2 เซียนหุ้นแนะสะสม TWPC เคาะราคาเป้าหมายใหม่ 11.00-11.20 บาท มองงบไตรมาส 4/59–1/60 เด่น รับช่วง High Season พร้อมดันธุรกิจเติบโตแข็งแกร่งในระยะยาว
2 โบรกฯ ประสานเสียงปรับราคาเป้าหมาย TWPC เป็น 11.00 บาท และ 11.20 บาท หลังมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2559 ถึงไตรมาส 1/2560 เข้าสู่ช่วง High Season ของทั้งธุรกิจแป้งมันสําปะหลังและอาหาร พร้อมปรับประมาณการกำไรปี 2560 – 2561 เพิ่มขึ้น หลังจากปรับสมมติฐานรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นเล็กน้อย คาดกำไรปกติในปี 2559 – 2561 จะเติบโตทำสถิติใหม่ที่ 42.0% 12.3% และ 10.6% ตามลำดับ
ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ไตรมาส 4/2559 ถึง ไตรมาส 1/2560 เนื่องจากเข้าสู่ช่วง High Season ของทั้งธุรกิจแป้งมันสําปะหลังและอาหาร อีกทั้งได้ยังรับประโยชน์จากส่วนต่างของราคาหัวมันสำปะหลัง-แป้งมันที่ยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ธุรกิจวุ้นเส้นและก๋วยเตี๋ยวยังเป็นแหล่งสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงและมีโอกาสเติบโตสูงในประเทศเวียดนาม
ขณะเดียวกันสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทยคาดปริมาณวัตถุดิบในปี 2559 – 2560 จะเพิ่มขึ้นราว 2% มาอยู่ที่ 31.2 ล้านตัน หลักๆ จาก Yield ขึ้นและสภาพอากาศที่ดีขึ้น เราจึงมองรายได้ของ TWPC จะยังสามารถเติบโตได้ราว 16% ในปี 2559 จากการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากการขยายกำลังการผลิตแป้งมันสำปะหลังอีกราว 15% บวกกับกลูโคส 35% และเริ่มขยายตลาดวุ้นเส้นในประเทศเวียดนาม อีกทั้งเราคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะมีการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากโรงไฟฟ้า Biogas ราว 3 MW ที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนราว 30 ล้านบาทต่อปี โดยจะใช้งบลงทุนราว 150 – 170 ล้านบาท เราจึงทำการปรับประมาณการปี 2560 – 2561 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6% ต่อปี หลังจากปรับสมมติฐานรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นเล็กน้อย ทำให้กำไรปกติในปี 2559 – 2561 จะเติบโตทำสถิติใหม่ที่ 42.0% 12.3% และ 10.6% ตามลำดับ
ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำซื้อ ปรับราคาเป้าหมายปี 2560 จาก 10.7 บาท เป็น 11.2 บาท (PE 15 เท่า) มี upside 27% และยังมี Yield ถึง 5% ราคาปัจจุบันคิดเป็น Cash Adjusted PE ปี 2560 เพียง 10 เท่า เรามองว่าหุ้นมีโอกาสถูก Re-Rate ขึ้นจากแผนการเติบโตของธุรกิจที่ชัดเจนหลังการควบรวมและการสื่อสารกับตลาดทุนที่มีมากขึ้น ขณะที่ฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็น Net Cash มีอัตราส่วน D/E Ratio ต่ำเพียง 0.014 เท่า เงินสดกว่า 1.5 พันล้านบาท และ Hidden Asset เป็นที่ดินมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทที่อยู่ระหว่างการขาย
ขณะที่ ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด ประเมินว่า แนวโน้มกำไรของบริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ในไตรมาส 4/2559 คาดว่าจะอยู่ที่ 152 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 91% จากปีก่อน) จากการขยายกำลังการผลิตแป้งมันสำปะหลังใหม่ (เพิ่มขึ้น 32% อยู่ที่ 435,000 ตัน/ปี) และเพิ่มการสต๊อกสินค้า หลังจากราคาแป้งลงไปต่ำสุดที่ 315 เหรียญ/ตัน ในเดือนตุลาคม จากนั้นราคาดีดปรับเพิ่มขึ้น 8% ภายในเวลาอีก 2 เดือน ซึ่งเราคาดว่ายอดขาย TWPC ในไตรมาส 4/2559 จะเติบโต 24% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรม จากการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในตลาดส่งออก ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะลดลงมาอยู่ที่ 23.5% จาก 26.3% ในไตรมาส 3/2559 และ 23.0% .ในไตรมาส 4/2558 เนื่องจากส่วนต่างของราคาหัวมันสำปะหลัง-แป้งมันลดต่ำลง (ลดลง 8% จากไตรมาสก่อน) อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดว่ายังสามารถควบคุมได้อยู่ที่ 11%
ส่วนปี 2560 – 2561 คาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 3-5% จากโรงไฟฟ้า Biogas ขนาด 3 MW ที่จังหวัดอุดรธานี โดยจะสามารถลดต้นทุนค่าไฟฟ้าลงได้ 30 ล้านบาทต่อปี โดยใช้งบลงทุนเป็นเงิน 200 ล้านบาท ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2560 และคาดว่าจะสามารถเริ่มใช้งานได้ในไตรมาส 4/2560 นอกจากนี้ TWPC ยังมีแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าสำหรับโรงงานแป้งมันสำปะหลังอีก 2 แห่งด้วย
ทั้งนี้ เราปรับราคาเป้าหมายจากเดิม 10.0 บาท เป็น 11.0 บาท (PE 14 เท่า) โดยคิดเป็นราคา 10.4 บาทจากธุรกิจหลักและอีก 0.60 บาท จากการลงทุนในที่ดิน อีกทั้งยังมองเห็นโอกาสการเติบโตจากการส่งออกแป้งมันสำปะหลังไปยังประเทศจีน และอาเซียน ซึ่งมีประชากรรวมกันกว่า 2,000 ล้านคน และโอกาสในการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในกลุ่มประเทศ CLMV และโรงไฟฟ้าอีก 2 แห่งที่จะเกิดขึ้นด้วย ปัจจุบัน TWPC มีสินทรัพย์สภาพคล่องอยู่กว่า 1.6 พันล้านบาท
ด้านนายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4/2559 ถึง ไตรมาส 1/2560 จะเป็นช่วง High Season ของ TWPC เนื่องมาจากเป็นช่วงแห่งการเก็บเกี่ยวของเกษตรกรทำให้โรงงานมีวัตถุดิบจำนวนมากสำหรับการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังซึ่งถือเป็นรายได้หลักของธุรกิจ เราจึงเชื่อมั่นว่าการเติบโตของรายได้ในปี 2559 จะเติบโตมากกว่าปีก่อน
“แป้งมันสำปะหลังถือเป็นรายได้หลักของธุรกิจ รองลงมาเป็นวุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยว โดยสัดส่วนรายได้จากการส่งออกไปต่างประเทศมีมูลค่ามากกว่ากึ่งหนึ่งของรายได้รวมของบริษัทฯ ซึ่งตลาดแป้งมันสำปะหลังในต่างประเทศยังมีปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นมากกว่าความสามารถในการผลิตของบริษัท เนื่องจากปริมาณวัตถุดิบที่มีจำกัด ดังนั้นในปัจจุบันบริษัทจึงได้มีแผนการจัดการร่วมกับเกษตรกร โดยนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มจำนวนผลผลิต และอำนวยความสะดวกเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด“ นายโฮ เรน ฮวา กล่าวในที่สุด
2 เซียนหุ้นแนะสะสม TWPC เคาะราคาเป้าหมายใหม่ 11.00-11.20 บาท มองงบไตรมาส 4/59–1/60 เด่น
2 โบรกฯ ประสานเสียงปรับราคาเป้าหมาย TWPC เป็น 11.00 บาท และ 11.20 บาท หลังมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2559 ถึงไตรมาส 1/2560 เข้าสู่ช่วง High Season ของทั้งธุรกิจแป้งมันสําปะหลังและอาหาร พร้อมปรับประมาณการกำไรปี 2560 – 2561 เพิ่มขึ้น หลังจากปรับสมมติฐานรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นเล็กน้อย คาดกำไรปกติในปี 2559 – 2561 จะเติบโตทำสถิติใหม่ที่ 42.0% 12.3% และ 10.6% ตามลำดับ
ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ไตรมาส 4/2559 ถึง ไตรมาส 1/2560 เนื่องจากเข้าสู่ช่วง High Season ของทั้งธุรกิจแป้งมันสําปะหลังและอาหาร อีกทั้งได้ยังรับประโยชน์จากส่วนต่างของราคาหัวมันสำปะหลัง-แป้งมันที่ยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ธุรกิจวุ้นเส้นและก๋วยเตี๋ยวยังเป็นแหล่งสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงและมีโอกาสเติบโตสูงในประเทศเวียดนาม
ขณะเดียวกันสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทยคาดปริมาณวัตถุดิบในปี 2559 – 2560 จะเพิ่มขึ้นราว 2% มาอยู่ที่ 31.2 ล้านตัน หลักๆ จาก Yield ขึ้นและสภาพอากาศที่ดีขึ้น เราจึงมองรายได้ของ TWPC จะยังสามารถเติบโตได้ราว 16% ในปี 2559 จากการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากการขยายกำลังการผลิตแป้งมันสำปะหลังอีกราว 15% บวกกับกลูโคส 35% และเริ่มขยายตลาดวุ้นเส้นในประเทศเวียดนาม อีกทั้งเราคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะมีการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากโรงไฟฟ้า Biogas ราว 3 MW ที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนราว 30 ล้านบาทต่อปี โดยจะใช้งบลงทุนราว 150 – 170 ล้านบาท เราจึงทำการปรับประมาณการปี 2560 – 2561 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6% ต่อปี หลังจากปรับสมมติฐานรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นเล็กน้อย ทำให้กำไรปกติในปี 2559 – 2561 จะเติบโตทำสถิติใหม่ที่ 42.0% 12.3% และ 10.6% ตามลำดับ
ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำซื้อ ปรับราคาเป้าหมายปี 2560 จาก 10.7 บาท เป็น 11.2 บาท (PE 15 เท่า) มี upside 27% และยังมี Yield ถึง 5% ราคาปัจจุบันคิดเป็น Cash Adjusted PE ปี 2560 เพียง 10 เท่า เรามองว่าหุ้นมีโอกาสถูก Re-Rate ขึ้นจากแผนการเติบโตของธุรกิจที่ชัดเจนหลังการควบรวมและการสื่อสารกับตลาดทุนที่มีมากขึ้น ขณะที่ฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็น Net Cash มีอัตราส่วน D/E Ratio ต่ำเพียง 0.014 เท่า เงินสดกว่า 1.5 พันล้านบาท และ Hidden Asset เป็นที่ดินมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทที่อยู่ระหว่างการขาย
ขณะที่ ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด ประเมินว่า แนวโน้มกำไรของบริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ในไตรมาส 4/2559 คาดว่าจะอยู่ที่ 152 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 91% จากปีก่อน) จากการขยายกำลังการผลิตแป้งมันสำปะหลังใหม่ (เพิ่มขึ้น 32% อยู่ที่ 435,000 ตัน/ปี) และเพิ่มการสต๊อกสินค้า หลังจากราคาแป้งลงไปต่ำสุดที่ 315 เหรียญ/ตัน ในเดือนตุลาคม จากนั้นราคาดีดปรับเพิ่มขึ้น 8% ภายในเวลาอีก 2 เดือน ซึ่งเราคาดว่ายอดขาย TWPC ในไตรมาส 4/2559 จะเติบโต 24% จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรม จากการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในตลาดส่งออก ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะลดลงมาอยู่ที่ 23.5% จาก 26.3% ในไตรมาส 3/2559 และ 23.0% .ในไตรมาส 4/2558 เนื่องจากส่วนต่างของราคาหัวมันสำปะหลัง-แป้งมันลดต่ำลง (ลดลง 8% จากไตรมาสก่อน) อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดว่ายังสามารถควบคุมได้อยู่ที่ 11%
ส่วนปี 2560 – 2561 คาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 3-5% จากโรงไฟฟ้า Biogas ขนาด 3 MW ที่จังหวัดอุดรธานี โดยจะสามารถลดต้นทุนค่าไฟฟ้าลงได้ 30 ล้านบาทต่อปี โดยใช้งบลงทุนเป็นเงิน 200 ล้านบาท ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2560 และคาดว่าจะสามารถเริ่มใช้งานได้ในไตรมาส 4/2560 นอกจากนี้ TWPC ยังมีแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าสำหรับโรงงานแป้งมันสำปะหลังอีก 2 แห่งด้วย
ทั้งนี้ เราปรับราคาเป้าหมายจากเดิม 10.0 บาท เป็น 11.0 บาท (PE 14 เท่า) โดยคิดเป็นราคา 10.4 บาทจากธุรกิจหลักและอีก 0.60 บาท จากการลงทุนในที่ดิน อีกทั้งยังมองเห็นโอกาสการเติบโตจากการส่งออกแป้งมันสำปะหลังไปยังประเทศจีน และอาเซียน ซึ่งมีประชากรรวมกันกว่า 2,000 ล้านคน และโอกาสในการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในกลุ่มประเทศ CLMV และโรงไฟฟ้าอีก 2 แห่งที่จะเกิดขึ้นด้วย ปัจจุบัน TWPC มีสินทรัพย์สภาพคล่องอยู่กว่า 1.6 พันล้านบาท
ด้านนายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4/2559 ถึง ไตรมาส 1/2560 จะเป็นช่วง High Season ของ TWPC เนื่องมาจากเป็นช่วงแห่งการเก็บเกี่ยวของเกษตรกรทำให้โรงงานมีวัตถุดิบจำนวนมากสำหรับการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังซึ่งถือเป็นรายได้หลักของธุรกิจ เราจึงเชื่อมั่นว่าการเติบโตของรายได้ในปี 2559 จะเติบโตมากกว่าปีก่อน
“แป้งมันสำปะหลังถือเป็นรายได้หลักของธุรกิจ รองลงมาเป็นวุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยว โดยสัดส่วนรายได้จากการส่งออกไปต่างประเทศมีมูลค่ามากกว่ากึ่งหนึ่งของรายได้รวมของบริษัทฯ ซึ่งตลาดแป้งมันสำปะหลังในต่างประเทศยังมีปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นมากกว่าความสามารถในการผลิตของบริษัท เนื่องจากปริมาณวัตถุดิบที่มีจำกัด ดังนั้นในปัจจุบันบริษัทจึงได้มีแผนการจัดการร่วมกับเกษตรกร โดยนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มจำนวนผลผลิต และอำนวยความสะดวกเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด“ นายโฮ เรน ฮวา กล่าวในที่สุด