เพราะอะไร คน GEN Y ถึงไม่นิยมมีลูกคะ ????????????????

กระทู้คำถาม
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 96
คนGen Y ส่วนมากมักอยู่ในวิถีการเป็นครอบครัวเดี่ยว และมักจะคิดถึงความสะดวกของตัวเองเป็นที่1ดังนั้นแม้ว่าการทีลูกจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเค้า แต่เค้าต้องการความเป็นอิสระ เพราะคนสมัยนี้เลิกกันง่าย รักกันง่าย และพร้อมที่จะแยกทางกันได้ทุกเมื่อ ตระหนักถึงคุณค่าทางจริยธรรมน้อยลง สมัยนี้เห็นแต่คุยกันเรื่องคนนั้นนอกใจคนนี้ คนนี้กิ๊กกับคนนี้จนดูเหมือนเรื่องปกติ ทั้งที่ไม่ใช่ ดังนั้นจึงให้ความสัมพันธ์ในลักษณะฉาบฉวย อยู่กันได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็แยกทางสิ และอีกอย่างปัจจัยทางการเงินก็เป็นส่วนสำคัญของการไม่อยากมีลูก เมื่อครอบครัวไหนไม่มีลูกด้วยกันสังเกตสิว่า มักมีการหย่าร้างตามมาเสมอ มีน้อยคู่ที่จะอยู่แบบไม่มีลูก ปัจจัยอีกข้อหนึ่งคือค่านิยมทางสังคมด้านมองว่าการดูแลชีวิตคนหนึ่งคนนั้นเป็นการสร้างภาระมากกว่าความมั่นคงในครอบครัว บางคู่บอกว่าไม่ท้องก็ไม่แต่ง นิยมอยู่ก่อนแต่งแบบสังคมตะวันตกมากขึ้น และให้ความสำคัญทางวัตถุมากขึ้น โอ้อวด วัตถุภายนอก คิดว่ามันบันดาลความสุขให้มากกว่าอย่างอื่น บางคนทุ่มเทมากกับการทำศัลยกรรม บางคนทุ่มเทมากกับโทรศัพท์ รถ หรือสิ่งอำนวยความสะดวก มากกว่าที่จะอยากมีภาระในการเลี้ยงลูก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
ไม่อยากให้เขาเกิดมาลำบากเหมือนเรา
โลกใบนี้มันมีอะไรดีนักหนา ถามเด็กรึยัง ว่าเด็กอยากเกิดมาไหม
ความคิดเห็นที่ 22
บ่วง น่ะนะ....

มีแล้ว หนักคอ....

คนคิดได้มีเยอะ....

คนน้อยลง ดีแล้ว จะได้โล่งๆ...
ความคิดเห็นที่ 67
งานวิจัย สกว. ไขปริศนา ทำไมคนเจนวายไม่อยากมีลูก
http://knowledgefarm.in.th/gen-y-no-child/

งานวิจัยฉบับเต็ม
http://knowledgefarm.in.th/birth-promotion/


รายงาน: งานวิจัย สกว. ไขปริศนา ทำไมคนเจนวายไม่อยากมีลูก
26 October 2559รายงาน
ประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ (aged society) หรือสังคมที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ภายในปี 2574 หลายฝ่ายกังวลว่าประเทศไทยในอนาคตจะประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน เพราะในขณะที่จำนวนและสัดส่วนของผู้สูงวัยเพิ่มสูงขึ้น แต่จำนวนและสัดส่วนของคนวัยทำงานและเด็กเกิดใหม่กลับลดต่ำลง

ข้อมูลชี้ว่า คนเจนวาย (Generation Y) หรือประชากรที่เกิดในช่วงปี 2523-2546 ไม่ค่อยอยากมีลูกมากและเร็วนัก โดยผู้หญิงเจนวายหนึ่งคนให้กำเนิดลูกเพียง 1.6 คนในปี 2553 ลดลงจาก 2 คน ในปี 2540

คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไมคนเจนวายถึงมีลูกช้าและน้อย?

งานวิจัยเรื่อง การส่งเสริมการมีบุตรผ่านการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการสร้างครอบครัวที่มีคุณภาพ (2559) โดย ผศ.ดร.มนสิการ กาญจนะจิตรา และคณะ ภายใต้โครงการวิจัยเรื่อง ความอยู่ดีมีสุขของครอบครัวไทย ของ ผศ.ดร.ภูเบศร์ สมุทรจักร และคณะ แห่งสถาบันวิจัยสังคมและประชากร มหาวิทยาลัยมหิดล สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยหลายประการที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจมีลูกของคนเจนวาย โดยชี้ว่าสาเหตุหลักที่คนเจนวายตัดสินใจมีลูกช้าและน้อยลงเพราะขาดสมดุลในการใช้ชีวิต (Balance of Life) ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อสมดุลในการใช้ชีวิตเพื่อสร้างครอบครัวและพร้อมสำหรับการมีลูก มีดังนี้

1. ปัจจัยมหภาค งานศึกษาพบว่าบทบาทชายหญิงเป็นปัจจัยมหภาคสำคัญ โดยผู้หญิงถูกกำหนดบทบาทให้มีหน้าที่ในการเลี้ยงดูลูก และทำงานบ้านมากกว่าผู้ชาย ส่วนผู้ชายได้ถูกกำหนดบทบาทให้เลี้ยงครอบครัว ซึ่งส่งผลให้ผู้ชายคาดหวังต่อบทบาทของตนโดยเน้นทำกินเพื่อเลี้ยงครอบครัว ส่วนผู้หญิงก็คาดหวังว่าตนจะมีเวลามากพอที่เลี้ยงดูลูกและทำงานบ้านได้

ดังนั้น หากไม่สามารถจัดสรรเวลาว่างนอกเหนืออาชีพการงานของทั้งหญิงชายให้มากพอและใกล้เคียงกัน การคิดแต่งงานหรืออยากมีลูกก็จะลดลง ถึงแม้คนรุ่นใหม่จะคาดหวังให้ผู้ชายมีบทบาททำงานบ้านและเลี้ยงดูลูกมากขึ้น แต่ในทางปฏิบัติยังไม่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งก็เพราะนโยบายยังไม่ตอบโจทย์ ปัจจุบันประเทศไทยพ่อมีสิทธิลาไปดูลูกหลังคลอดได้นานที่สุด 15 วัน โดยได้รับเงินเดือน งานศึกษาชี้ว่ายังน้อยเกินไป ไม่เพียงพอที่จะให้พ่อแบ่งเบาภาระแม่ในการเลี้ยงดูลูกได้

2. ปัจจัยด้านสังคม งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าค่านิยมของคนเจนวายแตกต่างจากคนรุ่นก่อน คนเจนวายมีค่านิยมที่อยากมีลูกเพื่อพึ่งพาในยามชราน้อยลง โดยหวังว่าจะพึ่งพาตัวเองมากกว่า พวกเขาหวังให้ลูกมีชีวิตอย่างอิสระ ดังนั้นการแต่งงานและการมีลูกจึงไม่ใช่เป้าหมายสำคัญของชีวิต สำหรับผู้หญิง การมีลูกกระทบต่อการใช้เวลาเพื่อเป้าหมายอื่น ๆ ในชีวิตมากกว่าผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากนี้ หากคิดจะมีลูก ด้วยแรงกดดันจากสังคมที่เน้นการแข่งขัน พวกเขาจะต้องเลี้ยงลูกให้มีความเป็นเลิศ ฉะนั้น พวกเขาจึงเลือกที่จะมีลูกน้อยโดยเน้นการเลี้ยงอย่างมีคุณภาพ

รูปแบบความสัมพันธ์ของครอบครัวคนเจนวายก็มีผลเช่นกัน หากไม่มั่นใจว่าพ่อแม่พร้อม หรือไม่ไว้ใจให้ช่วยดูแลลูก พวกเขาก็จะไม่ยอมมีลูกเร็วขึ้น

สุดท้ายคือ อิทธิพลของเพื่อนหรือญาติสนิท เช่น หากเพื่อนส่วนมากยังไม่แต่งงาน หรือมีประสบการณ์ที่แต่งงานมีลูกและมีภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้น คนเจนวายก็จะมีแนวโน้มแต่งงานหรืออยากมีลูกน้อยลง

3. ปัจจัยด้านที่ทำงาน สำหรับคนเจนวายที่กำลังอยู่ในช่วงวัยทำงาน ปัจจัยด้านนี้มีอิทธิพลสูงสุดในการตัดสินใจสร้างครอบครัวและมีลูก งานของคนเจนวายรุ่นใหม่เรียกร้องให้ต้องทุ่มเทเวลาเพื่อประสบความสำเร็จ จึงให้ความสำคัญกับงานมากกว่าเรื่องอื่น นอกจากนี้ งานวิจัยเผยว่าหากบริษัทมีทรัพยากรไม่เพียงพอและผู้บริหารไม่มีนโยบายที่เอื้อต่อสวัสดิการของพนักงาน เช่น ความยืดหยุ่นในการลาคลอดและเลี้ยงลูก จะทำให้พนักงานไม่เกิดสมดุลในการใช้ชีวิต และจะตัดสินใจมีลูกช้าลง

4. ปัจจัยด้านบุคคล เช่น วิถีชีวิต ค่านิยม ระดับฐานะทางเศรษฐกิจ การศึกษา ผลการศึกษาเผยว่าคนเจนวายในกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจนหรือรวย มองว่าการการเลี้ยงลูกมีราคาแพง โดยคนที่มีฐานะเศรษฐกิจปานกลางขึ้นไปจะให้ความสำคัญกับค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของลูกเป็นหลัก ส่วนคนที่มีฐานะเศรษฐกิจต่ำ จะกังวลเรื่องที่อยู่อาศัย การมีรถเพื่ออำนวยความสะดวกลูก และการซื้อของเล่นให้ลูกในโอกาสต่างๆ การมีลูกจึงทำให้สูญเสียโอกาสในการทำงานและการใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการไป เช่น การไปเที่ยว การตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ การเรียนต่อ และการใช้เวลาส่วนตัว จึงคิดที่จะชะลอการมีลูกออกไปจนกว่าชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวลงตัวมากกว่านี้
ความคิดเห็นที่ 19
เพราะหมดความหวัง สิ้นศรัทธากับอนาคต
ความคิดเห็นที่ 27
ไม่อยากใหลูกเกิดมาบนชนชั้นรากหญ้า พบกับความเหลื่อมล้ำในสังคม และปัญหาสังคมเสื่อมๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่