ทำไมคนยุคนี้คบกันที่หน้าตา ไม่สนใจเบเนฟิตที่จะได้รับในระยะยาวบ้าง ??

คนในยุคนี้โดยส่วนมาก จะเห็นได้ว่าแบบคบๆเลิกๆกันค่อนข้างบ่อย เพราะอะไรหรอ ก็คนมันสามารถเข้าถึงกันได้ง่ายขึ้นมากกว่ายุคก่อนๆ มีเทคโนโลยีที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารที่สะดวกรวดเร็ว ทำให้คนเรามันมีโอกาสที่จะได้พบเจอคนแปลกใหม่เยอะขึ้น ซึ่งในช่วงแรก เขาก็อาจจะคิดว่าคนที่เข้ามาใหม่นั้นอะมันน่าตื่นเต้น มันน่าค้นหา เห็นว่าเป็นสิ่งใหม่ก็เลยคิดว่ามันต้องดีกว่าที่มีอยู่ไรงี้ มันเลยทำให้คนเลิกกันง่ายขึ้นมั้ง ละก็เอาเหตุผลโง่ๆขึ้นมาอ้างเพื่อจะทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นที่จะกระทำในสิ่งที่ผิด โดยที่ไม่สนใจระยะเวลาหรือความสัมพันธ์ที่มีอยู่ก่อนเลย ว่าในตลอดระยะเวลาที่คบกันมา ผ่านอะไรด้วยกันมาบ้าง ดีบ้าง ทะเลาะบ้าง บางคนอาจจะบอกว่าก็มันไม่ใช่อะถึงเลิก คนเรามันไม่มีอะไรที่คลิกกัน 100%หรอก ทำไมไม่รู้จักปรับตัวเพื่อคนที่คุณรักดูบ้างละ ปรับกันคนละนิดละหน่อย เพื่อให้เราเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น ไม่ใช่ให้คนใดคนหนึ่งเป็นคนปรับตัวเข้าหาอยู่ฝ่ายด้วย มันเห็นแก่ตัววะ ละก็ใช่เป็นเหตุผลแก้ตัวโง่ๆเพื่อให้ตัวเองดูดีงั้นหรอ ละทิ้งความสัมพันธ์นั้นไปโดยที่ไม่เห็นคุณค่าของระยะเวลาที่ผ่านอะไรต่ออะไรมาด้วยกัน เพียงเพราะความต้องการอันสูงสุดของคุณเพียงคนเดียว มันไม่ได้เรียกว่าความรักหรอกนะ มันคือความหลงระเริงในสิ่งที่เข้ามาใหม่และความเห็นแก่ตัวของคุณ โดยที่ไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับคนที่คุณเคยเรียกเขาว่า ที่รัก

ในตอนนี้คุณอาจจะยังคิดไม่ได้หรอก เพราะคุณยังหลงอยู่กับสิ่งใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในชีวิต แต่เมื่อไหร่ที่คุณคิดได้ ตระหนักรู้ถึงการกระทำของคุณ เราเชื่อนะว่าคุณต้องเสียใจมากอย่างแน่นอน มากกว่าเขาคนนั้น คนที่คุณละทิ้งและเดินจากไปอย่างไร้ซึ่งเยื่อใยที่เคยมีค่อกัน

หากคุณยังทำตัวในลักษณะนี้อยู่เรื่อยๆ แล้วเมื่อไหร่ละ เมื่อไหร่ที่คุณจะได้เจอกันรักแท้เสียที มันคงจะสายเกินไปแล้ว กว่าที่คุณจะเจอคนที่รักคุณ ที่สามารถจะดูแลคุณได้ในเวลาที่คุณอ่อนแอ ในเวลาที่คุณไม่สามารถที่จะช่วยตัวเองได้ ในเวลาที่คุณชราภาพ คุณจะมีเวลาอีกสักแค่ไหนกันเชียวที่จะพอ ถ้าเวลานั้นมาถึงคุณจะมีเวลาหาคนใหม่ๆสิ่งใหม่ๆเพื่อตัวของคุณเองได้ทันหรอ ในเมื่อเวลานั้นความหลงใหลไม่ได้มีผลอีกต่อไป มันแค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ ละคุณจะต้องนึกถึงความสัมพันธ์ของคนคนนั้นคนที่ยอมสละทุกสิ่งอย่างในชีวิตของเขาเพื่อคุณได้