ในตลาดหุ้นนิวยอร์ค มีหุ้นอยู่ประมาณ 2,800 บริษัท ในตลาดแนสแดส มีประมาณ 3,100 บริษัท
เมื่อเราเข้าไปเทรด จำเป็นต้องศึกษาบริษัทจำนวนมาก
ในการเทรดอัตราแลกเปลี่ยน มีสกุลเงินที่เทรดหลายสิบสกุล แต่ที่เทรดหลักๆ
มีเพียง 4 สกุลเงินเท่านั้น ใช่แล้วครับ 4 คู่สกุลเงิน เท่านั้นที่เทรดหลักๆในตลาดฟอเรค
ซึ่งทำให้เทรดเดอร์ง่ายกว่าในการติดตามความเคลื่อนไหว
จะเห็นว่ามิสเตอร์ฟอเรค ดูมั่นใจและเซ็กซี่กว่า มิสเตอร์หุ้น เอาหล่ะเรามาดูกันต่อไปว่า
ตลาดฟอเรคน่าสนใจกว่าตลาดหุ้นอย่างไรบ้าง :
ตลาดฟอเรค เปิด 24 ชั่วโมง ทำการเทรด 5 วันต่อสัปดาห์ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะเปิด
ตั้งแต่ช่วงเช้าวันจันทร์ เวลาประมาณ 04:00 น. จนถึงเช้าวันเสาร์เวลา 04:00 น.
ซึ่งทำให้เทรดเดอร์สามารถเทรดได้ตลอดเวลาทั่วโลก
เทรดเดอร์สามารถ วางแผนการเทรดที่เหมาะสมกับตัวเองได้
ค่าคอมมิสชั่นน้อยมาก หรือ ไม่มีเลย โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะไม่คิดค่าคอมมิสชั่นในการเทรด
โบรกเกอร์จะชดเชยค่าใช้จ่ายด้วยสเปรดในการเทรด ( ช่องว่างระหว่าง bid/offer)
การรับคำสั่งแบบเรียลไทม์ ในสภาวการณ์ปกติ คำสั่งในการเทรดจะประมวลผลแบบเรียลไทม์
การซื้อขายไม่มีเงื่อนไข (ติ้กไซต์) ไม่เหมือนการเทรดหุ้น จะมีการกำหนดสเปรดการเทรดหุ้น
ในแต่ละราคาที่แตกต่างกัน เช่นในตลาดหุ้นบ้านเรา หุ้นราคา 25-50 บาท จะมีติ้กไซต์
ที่ 0.25 บาท เป็นต้น แต่ในตลาดฟอเรค เทรดเดอร์สามารถเทรดได้ตามราคาการเปลี่ยน
แปลงจริงทุกจุด ในทุกขนาดการเทรด
ไม่มีคนกลาง แน่นอนว่าการมีศุนย์กลาง จะมีประโยชน์ในหลายๆด้านให้นักลงทุน แต่ขณะเดียวกัน
ศูนย์กลางแลกเปลี่ยนก็จะเข้าไปข้องเกี่ยวเป็นคนกลาง . การเทรดจะเกิดขึ้นระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขาย
นั่นคือตลาดฟอเรคฟอเรคจะไม่มีศูนย์กลาง
โปรแกรมการซื้อ-ขาย จะไม่เข้าไปควบคุมตลาด หลายครั้งที่ในตลาดหุ้นเราจะได้ยินว่า
กองทุน A เข้ามาซื้อหุ้น X หรือขายหุ้น Z ,.นั่นคือสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นในตลาดฟอเรค
ด้วยขนาดของตลาดที่ใหญ่มาก กองทุน ธนาคาร เฮดฟันด์ จะมีขนาดที่เล็กมากๆ
เมื่อเทียบกับขนาดของตลาด
นักวิเคราะห์ หรือ โบรกเกอร์ ไม่สามารถเข้ามามีอิธิพลเหนือตลาดได้ จะไม่มีรายการทีวี
ที่ออกมาวิเคราะห์ว่าตอนนี้ ควรซื้อ หรือ ขาย เหมือนที่เราเห็นในตลาดหุ้น
เครดิต : www.thaipips.com
ทำไมผมจึงชอบตลาดฟอเรค เปรียบเทียบระหว่าง ตลาดฟอเรค VS ตลาดหุ้น
ในตลาดหุ้นนิวยอร์ค มีหุ้นอยู่ประมาณ 2,800 บริษัท ในตลาดแนสแดส มีประมาณ 3,100 บริษัท
เมื่อเราเข้าไปเทรด จำเป็นต้องศึกษาบริษัทจำนวนมาก
ในการเทรดอัตราแลกเปลี่ยน มีสกุลเงินที่เทรดหลายสิบสกุล แต่ที่เทรดหลักๆ
มีเพียง 4 สกุลเงินเท่านั้น ใช่แล้วครับ 4 คู่สกุลเงิน เท่านั้นที่เทรดหลักๆในตลาดฟอเรค
ซึ่งทำให้เทรดเดอร์ง่ายกว่าในการติดตามความเคลื่อนไหว
จะเห็นว่ามิสเตอร์ฟอเรค ดูมั่นใจและเซ็กซี่กว่า มิสเตอร์หุ้น เอาหล่ะเรามาดูกันต่อไปว่า
ตลาดฟอเรคน่าสนใจกว่าตลาดหุ้นอย่างไรบ้าง :
ตลาดฟอเรค เปิด 24 ชั่วโมง ทำการเทรด 5 วันต่อสัปดาห์ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะเปิด
ตั้งแต่ช่วงเช้าวันจันทร์ เวลาประมาณ 04:00 น. จนถึงเช้าวันเสาร์เวลา 04:00 น.
ซึ่งทำให้เทรดเดอร์สามารถเทรดได้ตลอดเวลาทั่วโลก
เทรดเดอร์สามารถ วางแผนการเทรดที่เหมาะสมกับตัวเองได้
ค่าคอมมิสชั่นน้อยมาก หรือ ไม่มีเลย โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะไม่คิดค่าคอมมิสชั่นในการเทรด
โบรกเกอร์จะชดเชยค่าใช้จ่ายด้วยสเปรดในการเทรด ( ช่องว่างระหว่าง bid/offer)
การรับคำสั่งแบบเรียลไทม์ ในสภาวการณ์ปกติ คำสั่งในการเทรดจะประมวลผลแบบเรียลไทม์
การซื้อขายไม่มีเงื่อนไข (ติ้กไซต์) ไม่เหมือนการเทรดหุ้น จะมีการกำหนดสเปรดการเทรดหุ้น
ในแต่ละราคาที่แตกต่างกัน เช่นในตลาดหุ้นบ้านเรา หุ้นราคา 25-50 บาท จะมีติ้กไซต์
ที่ 0.25 บาท เป็นต้น แต่ในตลาดฟอเรค เทรดเดอร์สามารถเทรดได้ตามราคาการเปลี่ยน
แปลงจริงทุกจุด ในทุกขนาดการเทรด
ไม่มีคนกลาง แน่นอนว่าการมีศุนย์กลาง จะมีประโยชน์ในหลายๆด้านให้นักลงทุน แต่ขณะเดียวกัน
ศูนย์กลางแลกเปลี่ยนก็จะเข้าไปข้องเกี่ยวเป็นคนกลาง . การเทรดจะเกิดขึ้นระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขาย
นั่นคือตลาดฟอเรคฟอเรคจะไม่มีศูนย์กลาง
โปรแกรมการซื้อ-ขาย จะไม่เข้าไปควบคุมตลาด หลายครั้งที่ในตลาดหุ้นเราจะได้ยินว่า
กองทุน A เข้ามาซื้อหุ้น X หรือขายหุ้น Z ,.นั่นคือสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นในตลาดฟอเรค
ด้วยขนาดของตลาดที่ใหญ่มาก กองทุน ธนาคาร เฮดฟันด์ จะมีขนาดที่เล็กมากๆ
เมื่อเทียบกับขนาดของตลาด
นักวิเคราะห์ หรือ โบรกเกอร์ ไม่สามารถเข้ามามีอิธิพลเหนือตลาดได้ จะไม่มีรายการทีวี
ที่ออกมาวิเคราะห์ว่าตอนนี้ ควรซื้อ หรือ ขาย เหมือนที่เราเห็นในตลาดหุ้น
เครดิต : www.thaipips.com