมีอยู่ว่า ผมเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิตและจะต้องกลับมาอยู่ในเมืองแบบถาวรเพื่อทำงาน ประกอบกับในช่วงนั้นญาติผมคนหนึ่งกำลังจะซื้อคอนโดครับ ผมจึงได้ไปดูคอนโดทั่วกรุงเทพฯเลย ตรงนี้เองครับก็เลยทำให้ผมอยากแต่งห้องนอนขึ้นมาครับ (จริงๆอยากได้คอนโด 555) ก็เลยถ่ายรูปการแต่งคอนโดจากห้องตัวอย่างต่างๆมา แล้วก็หาแรงบันดาลใจ จาก Pinterest แล้วก็พวกตัวอย่างห้องตามร้านเฟอร์ พวก SB, Index, Ikea ครับ โดยมีหลักอยู่ว่า
1. การแต่งห้องนี้ต้องทำด้วยตัวเองครับ และรบกวนคนอื่นให้น้อยที่สุด ที่บ้านมีแม่กับพี่สาวอยู่ประจำอยู่แล้ว จึงไม่สะดวกที่จะให้ช่างเข้ามาวุ่นวายในบ้านเยอะหลายๆวันครับ
2. การแต่งห้องนี้ต้องใช้งบประมาณไม่สูงนัก โดยกลยุทธิ์คือใช้วิธีทยอยซื้อของมาแต่งทีละชิ้นๆ อันไหนทีมีของเก่าอยู่แล้ว ก็จะหยิบมาใช้แล้วก็ทำให้มันกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไปครับ ดังนั้น เพื่อนๆไม่ต้องคาดหวังสูงนะครับว่ามันจะออกมาว้าวๆๆ เข้าชุดเหมือนห้อง Studio ในคอนโด อันนี้เรียกว่าแต่งกันตามมีตามเกิดกันไปเลยครับ
โดยผมเริ่มต้นจากการทาสีก่อนเลยครับ ผมคิดเอาเองว่าถ้าอยู่ห้องขาวๆทั้งห้องแบบเดิมก็ไม่ต่างอะไรกับห้องที่ไม่ได้แต่งเลย เลยกะจะทาสีเพื่อให้ห้องมีมิติและแบ่งสัดส่วนการใช้งานต่างๆในห้องครับ โดยสีหลักของห้องก็คือ ขาว เทา และนำ้เงินครับ ผมก็เลือกสีตามรูปใน Pinterest แล้วก็เอารูปไปให้ร้านสีผสมเป็นกระป๋อง แล้วก็ซื้อแปรง ลูกกลิ้งอุปกรณ์ทุกอย่างมาทาเองเลยครับ เริ่มจากสีเทาในผนังทั้งสองด้านครับ
ตัดด้วยสีเทาแบบครึ่งผนังครับ
แล้วมุมที่เป็นโต๊ะทำงานเดิมก็ทาด้วยสีน้ำเงินครับ ทีนี้สีน้ำเงินเนี่ยแหละตัวเจ้าปัญหาเลย เพราะพอผมลงสีไปแล้วมันไม่ติดผนังครับ (คงเพราะไม่ได้ลงรองพื้น) ต้องทาซ้ำหลายต่อหลายรอบมากจนจะได้สีน้ำเงินสนิทตามทีเห็นในภาพนี้ครับ
กว่าจะทาสีเสร็จเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ใช้เวลาทาสีรวมแล้วประมาณ 3-4 วันได้ ทำๆหยุดๆ ประกอบกับลองผิดลองถูกไปด้วย ตอนนั้นย้ายตัวเองมานอนที่ห้องนั่งเล่นแทน เพราะห้องนอนเหม็นสีครับ หลังจากทาสีไปแล้วก็จะเห็นว่าห้องเริ่มเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น หัวเตียงสีน้ำตาล ฟูก โต๊ะหนังสือ กับชั้น ก็ถูกเลื่อนเข้ามาไว้ตามเดิมครับ เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น
ทีนี้สิ่งที่เพื่อนๆยังไม่เห็นก็คือราวแขวนพอ และกองสิ่งของที่ผมนำมากองไว้ที่มุมห้องอีกฝั่งหนึ่งหนะครับ (ตามภาพเลย 555) ดังนั้น โจทย์ก็คือผมต้องหาวิธีกำจัดกองสิ่งของนี้ หรือไม่ก็หาตู้หาชั้นมาใส่ให้มันเข้าที่ครับ และทางออกของมันก็คือ......
>
>
>
>
>
ตู้เสื้อผ้าครับ ผมไปตระเวนดูตู้เสื้อผ้าที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ดังๆหลายที่มาก ส่วนใหญ่จะหลัก 8K UP ทั้งนั้น ซึ่งผมไม่อยากจะซื้อดีขนาดนั้น ก็ไปดู Ikea มีตู้รุ่นหนึ่งถูกมากประมาณ 5K-6K แต่ภายในไม่มีฟังก์ชั่นอะไรเลย เป็นไม้อัดมาตีๆเข้ากันเป็นตู้ ท้ายที่สุดคือ ผมจะขนกลับมาบ้านยังไงครับ รถก็มีแต่รถคันเล็ก คนช่วยประกอบก็ไม่มี อย่ากระนั้นเลย ผมเลยเกิดไอเดียว่าไปดูเฟอร์นิเจอร์แถวสวนมะลิดีกว่า เป็นเฟอร์บ้านๆที่มีช่างมาประกอบให้เสร็จ ตรงจุดนี้เราต้องใช้ Sense ในการเลือกนิดนึงครับ อย่างที่บอกแล้วว่าเฟอร์บ้านๆเหล่านี้ ถ้าเราดูดีๆจะพบแบบที่มันเหมาะกับเราและไม่ดูแก่จนเกินไปครับ ผมก็เลือกได้ตู้เสื้อผ้ามาแบบหนึ่งในราคาที่ต่อรองแล้วได้ถูกสุดๆ ประมาณ 4,500 บาท ครับ หลังจากนั้นก็เลือกสี (ข้อดีคือบางครั้งร้านเฟอร์บ้านๆพวกนี้ได้เปรียบตรงที่มีคนยกมาประกอบให้ถึงที่เลย ถ้าซื้อจากร้านเฟอร์ชื่อดังย่านบางนาคงมาประกอบกันปาดเหงื่อเลยหละครับ) ซึ่งอย่างที่บอกแล้วครับว่าผมว่า Tone สีห้องไว้แต่แรกแล้วว่าจะใช้ 3 สี คือ ขาว เทา น้ำเงิน ในที่นี้จึงเลือกสีขาวครับ
หลังจากตู้มาส่งเรียบร้อยผมก็ไปเอาชั้นวางโทรทัศน์จาก Koncept ที่ซื้อไว้ตั้งแต่ตอนเข้าบ้านใหม่ๆ แต่ไม่มีใครใช้แล้วประกอบเข้า Set มาประกอบกันวางไว้ข้างตู้ครับ ก็ถือว่าเต็มห้องพอดี จัดการเก็บพวกของต่างๆเข้าตู้เสื้อผ้า และลิ้นชักต่างๆ ก็ทำให้ห้องกว้างและเป็นระเบียบชึ้นเยอะครับ
โจทย์ที่ผมต้องแก้ต่อไปก็คือ ประตูหนีไฟที่อยู่ตรงกับประตูทางเข้าพอดีถ้าไม่ทำอะไรเลยจะดูเป็นของแปลกปลอมมาก แต่จะเอาตู้เสื้อผ้าปิดไปก็ไม่ดี เพราะถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินเราจะแย่ครับ ก็เลยแก้ปัญหาด้วยวิธีการทำม่านขึ้นมาบังประตูแทนครับ ซึ่งทำให้ห้องซื่งไม่หน้าต่างนั้น ดูหลอกแล้วเหมือนมีหน้าต่างขึ้นมาทีเดียว แล้วความพริ้วของผ้าก็ช่วยให้ห้องแข็งๆดูนุ่มนวลขึ้นด้วยครับ
ขั้นตอนสุดท้ายก็คือ การเลือกของมาตบแต่งห้องแล้วครับ ผมเลือกซื้อกระจกหกเหลี่ยม ราวแขวนเสื้อรูปกิ่งไม้ และของจุกจิกอีกหลายอย่างจาก Ikea มาแต่งห้องครับ สำหรับตัวกระจกนั้นทำให้ห้องดูกว้าง มีลูกเล่นขึ้นเยอะครับ ทั้งหมดนี้ก็จัดการบรรเลงเองเลยครับ ก็ค่อยๆแต่งเอา ประกอบกับตัวเองเป็นคนชอบอ่านหนังสือ และสะสมพวกโมเดลรถ โมเดลตึก อะไรพวกนี้อยู่แล้วครับก็เอามาจัดวางตามจุดต่างๆครับ ส่วนที่วางหนังสือตัว B นั้น จขกท. เอามาตั้งโชว์สวยๆครับเพราะ จขกท. ชื่อเล่นขึ้นต้นด้วยตัว “B” ครับ
ขอบอกเลยว่าตอนแต่งห้องนี่มีความสุขมากๆครับ มันเหมือนกับว่าเราค่อยๆทำอะไรบางอย่างแล้วเห็นว่ามันสำเร็จขึ้นทีละน้อยๆ หนะครับ ในส่วนการตกแต่งอื่นๆก็มีการซื้อตู้ลิ้นชักมาเพิ่มบ้าง แล้วก็มีล้างพวกภาพโปสเตอร์ละครที่ทำสมัยเรียนมาเข้ากรอบแต่งห้องไว้ครับ ส่วนใบปริญญาบัตรนั้นผมเอาไปเข้ากรอบย่านท่าพระจันทร์มาเก็บไว้เลยครับ ก็เลยได้เอามาแต่งห้องร่วมด้วยครับ
ส่วนรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่จะเติมเต็มให้ห้องสมบูรณ์ก็คือ ผ้าปูที่นอนครับ อย่างที่บอกว่าแต่ก่อนผมใช้ (ซุกหัว) นอน อย่างเดียงเลยไม่แคร์เท่าไหร่ว่าผ้าปูที่นอนจะเป็นสีอะไร หลังจากแต่งห้องแล้วก็เลยซื้อผ้าปูที่นอนใหม่มาให้มีสีคุมโทนเดียวกับห้องครับ และสิ่งที่มักจะลืมกันก็คือ Lighting ครับ ซึ่งจริงๆแล้วมีผมต่อความรู้สึกของห้องมากครับ แต่อย่างที่บอกว่า งานแต่งห้องครั้งนี้ทำเองไม่ง้อช่างครับ จึงใช้ไฟนีออนหลอดยาวดวงเดิมเป็นหลักครับ แต่ตอนกลางคืนจะเปิดไปไฟสีส้ม บนโต๊ะทำงาน และหัวเตียงแทนครับ ก็ช่วยให้ห้องสวยไปอีกแบบ และเป็นการเตรียมร่างกายเข้าสู่การพักผ่อนอย่างแท้จริงครับ
ท้ายที่สุดนี้ ผมก็ลงรูปห้องมุมต่างๆที่ถ่ายไว้นะครับ เผื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆลุกขึ้นมารีโนเวทห้องนอนด้วยตัวเองกันบ้างครับ หวังว่ารีวิวประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆทุกคนนะครับ