ไปประเทศแถวบ้านมาค่ะ

แบบว่า บ้านจริงๆ อยู่ห่างประเทศนี้ไม่ถึง 100 กิโลเมตร
แต่กว่าจะไปไปถึงใจกลางย่างกุ้งจริงๆ ก็ปาเข้าไปครึ่งค่อนชีวิตโน่นเลย
ทริปนี้เป็นทริปที่วางแผนไว้เนิ่นนานที่สุด ตั้งแต่มีเงิน ยันเงินหมด

และเป็นทริปที่จัดกันขึ้นเพื่อพาญาติผู้ใหญ่เที่ยว ดังนั้น ใครที่คาดหวังจะได้เห็นภาพการผจญภัยอะไรต่อมิอะไร ไม่มีแน่นอนค่ะ ตื่นๆๆ
การเดินทางเริ่มจาก เดินทางออกจากเชียงใหม่ตอนเที่ยง ด้วยเที่ยวบินสิงโต ไปถึงดอนเมือง ตอนบ่าย เพื่อสมทบกับอีก 4 ชีวิตที่รออยู่ที่นั่นแล้ว
และทั้งห้าชีวิตก็เดินทางออกจากดอนเมืองตอนเย็น ด้วยเที่ยวบินตัวหนังสือขาวบนพื้นแดงวงกลม ไปถึงย่างกุ้งตอนตะวันตกดินตามเวลาท้องถิ่นพอดี
รีบหอบหิ้วกระเป๋าและสัมภารก เอ๊ย สัมภาระทั้งปวง ขึ้นแท็กซี่ตรงไปยังพระเจดีย์ชเวดากอง เพื่อเสพบรรยากาศของศรัทธาชนในคืนวันเพ็ญ เดือนยี่ทันที
ไม่สนและไม่แคร์ว่าห้องพักของโรงแรมสำหรับแบ็คแพคเกอร์จะยังคงเหลือหรือไม่ แหะๆ
เราเลือกจ่ายเงินค่าธรรมเนียม และพาญาติผู้ใหญ่ขึ้นลิฟต์ไปด้านบน
สัมผัสบรรยากาศพม่าเบียดชิงกันขึ้นลิฟต์อย่างมีความสุข ฮ่าๆ
และภาพแรกที่พบ ก็ทำให้รู้สึกประทับใจยิ่งนัก

ดูเหมือนว่ายิ่งดึก ศรัทธาชนหลายชาติพันธุ์ยิ่งหนุนเนื่องขึ้นไปด้านบนกันเรื่อยๆ ค่ะ
ทุกคนมาด้วยศรัทธา ที่เขาว่ากันว่า ชาวพม่ามีศรัทธาในพุทธศาสนายิ่งกว่าชาติใดๆ นี่เถียงเขาไม่ได้จริงๆ ค่ะ

และที่สำคัญ มหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ก็งดงามยิ่งใต้แสงจันทร์และแสงไฟที่ส่องมาในคืนเพ็ญคืนนั้น

ศิลปะแบบมอญอย่างนี้ของพม่า ทำให้คิดถึงแถวๆ แม่ฮ่องสอนบ้านเราเป็นอย่างมากค่ะ

และหากใช้ศรัทธาเป็นที่ตั้ง ได้มาไหว้สาเจดีย์ธาตุหลวงองค์นี้ ก็นับว่าเป็นบุญ
..สี่วันในพม่า - ข้าไปมาแล้ว.. (ชเวดากอง หงสาวดี พระธาตุอินทร์แขวน พระธาตุมุเตา)
แต่กว่าจะไปไปถึงใจกลางย่างกุ้งจริงๆ ก็ปาเข้าไปครึ่งค่อนชีวิตโน่นเลย
ทริปนี้เป็นทริปที่วางแผนไว้เนิ่นนานที่สุด ตั้งแต่มีเงิน ยันเงินหมด
และเป็นทริปที่จัดกันขึ้นเพื่อพาญาติผู้ใหญ่เที่ยว ดังนั้น ใครที่คาดหวังจะได้เห็นภาพการผจญภัยอะไรต่อมิอะไร ไม่มีแน่นอนค่ะ ตื่นๆๆ
การเดินทางเริ่มจาก เดินทางออกจากเชียงใหม่ตอนเที่ยง ด้วยเที่ยวบินสิงโต ไปถึงดอนเมือง ตอนบ่าย เพื่อสมทบกับอีก 4 ชีวิตที่รออยู่ที่นั่นแล้ว
และทั้งห้าชีวิตก็เดินทางออกจากดอนเมืองตอนเย็น ด้วยเที่ยวบินตัวหนังสือขาวบนพื้นแดงวงกลม ไปถึงย่างกุ้งตอนตะวันตกดินตามเวลาท้องถิ่นพอดี
รีบหอบหิ้วกระเป๋าและสัมภารก เอ๊ย สัมภาระทั้งปวง ขึ้นแท็กซี่ตรงไปยังพระเจดีย์ชเวดากอง เพื่อเสพบรรยากาศของศรัทธาชนในคืนวันเพ็ญ เดือนยี่ทันที
ไม่สนและไม่แคร์ว่าห้องพักของโรงแรมสำหรับแบ็คแพคเกอร์จะยังคงเหลือหรือไม่ แหะๆ
เราเลือกจ่ายเงินค่าธรรมเนียม และพาญาติผู้ใหญ่ขึ้นลิฟต์ไปด้านบน
สัมผัสบรรยากาศพม่าเบียดชิงกันขึ้นลิฟต์อย่างมีความสุข ฮ่าๆ
และภาพแรกที่พบ ก็ทำให้รู้สึกประทับใจยิ่งนัก
ดูเหมือนว่ายิ่งดึก ศรัทธาชนหลายชาติพันธุ์ยิ่งหนุนเนื่องขึ้นไปด้านบนกันเรื่อยๆ ค่ะ
ทุกคนมาด้วยศรัทธา ที่เขาว่ากันว่า ชาวพม่ามีศรัทธาในพุทธศาสนายิ่งกว่าชาติใดๆ นี่เถียงเขาไม่ได้จริงๆ ค่ะ
และที่สำคัญ มหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ก็งดงามยิ่งใต้แสงจันทร์และแสงไฟที่ส่องมาในคืนเพ็ญคืนนั้น
ศิลปะแบบมอญอย่างนี้ของพม่า ทำให้คิดถึงแถวๆ แม่ฮ่องสอนบ้านเราเป็นอย่างมากค่ะ
และหากใช้ศรัทธาเป็นที่ตั้ง ได้มาไหว้สาเจดีย์ธาตุหลวงองค์นี้ ก็นับว่าเป็นบุญ