จั่วหัวมา เพื่อเปรียบเทียบว่า จริงๆแล้ว คนไม่ได้ชอบฟังแจ็สหรอก (ไม่ใช่แค่คนไทย อเมริกาที่เป็นต้นกำเนิดเองก็เป็น)
แต่การที่มี "ภาพ" ว่าฟังแจ็ส ทำให้ดูเป็นคนมีรสนิยมที่ไม่ธรรมดา มีระดับ
ตอนแรก ในร้านที่พระเอกเล่นแล้วโดนไล่ออก จะบอกว่า "เหมือนเมืองไทยเด้ะๆ"
ตามย่านทองหล่อ หรือ ร้านหรูๆ ที่พยายามจะขายว่า มีเพลงแจ็สเล่นให้ฟัง
คนไปก็จะดูมีระดับ ไปเพื่อโพสรูป เช็คอิน
แต่ถามจริงๆว่า ได้ฟังหรือเปล่า? ค่อนข้างมั่นใจได้เลยว่าอาจฟังได้แค่ 2-3 เพลงก็หมดความตั้งใจฟังแล้ว
เล่นไปเล่นมา ร้านก็ต้องบังคับให้เป็น "ป็อป" เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เสพย์ไม่ได้ ไม่เข้าใจจริงๆว่า แจ็สมันคืออะไร? ฟังไม่เห็นรู้เรื่อง
ร้านก็ต้องหาทางดึงคนให้อยู่ ทางออกจึงต้องเปลี่ยนเป็นป็อปแทน (แต่พอไปโปรโมทตามสื่อแนะนำที่เที่ยว ก็ยังขายว่าแจ็สอยู่)
ถ้าเทียบกับร้านจริงๆในบ้านเราอย่าง ร้านดังย่านอนุเสาวรีย์ พระอาทิตย์ พระสุเมร ตลาดน้อย หรือ โรงแรมดังเก่าแก่ริมเจ้าพระยา อันนั้นคือ ดนตรีแจ็สที่แท้จริง (หรือโซล) ซะมากกว่าสำหรับบ้านเรา
ถ้าอยากเสพย์แจ็สจริงจัง ไม่กลวง ขอแนะนำให้ดูหนังเรื่องนี้ ในฉากที่พระเอกอธิบายให้นางเอกฟังตอนเข้าไปในร้านของผิวสี อันนั้นแหละคือคำอธิบายของ "ดนตรีแจ็ส" ได้กระชับ เข้าใจง่ายที่สุด แล้วจะต่อยอดไปแนวไหนต่อก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน
ป.ล. การร้องเพลงแจ็สโดยร้องแบบซ้ำๆเหมือนเดิมทุกครั้ง อันนั้นคือ "ร้องเพลงป็อป" อยู่ดี ที่แค่เอาเนื้อร้องแจ็สมาร้อง นะครับ
แล้วก็ การมีดับเบิ้ลเบส (ไม่ใช่เชลโล่) กับ แซกโซโฟน ไม่ได้แปลว่า วงนั้นจะเป็นวงแจ็ส!
เกี่ยวกับเรื่องร้านที่พระเอกเล่นดนตรีใน La la land (สปอยล์)
แต่การที่มี "ภาพ" ว่าฟังแจ็ส ทำให้ดูเป็นคนมีรสนิยมที่ไม่ธรรมดา มีระดับ
ตอนแรก ในร้านที่พระเอกเล่นแล้วโดนไล่ออก จะบอกว่า "เหมือนเมืองไทยเด้ะๆ"
ตามย่านทองหล่อ หรือ ร้านหรูๆ ที่พยายามจะขายว่า มีเพลงแจ็สเล่นให้ฟัง
คนไปก็จะดูมีระดับ ไปเพื่อโพสรูป เช็คอิน
แต่ถามจริงๆว่า ได้ฟังหรือเปล่า? ค่อนข้างมั่นใจได้เลยว่าอาจฟังได้แค่ 2-3 เพลงก็หมดความตั้งใจฟังแล้ว
เล่นไปเล่นมา ร้านก็ต้องบังคับให้เป็น "ป็อป" เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เสพย์ไม่ได้ ไม่เข้าใจจริงๆว่า แจ็สมันคืออะไร? ฟังไม่เห็นรู้เรื่อง
ร้านก็ต้องหาทางดึงคนให้อยู่ ทางออกจึงต้องเปลี่ยนเป็นป็อปแทน (แต่พอไปโปรโมทตามสื่อแนะนำที่เที่ยว ก็ยังขายว่าแจ็สอยู่)
ถ้าเทียบกับร้านจริงๆในบ้านเราอย่าง ร้านดังย่านอนุเสาวรีย์ พระอาทิตย์ พระสุเมร ตลาดน้อย หรือ โรงแรมดังเก่าแก่ริมเจ้าพระยา อันนั้นคือ ดนตรีแจ็สที่แท้จริง (หรือโซล) ซะมากกว่าสำหรับบ้านเรา
ถ้าอยากเสพย์แจ็สจริงจัง ไม่กลวง ขอแนะนำให้ดูหนังเรื่องนี้ ในฉากที่พระเอกอธิบายให้นางเอกฟังตอนเข้าไปในร้านของผิวสี อันนั้นแหละคือคำอธิบายของ "ดนตรีแจ็ส" ได้กระชับ เข้าใจง่ายที่สุด แล้วจะต่อยอดไปแนวไหนต่อก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน
ป.ล. การร้องเพลงแจ็สโดยร้องแบบซ้ำๆเหมือนเดิมทุกครั้ง อันนั้นคือ "ร้องเพลงป็อป" อยู่ดี ที่แค่เอาเนื้อร้องแจ็สมาร้อง นะครับ
แล้วก็ การมีดับเบิ้ลเบส (ไม่ใช่เชลโล่) กับ แซกโซโฟน ไม่ได้แปลว่า วงนั้นจะเป็นวงแจ็ส!