กว่าจะแก่ ๒๒ ม.ค.๖๐

กระทู้สนทนา
เร่ื่องเก่าเล่าใหม่

กว่าจะแก่

บรรดาข้าราชการนั้น เมื่อรับราชการนานมาจนเริ่มจะล้า เขาก็จะจับมาเข้าเรียนในหลักสูตรต่าง ๆ ให้เกิดความความกระปรี้กระเปร่า และทบทวนเพิ่มเติมความรู้ให้ทันสมัย กว่าที่ได้ร่ำเรียนมาตั้งแต่หนุ่ม ๆ ด้วย

และส่วนมากในชั่วโมงบ่าย พี่ท่านก็นั่งตาปรือหรือคำนับอาจารย์ไปตาม ๆ กัน อาจารย์จึงต้องเล่านิทานหรือเรื่องตลกโปกฮามาสลับเป็นประจำ ในบ่ายวันหนึ่งอาจารย์ก็บอกว่า

“ ผู้ชายเราที่จะแต่งงานนั้นน่ะ ถ้าจะให้มีอายุเหมาะสมกันก็ควรจะเลือกผู้หญิงที่อ่อนวัยกว่าสักหน่อย อาจารย์จะบอกสูตรให้ “

ความจริงนักเรียนทั้งชั้นนั้น ก็แต่งงานแล้วทุกคน แต่ก็หูผึ่งหายงัวเงียไปตาม ๆ กัน

อาจารย์จึงว่า

“ ให้เอาอายุของเราหารด้วยสอง แล้วบวกด้วยเจ็ด “

อาจารย์หันไปเขียนสูตรบนกระดานสีเขียว

“ยกตัวอย่างเช่น ผู้ชายอายุสี่สิบปี หารด้วยสองเหลือยี่สิบ บวกด้วยเจ็ด ก็ยี่สิบเจ็ด พอดีไหมล่ะ ? “

นักศึกษาโค่งพากันฮือฮาไปตามตามกันด้วยความเสียดายอดีตของตน บังเอิญในชั้นนั้นมีแต่นักศึกษาชายล้วน ๆ จึงมีคนหนึ่งถามว่า

“ เพราะอะไรหรือครับอาจารย์ “

“ เพราะเขาว่าผู้หญิงแก่ง่าย แต่ตายยากไง “

“ ถ้างั้นผมขอสูตรใหม่ได้ไหมครับ “

นายหงอกถามขึ้นมาบ้าง ขณะนั้นเขาอายุ ๕๘ ปี

“ ขอเอาอายุผมหารด้วยสอง แล้วเอาเจ็ดมาลบครับ “


มีเสียง........ฮา......ดังขึ้นพร้อมกันทั้งชั้น.

“ ไม่น้อยไปหน่อยหรือ ท่านว่าเกวียนชราเทียมด้วยวัวเด็ก เดี๋ยวก็โดนลากพังหมด “

อาจารย์พยายามให้สติเกวียนแก่ และแถมว่า

“ เคยได้ยินภาษิตนี้มั้ย มีเมียเด็ก เลี้ยงควายเล็ก
ทำนาดอน “

“ เป็นไงเหรอครับ อาจารย์ “

ลูกศิษย์พากันถามเซ็งแซ่

“ เลี้ยงควายเล็ก มันก็ไม่แข็งแรงใช้งานได้ไม่เต็มที่ ทำนาดอนน้ำขึ้นไม่ถึง ข้าวก็ตายแหงแก๋ มีเมียเด็กก็ต้องคอยเอาใจกันตลอดเวลา เดี๋ยวเอานู่นเดี๋ยวเอานี่ ปวดหัวตายห่ะ “

“ ไม่เป็นไรครับ “

นายหงอกยังยืนยัน

“ กว่าเขาจะแก่ ผมก็ตายไปแล้ว จะได้ไม่เห็นตอนแก่อย่างเดี๋ยวนี้ไงครับ “
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งเรื่องสั้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่