ไม่น่าเก็บมา

สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีเหตุการณ์จะมาเล่าค่ะ ย้อนไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว ตอนที่เรายังเรียนอยู่มหาลัย ปี1 พักที่หอตรงข้ามมหาลัยชื่อดังย่านรังสิต  ก่อนจะเปิดเทอมพ่อของเราก็พาตระเวนไปดูหอพัก ดูมาเรื่อยๆจนมาเจอหอพักสตรี ภายนอกดูเก่ามากค่ะ ในใจเราไม่อยากได้ที่นี่แต่ด้วยความที่พ่อเป็นห่วงลูกสาว กลัวเป็นอันตราย เลยเลือกให้มาอยู่หอพักสตรีนี่เลย ก็ทำเรื่องทำสัญญาเข้าพักเสร็จ สภาพห้องคือค่อนข้างเก่าและไม่มีระเบียง ภายในห้องมีขั้นบันไดประมานสามขั้น แล้วก็มีไม้กระดานปิดทึบแต่เราไม่ได้สนใจอะไรเพราะเจ้าของหอเค้าบอกว่าที่นี่เคยเป็นอาคารพานิชย์มาก่อน ตามทางเดินกว่าจะขึ้นมาที่ห้องก็น่ากลัว มืด และซับซ้อนมาก พอมาถึงวันย้ายเข้าหอเราจำได้ว่าเราก็ย้ายของเข้ากันตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไรจนพ่อแม่กลับบ้านไป เราก็อยู่ใช้ชีวิตประจำวันไปเรื่อยๆ ทุกวันๆแต่ตอนที่อยู่ห้องจะค่อนข้างรู้สึกอึดอัดทุกทีเหมือนมีคนอยู่ด้วย แต่ด้วยความที่ไม่ได้คิดอะไรเพราะไม่เคยเจอผี ไม่เคยสัมผัสได้ ขอเสริมนิดนึงนะคะ ปกติก็จะไปอยู่หอเพื่อนซะมากกว่าไม่ค่อยได้อยู่ห้องของตัวเองซักเท่าไร เพราะเวลาอยู่ห้องคนเดียวมันอึดอัด

          ตัดมาตอนที่เราย้ายหอ เหตุผลที่ย้ายหอเพราะว่าเราไม่ชอบลักษณะของห้อง ไม่ปลอดโปร่งเลยตัดสินใจย้ายไปอีกหอนึง เข้าเรื่องตอนย้ายของกลับบ้านเพราะเป็นช่วงปิดเทอม เราก็ย้ายของปกติแต่แม่เรามาบอกเราทีหลังว่าตอนเจ้าของหอจะเข้าห้องเรา เค้ายกมือไหว้ประตูก่อนเข้าห้องด้วยแต่แม่เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร แล้วก็เดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดที่บ้านเรามีแพลนไปกินข้าวกันนอกบ้านพอไปถึงร้านอาหารก็สั่งอาหารกัน ครอบครัวเรามีกันห้าคนรวมดิฉันด้วย เด็กเสริ์ฟก็เอาจานและช้อนส้อมมาให้ทั้งหมดหกชุด ตอนแรกเราก็ไม่ได้เอะใจอะไร ทีนี้เค้ายังไม่เอาแก้วมาให้โต๊ะเราเลยบอกเด็กเสริ์ฟขอแก้วหน่อย แล้วเค้าก็เอามาให้ทั้งหมด หก แก้ว เราก็เริ่มหงุดหงิดว่าไม่เห็นหรอว่ามากันห้าคน ตาบอดหรอ พ่อเราเลยถามเด็กเสริ์ฟว่าน้อยเห็นว่าพวกพี่มากันกี่คนเนี่ยถึงเอามาให้หกชุด เด็กเสริ์ฟตอนทันควันว่าหก แล้วก็ทำท่านับ 1 2 3 4 5.....6!

          พ่อเราแย้งเสียงดังว่า จะบ้าหรอพวกพี่มากันห้าคน เด็กเสริ์ฟนับใหม่ 1 2 3 4 5 เอ้อ ห้าคนจริงๆด้วยครับแล้วตอนที่พวกพี่เดินเข้ามามีผู้หญิงอีกคนนึงเดินเข้ามาด้วยนะครับ ผมถึงเอามาให้หกชุด หลังจากบทสนทนาจบ พวกเราก็นั่งกินข้าวกันเงียบๆจนกินข้าวเสร็จ พ่อเราพูดขึ้นมาว่าร้านอาหารนี่ก็แปลกนะสงสัยมันตาฝาด พ่อเราถามขึ้นมาอีกว่าใครไปทำอะไรไว้รึป่าว ในใจพ่อเรารู้ค่ะว่าตัวเรามีเรื่องแปลกๆคือมีเซ้นส์นั่นเอง เราเลยนึกไปนึกมาจนนึกได้ว่า ตอนที่หอเก่า แม่เราเคยซื้อเตียงไว้ 1 บาท เพื่อนๆเคยทำกันไม๊คะเหมือนซื้อที่เพื่อขอนอนพักอาศัยอะไรประมาณนั้นที่เราเข้าใจ แล้วมีอยู่วันนึงเราทำความสะอาดห้องแล้วเห็นเหรียญหล่นลงพื้น เราเลยเก็บมาไว้ตรงที่วางทีวี ไม่ได้คิดว่าเป็นเหรียญที่เคยซื้อเตียงไว้ ตอนจะย้ายออกเราก็เก็บห้องแล้วดันไปกวาดเหรียญกลับบ้านมาด้วย

          ตัดกลับมาตอนอยู่บนรถ ที่พ่อเราถามว่ามีใครไปทำอะไรมาไม๊ เราก็บอกพ่อตามที่เราเล่าไว้บรรทัดบน พ่อเราก็บอกว่าหนูไปเก็บมาทำไมลูก ซื้อแล้วซื้อเลยนะลูก เดี๋ยวถึงบ้านแล้วหนูไปเอาเหรียญนั้นมาพ่อจะพาไปโยนทิ้งไว้ที่วัด เราก็ไปหาเหรียญในกล่องแต่มันมีหลายเหรียญจำไม่ได้ จนเราต้องเอามาทั้งกล่องนั้นเลยจำไม่ได้ว่ากี่เหรียญ พอถึงวัดพ่อเราก็บอกว่าลงรถได้แล้วลูกเราก็ลงพ่อเราก็เดินลงตามมา อยู่ๆลมจากไหนไม่รู้พัดมาแรงมากทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าฝน แต่ลมแรงอย่างกับว่าตอนนี้คือหน้าฝน ในใจเรารู้สึกวังเวง โหวงเหวง บอกไม่ถูกและมันจะร้องไห้ จำได้ว่าจุดที่วางเหรียญเป็นต้นโพธิ์ใหญ่ พ่อบอกเราว่าให้กล่าวตามพ่อ แต่เราจำไม่ได้แล้วว่ากล่าวว่าอะไรบ้าง ตอนเราวางเหรียญจิตเราไม่อยากวางเหมือนกับว่าเราผูกพันธ์กับเหรียญนี้ คิดอยู่ในใจว่าเราต้องจากกันแล้วหรอ ซึ่งเรามีความคิดแบบนี้ได้ยังไง เราก็งงตัวเองเหมือนกัน พอวางเหรียญเสร็จ ลมก็หยุดพัด ก่อนขึ้นรถพ่อมาจับไหล่เราบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงนะลูก พ่อไม่คิดว่ามันจะมาเกิดกับหนู...


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ติชมได้เลยค่ะ แต่ขอย้ำค่ะว่านี่คือเรื่องจริง ในชีวิตเรายังมีอีกหลายเรื่องที่ประสบพบเจอมาแต่ยังหาคำตอบไม่ได้ แต่มันน่ากลัว.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่