สังคมต้องให้โอกาศตำรวจในการเอาหลักฐานมาพิสูจน์ด้วย ไม่ใช่เอาอารมณ์เกลียดตำรวจเป็นที่ตั้งแล้วแพะแบร๋ๆอย่างเดียว

กราบขอรับ

เรื่องครูแพะ/ครูแกะนั้นหากถูกนำเอาไปทำเป็นหนังโรงคงจะสนุกไม่ยอก
ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างงัดเอาหลักฐานมาแฉผ่านสื่อและเตรียมเอาไปสู้กันในศาลกันอย่างเต็มที่
เราชาวพุทธพึงใช้สติในการเสพข่าวและพินิจเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ตามจริง ไม่ใช่ใช้อารมณ์ความรู้สึกเป็นหลัก

ฟังหูไว้หู
หากท่านไม่ใช่พระเกจิอรหันต์ที่อ่านจิตอ่านใจคนได้ก็อย่าเพิ่งฟันธงด่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจนไม่เหลือพื้นที่ของเหตุและผล
วิจารณ์ได้ วิพากษ์ได้ แต่ต้องอยู่บนหลักการของสิ่งที่เกิดขึ้นจริงและปรากฏขึ้นจริง
เรื่องนี้ยังไปไม่ถึงเส้นชัยแต่คนในสังคมจำนวนไม่น้อยออกมาตัดสินกันแล้วว่าคนที่วิ่งนำหน้าอยู่นั้นเข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่งแน่ๆ
ทั้งๆที่ยังเหลือระยะทางในการวิ่งอีกหลายกิโลเมตร หากเกมผลิกคนที่วิ่งตามหลังแซงขึ้นมาเข้าเส้นชัย
ระวังจะเงิบกันทั้งบางนะขอรับ

คนไทยเราติดโซเชียลกันจนงอมแงม หลายครั้งแค่เห็นพาดหัวข่าวหรือข้อความที่แชร์ต่อๆกันมาในเฟส
ก็เฮโลตัดสินเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยอารมณ์แล้ว ทั้งที่จริงๆก็ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรกับเค้าด้วยซ้ำไป
หัดฟังหูไว้หูสงวนท่าทีเอาไว้บ้างก็ดี หากคดีพลิกเกิดครูแกเป็นแกะขึ้นมาจริงๆ ท่านๆที่ด่าสารวัตรวัยใกล้เกษียณกันน่ะ
จะรับผิดชอบต่อคำด่าทอที่ไปทำให้ตาตำรวจแกเสียฟิลกันไหม?

ครูแพะหรือครูแกะ
หากครูเป็นแพะจริงก็ต้องนับถือในความกล้าที่ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ตนเอง
ไม่ใช่ไปโบ้ยเรื่องเวรเรื่องกรรมหรือปลงคิดเสียว่าฟาดเคราะห์แล้วปล่อยให้เรื่องจบๆกันไปแบบไม่มีใครต้องมารับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น
ครูไม่ได้สู้แค่เพื่อตนเอง แต่กำลังสู้เพื่อแพะทั่วราชอาณาจักรและเพื่อสังคมไทยด้วย
สังคมก็ต้องสนับสนุนเชียร์ให้ครูสู้จนถึงที่สุด หากท้ายที่สุดแล้วครูตกเป็นแกะด้วยหลักฐานที่ชัดเจนจริงๆ
ก็ต้องน้อมรับและยอมรับบทสรุปที่ขัดใจกองเชียร์กันด้วย ไม่ใช่ออกแนวบอลแพ้คนไม่แพ้ ด่าตำรวจ ด่ากระบวนการ โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

หากตอนจบครูเป็นแพะ สังคมก็ต้องเรียกร้องให้เกิดความรับผิดชอบจากภาครัฐและตัว จนท ด้วย
ไม่ใช่เอาแต่เฮสะใจที่ได้ด่าตำรวจหรือองค์กรที่เรามีความฝังใจหรือมีภาพติดลบเกี่ยวกับพวกเค้ากันอยู่แล้วเป็นทุนเดิม
พอสดุดีครูแพะเสร็จก็แยกย้ายกันไปตามข่าวอื่นกันต่อ แบบนี้เสียของขอรับ
ต้องผลักดันให้มีกฏหมายที่อัพเดทต่อปี 2017 ในเรื่องจับแพะออกมา
ค่าเยียวยาแพะที่มันต้องมากกว่าวันละ 200 บาท และเอากันให้ชัดไปเลยว่าตำรวจจับแพะนั้น
จะมีต้องรับผิดชอบอย่างไร เอากันให้เป็นบรรทัดฐานไปเลย

ตำรวจ
ติดลบจนไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้วสำหรับองค์กรนี้ ถึงขนาดที่ว่าต่อให้เรื่องที่ว่าครูแกะนั้นเป็นเรื่องจริง เป็นความจริง
ก็อาจจะไม่เพียงพอที่ทำให้สังคมยอมรับความจริงได้ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตำรวจไม่ใช่พระเอกของสังคม
จะไปโทษปี่โทษกลองก็เท่านั้น ต้องดูว่าการทำงานขององค์กรตนเองนั้นมันตอบโจทย์ประชาชนไหม
และต้องโทษตำรวจนิสัยไม่ดีบางนายที่ทำสิ่งที่สังคมเค้าไม่โอเคด้วยจนกลายเป็นปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งบ่อ

จริงๆเรื่องครูแพะครูแกะเนี่ย หากมีบิ๊กตำรวจออกมาแถลงตั้งแต่วันแรกที่เป็นข่าวว่า
ขอให้ทีมงานสืบสวนและพิสูจน์ให้ถึงที่สุดก่อนว่าตำรวจทำงานบกพร่องจริงไหม ครูเป็นแพะจริงไหม
หากตำรวจผิดเราก็จะยอมรับผิดและจะเยียวยาผู้เสียหายอย่างถึงที่สุด
มันคงจะเป็นภาพที่สวยงามกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้

แต่ถึงกระนั้น สังคมก็ต้องยึดหลักเหตุผลอยู่ดี เราต้องให้โอกาศตำรวจเค้าพิสูจน์ในเรื่องขบวนการรับจ้างติดคุกด้วย
ตำรวจดี ตำรวจที่ไม่คอรัปชั่น แม้อาจจะมีจำนวนไม่มากแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีเอาเสียเลย
อย่าเอาความรู้สึกเกลียดหรือไม่ชอบตำรวจมาทำให้เกิดความรู้สึกอคติขึ้นมาในจิตใจจนอาจจะนำไปสู่ความหลงผิดก็เป็นได้ขอรับ

ด้วยรักและฟังหูไว้หูก่อนดีไหม
กอดแมว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่