1. ได้เข้าไปดูในเวปไซท์ของ สภ เรณุนคร จ นครพนม เจ้าของคดีครูจอมทรัพย์ ได้พบข้อความที่เกี่ยวกับร่องรอยการชนกัน
ของรถปิคอัพของครูและรถจักรยานของผู้ตาย ดังนี้
".. พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนก็ได้ตรวจที่เกิดเหตุและสอบพยาน 3 ปาก ที่เห็นเหตุการณ์รถยนต์ชนรถจักรยาน
2 ล้อ เห็นป้ายทะเบียน แต่ไม่เห็นจังหวัดโดยได้สอบปากคำเจ้าของรถยนต์ที่สันนิษฐานว่าจะเป็นคันที่ก่อเหตุและขอ
ตรวจสอบรถ ซึ่งก็ให้ความร่วมมือพบว่า
ที่ป้ายทะเบียนหน้ากับกันชนสีถลอกที่ติดรถจักรยาน 2 ล้อ กับบังโคลนหน้า
ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาแจ้งว่าไม่ทราบว่ารอยเกิดได้อย่างไร เพราะรถดังกล่าวได้ไปยืมญาติมาใช้ไปทำธุระ เพราะตนเองได้
ขายให้ญาติไปแล้ว แต่ไม่มีรถใช้ จึงยืมไปทำธุระพร้อมทั้งให้
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนครพนมมาตรวจสอบ ระหว่าง
จักรยาน 2 ล้อ กับรถยนต์ พบว่า เข้ากันได้ในช่วงสูงต่ำ พร้อมขอป้ายทะเบียนรถยนต์ และจักรยาน 2 ล้อ ส่งพิสูจน์
หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผลออกมาว่าเป็นสีเดียวกันเข้ากันได้ จึงได้ออกหมายเรียกไปยังผู้ถูกกล่าวหามา
พบพนักงานสอบสวนพร้อมทนาย
https://www.facebook.com/renupolice/
2. ได้เข้าไปดูคำพิพากษาศาลทั้ง 3 ศาล
2.1 ศาลชั้นตน
"ต่อมาพนักงานสอบสวนตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าวจนกระทั่งทราบเจ้าของรถและนำรถมา
ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ร.ต.อ.ทศพล ธรรมวงศ์ ผู้ตรวจพิสูจน์ก็ตรวจพบว่า
บริเวณฝากระโปรงด้านหน้าข้างซ้ายรถ มีรอย
ครูดใหม่และบริเวณใกล้กับโคมไฟหน้ามีลักษณะกระทบกับวัตถุที่มีน้ำหนักและอ่อนนุ่มเช่นส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายคน
จนปรากฏรอยเส้นประทับอยู่ และตรวจพบสีเขียวที่บริเวณตะเกียบกับบังโคลนด้านหน้ารถจักรยานของผู้ตาย โดยความเห็น
ของ ร.ต.อ. ทศพล ก็สอดคล้องกับความเห็นของผู้ตรวจสอบความเสียหายของรถยนต์"
2.2 ศาลอุทธรณ์
"ส่วนรถยนต์กระบะที่จำเลยขายให้นายประพัฒน์ และยืมไปในวันเกิดเหตุมีรอยครูดบริเวณด้านหน้าซ้ายนั้น เห็นว่า
หากรถยนต์กระบะแล่นแซงรถจักรยานยนต์ที่นางทัศนีย์ ขับขี่ล้ำเข้าไปชนกับรถจักรยานที่ผู้ตายขับขี่สวนทางมา รถยนต์กระบะต้อง
แซงออกไปทางด้านขวาของรถจักยานยนต์ที่นางทัศนีย์ขับขี่และน่าจะเฉี่ยวชนกับรถจักรยานทางด้านขวาของรถยนต์กระบะ ดังนั้น
รอยครูดที่ปรากฏทางด้านซ้ายของรถยนต์กระบะ จึงไม่น่าเชื่อว่า จะเกิดจากการเฉี่ยวชนกับรถจักรยานที่ผู้ตายขับขี่
และที่มี
สีเขียวของแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ติดอยู่ที่ตะเกียบหน้าซ้ายและบังโคลนหน้าของรถจักรยานนั้น แสดงว่า รถ
จักรยานถูกรถยนต์ชนบริเวณแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งน่าจะทำให้แผ่นป้ายทะเบียนมีร่องรอยการถูกชน แต่กลับได้ความ จาก
ร.ต.อ.ทศพล ว่าแผ่นป้ายทะเบียนของรถยนต์กระบะดังกล่าวไม่มีรอยบุบ "
2.3 ศาลฏีกา
" "จนกระทั่งทราบชื่อเจ้าของรถและนำรถมาให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ โดยมี ร.ต.อ.ทศพล ธรรมวงศ์ เป็นผู้ตรวจพิสูจน์
ซึ่งก็ได้ตรวจพบว่าบริเวณ
ฝากระโปรงด้านหน้าข้างซ้ายของรถมีรอยครูดซึ่งมีลักษณะของการครูด2 ครั้ง มีรอยครูดใหม่ทับ
รอยครูดเก่า และบริเวณใกล้กับโคมไฟหน้ามีลักษณะกระทบกับวัตถุที่มีน้ำหนักและอ่อนนุ่มเช่นส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายมนุษย์
จนปรากฏรอยเส้นประทับอยู่ และตรวจพบสีเขียวที่บริเวณตะเกียบกับบังโคลนด้านหน้ารถจักรยานของผู้ตายตามรายงานการ
ตรวจพิสูจน์ ซึ่งความเห็นของ ร.ต.อ.ทศพล ก็สอดคล้องกับความเห็นของนายสุรพงษ์ ละมูลน้อย ผู้ตรวจสอบความเสียหายของ
รถยนต์กระบะที่มาเบิกความเป็นพยานโจทก์ว่า พยานได้ทำการตรวจสภาพรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บค 56 สกลนครแล้ว
พบว่า
บนฝากระโปรงด้านซ้ายมีรอยครูดเก่าและรอยครูดใหม่จากด้านโคมไฟส่องหน้าเฉียงยาวไปถึงกระจกมองข้างด้านซ้าย
และคำเบิกความของนายประพัฒน์ ที่ว่า เมื่อรับรถยนต์กระบะจากจำเลยพบรอยครูดใหม่ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน ความเห็นของ
ร.ต.อ.ทศพล ตามรายงานการตรวจพิสูจน์ มีน้ำหนักน่าเชื่อถือนอกนั้นยังปรากฏข้อเท็จจริงต่อไปว่า
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้
ส่งชิ้นส่วนรถจักรยานของผู้ตายที่มีสีเขียวติดอยู่กับแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์กระบะคันเกิดเหตุไปตรวจพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ซึ่ง ร.ต.อ หญิงประทุม พรมมี ผู้ตรวจพิสูจน์ก็ได้ลงความเห็นว่า สีเขียวที่ปรากฏในชิ้นส่วนรถจักรยานของผู้ตายเป็นสีเขียวชนิดเดียว
กับสีเขียวของแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์กระบะเมื่อพิเคราะห์คำเบิกความของนางทัศนีย์ ประจักษ์พยานโจทก์ประกอบความเห็น
ของผู้ตรวจพิสูจน์ทั้งสองปากแล้ว ทำให้มีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้ว่า มีผู้ขับรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บค 56 สกลนครด้วย
ความประมาทเลินเล่อเฉี่ยวชนกับรถจักรยานของผู้ตาย
http://www.nationtv.tv/main/content/social/378531183/
3. ข้อสรุปคือ
ไม่มีคำพิพากษาศาลใดเลยที่กล่าวว่า " ที่ป้ายทะเบียนหน้ากับกันชนสีถลอก " อย่างที่พบในเฟสบุคของ
สภ เรณุนคร ข้อความควรกล่าวถึงรอยครูดต่างๆบนฝากระโปรง
สภ.เรณุนคร ถ้าจะตรวจสอบข้อความอีกครั้งก็จะดีนะ
ร่องรอยรถชนกัน(คดีครูจอมทรัพย์)
ของรถปิคอัพของครูและรถจักรยานของผู้ตาย ดังนี้
".. พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนก็ได้ตรวจที่เกิดเหตุและสอบพยาน 3 ปาก ที่เห็นเหตุการณ์รถยนต์ชนรถจักรยาน
2 ล้อ เห็นป้ายทะเบียน แต่ไม่เห็นจังหวัดโดยได้สอบปากคำเจ้าของรถยนต์ที่สันนิษฐานว่าจะเป็นคันที่ก่อเหตุและขอ
ตรวจสอบรถ ซึ่งก็ให้ความร่วมมือพบว่าที่ป้ายทะเบียนหน้ากับกันชนสีถลอกที่ติดรถจักรยาน 2 ล้อ กับบังโคลนหน้า
ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาแจ้งว่าไม่ทราบว่ารอยเกิดได้อย่างไร เพราะรถดังกล่าวได้ไปยืมญาติมาใช้ไปทำธุระ เพราะตนเองได้
ขายให้ญาติไปแล้ว แต่ไม่มีรถใช้ จึงยืมไปทำธุระพร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนครพนมมาตรวจสอบ ระหว่าง
จักรยาน 2 ล้อ กับรถยนต์ พบว่า เข้ากันได้ในช่วงสูงต่ำ พร้อมขอป้ายทะเบียนรถยนต์ และจักรยาน 2 ล้อ ส่งพิสูจน์
หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผลออกมาว่าเป็นสีเดียวกันเข้ากันได้ จึงได้ออกหมายเรียกไปยังผู้ถูกกล่าวหามา
พบพนักงานสอบสวนพร้อมทนาย
https://www.facebook.com/renupolice/
2. ได้เข้าไปดูคำพิพากษาศาลทั้ง 3 ศาล
2.1 ศาลชั้นตน
"ต่อมาพนักงานสอบสวนตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าวจนกระทั่งทราบเจ้าของรถและนำรถมา
ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ร.ต.อ.ทศพล ธรรมวงศ์ ผู้ตรวจพิสูจน์ก็ตรวจพบว่าบริเวณฝากระโปรงด้านหน้าข้างซ้ายรถ มีรอย
ครูดใหม่และบริเวณใกล้กับโคมไฟหน้ามีลักษณะกระทบกับวัตถุที่มีน้ำหนักและอ่อนนุ่มเช่นส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายคน
จนปรากฏรอยเส้นประทับอยู่ และตรวจพบสีเขียวที่บริเวณตะเกียบกับบังโคลนด้านหน้ารถจักรยานของผู้ตาย โดยความเห็น
ของ ร.ต.อ. ทศพล ก็สอดคล้องกับความเห็นของผู้ตรวจสอบความเสียหายของรถยนต์"
2.2 ศาลอุทธรณ์
"ส่วนรถยนต์กระบะที่จำเลยขายให้นายประพัฒน์ และยืมไปในวันเกิดเหตุมีรอยครูดบริเวณด้านหน้าซ้ายนั้น เห็นว่า
หากรถยนต์กระบะแล่นแซงรถจักรยานยนต์ที่นางทัศนีย์ ขับขี่ล้ำเข้าไปชนกับรถจักรยานที่ผู้ตายขับขี่สวนทางมา รถยนต์กระบะต้อง
แซงออกไปทางด้านขวาของรถจักยานยนต์ที่นางทัศนีย์ขับขี่และน่าจะเฉี่ยวชนกับรถจักรยานทางด้านขวาของรถยนต์กระบะ ดังนั้น
รอยครูดที่ปรากฏทางด้านซ้ายของรถยนต์กระบะ จึงไม่น่าเชื่อว่า จะเกิดจากการเฉี่ยวชนกับรถจักรยานที่ผู้ตายขับขี่
และที่มีสีเขียวของแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ติดอยู่ที่ตะเกียบหน้าซ้ายและบังโคลนหน้าของรถจักรยานนั้น แสดงว่า รถ
จักรยานถูกรถยนต์ชนบริเวณแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งน่าจะทำให้แผ่นป้ายทะเบียนมีร่องรอยการถูกชน แต่กลับได้ความ จาก
ร.ต.อ.ทศพล ว่าแผ่นป้ายทะเบียนของรถยนต์กระบะดังกล่าวไม่มีรอยบุบ "
2.3 ศาลฏีกา
" "จนกระทั่งทราบชื่อเจ้าของรถและนำรถมาให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ โดยมี ร.ต.อ.ทศพล ธรรมวงศ์ เป็นผู้ตรวจพิสูจน์
ซึ่งก็ได้ตรวจพบว่าบริเวณฝากระโปรงด้านหน้าข้างซ้ายของรถมีรอยครูดซึ่งมีลักษณะของการครูด2 ครั้ง มีรอยครูดใหม่ทับ
รอยครูดเก่า และบริเวณใกล้กับโคมไฟหน้ามีลักษณะกระทบกับวัตถุที่มีน้ำหนักและอ่อนนุ่มเช่นส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายมนุษย์
จนปรากฏรอยเส้นประทับอยู่ และตรวจพบสีเขียวที่บริเวณตะเกียบกับบังโคลนด้านหน้ารถจักรยานของผู้ตายตามรายงานการ
ตรวจพิสูจน์ ซึ่งความเห็นของ ร.ต.อ.ทศพล ก็สอดคล้องกับความเห็นของนายสุรพงษ์ ละมูลน้อย ผู้ตรวจสอบความเสียหายของ
รถยนต์กระบะที่มาเบิกความเป็นพยานโจทก์ว่า พยานได้ทำการตรวจสภาพรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บค 56 สกลนครแล้ว
พบว่าบนฝากระโปรงด้านซ้ายมีรอยครูดเก่าและรอยครูดใหม่จากด้านโคมไฟส่องหน้าเฉียงยาวไปถึงกระจกมองข้างด้านซ้าย
และคำเบิกความของนายประพัฒน์ ที่ว่า เมื่อรับรถยนต์กระบะจากจำเลยพบรอยครูดใหม่ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน ความเห็นของ
ร.ต.อ.ทศพล ตามรายงานการตรวจพิสูจน์ มีน้ำหนักน่าเชื่อถือนอกนั้นยังปรากฏข้อเท็จจริงต่อไปว่า ต่อมาพนักงานสอบสวนได้
ส่งชิ้นส่วนรถจักรยานของผู้ตายที่มีสีเขียวติดอยู่กับแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์กระบะคันเกิดเหตุไปตรวจพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ซึ่ง ร.ต.อ หญิงประทุม พรมมี ผู้ตรวจพิสูจน์ก็ได้ลงความเห็นว่า สีเขียวที่ปรากฏในชิ้นส่วนรถจักรยานของผู้ตายเป็นสีเขียวชนิดเดียว
กับสีเขียวของแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์กระบะเมื่อพิเคราะห์คำเบิกความของนางทัศนีย์ ประจักษ์พยานโจทก์ประกอบความเห็น
ของผู้ตรวจพิสูจน์ทั้งสองปากแล้ว ทำให้มีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้ว่า มีผู้ขับรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บค 56 สกลนครด้วย
ความประมาทเลินเล่อเฉี่ยวชนกับรถจักรยานของผู้ตาย
http://www.nationtv.tv/main/content/social/378531183/
3. ข้อสรุปคือ ไม่มีคำพิพากษาศาลใดเลยที่กล่าวว่า " ที่ป้ายทะเบียนหน้ากับกันชนสีถลอก " อย่างที่พบในเฟสบุคของ
สภ เรณุนคร ข้อความควรกล่าวถึงรอยครูดต่างๆบนฝากระโปรง
สภ.เรณุนคร ถ้าจะตรวจสอบข้อความอีกครั้งก็จะดีนะ