สาวๆ หรือแม้แต่หนุ่มๆ บางคนอาจวาดฝันอยากเข้าสู่สาย ฝ. กันใช่มั้ยคะ จะบอกว่าสำหรับเราไม่เคยวาดฝัน แต่พอมาอยู่จุดนี้ก็ต้องบอกว่ามันก็ไม่ค่อยง่ายสำหรับการทำธุรกรรมต่างๆเอาซะเลยค่ะ
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ย้อนนนนนนนน กลับไปเมื่อประมาณ หลายๆๆๆๆ เดือนที่แล้วตอนที่แฟน หรือ สามีของเราตอนนี้ ขอแต่งงาน เราสองคนก็วางแผนมาอย่างดีในเรื่องของการเตรียมเอกสาร สำหรับใครที่อาจจะกำลังหาข้อมูลเพื่อจดทะเบียนสมรสอยู่ก็ตามนี้เลยค่ะ
==ฝ่ายชาย
1. ใบรับรองโสด ... ของเรามีบ้านอยู่เชียงใหม่ เลยไม่ต้องไปขอไกลถึงกรุงเทพ สถานทูตอเมริกาที่เชียงใหม่อยู่ใกล้เจดีขาว หาไม่ยาก ก่อนอื่นต้องทำการนัดทาง website ก่อนนะคะ กรอกเอกสารเตรียมไว้ แต่ยังไม่ต้องลงลายมือชื่อ เดี๋ยวค่อยลงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ค่ะ เมื่อถึงเวลาก็ไปก่อนเวลานัดเล็กน้อยแล้วเตรียมจ่ายเงิน เท่าไหร่ไม่ทราบ เตรียมไปสัก 2,000-3,000 น่าจะพอ (ไว้ถามแล้วจะมาบอกอีกทีนะคะ)
2. แปลเอกสาร ... ขั้นตอนนี้เราเลือกใช้บริการของสถานบันภาษาที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ ก็นำใบรับรองโสดที่ได้ไปแปล คิดค่าบริการ 500 บาท ใช้เวลา 3 วันทำการ
3. รับรองเอกสาร ... นู้นเลยค่าาาา เอาหนังสือรับรองโสดทั้งฉบับจริงและฉบับแปล ขับรถไปศูนย์ราชการที่แม่ริมเลยนะคะ ห้องที่ติดต่อจะอยู่ในเวิ้งๆ สนามหญ้าชั้น 1 ขั้นตอนนี้ก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพียงแต่ถ้าเราไปแทนแฟน/สามี/คู่หมั้น ต้องใช้ passport ตัวจริงและหนังสือมอบอำนาจให้ทำธุรกรรมนี้ ตอนนั้นเราก็โหลดหนังสือมอบอำนาจเอาจากเน็ตนี่แหละค่ะ และคิดยังไงไม่รู้เอาแบบด่วน ประมาณว่าส่งเช้าได้บ่าย เสียไป 800 บาท คิดว่าถ้าหากรอได้ 2-3 วันค่อยไปรับเอกสาร น่าจะอยู่ที่ 400 บาทนะคะ
4. เตรียมใจ ... อันนี้ต้องเตรียมใจค่ะ ว่าจะไม่โสดแล้ว 555
==ฝ่ายหญิง
1. บัตรประชาชน
หืม .... ค่ะ บัตรประชาชน ห๊ะ?! ค่ะ! แค่บัตรประชาชนจริงๆ ^___^ ง่ายดีโน๊ะ แต่สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ต้องไปที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านนะคะ
==ทั้งคู่ ... เตรียมพยานไปด้วยนะคะ มีสามแบบค่ะ คือ แบบที่ 1 บางอำเภอใช้ จนท.ของเค้าเป็นพยานให้ได้ บางอำเภอไม่ อันนี้ต้องสอบถามดีๆ แบบที่ 2
พยานหนึ่งคนเป็นชาวต่างชาติ แต่ได้แค่คนเดียวนะคะ อีกคนต้องเป็นคนไทย (ใช้แค่บัตรประชาชนและให้กรอกข้อมูลเล็กน้อย) แบบที่ 3 คือพยานทั้งสองคนเป็นคนไทยทั้งคู่
เอาล่ะค่ะมาเล่าต่อ หลังจากที่เราเตรียมเอกสารทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็รอฤกษ์ รอวันจดทะเบียนอะไรก็ว่าไปค่ะ ตอนนั้นจำได้ว่า วันที่เราตั้งใจจะจดทะเบียนห่างจากการได้เอกสารมา 5 เดือนกว่าแล้ว ตอนนั้นศึกษาในเน็ต (พันทิปนี่แหละค่ะ) บ้างก็บอกว่าเอกสารต่างๆอยู่ได้ 3 เดือนนะ 5 เดือนนะ ก็ว่ากันไป สรุปเลยโทรไปหาที่ว่าการอำเภอ อำเภอหนึ่งที่เราตั้งใจจะไปทำค่ะ ก็บอกว่า ไม่มีระบุหมดอายุ ใช้เท่าไหร่ก็ได้ ก็โอเคสบายใจไป จะได้ไม่ต้องเริ่มใหม่หมด
แต่! เรื่องมันไม่จบแค่นี้ค่ะ สามีเรา ดั๊นนนนนนนนนนน passport เต็ม แล้วมีความจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศเรื่อยๆ เลยได้ passport เล่มใหม่มา งานเข้าสิคะ ไปรู้เอาวันจริงที่นัดกับ อำเภอไว้ว่าจะไปจดทะเบียนสมรสนะ (เดี๋ยวเล่าให้ฟังค่ะว่าทำไมต้องนัด) ปัญหาอยู่ที่ว่าเลข passport ในใบรับรองโสดที่ขอมา มันดันไม่ตรงกับเล่ม passport ใหม่ (ก็แน่สิคะ มันคนละเล่มกันนิ) ถึงแม้เราจะเอาสองเล่มไปยืนยันตัวบุคคลก็แล้ว อะไรก็แล้ว ก็ไม่วาย เดินคอตกกลับบ้านกันเป็นหมู่คณะ (ตอนนั้นพ่อแม่และพี่ชายสามีมาประเทศไทยเพื่อจะร่วมพิธีแต่งงานของเราสองคน เลยพากันไปเป็นหมู่คณะเลย) ว่าไม่สามารถทำได้ ให้ไปขอใหม่ทั้งดุ้น เอ่อ..ทั้งเซ็ตดีกว่าค่ะ ดุ้นดูน่ากลัวยังไงไม่รู้ ฮี่ๆ
สุดท้ายเราก็เลยต้องเริ่มต้นทำทุกอย่างใหม่หมดเลย สำหรับการนัดกับที่ว่าการอำเภอล่วงหน้าเพื่อจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาตินั้น มี ความ สำ คัญ มากกกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) เพราะว่าคนที่สามารถทำให้เราได้ เค้าว่า "ต้องเป็นปลัดระดับสูง ระดับหัวหน้าเท่านั้น" ค่ะฟังไม่ผิด เลยต้องนัดเพราะบางที ไม่อยู่บ้าง ติดประชุมบ้าง ติดธุระราชการบ้าง ทำให้เสียเที่ยวเปล่าๆ นี่ขนาดเรานัดไปอย่างดิบดีนะคะ ยังโดนเลื่อน โดนยกเลิกนัดถึง 3 รอบด้วยกัน! คิดดูเถอะค่ะ ถ้าหากไม่สามารถยกเลิกวันลาได้ ดิชั้นคงเสียวันลาไปเปล่าๆ แบบน่าเสียดายมากแน่ๆ
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงสักทีค่ะ วันที่สามีเราโทรไปเช็คกับที่ว่าการอำเภอแห่งหนึ่งที่นัดไปเพื่อ confirm วันนัด (วันรุ่งขึ้น) เค้ากลับบอกว่า "ทำไม่ได้ ไม่ว่าง นัดวันอื่นนะ" อีกแล้วครับท่าน ตอนเรารู้ว่า "อีกแล้ว" เราโมโหนะ เพราะลาไม่ใช่ง่ายๆ (เราเป็นข้าราชการทดลองงานอยู่) ละมาเลื่อน เลื่อน เลื่อน 3 รอบแว้ว (2 อำเภอ) วันนี้เลยโทรหาอีกอำเภอหนึ่ง ที่ก็เคยเลื่อนนัดเราเหมือนกัน ปรากฏว่าฟ้าทรงโปรด เราสามารถไปจดทะเบียนได้ แต่! ต้องภายใน 1 ชม. นี้เท่านั้น เพราะปลัดจะไปประชุมแล้ว O M G! นี่กะจะใช้ตื่นเต้นจดหยดสุดท้ายจริงๆ
สรุปพอบทมันจะง่าย ก็ง่ายไม่มีอุปสรรค พอจะมี มันก็มีอย่างต่อเนื่อง เราเสียค่าธรรมเนียมจดทะเบียน+คัดเอกสาร 2 ชุดไป 100 บาท
หวังว่ากระทู้นี้ของเราจะเป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวก่อนจดทะเบียนสมรสกับชาวอเมริกันที่ประเทศไทยนะคะ ไว้กระทู้ถัดๆไป ค่อยเล่าความยากลำบากอื่นๆ ไว้เป็นวิทยาทานนะคะ บัย
** แก้ไขคำผิดเจ้า **
เล่าประสบการณ์จดทะเบียนสมรสกับชาวอเมริกัน
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ย้อนนนนนนนน กลับไปเมื่อประมาณ หลายๆๆๆๆ เดือนที่แล้วตอนที่แฟน หรือ สามีของเราตอนนี้ ขอแต่งงาน เราสองคนก็วางแผนมาอย่างดีในเรื่องของการเตรียมเอกสาร สำหรับใครที่อาจจะกำลังหาข้อมูลเพื่อจดทะเบียนสมรสอยู่ก็ตามนี้เลยค่ะ
==ฝ่ายชาย
1. ใบรับรองโสด ... ของเรามีบ้านอยู่เชียงใหม่ เลยไม่ต้องไปขอไกลถึงกรุงเทพ สถานทูตอเมริกาที่เชียงใหม่อยู่ใกล้เจดีขาว หาไม่ยาก ก่อนอื่นต้องทำการนัดทาง website ก่อนนะคะ กรอกเอกสารเตรียมไว้ แต่ยังไม่ต้องลงลายมือชื่อ เดี๋ยวค่อยลงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ค่ะ เมื่อถึงเวลาก็ไปก่อนเวลานัดเล็กน้อยแล้วเตรียมจ่ายเงิน เท่าไหร่ไม่ทราบ เตรียมไปสัก 2,000-3,000 น่าจะพอ (ไว้ถามแล้วจะมาบอกอีกทีนะคะ)
2. แปลเอกสาร ... ขั้นตอนนี้เราเลือกใช้บริการของสถานบันภาษาที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ ก็นำใบรับรองโสดที่ได้ไปแปล คิดค่าบริการ 500 บาท ใช้เวลา 3 วันทำการ
3. รับรองเอกสาร ... นู้นเลยค่าาาา เอาหนังสือรับรองโสดทั้งฉบับจริงและฉบับแปล ขับรถไปศูนย์ราชการที่แม่ริมเลยนะคะ ห้องที่ติดต่อจะอยู่ในเวิ้งๆ สนามหญ้าชั้น 1 ขั้นตอนนี้ก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพียงแต่ถ้าเราไปแทนแฟน/สามี/คู่หมั้น ต้องใช้ passport ตัวจริงและหนังสือมอบอำนาจให้ทำธุรกรรมนี้ ตอนนั้นเราก็โหลดหนังสือมอบอำนาจเอาจากเน็ตนี่แหละค่ะ และคิดยังไงไม่รู้เอาแบบด่วน ประมาณว่าส่งเช้าได้บ่าย เสียไป 800 บาท คิดว่าถ้าหากรอได้ 2-3 วันค่อยไปรับเอกสาร น่าจะอยู่ที่ 400 บาทนะคะ
4. เตรียมใจ ... อันนี้ต้องเตรียมใจค่ะ ว่าจะไม่โสดแล้ว 555
==ฝ่ายหญิง
1. บัตรประชาชน
หืม .... ค่ะ บัตรประชาชน ห๊ะ?! ค่ะ! แค่บัตรประชาชนจริงๆ ^___^ ง่ายดีโน๊ะ แต่สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ต้องไปที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านนะคะ
==ทั้งคู่ ... เตรียมพยานไปด้วยนะคะ มีสามแบบค่ะ คือ แบบที่ 1 บางอำเภอใช้ จนท.ของเค้าเป็นพยานให้ได้ บางอำเภอไม่ อันนี้ต้องสอบถามดีๆ แบบที่ 2
พยานหนึ่งคนเป็นชาวต่างชาติ แต่ได้แค่คนเดียวนะคะ อีกคนต้องเป็นคนไทย (ใช้แค่บัตรประชาชนและให้กรอกข้อมูลเล็กน้อย) แบบที่ 3 คือพยานทั้งสองคนเป็นคนไทยทั้งคู่
เอาล่ะค่ะมาเล่าต่อ หลังจากที่เราเตรียมเอกสารทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็รอฤกษ์ รอวันจดทะเบียนอะไรก็ว่าไปค่ะ ตอนนั้นจำได้ว่า วันที่เราตั้งใจจะจดทะเบียนห่างจากการได้เอกสารมา 5 เดือนกว่าแล้ว ตอนนั้นศึกษาในเน็ต (พันทิปนี่แหละค่ะ) บ้างก็บอกว่าเอกสารต่างๆอยู่ได้ 3 เดือนนะ 5 เดือนนะ ก็ว่ากันไป สรุปเลยโทรไปหาที่ว่าการอำเภอ อำเภอหนึ่งที่เราตั้งใจจะไปทำค่ะ ก็บอกว่า ไม่มีระบุหมดอายุ ใช้เท่าไหร่ก็ได้ ก็โอเคสบายใจไป จะได้ไม่ต้องเริ่มใหม่หมด
แต่! เรื่องมันไม่จบแค่นี้ค่ะ สามีเรา ดั๊นนนนนนนนนนน passport เต็ม แล้วมีความจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศเรื่อยๆ เลยได้ passport เล่มใหม่มา งานเข้าสิคะ ไปรู้เอาวันจริงที่นัดกับ อำเภอไว้ว่าจะไปจดทะเบียนสมรสนะ (เดี๋ยวเล่าให้ฟังค่ะว่าทำไมต้องนัด) ปัญหาอยู่ที่ว่าเลข passport ในใบรับรองโสดที่ขอมา มันดันไม่ตรงกับเล่ม passport ใหม่ (ก็แน่สิคะ มันคนละเล่มกันนิ) ถึงแม้เราจะเอาสองเล่มไปยืนยันตัวบุคคลก็แล้ว อะไรก็แล้ว ก็ไม่วาย เดินคอตกกลับบ้านกันเป็นหมู่คณะ (ตอนนั้นพ่อแม่และพี่ชายสามีมาประเทศไทยเพื่อจะร่วมพิธีแต่งงานของเราสองคน เลยพากันไปเป็นหมู่คณะเลย) ว่าไม่สามารถทำได้ ให้ไปขอใหม่ทั้งดุ้น เอ่อ..ทั้งเซ็ตดีกว่าค่ะ ดุ้นดูน่ากลัวยังไงไม่รู้ ฮี่ๆ
สุดท้ายเราก็เลยต้องเริ่มต้นทำทุกอย่างใหม่หมดเลย สำหรับการนัดกับที่ว่าการอำเภอล่วงหน้าเพื่อจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาตินั้น มี ความ สำ คัญ มากกกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) เพราะว่าคนที่สามารถทำให้เราได้ เค้าว่า "ต้องเป็นปลัดระดับสูง ระดับหัวหน้าเท่านั้น" ค่ะฟังไม่ผิด เลยต้องนัดเพราะบางที ไม่อยู่บ้าง ติดประชุมบ้าง ติดธุระราชการบ้าง ทำให้เสียเที่ยวเปล่าๆ นี่ขนาดเรานัดไปอย่างดิบดีนะคะ ยังโดนเลื่อน โดนยกเลิกนัดถึง 3 รอบด้วยกัน! คิดดูเถอะค่ะ ถ้าหากไม่สามารถยกเลิกวันลาได้ ดิชั้นคงเสียวันลาไปเปล่าๆ แบบน่าเสียดายมากแน่ๆ
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงสักทีค่ะ วันที่สามีเราโทรไปเช็คกับที่ว่าการอำเภอแห่งหนึ่งที่นัดไปเพื่อ confirm วันนัด (วันรุ่งขึ้น) เค้ากลับบอกว่า "ทำไม่ได้ ไม่ว่าง นัดวันอื่นนะ" อีกแล้วครับท่าน ตอนเรารู้ว่า "อีกแล้ว" เราโมโหนะ เพราะลาไม่ใช่ง่ายๆ (เราเป็นข้าราชการทดลองงานอยู่) ละมาเลื่อน เลื่อน เลื่อน 3 รอบแว้ว (2 อำเภอ) วันนี้เลยโทรหาอีกอำเภอหนึ่ง ที่ก็เคยเลื่อนนัดเราเหมือนกัน ปรากฏว่าฟ้าทรงโปรด เราสามารถไปจดทะเบียนได้ แต่! ต้องภายใน 1 ชม. นี้เท่านั้น เพราะปลัดจะไปประชุมแล้ว O M G! นี่กะจะใช้ตื่นเต้นจดหยดสุดท้ายจริงๆ
สรุปพอบทมันจะง่าย ก็ง่ายไม่มีอุปสรรค พอจะมี มันก็มีอย่างต่อเนื่อง เราเสียค่าธรรมเนียมจดทะเบียน+คัดเอกสาร 2 ชุดไป 100 บาท
หวังว่ากระทู้นี้ของเราจะเป็นประโยชน์ในการเตรียมตัวก่อนจดทะเบียนสมรสกับชาวอเมริกันที่ประเทศไทยนะคะ ไว้กระทู้ถัดๆไป ค่อยเล่าความยากลำบากอื่นๆ ไว้เป็นวิทยาทานนะคะ บัย
** แก้ไขคำผิดเจ้า **