The Mask Singer ของเกาหลี กติกาต่างจากของบ้านเราไหมครับ

เพิ่งได้ดูรายการจริงๆ จังๆ ครับ สนุกดี
พอดีไม่เคยดูของเกาหลีนะครับ แต่ก็เคยเห็นมาบ้าง
ของเราน่าจะเฉลยตัวแล้วร้องอีกเพลงแบบเกาหลีบ้างนะครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ว่าแต่ใครเคยดูมาทั้ง 2 เวอร์ชั่น กติกาต่างๆ นี่ เหมือนกันไหม บ้านเขาตลกเหมือนของเราไหมครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
กติกาไม่เหมือนค่ะ คือ ของเค้า แข่งรอบละ 8 คน แบ่งเป็น 2 เทป โดยรอบแรกจะจับยืนคู่กัน ร้องเพลง battle กันเลย 4 คู่ คนแพ้ ร้องเพลง 1 เพลง แล้วถอดหน้ากาก
คนชนะเข้ารอบมา 4 คน จับคู่ดวลกันรอบสอง
แต่รอบนี้ ร้องเพลงของตัวเองที่เตรียมมา 1 เพลง คนแพ้ถอดหน้ากาก ได้คนชนะ มา 2 คน แข่งรอบสาม
รอบสามร้องคนละเพลง คนแพ้ถอดหน้ากาก คนชนะ ได้เป็นผู้ท้าชิง king of mask singer ที่เป็นแชมป์มาจากสัปดาห์ก่อนหน้า วนไปเรื่อยๆ

ช่วง talk ที่ได้ยินเสียงหน้ากากมีน้อยมาก
ไม่เน้นถามว่า คุณเป็นใคร แต่จะเน้นถาม เรื่องการเลือกเพลง การร้อง การหายใจ การเลือกหน้ากาก เลือกชุดแล้วก็บุคลิกภาพ คือไม่เน้นทายว่าเป็นใคร จะทายหรือไม่ทายก็ได้ แต่อาจจะมีคาดเดาว่าเป็นคนจากวงการไหน เป็นนักร้องรึเปล่า
แล้วก็พิธีกรจะรู้ว่าหน้ากากแต่ละคนเป็นใคร
บางสัปดาห์พิธีกรบอกเลยว่ารอบนี้มีรุ่นใหญ่มาแข่งด้วย แล้วก็พิธีกรสามารถตั้งคำถามหรือบอกให้หน้ากาก ทำนู่นทำนี่ โชว์ความสามารถพิเศษตามสคริปต์ที่เตรียมไว้ด้วย

โดยรวม เราว่าของไทยเรา สนุกกว่า production ดีกว่าทั้งจีนและเกาหลี หน้ากากสวยกว่า ชุดสวยกว่า ดูลึกลับน่าตื่นเต้นกว่า แล้วก็พิธีกรหล่อกว่า

แต่มีบางอย่างที่เราอยากให้รายการปรับอีกนิดหน่อย คือ เรื่องการใช้คำพูดชี้นำในรายการ
เพราะที่ออนแอร์มา 10 ep แล้วดราม่ากัน
ก็มีเรื่องกรรมการ กับเรื่องความคาดหวังของคนดูต่อใบหน้าใต้หน้ากาก ที่เปิดหน้าออกมาแล้วไม่รู้จัก ก็เลยผิดหวัง
คือถ้าไม่มีการชี้นำว่า ให้กรรมการทายว่าเป็นใคร คนดูก็จะไม่คาดหวังว่ากรรมการควรจะต้องรู้ เพราะงั้นกรรมการจะเล่นตลก จะพยายามช่วงชิงแอร์ไทม์ จะเล่นมุกไร้สาระออกทะเล คนก็คงไม่ด่ามาก เพราะก็ไม่ได้คาดหวังให้มาทายอยู่แล้ว
ส่วนความผิดหวังของคนดูต่อใบหน้าภายใต้หน้ากากนั้น ถ้าคนดูไม่ถูกชี้นำว่าใต้หน้ากาก เป็นคนที่มีชื่อเสียง เป็น superstar เมื่อเปิดหน้ากากออกมามันก็จะไม่ผิดหวัง เพราะไม่ได้คาดหวังว่าอยากจะเห็นซุป'ตาร์ แต่แค่อยากจะรู้ว่าใต้หน้ากากนั้นเป็นใคร เราจะรู้จักเค้ามั้ย เราเคยได้ยินเสียงเค้ามาก่อนรึเปล่า พอเปิดหน้าออกมาไม่ว่าจะเป็นใคร ก็คงไม่ดราม่าขนาดนี้

แต่บางทีในความผิดหวังของคนดูบางส่วน
อาจจะเป็นความสำเร็จของรายการที่ทำให้ความผิดหวังนั้น กลายเป็น talk of the town ภายในชั่วข้ามคืนก็ได้มั้ง
ความคิดเห็นที่ 5
คือต่างครับ ของเค้านี่เน้นแข่งเลย เลยต้องใส่หน้ากากอำพรางไม่ให้รู้ จะได้ไม่ bias

ส่วนของไทยเน้นสนุกสนาน ว่าภายใต้หน้ากากนั้นคือใคร ใช่คนเดียวกับที่คุณคิดมั้ยน้าาาาา เปิดออกมาแล้ว เฮ้ย ไม่ใช่ เป็นคนนี้หรอ ร้องแนวนี้ได้ด้วยหรอ ไม่นึกเลยนะเนี่ย (แต่ต้องพอรู้จักนะ จะได้เปรียบเทียบได้ว่า ก่อนหน้านี้เค้าเป็นไง พอใส่หน้ากากทำไมโชว์แบบนี้ได้ด้วย)

คือ ก็ไม่ค่อยชอบที่คนเอาของไทยไปเทียบเกาหลีนะครับเพราะจุดประสงค์ค่อนข้างต่างมาก แล้วคนดูเกาหลีมาก่อน พอคนไทยคนอื่นมาดูของไทยแล้ว ไม่รู้จักคนมาแข่ง ก็หาว่าคนดูไม่เข้าใจ ไม่ลดอคติ....what??....อยากให้ลองคิดดูดีๆ ว่ามันต่างกันจริงๆ


สรุป ของเกาหลีเน้นแข่งแบบจริงจัง
ของไทย เน้นสนุกสนาน โชว์ความสามารถอีกมุมของคนดัง(นักร้อง)ที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนและให้คนดูมาเดาเล่นๆ ว่าใคร พร้อมกับช่วงถามตอบแบบกวนๆ เพิ่มสีสัน

บอกเลยว่าต่างมาก

ไม่แน่อนาคตอาจจะมีแข่งหน้ากากแบบจริงจังก็ได้ แต่ wp เป็นช่องใหม่ ทำอะไรให้ถูกจริตคนไทยก่อน เรียกฐานคนดูก่อน ซึ่งผมคิดว่าแบบที่ทำอยู่นี่เหมาะกับของไทยดี เพราะรายการแข่งจริงบ้านเราก็มีเยอะมากแล้ว หลายช่องด้วย
ความคิดเห็นที่ 20
เราว่าเรื่องประเด็นดราม่า ใครวะ นี้มันจะไม่ดราม่าขนาดนี้ถ้ารายการไม่ชี้นำคำว่า "ซุปเปอร์สตาร์" บ่อยมากๆขนาดนี้

อันนี้พิธีกรพูดบ่อยมากว่า ซุปตาร์ใต้หน้ากาก ต้องเป็นระดับซุปตาร์เท่านั้นที่จะมายืนบนเวทีนี้ ซุปตาร์ที่คนทั้งประเทศรู้จัก บลาๆ
ในขณะที่เกาลีไม่พูดเเบบนี้ ถ้าคุณจะเอาใครที่ไม่ดังเเต่มาโชว์ของ ก็พูดเเค่ว่า"คนดัง"ก็พอมั้ง

อันนี้ไม่ใช่ความผิดนักร้องเลย เเต่จะมาโทษคนดูที่ผิดวังก็ไม่ได้ เพราะเค้าไม่เคยดูของเกาหลีมานิ  
เค้าไม่รู้คอนเซ็ปดันดาราอะไรนั้น เค้ารู้เเค่คุณบอกว่าใต้หน้ากากเป็นซุปเปอร์สตาร์
เป็นความผิดรายการนั้นเเหละ ปั่นซะใหญ่เบอร์เเรงมาก (ตามสไตล์WP)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่