สวัสดีค่ะ ดิฉันอายุ31ปี ตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 15สัปดาห์แล้ว (จะครบ4เดือน) ก่อนหน้านี้เราไปตรวจที่คลีนิกผลว่าตั้งครรภ์ได้3-4สัปดาห์ เราก็ได้บอกกับผู้ชาย ( ขอขยายนะคะ เขาเป็นชาวต่างชาติ มาเลเซีย แต่ทำงานที่ไทยพูดไทยได้ คบกันมา1ปี เรากับเขามีปัญหากันมาตั้งแต่เดือน สิงหาคม2558 และเขาบอกขอเลิกเราเดือนกันยายน2558 แต่เราก็ยังคบยังไปมาอยู่ด้วยกัน หลับนอนด้วยกัน ปกติ )
หลังจากที่เราบอกเรื่องท้องผู้ชายก็ไม่ได้มีทีท่ากังวลอะไร กลับเป็นเราที่กลัวทำอะไรไม่ถูกร้องไห้ เขาก็พูดปลอบใจกุมมือเรารับปากสัญญาว่า "ท้องก็แต่งงาน ไอเคยบอกยูแล้วไง ยูใจเย็นๆนะไม่ต้องกลัวไม่ต้องร้องไห้ " จากนั้นเราก็คุยกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป เขาให้เราไปคิดว่าควรทำอะไร เราเองก็มึนนึกอะไรไม่ออก จะบอกแม่ก็ไม่กล้า เพราะ12สิงหาคม2558 เราก็เพิ่งเสียพี่ชายคนในครัวครัวไป ไม่อยากทำให้แม่เสียใจในช่วงนี้เพิ่ม เขาให้เรารอขอเวลาตั้งหลักตั้งสติคิด เรากับเขาแยกกันอยู่คนละห้องคนละตึกแต่เป็นคนโดเดียวกัน เดินไปมาหากันประจำ ทุกคนที่นี่เห็นและรับรู้ดีว่าเป็นแฟนกัน
พอเราท้องเขาขอเวลาอยู่คนเดียวคิดอะไรๆ เขาปล่อยให้เราอยู่คนเดียวมา3เดือน ทั้งๆที่เรากำลังท้อง เราฝากท้องที่รพ.ตรงข้ามคอนโด เราไปหาหมอทุกครั้งเราก็จ่ายเงินเอง เขาแค่พาไปแต่ไม่จ่าย เราเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องจ่าย ผู้ชายควรรับผิดชอบ เราก็บอกให้เขารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเวลาไปหาหมอเขาก็เริ่มยอมจ่าย เราไม่สามรถทำงานได้เนื่องจากภาวะแท้งคุกคาม มีเลือดออกขณะที่ตั้งครรภ์ เราไม่มีรายได้อะไรเลย เขาก็ไม่ได้ให้เงินเราใช้ เราอดทนรอให้เวลาเขามา3เดือน เขาสัญญามากมายทั้งจะไปหาแม่เราพร้อมเราคุยต่อหน้า ทั้งจะบอกที่บ้านเขาเองที่มาเล เขาเลื่อนๆมาเรื่อยจนวันคริสมาส เราก็ถามถึงเขาว่าจะบอกแม่รึยังแล้วเขาขอเลื่อนเป็นหลังปีใหม่อีก และวันคริสมาสนั้นเองที่เราได้รู้ความจริงสะเทือนจิตใจ ว่าเขากำลังคบผู้หญิงคนใหม่ เราเคยถามเค้ามาหลายครั้งตั้งแต่ท้องว่า มีคนอื่นรึไม่ มีแฟนใหม่รึเปล่า เขาปฏิเสธมาตลอด ว่าว่าเราคิดเอาเองต่างๆนาๆ จนท้ายสุดแล้วเขาก็มีคนใหม่จริงๆ
เขายอมรับกับเราทางโทรศัพท์ว่าไม่รักเราแล้ว เขามีผู้หญิงใหม่แล้วแต่ไม่รู้เรียกว่าอะไรแค่กำลังคบ เราช็อคมากเป็นล้มล้มไปเลย จากนั้น1วันเขากลับมาคุยเขาบอกจะไม่แต่งงานแล้วแต่จะดูแลแค่ลูก สรุปคือเราต้องอยู่ตัวคนเดียวไปจนคลอด เขาจะไม่ดูแลอะไรเราเลย เราเองกลับบ้านไปทั้งท้องๆแบบนี้ก็ไม่ได้ เราขมขื่นทุกวันร้องไห้ทุกวัน จนสุดท้ายเราโทรบอกแม่ แม่ก็ให้เขามาคุยที่บ้าน เขาโกรธเรามากที่เราโทรบอกแม่ ทำไมไม่ไปคุยพร้อมกัน เรารอมาจน3เดือนแล้วเราคิดว่าท้องเราโตขึ้นๆ จะให้เรารอถึงไหนเราเริ่มไม่มั่นใจ หลังจากเราพาเขาไปคุยกับแม่ที่บ้าน แม่ถามว่าจะเอายังไงรับผิดชอบไหม เขาตอบตกลงทุกอย่าง จะยอมจดทะเบียนสมรส แล้วหลังคลอดเราจะได้กลับมาอยู่บ้านได้ ถ้ายังอยากจะหย่า ก็จะให้หย่าหลังคลอด เพียงแค่ที่จดทะเบียนนี้ให้ลูกมีพ่อให้เราสามารถกลับบ้านได้ใช้ชีวิตไม่อับอายคนไม่ให้พ่อแม่อายใคร เขายอมรับหมดทุกอย่างจะทำให้รับปากกับแม่เราเรียบร้อยเพราะเหลือแค่5เดือนเราก็จะคลอดแล้ว คลอดเสร็จก็แยกกันอยู่ชีวิตใครชีวิตมัน แม่เราจะให้เขาทำสัญญาตอนจดทะเบียนสมรสต่อหน้าเจ้าพนักงานว่าจะส่งเสียลูกเท่าไหร่ต่อเดือน ต้องมาหาลูกทุกอาทิตย์1วัน หลังจากนั้นผ่านไป2อาทิตย์เขาก็กลับคำพูดจะไม่ทำตามสัญญาทั้งๆที่เขาเป็นคนคิดไว้แต่แรกเรื่องแต่งงาน สร้างครอบครัวที่เหมาะสมให้ลูก
***ประเด็นคำถาม>>> เรามีหลักฐานการคุยแชทที่เขาบอกว่าจะแต่งงาน จะจดทะเบียนและให้สัญญาต่างๆ เราสามารถใช้ฟ้องร้องเรียกร้องอะไรเขาได้บ้างไหมคะ เขาบอกกับแม่เราว่าเขาไปถามเพื่อนคนไทยด้วยกันมาแล้วเป็นผู้ชาย เพื่อนเขาบอกว่าไปแจ้งความก็ทำอะไรไม่ได้ แม่เรากับเราไม่มีทางทำอะไรเขาได้ กฎหมายไทยไม่มีในเคสนี้ เพื่อนเขาบอกเขาไม่ต้องจดทะเบียนไม่รับผิดชอบยังได้ เรารู้แบบนี้แล้วเราเสียใจมาก ***
เพื่อนเขาคนนั้นก็คนไทยเหมือนเรา ทำไมไม่กลัวบาป ทำไมทำร้ายผู้หญิงที่กำลังท้องได้ถึงขนาดนี้ แฟนเราบอกว่า เรากับแม่จะขู่อะไรก็เชิญเขาจะไม่อยู่ไทยแล้ว เราเสียใจจนเลือดไหลมากกว่าเก่า ทำอะไรไม่ถูก แม่เราก็เสียใจไม่น้อยกว่าเราเลย แม่เราโทรบอกเขาวันนี้ว่า จะไปที่ทำงานเขาแล้วให้หัวหน้างานเขารับรู้เป็นพยาน ที่เราท้องจะรับผิดชอบอย่างไร ในเมื่อคุยกันต่อหน้าแล้วรับปากแล้วยังกล้าผิดคำพูดกับผู้ใหญ่ คุณๆคิดว่ามีทางไหนที่ยุติธรรมกับเราและลูกได้บ้างคะ กราบรบกวนช่วยแนะนำทีค่ะ
ตั้งครรภ์แล้วผู้ชายสัญญาว่าจะแต่งงาน รับปากกับแม่เรา แล้วเขาก็ไปมีแฟนใหม่
หลังจากที่เราบอกเรื่องท้องผู้ชายก็ไม่ได้มีทีท่ากังวลอะไร กลับเป็นเราที่กลัวทำอะไรไม่ถูกร้องไห้ เขาก็พูดปลอบใจกุมมือเรารับปากสัญญาว่า "ท้องก็แต่งงาน ไอเคยบอกยูแล้วไง ยูใจเย็นๆนะไม่ต้องกลัวไม่ต้องร้องไห้ " จากนั้นเราก็คุยกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป เขาให้เราไปคิดว่าควรทำอะไร เราเองก็มึนนึกอะไรไม่ออก จะบอกแม่ก็ไม่กล้า เพราะ12สิงหาคม2558 เราก็เพิ่งเสียพี่ชายคนในครัวครัวไป ไม่อยากทำให้แม่เสียใจในช่วงนี้เพิ่ม เขาให้เรารอขอเวลาตั้งหลักตั้งสติคิด เรากับเขาแยกกันอยู่คนละห้องคนละตึกแต่เป็นคนโดเดียวกัน เดินไปมาหากันประจำ ทุกคนที่นี่เห็นและรับรู้ดีว่าเป็นแฟนกัน
พอเราท้องเขาขอเวลาอยู่คนเดียวคิดอะไรๆ เขาปล่อยให้เราอยู่คนเดียวมา3เดือน ทั้งๆที่เรากำลังท้อง เราฝากท้องที่รพ.ตรงข้ามคอนโด เราไปหาหมอทุกครั้งเราก็จ่ายเงินเอง เขาแค่พาไปแต่ไม่จ่าย เราเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกว่าเราไม่จำเป็นต้องจ่าย ผู้ชายควรรับผิดชอบ เราก็บอกให้เขารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเวลาไปหาหมอเขาก็เริ่มยอมจ่าย เราไม่สามรถทำงานได้เนื่องจากภาวะแท้งคุกคาม มีเลือดออกขณะที่ตั้งครรภ์ เราไม่มีรายได้อะไรเลย เขาก็ไม่ได้ให้เงินเราใช้ เราอดทนรอให้เวลาเขามา3เดือน เขาสัญญามากมายทั้งจะไปหาแม่เราพร้อมเราคุยต่อหน้า ทั้งจะบอกที่บ้านเขาเองที่มาเล เขาเลื่อนๆมาเรื่อยจนวันคริสมาส เราก็ถามถึงเขาว่าจะบอกแม่รึยังแล้วเขาขอเลื่อนเป็นหลังปีใหม่อีก และวันคริสมาสนั้นเองที่เราได้รู้ความจริงสะเทือนจิตใจ ว่าเขากำลังคบผู้หญิงคนใหม่ เราเคยถามเค้ามาหลายครั้งตั้งแต่ท้องว่า มีคนอื่นรึไม่ มีแฟนใหม่รึเปล่า เขาปฏิเสธมาตลอด ว่าว่าเราคิดเอาเองต่างๆนาๆ จนท้ายสุดแล้วเขาก็มีคนใหม่จริงๆ
เขายอมรับกับเราทางโทรศัพท์ว่าไม่รักเราแล้ว เขามีผู้หญิงใหม่แล้วแต่ไม่รู้เรียกว่าอะไรแค่กำลังคบ เราช็อคมากเป็นล้มล้มไปเลย จากนั้น1วันเขากลับมาคุยเขาบอกจะไม่แต่งงานแล้วแต่จะดูแลแค่ลูก สรุปคือเราต้องอยู่ตัวคนเดียวไปจนคลอด เขาจะไม่ดูแลอะไรเราเลย เราเองกลับบ้านไปทั้งท้องๆแบบนี้ก็ไม่ได้ เราขมขื่นทุกวันร้องไห้ทุกวัน จนสุดท้ายเราโทรบอกแม่ แม่ก็ให้เขามาคุยที่บ้าน เขาโกรธเรามากที่เราโทรบอกแม่ ทำไมไม่ไปคุยพร้อมกัน เรารอมาจน3เดือนแล้วเราคิดว่าท้องเราโตขึ้นๆ จะให้เรารอถึงไหนเราเริ่มไม่มั่นใจ หลังจากเราพาเขาไปคุยกับแม่ที่บ้าน แม่ถามว่าจะเอายังไงรับผิดชอบไหม เขาตอบตกลงทุกอย่าง จะยอมจดทะเบียนสมรส แล้วหลังคลอดเราจะได้กลับมาอยู่บ้านได้ ถ้ายังอยากจะหย่า ก็จะให้หย่าหลังคลอด เพียงแค่ที่จดทะเบียนนี้ให้ลูกมีพ่อให้เราสามารถกลับบ้านได้ใช้ชีวิตไม่อับอายคนไม่ให้พ่อแม่อายใคร เขายอมรับหมดทุกอย่างจะทำให้รับปากกับแม่เราเรียบร้อยเพราะเหลือแค่5เดือนเราก็จะคลอดแล้ว คลอดเสร็จก็แยกกันอยู่ชีวิตใครชีวิตมัน แม่เราจะให้เขาทำสัญญาตอนจดทะเบียนสมรสต่อหน้าเจ้าพนักงานว่าจะส่งเสียลูกเท่าไหร่ต่อเดือน ต้องมาหาลูกทุกอาทิตย์1วัน หลังจากนั้นผ่านไป2อาทิตย์เขาก็กลับคำพูดจะไม่ทำตามสัญญาทั้งๆที่เขาเป็นคนคิดไว้แต่แรกเรื่องแต่งงาน สร้างครอบครัวที่เหมาะสมให้ลูก
***ประเด็นคำถาม>>> เรามีหลักฐานการคุยแชทที่เขาบอกว่าจะแต่งงาน จะจดทะเบียนและให้สัญญาต่างๆ เราสามารถใช้ฟ้องร้องเรียกร้องอะไรเขาได้บ้างไหมคะ เขาบอกกับแม่เราว่าเขาไปถามเพื่อนคนไทยด้วยกันมาแล้วเป็นผู้ชาย เพื่อนเขาบอกว่าไปแจ้งความก็ทำอะไรไม่ได้ แม่เรากับเราไม่มีทางทำอะไรเขาได้ กฎหมายไทยไม่มีในเคสนี้ เพื่อนเขาบอกเขาไม่ต้องจดทะเบียนไม่รับผิดชอบยังได้ เรารู้แบบนี้แล้วเราเสียใจมาก ***
เพื่อนเขาคนนั้นก็คนไทยเหมือนเรา ทำไมไม่กลัวบาป ทำไมทำร้ายผู้หญิงที่กำลังท้องได้ถึงขนาดนี้ แฟนเราบอกว่า เรากับแม่จะขู่อะไรก็เชิญเขาจะไม่อยู่ไทยแล้ว เราเสียใจจนเลือดไหลมากกว่าเก่า ทำอะไรไม่ถูก แม่เราก็เสียใจไม่น้อยกว่าเราเลย แม่เราโทรบอกเขาวันนี้ว่า จะไปที่ทำงานเขาแล้วให้หัวหน้างานเขารับรู้เป็นพยาน ที่เราท้องจะรับผิดชอบอย่างไร ในเมื่อคุยกันต่อหน้าแล้วรับปากแล้วยังกล้าผิดคำพูดกับผู้ใหญ่ คุณๆคิดว่ามีทางไหนที่ยุติธรรมกับเราและลูกได้บ้างคะ กราบรบกวนช่วยแนะนำทีค่ะ