ไฮไลท์ของบทความ
-เกมส์ครึ่งหลังแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ช่วงนาทีที่ 45-60 60-75 และ 75-90 ซึ่งแลกหมัดกันอุตลุดและพลิกเกมส์กันไปมา
-ช่วงนาทีที่ 45-60 มูรินโญ่แก้เกมส์มา แต่เกมส์ยังตรึงเครียด ไม่มีฝ่ายใดเพลี้ยงพล้ำนัก แต่ลิเวอร์พูลเริ่มเสียเปรียบในแดนกลาง
-ช่วงนาทีที่ 60-75 คล็อปป์แก้เผ็ดการแก้เกมส์ของมูรินโญ่ และ ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายกลับมาครองเกมส์บุกใส่ เพื่อจะเอาประตูที่สอง
-ช่วงนาทีที่ 75-90 มูรินโญ่แก้เผ็ดคล็อปป์คืน โดยเลิกทะเลาะด้วย และ โจมตีลิเวอร์พูลอย่างมีประสิทธิภาพแทน แม้จะไม่ใช่การเล่นที่สวยงาม
หลังจากเขียนถึงเกมส์ที่คล็อปป์เตรียมการบ้านและวางแผนมา ซึ่งเป็นไพ่ใบแรกในการออกไปเยือนโอลด์แทรฟฟอร์ด ซึ่งเราได้เห็นกันไปแล้วว่า ในช่วงครึ่งแรกแม้แมนยูจะดูเหมือนเป็นฝ่ายครองเกมส์เหนือกว่า แต่นั่นเป็นสิ่งที่คล็อปป์น่าจะจงใจอยู่พอสมควรที่จะให้เกิดสถานการณ์ในข้างต้นขึ้น นั่นก็เพื่อปิดเกมส์รุกของแมนยู และอาศัยโอกาสโต้กลับในการเข้าทำ ทั้งนี้น่าจะเพราะการขาดตัวหลักด้วยส่วนนึง และอีกหลายๆส่วนที่เหลือก็คือ การมาเจอกับแมนยูย่อมไม่ง่าย ยิ่งเป็นแมนยูในบ้านแล้วย่อมไม่ง่ายเข้าไปใหญ่ ยิ่งเป็นแมนยูที่ฟูลทีมพร้อมทั้งกำลังอยู่ในฟอร์มชนะมาต่อเนื่องย่อมไม่ง่ายเข้าไปใหญ่ และยิ่งเป็นกุนซือจอมแท็คติกอย่างมูรินโญ่คุมทีมด้วยแล้วอะไรอะไรก็คงยากขึ้นอีกเท่าตัว
คล็อปป์วางแผนในครึ่งแรกให้ลิเวอร์พูลมาเพรสสูง ประกบคาร์ริค ยัดแดนกลางให้แน่นและบีบให้แมนยูต้องออกบอลไปทางริมเส้นเพื่อเข้าไปสู่กับดักที่เขาเตรียมมาไว้ใช้กับแมนยู นั่นก็คือการเพรสซิ่งอันสุดแสนหฤโหดบริเวณริมเส้น (สามารถเข้าไปอ่านบทความเก่าได้ที่
https://www.facebook.com/notes/scouse-bastard/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1/390665591275435 ) ซึ่งถ้าเราได้ดูจากสถิติน่าจะเห็นได้ชัดเจนว่าแมนยูแทบจะไม่มีโอกาสแม้แต่ครั้งเดียวในการเจาะทางริมเส้นของลิเวอร์พูล
แต่แน่นอนว่าการพบกับมูรินโญ่นั้น มูรินโญ่ย่อมไม่ปล่อยให้จบง่ายๆแน่ๆ ซึ่งในบทความนี้เราจะลองไปพยายามหาคำตอบกันว่า มูรินโญ่หงายไพ่แต่ละใบออกมาอย่างไร เมื่อไหร่ และคล็อปป์นั้นตอบโต้กลับอย่างไร
ซึ่งต้องขออนุญาตออกตัวก่อน 100 เมตรว่า ทั้งหมดที่เขียนไปนี้เป็นสิ่งที่ผมคิดว่ากุนซือทั้งสองคนคิด ซึ่งถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
การหักเหลี่ยมเฉือนคมกันระหว่าง 2 กุนซือ : การแก้เกมส์ของมูรินโญ่ และ ไพ่ใบที่สองของคล็อปป์ (วิเคราะห์เกมส์พบแมนยู ภาค 2)
-เกมส์ครึ่งหลังแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ช่วงนาทีที่ 45-60 60-75 และ 75-90 ซึ่งแลกหมัดกันอุตลุดและพลิกเกมส์กันไปมา
-ช่วงนาทีที่ 45-60 มูรินโญ่แก้เกมส์มา แต่เกมส์ยังตรึงเครียด ไม่มีฝ่ายใดเพลี้ยงพล้ำนัก แต่ลิเวอร์พูลเริ่มเสียเปรียบในแดนกลาง
-ช่วงนาทีที่ 60-75 คล็อปป์แก้เผ็ดการแก้เกมส์ของมูรินโญ่ และ ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายกลับมาครองเกมส์บุกใส่ เพื่อจะเอาประตูที่สอง
-ช่วงนาทีที่ 75-90 มูรินโญ่แก้เผ็ดคล็อปป์คืน โดยเลิกทะเลาะด้วย และ โจมตีลิเวอร์พูลอย่างมีประสิทธิภาพแทน แม้จะไม่ใช่การเล่นที่สวยงาม
หลังจากเขียนถึงเกมส์ที่คล็อปป์เตรียมการบ้านและวางแผนมา ซึ่งเป็นไพ่ใบแรกในการออกไปเยือนโอลด์แทรฟฟอร์ด ซึ่งเราได้เห็นกันไปแล้วว่า ในช่วงครึ่งแรกแม้แมนยูจะดูเหมือนเป็นฝ่ายครองเกมส์เหนือกว่า แต่นั่นเป็นสิ่งที่คล็อปป์น่าจะจงใจอยู่พอสมควรที่จะให้เกิดสถานการณ์ในข้างต้นขึ้น นั่นก็เพื่อปิดเกมส์รุกของแมนยู และอาศัยโอกาสโต้กลับในการเข้าทำ ทั้งนี้น่าจะเพราะการขาดตัวหลักด้วยส่วนนึง และอีกหลายๆส่วนที่เหลือก็คือ การมาเจอกับแมนยูย่อมไม่ง่าย ยิ่งเป็นแมนยูในบ้านแล้วย่อมไม่ง่ายเข้าไปใหญ่ ยิ่งเป็นแมนยูที่ฟูลทีมพร้อมทั้งกำลังอยู่ในฟอร์มชนะมาต่อเนื่องย่อมไม่ง่ายเข้าไปใหญ่ และยิ่งเป็นกุนซือจอมแท็คติกอย่างมูรินโญ่คุมทีมด้วยแล้วอะไรอะไรก็คงยากขึ้นอีกเท่าตัว
คล็อปป์วางแผนในครึ่งแรกให้ลิเวอร์พูลมาเพรสสูง ประกบคาร์ริค ยัดแดนกลางให้แน่นและบีบให้แมนยูต้องออกบอลไปทางริมเส้นเพื่อเข้าไปสู่กับดักที่เขาเตรียมมาไว้ใช้กับแมนยู นั่นก็คือการเพรสซิ่งอันสุดแสนหฤโหดบริเวณริมเส้น (สามารถเข้าไปอ่านบทความเก่าได้ที่ https://www.facebook.com/notes/scouse-bastard/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1/390665591275435 ) ซึ่งถ้าเราได้ดูจากสถิติน่าจะเห็นได้ชัดเจนว่าแมนยูแทบจะไม่มีโอกาสแม้แต่ครั้งเดียวในการเจาะทางริมเส้นของลิเวอร์พูล
แต่แน่นอนว่าการพบกับมูรินโญ่นั้น มูรินโญ่ย่อมไม่ปล่อยให้จบง่ายๆแน่ๆ ซึ่งในบทความนี้เราจะลองไปพยายามหาคำตอบกันว่า มูรินโญ่หงายไพ่แต่ละใบออกมาอย่างไร เมื่อไหร่ และคล็อปป์นั้นตอบโต้กลับอย่างไร
ซึ่งต้องขออนุญาตออกตัวก่อน 100 เมตรว่า ทั้งหมดที่เขียนไปนี้เป็นสิ่งที่ผมคิดว่ากุนซือทั้งสองคนคิด ซึ่งถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ